บทที่ 73 ข้าอยากให้เจ้าแอบซ่อนดู
ดูบัญชีไปสักพัก อันหลิงหยุนก็รู้สึกยุ่งเหยิง อินุงตุง นัง
กงชิงวถามว่า: “มีอะไรหรือ?”
“วันก่อนเข้าวัง รับปากกับเสด็จแม่ไว้ว่าจะเตรียม ของให้แก่นางเพื่อการนี้ จึงจำเป็นจะต้องไปหาของนิด หน่อย แต่ตอนนี้ข้าไม่กล้าไปไหนมาไหนตามอำเภอใจ”
อันหลิงหยุนไปไหนมาไหนคนเดียวเสมอ ชาติก่อน นางไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าจะต้องพบกับฝนลูก กระสุนก็ตาม แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน คนกลุ่มหนึ่งรอที่ จะดื่มเลือดของนาง นางจึงไม่กล้าออกไปข้างนอกโดย พลการจริงๆ
เมื่อวานเขาก็รับปากแล้วว่า จะให้นางคอยตาม แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ตอนนี้นางมีธุระต้องทำ ไม่ไปไม่ได้ ถ้านางขอร้องคนอื่น ก็เท่ากับยอมลดท่าที่ลง
จริงๆแล้ว ต่อหน้าเขา ท่าทีของอันหลิงหยุนก็ลดลงไป จนติดดินอยู่แล้ว
แม้แต่ตัวนางเองก็หาไม่เจอแล้ว
“ห้องเก็บยาในจวนไม่มีหรือ?” กงชิงวี่มีธุระต้องจัดการ พิธีแต่งตั้งพระสนมกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า เรื่องที่เกี่ยวพันถึงหน้าตาของราชวงศ์ จะสะเพร่าไม่ได้
“ในจวนหม่อมฉันยังไม่ได้ดู ห้องเก็บยาในจวนแม่ทัพ ถูกหม่อมฉันย้ายมาจนเกือบหมดแล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อ ไป หม่อมฉันเองก็คงไม่มีหน้ากลับไปอีก” แสดงท่าทีจน ใจ
จริงๆแล้วอันหลิงหยุนพูดออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อกงชิงวี่ได้ฟังสีหน้ากลับเคร่งขรึม: “จวนอ๋องเสีย นขากจนถึงขนาดว่าแม้แต่ยาก็ไม่มีปัญญาซื้ออย่างนั้น หรือ ถึงต้องให้พระชายากลับไปขนย้ายมาจากที่บ้าน?”
ถึงแม้ว่าความจริงแล้วทุกครั้งที่อันหลิงหยุนกลับจวน แม่ทัพ ก็จะขนย้ายยามา แต่กงชิงวี่เองก็ไม่ยอมรับ หาก พูดออกไป จวนอ๋องเสียนก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
อันหลินหยุนในใจรู้สึกโกรธ แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา
ตอนนี้ต้องการการปกป้องจากกงชิงวี่ นางจึงไม่กล้า โวยวาย
“ไม่ใช่อย่างนั้นเพคะ ก็เพียงแค่นำมาเล็กน้อยเท่านั้น บวกกับที่ก่อนที่จะแต่งงาน หม่อมฉันเองก็ใช้ยาในจวน แม่ทัพไปจนเกือบจะหมดแล้ว ช่วงที่เตรียมงานแต่งงาน นั้น กำลังคนในจวนแม่ทัพก็มีไม่เพียงพอ การเตรียมยา ก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร จวนแม่ทัพจึงไม่ได้ทำเป็นขั้น เป็นตอน ทุกวันก็จะกล่าวถึงเอาไว้ในตารางเวลา รอจน กระทั่งข้าแต่งงาน เกิดเรื่องขึ้นไม่น้อย แล้วใครจะจำเรื่องห้องเก็บยาได้ ไปๆมาๆก็คงจะลืม
รวมถึงปกติแล้วการจัดระเบียบยาภายในจวนแม่ทัพ เป็นหน้าที่ขอหม่อมฉันแต่เพียงผู้เดียว ด้วยเหตุนี้จึง ไม่มีใครทำหน้าที่แทน
ที่หม่อมฉันกล่าวไปเมื่อชั่วครู่ รู้ดีว่าไม่เหมาะสม เพียง แต่เมื่อพบกับเหตุการณ์เช่นนี้ก็รู้สึกร้อนใจ ท่านอ๋องก็ กำลังจับตาดูความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาของเราอยู่ อย่าทรงคิดเล็กคิดน้อยกับหม่อมฉันอีกเลยเพคะ” อัน หลิงหยุนพูดจบ ก็รอคำตอบจากกงชิงวิ่
กงชิงวี่สังเกตสีหน้าของอันหลิงหยุนอย่างละเอียด สงสัยจะดูถูกนางเกินไปหน่อย ปากนี้ช่างลื่นไหลราวกับ ทาน้ำมันไว้จริงๆ
“วันนี้ข้าไม่มีเวลา เดี๋ยวพักเสวยตอนกลางวันก็ให้ไปดู ที่ห้องเก็บยา ถ้าหากไม่มีค่อนว่ากัน
กงชิงวี่รับปากอันหลิงหยุน แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้ง สักเท่าไหร่ ถึงแม้จะไปที่ห้องเก็บยา แต่สิ่งที่นาง ต้องการก็ไม่มีอยู่ดี
แต่ในเมื่อกงชิง พูดเช่นนี้แล้ว อันหลิงหยุนก็ไม่ได้พูด อะไรให้มากความอีก
“ขอบพระทัยท่านอ๋อง”
อันหลิงหยุนกล่าวขอบคุณ แล้วเดินไปยืนอยู่ทางด้านข้าง กงชิง นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อวานนางเองก็ตกใจไม่ น้อย ซ้ำยังมีฐานะเป็นถึงพระชายา ให้นางยืนอยู่เช่นนี้ เห็นทีจะไม่เหมาะสม จึงพูดว่า: “ไปนั่งเถอะ ถือโอกาสดู บัญชีไปพลางๆ ข้าเองก็เหนื่อยแล้ว ดูพวกนี้จนตาลาย ไปหมดแล้ว”
“เพคะ”
อันหลิงหยุนเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม แล้วหยิบสมุดบัญชี ขึ้นมาหนึ่งเล่ม ตั้งหน้าตั้งตาดูอย่างมุ่งมั่น
กงชิงวี่ที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งกำลังจ้องมองนางอยู่ รู้สึก อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
อันหลิงหยุนดูไปหนึ่งเล่ม แล้วก็ดูอีกหนึ่งเล่ม ความเร็วในการดูรวดเร็วมาก กงชิงวี่ก็ลองนำมาเปิด ดู เมื่อเห็นว่าไม่มีปัญหาจริงๆจึงวางลงไว้อีกทางด้าน หนึ่ง แต่ตัวเขาเองก็รับรู้ได้ว่า อันหลิงหยุนคนนี้ เหมือน เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ตั้งแต่คืนที่แต่งงานเข้ามาในจวนอ๋องเสียน นางก็ เปลี่ยนไป
เมื่อนึกถึงท่าทีรักใคร่ที่อันหลิยหยุนเคยมีให้เขาเมื่อ ครั้งผ่านมา แต่วันนี้กลับแสดงท่าทีต่อเขาเหมือนจะมี ก็ได้หรือไม่มีก็ได้ กงชิงวี่ก็รู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาโดย ไม่มีเหตุผล จึงโยนสมุดบัญชีที่เพิ่งจะหยิบขึ้นมาลง: “ดู ใหม่”
อันหลิงหยุนตกใจเล็กน้อย แล้วจึงนำสมุดบัญชีขึ้นมา เปิดดูอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบข้อผิดพลาด
รอบนี้ดูอย่างจริงจัง แต่เมื่อดูแล้วก็ไม่พบว่ามีปัญหา อะไร
อันหลิงหยุนยื่นสมุดบัญชีเล่มนั้นกลับคืนในสภาพเดิม รอให้กงชิงวตรวจสอบ
กงชิงวี่ขานรับสั้นๆ แล้วดูบัญชีเล่มอื่นต่อ
อันหลิงหยุนรู้สึกผิดหวัง ผู้ชายสมัยโบราณนี่ช่าง ประสาทเสียกันจริงๆ แบบนี้ก็ได้ด้วย
หยิบสมุดบัญชีอีกเล่มขึ้นมาดู อันหลิงหยุนก็ยังคงดู ด้วยความรวดเร็ว ดูจบก็วางลงแล้วดูเล่มอื่นต่อ
เป็นเพราะกำลังดูอยู่ทั้งคู่ ความเร็วในการดูของพวก เขาก็ใกล้เคียงกัน ขณะที่กำลังวางเล่มหนึ่งลงแล้วกำลัง จะหยิบอีกเล่มหนึ่งขึ้นมา ไม่ทันได้ระวังมือทั้งสองจึง สัมผัสกัน
มือที่เย็นเล็กน้อยของอันหลิงหยุนหดกลับมา จับเข้า ที่หลังมือของกงชิงวี่ ประสานกันอยู่ หัวใจของกงชิงวิ่ เหมือนถูกกรงเล็บของแมวจับไว้อย่างไรอย่างนั้น จึง เงยหน้าขึ้นดู อันหลิงหยุนจึงรีบหดมือกลับทันที
“หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจเพคะ”
อันหลิงหยุนทําหน้าเศร้า แสร้งทำท่าทีบริสุทธิ์ เกรง ว่าจะถูกกงชิงวี่ตำหนิ
กงชิงวี่แสดงสีหน้าไม่แยแส แล้วหยิบสมุดบัญชีขึ้นไป เล่มหนึ่งเพื่อเปิดดูต่อ ไม่ได้สนใจอันหลิงหยุนแต่อย่าง ใด แต่จริงๆแล้วในใจของเขากลับสงบลงไม่ได้เลย เมื่อ คิดถึงมือเล็กๆที่เย็นเล็กน้อยของอันหลิงหยุนจับเข้าเมื่อ ครู่ ใจของกงชิงวี่ก็ไม่อาจสงบลงได้ ความรู้สึกเช่นนั้น แปลกมาก คล้ายกับที่ถูกจูบในวันนั้น เหมือนมีฟ้าผ่าลง มาตรงกลางใจ
กลืนน้ำลายอย่างไม่มีเหตุผล แล้วกงชิงวี่ก็โยนสมุด บัญชีลงบนโต๊ะ พิงตัวลงบนเก้าอี้ ไม่ดูแล้ว
อันหลิงหยุนมองไป เห็นเขากำลังหรี่ตาลงเพื่อพักผ่อน
อาจเป็นเพราะเมื่อคืนนอนหลับไม่สนิท
เมื่อมองบัญชีที่วางกองอยู่บนโต๊ะ อันหลิงหยุนก็ค่อยๆ หยิบสมุดบัญชีขึ้นมาดูต่อทีละเล่มๆ ในที่สุดก็ดูจนเวลา หมดไปตลอดทั้งเช้าจึงได้พักหายใจ
อันหลิงหยุนเห็นว่าสมุดบัญชีที่อยู่ตรงหน้าดูเสร็จ ทั้งหมดแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร นางจึงลุกขึ้นขยับ ร่างกาย ในห้องนี้มีคนอยู่จำนวนมาก อีกทั้งยังเต็มไป ด้วยสมุดบัญชี จึงหนาวมาก
ปกติแล้วภายในห้อง เวลาเช่นนี้จะมีกระถางจุดไฟ วางอยู่หลายใบ แต่ว่าในห้องนี้ ตั้งแต่เข้ามาก็ไม่เห็นกระถางจุดไฟแม้แต่กระถางเดียว
ไม่ต้องถามก็รู้ว่า ไม่ได้เป็นเพราะเหตุผลอื่น บนพื้นนี้ ก็มีสมุดบัญชี บนโต๊ะก็มีสมุดบัญชี ทุกคนกำลังยุ่งมาก กระถางจุดไฟจึงถูกเตะล้มได้ง่ายๆ หากไม่ระวังแล้ว โยนสมุดบัญชีลงไปในกระถางจุดไฟ ก็จะยิ่งเป็นเรื่อง ใหญ่ขึ้นไปอีก
เช่นนี้ ไม่มีกระถางจุดไฟก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสม ผล
แต่อันหลิงหยุนรูปร่างบอบบาง สามารถรอดมาได้ ตลอดทั้งเช้าก็ถือว่าเต็มที่แล้ว อีกอย่างนางก็นั่งอยู่ที่ เดิมตลอด ไม่ได้ขยับไปไหนเลย
เลือดในตัวแข็งหมดแล้ว จึงลุกขึ้นยืนถูมืออยู่ภายใน ห้อง รอให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ก็คงจะอุ่นขึ้นสักหน่อย
ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ ที่อันหลิงหยุนหมุนไปหมุน มาจนไปปะเข้ากับดวงตาที่ดูเวิ้งว้างราวกับท้องฟ้ามืด มิดยามค่ำคืนคู่นั้นของกงชิงวิ่
ตะลึงเล็กน้อยอยู่สักพัก ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ความ รู้สึกปั่นป่วนแปลกๆในใจเริ่มเกิดขึ้นมาอีกครั้ง
“ท่านอ๋อง” อันหลิงหยุนถวายพระพรอย่างไม่รู้ตัว แม้แต่ตัวนางเองก็รู้สึกตกใจ
ช่วงนี้ความรู้สึกแบบนี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ไม่เพียงแต่กับหัวใจเท่านั้น แม้แต่กับร่างกายก็ดูเหมือนว่านางจะไม่ สามารถควบคุมได้
“มานี่สิ”
กงชิงวี่เรียกนาง อันหลิงหยุนเดินไปที่ด้านหน้าของ กงชิงวี่ กงชิงวี่ยื่นมือออกไปจะจับมือของนาง อันหลิง หยุนตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบนำมือไปไว้ด้านหลังใน ทันที สองมืออยู่ด้านหลัง สีหน้าเคร่งขรึม ทำเหมือนกับ กำลังพบเข้ากับปัญหาใหญ่ แม้แต่ดวงตาทั้งสองข้างก็ แสดงออกถึงความตกใจและกังวล
สีหน้าของกงชิงวี่เศร้าหมองลง มือหยุดอยู่กลาง อากาศ แล้วมองนางด้วยความโกรธ: “ยื่นมานี่?”
ไม่มีความอบอุ่นแม้สักเล็กน้อย เป็นความโกรธ ทั้งหมด อันหลิงหยุนรับรู้ได้ จึงไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังกง ชิงวี่อีก ขณะที่มองเขา ก็ทำท่าทีว่านอนสอนง่าย
ค่อยๆยื่นมืออกมา ทำราวกับว่ายื่นออกไปรับโทษอยู่ ตรงหน้ากงชิงวี่ มือของอันหลิงหยุนถูกมือข้างหนึ่งของ กงชิงวี่จับไว้ แล้วออกแรงดึง จนอันหลิงที่ยังไม่ทันได้ ตั้งตัว ล้มลงไป
กงชิงวี่ยืนมืออกไปคว้า อันหลิงหยุนมานั่งอยู่บนตัก ของกงชิงวี่ สีหน้าตกใจและแดงก่ำ
กงชิงวี่ก้มหน้าลงไปมอง อันหลิงหยุนหลบตา จับมือ ของกงชิงวี่ไว้แน่น ตื่นเต้นจนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
งชิงซ้อนทางของนางขึ้นมา “หากข้าต้องการ เจ้า กล้าหลบอย่างนั้นหรือ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ