บทที่ 437 เข้าวังกลางดึก
อันหลิงหยุนเขียนจดหมายขึ้นหนึ่งฉบับ ไ กงกงรับแล้ว จากไป
อันหลิงหยุนรู้สึกไร้เรี่ยวแรง
ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ได้แต่มองความเปลี่ยนแปลง อย่างสงบเท่านั้น
ครึ่งเดือนต่อมามู่มิงกลับมาถึงเมืองหลวง ที่กลับมา พร้อมกันยังมีเงินหยุนเจ๋ เรื่องนี้ทำให้คนคาดไม่ถึง อัน หลิงหยุนเมื่อทราบข่าวก็เหม่ออยู่ในห้อง
กงชิงวี่ตรวจสอบเรื่องราชนิกุลได้เบาะแสอะไรบาง อย่าง ไม่กี่วันมานี้ก็เคร่งอยู่กับเรื่องนี้
อันหลิงหยุนพอเห็นคนก็รีบลุกขึ้นจากเตียง ถามเรื่องคู่
มิงกลับเมืองหลวงทันที
“ข้าเองก็เพิ่งทราบข่าว ได้ยินว่ามู่มิงกลับมาพร้อมกับ เสินหยุนเจ๋”กงชิงวี่เองก็กำลังถามเรื่องนี้อยู่
“ท่านอ๋องคิดว่าเป็นสถานการณ์เช่นไร “ที่อันหลิงหยุนก ลัวก็คือบังคับให้มู่มิงแต่งเข้าจวนอ๋องเสียนของพวกเขา แต่ด้วยนิสัยของมู่มิงแล้ว คงไม่ยินยอมแต่โดยดีแน่
“เรื่องนี้ยังพูดยาก ลองดูไปก่อน ตอนนี้ได้เรียกกั๋วจิ้ วน้อยเข้าวังแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวอะไร
“ท่านอ๋อง ใช่จะบังคับให้มู่มิงมาที่จวนอ๋องเสียนของ พวกเราหรือไม่”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี ข้าจะได้ถ่วงเวลาไว้ได้หลายวัน หน่อย กลัวก็แต่ไทเฮาจะไม่ยืดเวลา ด้วยอายุอานามขอ งมู่มิง ไทเฮาคงร้อนใจแล้ว”
“..….…..เช่นนั้นเป็นอ๋องตวน”
“.….………. กงชิงไม่ตอบ ทั้งสองสามีภรรยานั่งลงรอข่าว
คราว
อาหยู่กลับมาจากข้างนอก กงชิงวี่เรียกเขาเข้ามา
“ท่านอ๋อง ได้เรื่องแล้ว จวนเฉินเสี้ยนกำลังเตรียมจัด งานแต่ง ส่วนคนที่จะแต่งเป็นเงินหยุนเจ๋ เป็นบัญชาของ ไทเฮาที่สั่งการเรื่องแต่งงาน ”
“แล้วฝ่ายหญิงล่ะ”อันหลิงหยุนรีบถามขึ้น
“เป็นน้องสาวของอ๋องชินจง จวิ้นจู่หลิงซิ่ว “อาหยุ่ตอบ อันหลิงหยุนนิ่งไม่ตอบสนองไปชั่วครู่ กงชิงวี่โบกมือ อาห ยู่ก็ถอยออกไป
อันหลิงหยุนไม่เข้าใจ “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้”
“จวิ้นจู่หลิงซิ่วเป็นลูกสาวคนเล็กของอ๋องห้า เป็นลูกสาว คนเล็กมารดาเดียวกันกับอ๋องชินจง นางมีนิสัยอ่อนโยน เชื่อฟัง ถือได้ว่าเป็นหญิงสาวที่ดีคนหนึ่ง”
“ท่านอ๋อง ราชนิกุลไม่ใช่..………..
“แต่ความสัมพันธ์ของฮองเฮา การจับคู่ครั้งนี้ก็ถือได้ว่า สมน้ำสมเนื้อ ”
อันหลิงหยุนเงียบขรึมลง
ทั้งเสินหยุนเจ๋และมู่มิงล้วนเป็นคนน่าสงสาร
งานแต่งจัดขึ้นอย่างรวดเร็ว สามวันก็คงจะเสร็จสิ้นพิธี
อันหลิงหยุนยืดพุงอุ้ยอ้ายไปยังจวนเฉินเสี้ยน เมื่อเห็น เสินหยุนเจ๋ เขากลับไม่ได้แสดงออกอะไร ราวกับว่าคนที่ ต้องแต่งงานไม่ใช่เขา
เจ้าสาวดูแล้วก็เป็นคนไม่เลว ได้ยินว่าจวิ้นจู่หลิงซิ่วนั้น เหมือนดอกไม้ และก็ไม่ยากที่คาดเดาได้ว่าจวิ้นจู่หลิงซึ่ วนั้นเป็นสาวงามคนหนึ่ง
เมื่อถึงเวลากินข้าวเสินหยุนเจ๋ก็ยกจอกเหล้าหนึ่งจอก ไปต่อหน้าอันหลิงหยุนและกงชิงวี่ เชิญกงชิงวี่ดื่มเหล้า
“ดื่มให้กับอ๋องเสียนหนึ่งจอก หวังว่าอ๋องเสียนจะดีต่อ นาง”การกระทำของเสินหยุนเจ๋ทำให้ผู้คนที่อยู่ ณ ที่นั้น อื้ออึงขึ้นมา กงชิงวี่ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มอย่างไม่ยี่หระ
เสินหยุนเจ๋ดื่มเสร็จก็มองไปทางอันหลิงหยุน “ใครว่า ขึ้นเขาลุยน้ำหลายตลบหนทางแสนลำบาก ล้วนเป็นแค่ ดอกไม้ที่สะท้อนในกระจกเป็นเงาจันทร์บนผืนน้ำหลอก ลวงทั้งเพ ล้วนว่างเปล่า สุดท้ายไม่ได้อะไร
เสินหยุนเจ๊เสียงไม่ดังมาก พูดจบก็หมุนตัวจากไป
อันหลิงหยุนมองเบื้องหลังของเสินหยุนเจ๋อย่างเหม่อ ลอย มองเสื้อผ้าสีแดงดุจเปลวไฟ ทำไมถึงได้รู้สึกเสียดสี เจ็บปวด
ที่จริงสำหรับเงินหยุนเจ๋นั้น ได้แต่งกับมู่มิงหรือหลิงซึ่ วก็ไม่สำคัญ คนที่เขาอยากแต่งด้วยสุดท้ายก็ไม่ใช่นาง
เมื่อกินข้าวเสร็งอันหลิงหยุนก็ตามกงชิงวี่กลับไป นาง อยากไปดูมู่มิงที่จวนก๊กอู๋ใหญ่ พอถึงหน้าประตู หน้า ประตูมีทหารคุ้มกันแน่นหนา เข้าไปไม่ได้
“ไม่รู้มู่มิงจะเป็นอย่างไรบ้าง”ครั้งนี้อันหลิงหยุนทำ อย่างไรก็คงไม่สามารถลบล้างได้
เมื่อเตรียมจะกลับ หยุนโล่ชวนและอ่องตวนก็มา เมื่อทั้ง สี่พบกันกงชิงวี่ก็ทักทายขึ้นก่อน
“พี่รอง”
“พวกเจ้าก็มาดูมู่มิงหรือ”อ๋องตวนแสดงสีหน้าจนปัญญา
“ท่านพี่ ได้ยินว่ามู่มิงถูกกักบริเวณ เพราะเรื่องที่นางไป ชายแดนโดยพลการ”หยุนโล่ชวนเดินไปตรงหน้าอันหลิง หยุน ท่าทีเดิมของนางที่ชอบหัวเราะด่าว่าก็พลันเก็บงำ ไว้หลายส่วน
อันหลิงหยุนเดินไปข้างหน้า หยุนโล่ชวนกอดแขนนาง เอาไว้ รู้สึกเศร้า “ที่จริงเป็นพวกเราที่คิดจะไปก่อน แต่เราต่างก็ไม่เป็นไร มีเพียงมู่มิ่ง
นางชอบเสินหยุนเจ๋ขนาดนั้น บัดนี้เสินหยุนเจ๋กลับแต่ งกับจวิ้นจู่หลิงซิ่ง น่าเสียงดายจริงๆ”
อันหลิงหยุนแปลกใจ “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ามู่มิงชอบเงิน หยุนเจ๋ นางพูดหรือ
หยุนโล่ชวนส่ายหัว “หรือท่านไม่รู้สึกแปลกใจ พวกเรา ต่างก็กลับมาแล้ว มีเพียงนางเท่านั้นที่อยู่ต่อ ตอนไปนาง ไม่มีเหตุผลที่จะไป ข้าสามารถคิดได้ว่าเป็นเพราะเสินหยุ นเจ๋คนเดียวเท่านั้น
เมื่อถึงค่ายทหาร ข้าเห็นนางเอาแต่จ้องมองเสินหยุนเจ๋ ข้าก็เดาออกแล้ว”
“เจ้าช่างรู้ดีจริงๆ”อันหลิงหยุนพูดประชดไปหนึ่งคำ นาง มองตัวเองยังไม่ชัดเจนขนาดนี้ กลับมองมู่มิงจนทะลุ ปรุโปร่ง
“ท่านพี่ ท่านไม่รู้สึกเศร้าสักนิดเลยหรือ”หยุนโล่ชวน แปลกใจ
อันหลิงหยุนส่ายหน้า “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วเศร้าใจก็ไม่มี ประโยชน์ ข้าเป็นห่วงมากกว่า มู่มิงถูกจับตาดู ต่อไปจะ เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“หา “หยุนโล่ชวนเบิกตากว้าง”ไม่ใช่กลัวนางไปทำลาย งานแต่งหรือ ”
“……”อันหลิงหยุนไม่มีอะไรจะพูด กลัวทำลายงานแต่ง ก็กลัว แต่ที่กลัวไปกว่านั้นคือกลัวหนี
เดินมาตลอดทาง อันหลิงหยุนรู้สึกเหนื่อยแล้ว กลับไป จึงไปพักผ่อนที่ลานโอวหลาน
ตกดึกข้างนอกฝนฟ้ากระหน่ำ อันหลิงหยุนนอนไม่หลับ
ได้ยินเสียงฟ้าผ่าอันหลิงหยุนก็ตื่นขึ้น นางเดินไปที่ หน้าต่างมองออกไปข้างนอก กงชิงวี่ลงจากเตียงเอาเสื้อ ไปคลุมให้นาง “เจ้าไม่นอนหลับพักผ่อนให้ดี ตื่นมาทำ อะไร”
“ดูสิ… ธรรมเนียมอะไรของพวกเรา บอกว่าวันแต่งงาน หากฝนตกฟ้าร้อง ภายหน้าสามีภรรยาจะไม่ดี”อันหลิงหยุ นตอบตามความจริง
กงชิงวี่หัวเราะ “งมงาย”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น
อันหลินหยุนหมุนตัวกำลังจะกลับไป นอกประตูมีคนรีบ ร้อนวิ่งเข้ามา
“ท่านอ๋อง ในวังส่งคนมา ให้ท่านกับพระชายาเข้าวัง เดี๋ยวนี้ หากสายจะถูกลงโทษ อาหย่ตะโกนอยู่หน้าประตู
อันหลิงหยุนแปลกใจ “เวลานี้แล้ว อากาศเช่นนี้ เรายัง ต้องเข้าวังอีก”
“รู้แล้ว”กงซึงวี่เอาเสื้อมาผลัดเปลี่ยน “ข้าไปเอง ฝน ตกหนักขนาดนี้เจ้าอยู่บ้านเถอะ เกรงว่าจะเกิดเรื่อง ระหว่างทาง”
“ท่านอ๋อง ข้าจะไปด้วย บางทีอาจเป็นเรื่องของมู่มิง หา กมู่มิงอยู่ ข้าจะขอโทษนาง”
“ขอโทษอะไร ขอโทษต่อหน้าเสด็จแม่ นางจะแค้นใจซะ เปล่า “กงชิงวี่เตรียมตัวจะออกไป อันหลิงหยุนเดินตาม
“เช่นนั้นก็ระวังตัวด้วย
“ได้”
กงชิงวี่ออกจะประตูก็ตรงไปยังวังหลวง ออกไปได้ไม่ นานไห่กงกงก็มาถึง
อาหยู่จำเป็นต้องรายงานอันหลิงหยุนว่าไห่กงกงมา
ถ่ายทอดคำสั่ง
เมื่อได้ยินอันหลิงหยุนก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ ลุกขึ้นมา เปลี่ยนชุดแล้วเปิดประตู รับบัญชาในห้อง
ไห่กงกงเปียกฝนทั้งตัว คำนับอันหลิงหยุนก่อน จึงพูด ขึ้นว่า “ไทเฮามีราชโองการ ให้พระชายาเสียนเข้าวัง เดี๋ยวนี้”
อันหลิงหยุนไม่อยากมากความ ทำได้เพียงตามเข้าวังไป
คนของวังหลวง รถม้าล้วนทำการป้องกันฝน ไม่เปียก ชื้นอะไร อันหลิงหยุนถึงวังหลวงอย่างปลอดภัย
ไห่กงกงพาไปยังพระตำหนักเฉาเฟิง รอหวางเฮาไทเฮา เรียกแล้วจึงเข้าไป
ขณะนี้ในพระตำหนักเฉาเพิ่งมีคนห้าคนรออยู่ก่อนแล้ว ฮ่องเต้ชิงหยู่ ฮองเฮา อ่องตวน อ๋องเสียน พระชายาตวน
อันหลิงหยุนยืนอึ้งอยู่ที่ประตูสักพัก เดินไปย่อคำนับ
“หม่อมฉันคำนับเสด็จแม่ ฮ่องเต้ ฮองเฮาเพคะ”
“ช่างเถอะ มากันครบหรือยัง”หวางฮองไทเฮาสวมชุด นอนตัวหลวม นั่งบนบัลลังค์ จัดระเบียบสักพักจึงเปิดปาก เอ่ยขึ้น
“ข้าเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ช่วงนี้เป็นห่วงเรื่องงานแต่งของมู่ มิง มู่มิงเป็นเรื่องที่อยู่ในใจข้าเสมอ
เมื่อครู่ข้าฝันว่า มู่มิงเพราะเรื่องแต่งงานนางร้องห่ม ร้องไห้ทะเลาะกับข้าใหญ่โต ข้าปวดใจจนตื่นมา
คิดถึงมู่มิงนางเองก็อายุไม่น้อยแล้ว คิดว่าคงถึงเวลา ต้องหาบ้านสามีให้นางแล้ว
แต่จะมอบมู่มิงให้กับคนอื่นข้าก็ไม่อาจวางใจได้ มีเพียง พวกเจ้าสามคนเท่านั้น ข้าจึงจะวางใจได้
ฮองเฮาเอ๋ย….หากแต่งตั้งให้มู่มิงเป็นหวงกุ้ยเฟย เจ้า เห็นว่าอย่างไร”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ