บทที่ 93 อ่อนน้อมถ่อมตน
อาหยู่นำกระดาษและหมึกเข้ามา อันหลิงหยุนนั่งอยู่ ด้านข้างไม่ไหวติง นางเกรงว่ากงชิง จะกลับความคิด รู้สึกหัวใจเต้นหนักจนแทบจะเด้งออกมา
กงชิงวี่เตรียมหมึกและกระดาษเพื่อเขียนจดหมาย ถอดตำแหน่ง รอครู่หนึ่งพลางมองไปยังอันหลิงหยุน ปากกาก็ยังจรดลงไป “เกือบจะติดกับเจ้าแล้ว ข้าไม่ให้ เจ้าสบายใจไปหรอก”
พูดจบกงชิงวี่ก็เดินไปดูหนอนไหมเย็น พลางเอ่ยขึ้น “ต่อไปหากใครเตรียมหมึกและกระดาษมาให้ข้าเขียน ยกเลิกตำแหน่งพระชายา ข้าจะตัดมือมันให้สิ้น
อาหยู่รีบเก็บของ แล้วรีบวิ่งออกประตูไป
เกรงว่าจะมือขาดโดยไม่มีเหตุอันควร!
ครั้งนี้ยังถูกถอดยศไม่สำเร็จ อันหลิงหยุนสบายใจไป หลายวัน แรกเลยก็มาดูหนอนไหมเย็นคายไหม อย่าง ที่สองก็อดทนความเจ็บปวดตรงเอว เวลาผ่านไปวันๆ อย่างสบาย หากไม่มีความจำเป็นนางก็จะไม่ออกจาก ห้อง
กับกงชิงวี่แล้ว หลายวันมานี้ก็ไม่ได้ร่วมเตียงกับนาง เพียงช่วงกินข้าวจะได้มาพบกัน
ความอบอุ่นระหว่างอันหลิงหยุนและกงชิงวี่ต่างค่อยๆลดลง
เรื่องการร่วมนอนต่างคนต่างไม่มีใครพูดถึง ต่าง ราวกับมีกำแพงบางๆ กั้นอยู่
เนื่องจากหลายวันมานี้อันหลิงหยุนเองก็เป็นประจำ เดือน นางก็ไม่อยากเขยิบตัวมากนัก นอกจากดูเจ้า หนอนไหมแล้ว ก็ศึกษาที่บำรุงหน้า ที่ยุ่งยากที่สุดก็ คือไม่มีถุงที่ปิดสนิทแล้ว ทำให้น้ำบำรุงหน้ามักจะเสีย คุณภาพไป
ลองใช้วิธีที่หลากหลาย อันหลิงหยุนรู้ว่าที่ประเทศต้า เหลียงมีเตาเผาอยู่ ได้ยินมาว่าเป็นหมู่บ้านเตาเผา นาง อยากไปลองทำดูสักครั้ง
แต่ติดอยู่ตรงที่นางเองก็กลัวจะพบกับคนในยุทธจักร ลังเลอยู่นานกว่าจะไปหากงชิงวี่
“หาเตาเผา? ” หลายวันมานี้กงชิงวี่นับว่านิ่งเงียบเป็น อย่างมาก นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องโดยไม่ออกมาเลย ทั้งสองคนแม้จะอยู่เพียงข้างห้องกัน แต่ก็ไม่มีใครคุย กับใครก่อน
ภายในจวนต่างเริ่มไม่มีใครสนใจเรื่องนี้ ไม่เหมือนับ ตอนแรกที่มีแต่คนสงสัย
ยิ่งโดยเฉพาะเรื่องที่จะถอดตำแหน่งพระชายาต่าง เป็นที่รู้กันทั้งจวน
พระชายาที่จะถูกถอดยศ หากท่านอ๋องจะเย็นชากับ นางบ้างนับเป็นเรื่องธรรมดา และคนภายในจวนอ่อ
เสียนก็นับเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว
หากแต่อันหลิงหยุนกลับไม่ถูกคนดูถูกเหมือนเมื่อครั้ง แรกๆ จากเรื่องของหมดจวนก็ทำให้ชื่อเสียงของนางดี ขึ้นอย่างมาก
กงชิงวี่นั่งอยู่บนเก้าอี้อุ่น บนโต๊ะก็มีเตาไฟหอมอยู่ ภายในห้องอบอุ่นยิ่งนัก กลิ่นหอมอบอวล กาชาที่วาง อยู่ข้างมือถูกยกขึ้นเทลง ถ้วยชาถูกเกลี่ยฝาหลายครั้ง พลางยกดื่ม
อันหลิงหยุนยืนอยู่ปากประตูพลางเอ่ยถาม “เดิมทีข้า อยากไปดูโรงงานดินเผา แต่ฮ่องเต้ห้ามข้าไม่ให้ออกไป ข้างนอก ข้าออกจากจวนไม่ได้ จึงทำได้เพียงเชิญผู้เผา ดินเผาเข้ามา ข้าจะเผาขวดหลายขวดทีเดียว”
กงชิงวี่วางฝาแก้วชาลงสบสายตาพลางเอ่ย “เผา ขวด?
“อืม”
อันหลิงหยุนไม่อธิบายเพิ่ม และกงชิงวี่ก็ไม่ได้ถาม
“อาหยู่ เจ้าไป”
กงชิงวี่สั่งแล้ว ให้อาหยู่ดำเนินการเรื่องนี้ อันหลิงหยุนพอเอ่ยไปก็คิดจะเดินกลับ เมื่อกำลังหันหลังจะเดิน จากไปนั่นเองก็ถูกเรียกขึ้น
“ร่างกายสะอาดหรือยัง? ” กงชิง จะอย่างไรก็เป็น บุรุษ จะคิดถึงเรื่องอย่างนั้นก็นับว่าไม่แปลกอะไร
“ยัง”
หันกายพลางพยุงตัวไป อันหลิงหยุนกลับไปยังที่ของ ตัวเอง
กงชิงวี่โยนหนังสือในมือทิ้งไป ไม่ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
จะร่วมหอทีทำไมมันยุ่งยากนัก !
อันหลิงหยุนกลับไปก็กังวลนัก ประจำเดือนก็กำลังจะ หมดลงแล้ว จะทําอย่างไรดี?
อาหยู่หาช่างเผามาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดมีสามคน นับเป็นคนที่ดีที่สุดในโรงงาน เมื่ออันหลิงหยุนพบกับ พวกเขาด้วยตัวเอง จึงสอบถามบางเรื่อง ลงมือวาดรูป หนึ่งด้วยตัวเอง บนภาพนั้นมีขวดรูปทรงต่างๆ เมื่อคน เหล่านั้นดูแล้ว มีเพียงคนเดียวในนั้นที่รับทำงานนี้
อันหลิงหยุนรับรอง หากเพียงทำออกมาได้ จะได้ รางวัลอย่างงาม
แต่ต้องทำอยู่บริเวณหลังจวนของอ๋องเสียน และต้อง ให้นางสอดส่องดูตลอด เมื่อทำเสร็จรอบแรก จากนั้นจึงสามารถนํากลับไปทําที่บ้านได้
คนเผาทั้งสามพักอยู่ บริเวณด้านหลังจวนอ๋องเสียน ก่อห้องและเตาเผาอย่างคร่าวๆ ขึ้น ผ่านไปเพียงสองถึง สามวันก็เริ่มเผาขึ้น
อันหลิงหยุนไม่นับวันเวลาอยู่ด้านนอกคอยตรวจดู งาน การเผาครั้งแรกๆ ที่ทำไม่ประสบความสำเร็จนัก อันหลิงหยุนทำลายทิ้งทั้งหมด ทำให้คนอื่นๆ ต่างไม่ย่าง กรายเข้าไปบริเวณหลังจวนอ๋องเสียนเลย
อาหยู่คอยมองอยู่ที่ประตู แต่ก็ยังไม่รู้ถึงความ ต้องการของพระชายา
ผ่านไปอีกไม่กี่วันในที่สุดอันหลิงหยุนก็ราวได้รับของ ขวัญพิเศษอย่างไรอย่างนั้น นำขวดที่เผาเสร็จออกมา ที่ ส่วนหัวไม่ใหญ่นัก ทว่างดงามนัก รูปร่างคล้ายกับขวด เหล้า เพียงใหญ่เท่าฝ่ามือ
การอบครั้งนี้ทำออกมาได้สองร้อยกว่าขวด อันหลิง หยุนเลือกเฟ้นอย่างละเอียดออกมาหกสิบกว่าขวด นอกจากนั้นก็ทำลายทิ้ง
อาหยู่ดูแล้วก็ปวดใจนัก ของดีเช่นนี้ บอกจะทำลายก็ ทำทิ้งเลย
เมื่อของเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว อันหลิงหยุนก็เรียก หงเถาและลุ่ยหลิ่วมา ทั้งสองคนนำเอากล่องยามาคนละ สามสิบใบบรรจุขวดทั้งหมดกลับไปยังห้องอันหลิงหยุน
หนอนไหมเย็นของอันหลิงหยุนเวลานั้นก็เริ่มห่อตัว เป็นก้อนไหมแล้ว อันหลิงหยุนเรียกให้คนดูแลมันโดย เฉพาะ ส่วนนางจะตั้งใจทำน้ำบำรุงหน้า
เวลาทั้งสิ้นสิบวัน อันหลิงหยุนไม่ออกจากห้องเลย
เมื่อพิธีแต่งตั้งพระสนมของฮ่องเต้มาถึง อันหลิงหยุน จึงออกจากห้องมาได้
เมื่อเตรียมของพร้อมแล้ว อันหลิงหยุนจึงรีบเข้าวัง
กงชิง จึงยกเลิกข้อห้าม เข้าวังเป็นเพื่อนนาง
ภายในรถม้ามีโอ่งใส่เหล้าขนาดใหญ่ ตรงกลางของ โอ่งใส่น้ำแข็งไว้ ไหใส่เหล้าเล็กๆ บรรจุเต็มอยู่ภายใน น้ำแข็งนั้นใช้เพื่อรักษาความสดใหม่ ที่ใช้โอ่งเหล้าเพียง เพื่อจะหลบเร้นสายตาคน
ในอดีตยังไม่มีสารกันเสีย ทำได้เพียงใช้น้ำแข็งกลบ ฝังเอาไว้ เพื่อให้เก็บรักษาได้สองเดือน
อันหลิงหยุนใช้ขวดเหล้าน้อยๆ บรรจุน้ำบำรุงหน้า และบรรจุแผ่นมาส์กหน้าที่ทอจากใยไหม ปิดฝาให้แน่น หน้าแล้วจึงเก็บไว้ในที่เย็น เพียงรักษาและเปลี่ยนน้ำ แข็งตามเวลาที่กำหนดเป็นใช้ได้
อันหลิงหยุนนั่งอยู่ด้านข้างครึ่งหลับครึ่งตื่น นางไม่ได้ นอนพักมาหลายวัน ทำให้ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง และมีเพียง ตอนนี้ที่สามารถจีบได้สักหน่อย
เมื่อเข้าวังแล้ว ไห่กงกงรออยู่ที่ประตูอยู่ก่อนแล้ว บ่าว ที่มาด้วยยกโอ่งเหล้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นอันหลิงหยุ นก็ตามไปทางนั้น
กงชิง ไม่มีเรื่องอะไรจะทำได้ จึงเดินตามนางไป
เมื่อได้เข้าเฝ้าหวางฮองไทเฮา อันหลิงหยุนน้อม ทักทายแล้วก็เริ่มจัดเตรียมเรื่องมาส์กหน้า
“เสด็จแม่ สิ่งนี้ทำจากหนอนไหมเย็น ทั้งละเอียดและ นุ่มนวล หม่อมฉันใช้ที่ปิดและควบคุมความเย็นเพื่อให้ รักษาได้สองเดือน ทุกคืนเมื่อทานพระกระยาหารเย็น แล้ว ให้ใช้หนึ่งครั้ง ก่อนใช้ให้จุดธูปหอมขับความเย็น ใช้ครั้งหนึ่งครึ่งก้านธูป ใช้ในวันสองวันแรกจะดูไม่เห็น ผล หากแต่ใช้ไประยะหนึ่งผิวหน้าของเสด็จแม่จะกลับ มาดูเยาว์วัย ดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม”
“จริงหรือ? ”
หวางฮองไทเฮารู้สึกราวกับมีกระแสลมเย็นกำลัง ซึมซับเข้าสู่ผิว ให้ความรู้สึกสบายแผ่ไปทั่วตัว
อันหลิงหยุนยืนอยู่ด้านข้างอยู่เป็นเพื่อนครู่หนึ่ง หลังจากผ่านไปครึ่งธูป จึงช่วยหวางฮองไทเฮาดึงแผ่ นมาส์กหน้าออก แล้วจึงทำความสะอาดหน้าด้วยน้ำ สะอาด
เมื่อหวางฮองไทเฮาลุกขึ้นยืนสาวใช้เตรียมนำกระจก มายังเบื้องหน้า หวางฮองไทเฮาจับลูกคลำใบหน้าพลางมองดูโดยรอบ ทั้งสาวใช้และขันที่ต่างประหลาด ใจยกใหญ่
“โอ้ ช่างมหัศจรรย์เหลือเกิน ไทเฮา ท่านดูสิ ดูอ่อน เยาว์ลงหลายสิบปีเลยทีเดียว ผิวหน้า ราวกับเพิ่งออก มาจากเปลือกไข่ ผิวชุ่มชื้นยิ่งกว่าเด็กๆ เสียอีก” ไห่กง กงมองดูพลางถือโอกาสชื่นชม มีทั้งความจริงทั้งเส แสร้ง แต่ในคำพูดนี้ก็มีความเป็นจริงที่ทุกคนเห็นได้เช่น เดียวกัน หวางฮองไทเฮาต้องดีใจเป็นแน่แล้ว
“จริงรึ? ” หวางฮองไทเฮาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยพลาง ถามนิ่งๆ
ลุกขึ้นพลางยื่นมือให้อันหลิงหยุนจับไว้ อันหลิงหยุนรี บรุดไปพยุงขึ้น “เสด็จแม่
“หยุนเอ๋อนับว่าตั้งใจยิ่งนัก เสด็จแม่ไม่ได้มองหยุน
เอ๋อผิดไปเลย หยุนเอ๋อ ไม่กี่วันก่อนได้ยินว่าฮ่องเต้กัก
บริเวณเจ้าหรือ?
“หม่อมฉันทำผิดจริงๆ ฮ่องเต้ทรงพระปรีชาเพคะ”
อันหลิงหยุนยอมรับด้วยความสัตย์จริง หวางฮอง เฮาพยักหน้า “อืม มีการพัฒนาตัวเองนะ ดูไปแล้วอ๋อง เสียนก็พูดไม่ผิดไป เจ้านับว่าเชื่อฟังมากขึ้นนัก”
“เพคะ”
อันหลิงหยุนประหลาดใจแล้ว ต่างก็ถูกกักบริเวณ แต่กงชิงวี่กลับเข้าวังได้?
ของมีค่าที่อันหลิงหยุนถวายนับว่าเป็นที่พอพระทัย หวางฮองไทเฮาประทานสร้อยไข่มุกให้
เมื่อเดินออกมานางก็สวมไว้บนคอ เปล่งประกาย ระยิบระยับ จำนวนหนึ่งร้อยแปดเม็ด ขนาดเท่านิ้วมือ เข้าชุดกับเสื้อนอกขนสุนัขจิ้งจอกสีขาวของนาง ยิ่งขับ ให้ดูงดงามยิ่งนัก
เมื่อเห็นผู้คนจดจ้องกันมาก อันหลิงหยุนจึงเก็บเอาไว้ ในเสื้อ
อวดดีมากนับว่าไม่ดี มักจะตายเร็วเสียเปล่า
มีชีวิตอยู่ในยุคโบราณนี่นับว่าเหนื่อยมากพอแล้ว บรรดาคนคนในยุทธจักรที่ไล่ตามฆ่านางก็ไม่รู้จะโผล่ มาเมื่อไหร่ หากอันหลิงหยุนยังอยากมีชีวิตยืนยาว ก็ ต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตัว
เมื่อเดินถึงประตูพระราชวัง อันหลิงหยุนพบกับสวีกง กงที่เดินตรวจตราอยู่
“ท่านอ๋องเสียน พระชายาเสียน ข้าน้อยขอน้อม ทักทายทั้งสองท่าน” สวีกงกง น้อมเคารพอย่างนบนอบ
“มีเรื่องอะไร? ” กงชิงวี่เอ่ยอย่างราบเรียบ
สวีกงกงปรายตามองอันหลิงหยุนครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขึ้น “เซียวกุ้ยเฟยเข้าวังมาหลายวันแล้ว ยังไม่เคยพบ กับพระชายาอ่องเสียน เมื่อครู่ฮ่องเต้รับประทานพระ กระยาหารที่วังจิ่งซิ่ว ตั้งพระทัยให้ข้าน้อยเชิญไปพบ
บังเอิญเสียจริง ข้าน้อยพลันพบเข้าก่อน”
กงชิงวี่ปรายตามองไป “ไปกัน”
อันหลิงหยุนพยุงตัวขึ้น “ท่านอ๋องเชิญก่อน”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ