บทที่ 86 ความอำมหิตในวัง
อันหลิงหยุนทำยากุหลาบมีความน่ายกย่อง หวางฮอง ไทเฮามอบรางวัลปิ่นพลอยปักผมที่เมืองหนานอี้ส่งมา เป็นของบรรณาการให้ ว่ากันว่ามีแค่สองคู่
ไห่กงกงส่งอันหลิงหยุนระหว่างทางไปยังประตูวัง คุย ยาวตลอดทาง
“ข้าน้อยไม่ได้เห็นไทเฮาให้คุณค่ากับผู้ใดจริงจังมา หลายปีแล้ว พระชายาจวนอ๋องเสียนช่างโชคดีจริงๆ!” ไก่กงกงพยุงอันหลิงหยุนออกมา พร้อมกับประจบ สอพลอ
ตอนนี้ตัวตนของอันหลิงหยุนแตกต่างกันมาก หาก เป็นเช่นนี้ต่อไป อะไรก็เกิดขึ้นได้
อันหลิงหยุนกลับไม่เห็นด้วย อยู่ในวังวน ถ้าไม่มีความ สามารถอยู่บ้าง ไม่ช้าก็เร็วจะกลายเป็นปลาในมือของ คนอื่น
“กงกง สุขภาพร่างกายท่านดีขึ้นหรือยัง?” อันหลิง หยุนไม่อยากพูดเรื่องเหล่านี้มากนัก ไห่กงกงก็เป็นคน ฉลาด รู้อันหลิงหยุนเป็นนายที่ชัดเจน ก็รู้สึกโล่งใจขึ้น บ้าง
ดังคำกล่าวที่ว่าไปเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แย่งชิง การ แย่งชิงเหล่านั้น อาจไม่จบลงด้วยดี
สิ่งที่แย่งมาด้วยการเสี่ยงชีวิต สุดท้ายก็ต้องทุ่มสุด ชีวิต ไม่คุ้ม!
“ดีแล้ว ดีขึ้นมากแล้ว แม้แต่ไทเฮายังชื่นชม บอกว่า ช่วงนี้ขอของข้าน้อยกระฉับกระเฉงขึ้น”
“อืม หายก็ดีแล้ว สุขภาพร่างกายกงกงสำคัญ”
“ขอบพระคุณพระชายาเสียนที่นึกถึง ข้าน้อยส่งถึง แค่ตรงนี้ ไทเฮารอข้าน้อยกลับไปปรนนิบัติรับใช้ พระ ชายาเสียเดินทางปลอดภัยพ่ะย่ะค่ะ!”
“ได้ ขอบคุณกงกง”
ไห่กงกงผงกหัว หันหลังแล้วเดินไป อันหลิงหยุนมองไปที่ปิ่นพลอยทั้งสองในมือ
ก็บอกไม่ได้ว่าชอบ แต่สิ่งนี้ตกอยู่ในมือ มีเพชรพลอย ประดับอยู่ด้านบน ต้องเป็นสิ่งที่หายาก
เสียดายนางไม่ชอบ เป็นได้เพียงของตกแต่งที่ด้าน ล่างของกล่องเท่านั้น
รออยู่สักพัก อันหลิงหยุนเตรียมตัวออกไปนอกวังขึ้น รออยู่บนรถม้า ก็เห็นคนสามคนมุ่งหน้าเข้าเดินตามกัน มาติดๆ
อันหลิงหยุนมองไปอย่างละเอียดเพื่อให้ชัดเจน ตรงกลางผู้นั้นคือพระชายาตวนจุนฉูฉู ทางขวามือคืออ่อง ตวนกงชิงหยิน คนที่อยู่ทางซ้ายที่ไกลออกไปจากพวก เขาก็คืออ๋องเสียนกงชิงวี่
สามคนนี้รวมตัวกัน ก็ไม่น่าแปลกใจเลย
อันหลิงหยุนยังไม่ทันเก็บปิ่นปักผมทั้งสองในมือให้ดี ทั้งสามก็มาถึงตรงหน้า
ทั้งสามคนเห็นคู่ปิ่นปักผมในมือของอันหลิงหยุน สีหน้าแตกต่างกันไป
โดยเฉพาะจุนฉูฉู ใบหน้าซีดเซียว ริมฝีปากเขียวช้ำ พูดไม่ออก
อ๋องตวนที่อยู่ด้านข้างถามโดยไม่ลังเล: “พระชายา เสียนบังอาจ เจ้ากล้าแย่งของจากฮองไทเฮางั้นหรือ?”
มือของจุนฉูฉูกำแน่น รู้ว่าอ๋องตวนไม่มีความฉลาด เฉลียวมากนัก มีความอคติกับอันหลิงหยุนเสมอ สมเหตุ สมผลที่เขาจะพูดเช่นนั้น
แต่ในเวลานี้พูดเช่นนี้ ก็น่าผิดหวัง
อ๋องตวนที่สง่างาม ควรฉลาดและเฉลียว ตอนนี้รู้สึก เหมือนเป็นคนโง่ที่พูดเช่นนี้
จุนฉูฉูรู้สึกเสียใจอย่างมาก ทำไมนางถึงแต่งกับอ๋องตวน
นางเสียใจมาก!
อันหลิงหยุนไม่มีทางปล่อยอ๋องตวนไว้แน่ เจ้ารังแกข้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าให้เป็นนิสัย
“อ๋องตวน แม้ว่าท่านจะเป็นท่านพี่สอง แต่ก็ไม่ควรพูด เช่นนี้กับข้า นี่คือรางวัลที่ไทเฮามอบให้ข้า ขอร้องก่อ นอ๋องตวนจะพูดขอให้ผ่านสมองก่อน ถามให้แน่ชัดแล้ว ค่อยพูด” อันหลิงหยุนแสดงออกด้วยสีหน้าดูถูก ถอน สายบัวให้กับกงชิงวี่: “หม่อมฉันถวายบังคมท่านอ๋อง”
“อม”
กงชิงวี่กล่าวเบาๆ สายตาจ้องไปยังปิ่นปักผมในมือ ของอันหลิงหยุน
ปิ่นปักผมที่ได้รับบรรณาการจากเมืองหนานอี้ ว่ากัน ว่ามีเพียงสองคู่ สามารถมอบให้กับฮั่วไท่เฟยคู่หนึ่ง เสด็จแม่คู่หนึ่ง
แต่เสด็จแม่ยืนยันว่าเป็นสิ่งที่มีเพียงฮองเฮาเท่านั้นที่ สามารถเพลิดเพลินที่จะใช้มันได้ สุดท้ายไม่ได้มอบให้ กับฮั่วไท่เฟย เพราะเรื่องนี้ ฮั่วไท่เฟยยังไปโวยวายกับ ไทเฮา แต่ไทฮองไทเฮานั้นชรามากแล้ว ไม่อยากที่จะ รวมตัดสินสิ่งต่างๆ ระหว่างทั้งสอง จึงไม่มีอะไรมาก
นึกไม่ถึงว่าวันนี้เสด็จแม่จะมอบให้กับนาง!
แม้แต่ฮองเฮาเข้าวังก็ยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ เป็นเพราะเสด็จแม่ชอบยากุหลาบจริงๆ ทําให้นางพึง พอใจ!
“เจ้าบังอาจว่าข้าสมองไม่ดี อันหลิงหยุน เจ้าอย่าคิด ว่าจะมีไทเฮาคอยสนับสนุนเจ้า ข้าจะไม่กล้าทำอะไรเจ้า ”
กงชิงหยินรู้สึกเสียใจหลังจากพูดจบ นึกถึงบางสีจึง ไม่พูดต่อ
อันหลิงหยุนมองไปที่อ๋องตวนอย่างดูถูก: “เคารพท่าน เป็นพี่ชายข้า เรียกท่านว่าอ๋องตวน หากท่านยังยุ่มย่าม เช่นนี้ เห็นคนอื่นได้ดีไม่ได้ วันข้างหน้าข้าอยู่ต่อหน้า ฮ่องเต้ ข้าจะต้องฟ้องท่าน ข้าประเทศต้าเหลียงที่พื้น บ้านเรียบง่าย มีธรรมเนียมประเพณี ท่านปฏิบัติต่อน้อง สะใภ้เช่นนี้ได้อย่างไร หยาบคายดูถูกเช่นนี้ พูดออกไป ไม่กลัวจะอับอายไปทั่วหรืออย่างไร?
ดวงตาอันหลิงหยุนเย็นชา ท่าทางจริงจัง จุนฉ เหลือบตามอง นี่จะเป็นอันหลิงหยุนที่ซื่อบื้อได้อย่างไร
ตอนนี้อ่องตวนตกใจ ผ่านไปนานจึงพูด “อ๋องเสียน เจ้าไม่ดูแลหน่อยหรือ?”
อ๋องเสียนเหลือบมองไปที่อ่องตวนอย่างไม่ใส่ใจ “ท่าน สองพูดถูก กลับไปข้าจะดูแลสั่งสอนอย่างดี หญิงที่น่ากลัวเช่นนี้ หากไม่จัดการให้ดี วันข้างหน้าคง เอาไม่อยู่?”
จุนฉูฉูน้ำตาแทบไหล คำที่ออกจากปากกงชิงว่าจะ จัดการ แต่ใบหน้าไม่ได้แสดงออกถึงว่าจะจัดการเลย แม้แต่น้อย
ทำไมใจนางไม่สงบ!
นางทำอะไรผิดจริงหรือ?
ดูสีหน้าเศร้าเช่นนั้นของจุนฉูฉู อันหลิงหยุนก็ไม่ ต้องการให้ความสนใจกับ นางมองไปยังกงชิงวี่ เห็นว่า เขาไม่อะไรกับนาง จึงไม่พูดมากอะไรอีก
จุนฉูฉูรู้สึกร่างกายสั่นคลอนเล็กน้อย มองไปที่กงชิง วี่ด้วยใบหน้าเศร้า ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกนั้นดูเหมือนยิ้ม ให้อันหลิงหยุน หัวใจก็ราวกับถูกเข็มทิ่มแทง
ไม่พูดมาก จุนฉูฉูดึงกงชิงหยิน เดินออกไปทางประตู วัง: “เราไปกันเถอะเพคะ”
ทั้งสองไปแล้วอันหลิงหยุนจึงมองไปยังกงชิงวี่ พูด กล่าว: “เสด็จแม่มอบให้ข้า
“งั้นก็รับไว้เถิด สิ่งที่แม้แต่ฮองเฮาก็ยังไม่ได้รับ เจ้า ต้องดูแลรักษาให้ดี อย่าเอาออกมาโดยไม่จำเป็น
กงชิงวี่ออกจากวังก็ไปทันที อันหลิงหยุนตามขึ้นรถม้า ไป ทั้งสองกลับจวนอ๋องเสียนพร้อมกัน
อันหลิงหยุนออกจากรถม้าและมองไปที่ปิ่นปักผมทั้งสองอันในมือ ดูไม่ออกจริงๆ ว่าสวยตรงไหน
ยากหลายทําให้อันหลิงหยุนน่ายกย่อง นางได้รับ รางวัล จุนฉูฉูไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น กลับถึงจวนอ๋องต วนจุนฉูฉูก็ปวดหัว ปวดจนต้องนอนบนเตียงไม่ตื่นทั้งวัน
อ๋องตวนเป็นกังวลมาก ตามหมอจวนมาดู ก็ดูไม่ว่า อาการเกิดจากอะไร
ถามจุนฉูฉูไม่สบายตรงไหน จุนฉูฉูก็ไม่พูด พูดแค่ว่า ไม่เป็นไร
อ๋องตวนกังวล และนอนไม่หลับทั้งคืน
วันถัดไป พระราชวังติดโคมไฟและสีสันสดใส พร้อม ต้อนรับกุ้ยเฟยเข้าวัง
กงชิงวี่และกงชิงหยินท่านอ๋องทั้งสองถูกเรียกตัวเข้า วังเพื่อปรึกษาเรื่องการเข้าวังของกุ้ยเฟย ก่อนที่กงชิง หยินจะไปเห็นน้ำตาทั้งสองสายของจุนฉูฉูที่ไหลลงมา กงชิงหยินตกใจมากจึงรีบถาม: “ฉูฉู เกิดอะไรขึ้น?
จุนฉูฉูไม่พอใจ หลับตาน้ำตาไหลริน ลักษณ์ท่าต่างๆ ของนางทำให้กงชิงหยินรู้สึกเป็นทุกข์ รีบกอดและถาม ขึ้น: “เพราะน้องสาวจะเข้าวังใช่หรือไม่ ฉูฉูจึงรู้สึกอาลัย อาวรณ์?”
จุนฉูฉูพูดอะไรไม่ได้ แต่งงานกับคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ เช่นนี้ นางไม่สามารถพูดออกมาได้
จุนฉูฉูน้ำตาไหลอยู่ในอ้อมกอดอ๋องตวน นางไม่พอใจ!
อ๋องตวนกล่าวอย่างเป็นห่วง: “ฮ่องเต้จะไม่ปฏิบัติไม่ ดีต่อน้องสาวแน่ ถ้ากังวลก็สามารถเข้าวังไปดูได้ อย่า ร้องไห้จนทำให้ร่างกายทรุด!”
จุนฉูฉูยังไม่สามารถร่าเริงขึ้นได้ ในใจนางสับสน กงชิงหยินไม่วางใจจุนฉูฉูจึงพาจุนฉูฉูเข้าวังด้วย
วันนี้อันหลิงหยุนก็ตามกงชิงวี่เข้าวังด้วยเช่นกัน อัน หลิงหยุนไม่อยากเข้าวัง แต่นางกังวลเรื่องการถูกฆ่า จริงๆ ทำได้เพียงติดตามไป
ลงจากรถม้า อันหลิงหยุนเห็นจุนฉูฉูมีท่าทางขวัญหนี ดีฝ่อไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“อ๋องตวน พระชายาตวน” อันหลิงหยุนทักทายก่อน เมื่อพบหน้า
อ๋องตวนมองอันหลิงหยุนและรู้สึกแย่ ไม่มีความสุข: “หึ อัญเชิญมาวันนี้ ไม่ได้ยินว่ามีพระชายาเซียนอยู่ใน รายชื่อด้วย”
“ข้าไม่ค่อยสบาย จึงพามาด้วย” กงชิงวี่กล่าวและมอง ไปข้างหน้า ไม่สนใจเลยแม้แต่นิด
จุนฉูฉูรู้สึกปวดใจ ตอนนี้เริ่มปกป้องอันหลิงหยุนแล้ว หรือ?
เมื่อเห็นอันหลิงหยุนจุนฉูฉูหันหน้าหนี ตามอ่องตวน ตรงไปในวังทันที
อันหลิงหยุนไม่แปลกใจ จุนฉูฉูกับนางเข้ากันไม่ได้อยู่ แล้ว ไม่สนก็ไม่ต้องสน!
กงชิงวี่เดินนำหน้า อันหลิงหยุนตามเข้าไป
เข้าวังแล้วอันหลิงก็ไม่ได้ทำตัวสบายๆ ก่อนอื่นไป ถวายบังคมหวางฮองไทเฮา จากนั้นตามไปพบฮองเฮา เสินหยุนชู
สีหน้าของเสินหยุนชูดีขึ้นมากหลังจากที่เจอกันก่อน หน้านี้ โบกมือเรียกอันหลิงหยุนและจุนฉูฉูไป
“นั่งลงเถิด พวกเจ้าไม่มาเลย ข้าคิดถึงพวกเจ้าแล้ว ช่วงนี้โรงครัวได้พัฒนาอาหารขึ้นมาใหม่สองอย่าง ไม่รู้ ว่าพวกเจ้าจะชอบกินหรือไม่ ข้าคิดแล้วก็พอใช้ได้ ใน เมื่อมาแล้ว มาชิมด้วยกัน”
เสินหยุนชูนำขนมในมือสาวใช้มาวางที่โต๊ะด้วยตนเอง ให้สัญญาณอันหลิงหยุนกับจุนฉูฉูกิน
อันหลิงหยุนรู้ว่าในขนมมียาพิษ แต่ไม่กินก็ไม่ได้ นาง กินแล้วสามารถแก้พิษด้วยตนเองได้ แต่จุนฉูฉูไม่รู้
ทั้งสองกินคนละสองชิ้น เสินหยุนชูก็บอกว่าร่างกาย ไม่ค่อยสบาย ให้พวกนางไปรอที่วิหารบรรทมรอง
อันหลิงหยุนและจุนฉูฉูจึงลุกขึ้นถวายบังคมลา หลัง จากทั้งสองจากไปเสินหยุนชูบีบขนมในมือจนแหลก ละเอียด จากนั้นหัวเราะขึ้น ยกมือขึ้นตีที่จานคว่ำ
นางกำนัลและขันทีในวังเพิ่งหยีคุกเข่าลงบนพื้น ตกใจ จนไม่มีใครกล้าพูด
เสินหยุนชูหันหลังกลับไปที่วังบรรทม
ออกจากวังเพิ่งหยีอันหลิงหยุนและจุนฉูฉูเข้าไปรอที่ วิหารบรรทมรองพร้อมกัน ทั้งสองแยกกันนั่งลง จุนฉูฉู มองไปทางอันหลิงหยุนอย่างช้าๆ คู่ดวงของนางมีความ ขุ่นเคือง
อันหลิงหยุนลดสายตาลงเพื่อไม่มองจุนฉูฉู รู้สึก เหมือนถูกจ้องมองราวกับจะทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อ
อันหลิงหยุนขี้เกียจที่ใส่ใจเรื่องนี้
“พวกเจ้าออกไปก่อน พวกเราพี่น้องสะใภ้จะคุยกัน” จุนฉูฉูให้คนรอบข้างออกไป จากนั้นก็ดูมีชีวิตชีวาอย่าง มาก
อันหลิงหยุนรู้อยู่แล้ว จุนฉูฉูจิตใจไม่คิดดี
ประการแรกนางต่อสู้ไม่เป็น ประการที่สองจุนฉูฉู่เจ้า เล่ห์กลอุบายมากมาย ประการที่สามครั้งที่แล้วเกิดเรื่อง ในวัง จุนฉูฉูหยิบมีดออกมาอย่างกล้าหาญ เกือบทำให้ หน้านางเสียโฉม
ตอนนี้คนออกไปหมดแล้ว นางสะดวกที่จะลงมือ
ขณะนี้อันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ประตูทาง เข้า มีคนเฝ้าประตูสองคน และประตูถูกล็อกจากด้าน นอก
“เลิกมองได้แล้ว วันนี้ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าฉันเก่งแค่ ไหน” จุนฉูฉูลุกขึ้น เห็นนางอ่อนแอมาก แม้แต่เดินยังสั่น เทา
แต่จุนฉูฉูมีดวงตาที่ดุร้าย ในมือยังถือมีดด้ามหนึ่งอีก ด้วย
อันหลิงหยุนพูดอย่างหมดหนทาง: “พระชายาตวน พกอาวุธเข้าวังโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดโทษ ประหารนะ”
จุนฉูฉูหัวเราะ: “เจ้าตายแล้ว เรื่องประหารก็มาไม่ถึง ข้า!”
“เจ้าช่างโหดร้ายเหลือเกิน ที่นี่คือวิหารบรรทมรอง ของฮ่องเต้ เจ้ากล้าเกินไปหรือเปล่า พูดคำเช่นนี้ออก มา?”
“อันหลิงหยุน ข้าควรจัดการกับเจ้าตั้งนานแล้ว”
จุนซูชูเดินเข้าใกล้ตรงหน้าของอันหลิงหยุน ข้างหลัง อันหลิงหยุนคือเก้าอี้ หากนางไม่หลบไป วินาทีถัดไปจุน ฉูฉูก็จะโผเข้าหานาง
อันหลิงหยุนจึงก้าวไปอีกด้านหนึ่ง
“หลบไปก็ไร้ประโยชน์ วันนี้มีเจ้าจะไม่มีข้า มีข้าก็ต้อง ไม่มีเจ้า
จุนฉูฉูใช้แรงทิ่มแทงไป อันหลิงหยุนไม่ได้หลบ ถูก บาดเข้าที่แขน เลือดไหลออกจากแขนของอันหลิงหยุน หยดลงสู่พื้น
“จุนฉูฉู ข้าไม่ไม่ยุ่งเจ้า เจ้าจะยุ่งกับข้าใช่หรือไม่?”
อันหลิงหยุนไม่มีทางเสียเปรียบในครั้งนี้แน่ เตะเก้าอี้ ขึ้น คว้าเอาไว้ หันฟาดลงไปที่จุนฉูฉู
อันหลิงหยุนไม่ใช้เพลงกระบี่ไร้ใจก็ได้ แต่ไม่ได้บอก จะไม่ใช้ขาในการต่อสู้
จุนฉูฉูคิดไม่ถึงว่าอันหลิงหยุนจะต่อต้าน และยังทรง พลังอย่างมาก
ได้ยินแค่เสียงโครม จุนฉูฉูสั่นสะเทือน มีดในมือตกลง ทีพีน เคร้ง เคร้ง……
พริ๊บ จุนฉูฉูก็ล้มลงกับพื้น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ