ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 426 โยนประเด็นมาให้นางตรงเป้าจริงๆ



บทที่ 426 โยนประเด็นมาให้นางตรงเป้าจริงๆ

“ทหารตระกูลจุนมีจำนวนนับแสนคน หากจุนเจิ้นตงถูก กำจัดไป แน่นอนว่าคงต้องมีเรื่องซุบซิบนินทา จุนฉูฉูเพิ่ง ตายไป แล้วพ่อของนางตายตามไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ เห็นชัดอยู่แล้วว่าเป็นการก่อกบฏ หากจุนเจิ้นตงตายไป เกรงว่าคงมีเรื่องเกิดขึ้นกับเซียวกุ้ยเฟยแน่ ฮ่องเต้ย่อมมื ความคิดของฮ่องเต้อยู่แล้ว”

อันหลิงหยุนไม่เข้าใจ “ท่านพ่อ ท่านมีความสามารถ เก่งกาจ ทำไมเมื่ออยู่เบื้องพระพักตร์ฮ่องเต้พ่อมักจะ แสดงความซื่อตรง

“เดิมทีพ่อก็เป็นคนซื่อตรงอยู่แล้ว พ่อรู้เรื่องการออก รบต่อสู้ การออกรบบ่อยๆก่อเกิดเป็นความชำนาญ ทว่า เจ้าจะพูดเรื่องราชสำนักหรือเรื่องภายในราชวัง พ่อไม่มี ความรู้เรื่องพวกนี้เลย พ่อก็แค่คนหยาบกระด้างคนหนึ่ง”

แม่ทัพอันดึงผ้ามาห่มเร่งให้อันหลิงหยุนเข้านอนเร็วๆ อันหลิงหยุนมองแม่ทัพอัน “ท่านพ่อ บางทีข้าก็เชื่อจริงๆ ว่าท่านเป็นแม่ทัพอันที่ซื่อตรงคนหนึ่ง”

” แม่ทัพอันนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง อันหลิงหยุนกลับพูดว่า “แต่ว่าท่านพ่อเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมที่สุด”

“งั้นเจ้ายังไม่นอนอีก?” แม่ทัพอันเร่งอันหลิงหยุนให้รีบ นอน

ผ่านไปครู่หนึ่ง แม่ทัพอันสั่งการ “ทหาร เพิ่มกำลังคน คุ้มครองกระโจมค่าย ก่อนเที่ยงวัน หากไม่มีคำสั่งจากข้า ห้ามมีใครเข้าออก หากมีคนเดินเพ่นพ่าน จะต้อง โทษทัณฑ์ทหาร”

ภายในค่ายทหารปรับเปลี่ยนกำลังอย่างรวดเร็ว ผ่าน ไปเพียงครึ่งชั่วยาม ทั้งค่ายทหารไม่มีผู้ใดออกมาเดิน เพ่นพ่านเลย แม่ทัพอันออกไปดูความเรียบร้อยด้านนอก ประตูกระโจม เมื่อเดินกลับเข้ามา พลันนั่งลงเฝ้าดูอันหลิง หยุนไว้

จุนเซียวเซียวเห็นผู้บิดาของตนอยู่ในห้องน้ำ รู้สึกเห็นใจ พลันปล่อยโฮร้องไห้

จุนเจิ้นตงไม่ได้โปรดปรานบลูกสาวอย่างจุนเซียวเซียว จุนฉูฉูเป็นลูกสาวคนโตของเขาและเขาโปรดปรานแต่ ลูกสาวคนโต กลับคิดไม่ถึงว่าลูกสาวคนรองจะยอม เดินทางไกลเป็นพันล้ำเพื่อมาเยี่ยมดูเขา ลูกสาวที่เป็นถึง กุ้ยเฟยต้องอาศัยอยู่ในพระราชวัง แต่กลับยอมเสี่ยงภัย เพื่อมาพบเขา ในใจลึกๆย่อมรู้สึกซาบซึ้งใจอยู่บ้าง

ทั้งพ่อลูกร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง จุนเซียวเซียวคุกเข่าอยู่ที่ พื้น พร้อมจับมือของจุนเจิ้นตงไว้ ถามทั้งที่น้ำตาไหลริน “ท่านพ่อ หิวหรือไม่ พวกเขาให้ท่านทานข้าวหรือเปล่า แล้วให้ท่านหลับพักผ่อนไหม?”

เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ จุนเจิ้นตงน้ำตาไหลพราก ถึงแม้ เขาจะเป็นถึงแม่ทัพ ทว่ากลับมีไม่กี่คนที่เป็นห่วงเป็นใย เขา

ลูกสาวมาถึงที่นี่ ถามคำถามกินใจ เขาจะไม่ซาบซึ้งได้ อย่างไร
จุนเจ้าคงเป็นมหารมาสิบกว่าปี ตั้งแต่เล็กก็ติดตาม ฮ่องเต้องค์ก่อน ยศแม่ทัพก็ถูกแต่งตั้งโดยช่องเต้องค์ก่อน เขาเก่งกาจเรื่องการสู้รบ ไม่เคยหลั่งน้ำตาสักครั้ง

จุนเซียวเซียวรีบเช็ดน้ำตาให้แห้ง “แม่ทัพน้อยเงิน รบกวนท่านช่วยแจ้งให้แม่ทัพอันทราบหน่อยว่า พ่อข้า ยอมกลับใจแล้ว หวังแค่ว่าให้พ่อข้าออกมาก่อน ให้เขา อาบน้ำอาบท่าและกินข้าวก่อน เขาอายุมากแล้ว ข้างล่าง นี้อากาศชื้นเกินไปจะทำให้เขาป่วยได้”

เสินหยุนเจ๋พูดอย่างเรียบเฉย “เรื่องนี้ข้าไม่สามารถนำ เรียนได้ กุ้ยเฟยไปพูดเองเถอะ”

“ไม่ต้องไปร้องขอพวกมัน” จุนเจิ้นตงโกรธที่ได้ยิน ลูกสาวถูกปฏิเสธ

“ท่านพ่อ ท่านอย่าทำเช่นนี้เลย ข้าขอล่ะ” จุนเซียวเซียว ร้องห่มร้องไห้อย่างหนัก จากนั้นก็เป็นลมหมดสติไป

เมื่อเห็นลูกสาวเป็นลมไป จุนเจิ้นตงตะโกนเสียงดัง “รีบ ช่วยลูกสาวข้าเร็วเข้า

เสินหยุนเจ๋ไม่นิ่งรอช้า รีบอุ้มคนขึ้นมาแล้วจากไป

อันหลิงหยุนถูกเสียงรบกวนให้ตื่น จุนเซียวเซียวถูกนำ ตัวเข้ามาภายในกระโจม อันหลิงหยุนลุกขึ้นมาดูอาการ ของนาง พอตรวจดูแล้วอันหลิงหยุนนิ่งอึ้งไปเลย

“เซียวกุ้ยเฟยมีพระครรภ์?”
แม่ทัพอันก็ตกตะลึงเช่นกัน “เป็นเรื่องจริงรึ?”

อันหลิงหยุนพยักหน้า “หนึ่งเดือนกว่าแล้ว”

แม่ทัพอันสบตา “ฮ่องเต้จะต้องดีพระทัยอีกแล้วหรือ?”

แม่ทัพอันยิ้มแย้มชื่นบาน เหมือนว่าเขามีลูกเสียเอง

อันหลิงหยุนมองดู แล้วยิ้มขึ้นมา “ท่านพ่อ คนที่ไม่รู้อาจ คิดว่าท่านกำลังจะมีลูกเสียอีกนะ?”

“เหลวไหล”

แม่ทัพมองดูลูกสาวอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วมองมาทาง เซียวกุ้ยเฟย กลับลูกสึกว่าเด็กคนนี้มาได้ทันเวลา

เมื่อจุนเซียวเซียวตื่นมา อันหลิงหยุนสั่งให้คนเตรียมถัง อาบน้ำ แม้นว่าจะดูเรียบง่ายไปบ้าง ทว่ามีนางเฝ้าดูอยู่ไม่

ต้องกลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไร

จุนเซียวเซียวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แม่ทัพอันสั่ง ให้เงินหยุนเจ๋ปล่อยตัวจุนเจิ้นตงออกมา แล้วนำตัวไป อาบน้ำเปลี่ยนชุดแม่ทัพ จากนั้นค่อยนำมาที่กระโจมค่าย ทหาร

พอพบหน้ากันจุนเซียวเซียวปล่อยโฮร้องไห้ทันที อัน หลิงหยุนพูดห้ามปราม “พระนางกุ้ยเฟย โปรดระวังพระ วรกายด้วย เพราะตอนนี้ทรงตั้งครรภ์ลูกของฮ่องเต้อยู่ เพคะ หากเกิดเหตุสุดวิสัยอันใด เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดรับผิด ชอบไหว ”
จุนเชียวเซียวรีบเช็ดน้ำตาให้แห้ง แล้วเดินไปพยุงตัว จุนเจิ้นตงขึ้นมา จุนเจิ้นตงยังไม่สิ้นความเจ้าเล่ห์ ภาพ เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้เขาคิดสงสัยอยู่บ้าง

“ลูกพ่อ เจ้ากำลังตั้งครรภ์หรือ?”จุนเจิ้นตงในเวลานี้ยัง คงเคร่งขรึม

จูนเซียวเซียว กวาดสายตามองรอบๆตัว เสินหยุนเจ๋ ยอมถอยห่างออกไปเอง ภายในกระโจมเหลือเพียงสอง พ่อลูกอันหลิงหยุน และสองพ่อลูกจุนเซียวเซียวรวม ทั้งหมดสี่คน

จุนเซียวเซียวจูงมือจุนเจิ้นตงนั่งลง “ท่านพ่อ ตอนที่เดิน ทางมาข้าไม่ได้ทราบเรื่องนี้ และข้ายังขี่ม้ามาด้วย”

“หา?” จุนเจิ้นตงตกใจมาก “เจ้าช่างไม่ระวังตัวเสียเลย หากเกิดเหตุอันใดขึ้นเจ้าจะทำอย่างไร?

“ท่านพ่อ ตอนที่มาข้าไม่รู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ลูกของ ฮ่องเต้อยู่ พอได้ยินว่าท่านพ่อเกิดเรื่อง ข้าก็รีบมาที่นี่เลย และยังไม่รู้ว่ากลับไปจะอธิบายอย่างไร”

จุนเซียวเซียวพูดโกหกไป สีหน้าของจุนเจิ้นตงยิ่งดูแย่

ลง

“นางสนม แอบหนีออกจากวังมีโทษถึงตาย อีกทั้งเจ้ายัง หนีมาที่นี่ หากฮ่องเต้..….….…. สีหน้าจุนเจิ้นตงขาวซีด “พวก เจ้าเป็นสามีภรรยากัน การที่เจ้าออกมาเขาจะไม่รู้ได้ อย่างไร?”
จุนเชียวเซียวพยักหน้าตอบรับ “เกรงว่าคงรู้แล้วล่ะ ทว่า ข้าทิ้งจดหมายไว้ให้ฮ่องเต้ฉบับหนึ่ง บอกเขาว่าข้าจะมา โน้มน้าวพ่อให้ได้

“เจ้าพูดจาเหลวไหลสิ้นดี เขาจะเชื่อได้อย่างไรว่าเจ้า มาเพื่อโน้มน้าวใจพ่อ เขาเป็นถึงฮ่องเต้ จิตใจย่อมต้อง คำนึงถึงประเทศชาติก่อน เกรงว่าเขาคงคิดไปแล้วว่าเจ้า ขี้ขลาดกลัวตายจนต้องวิ่งหนีมาหาพ่อ และร่วมมือกันก่อ กบฏ”

เมื่อพ่นคำพูดนี้ออกไป จุนเจิ้นตงนิ่งอึ้งไป อันหลิงหยุ นกวาดตามองจุนเซียวเซียว ดูท่าแล้วนางได้วางแผนไว้ ล่วงหน้าแล้ว การที่หญิงสาวในวังหลวงตั้งครรภ์นับเป็น เรื่องใหญ่โต หากนางไม่มีความมั่นใจมากพอ จะมาที่นี่ได้ อย่างไรเล่า?

การตั้งครรภ์ครั้งนี้เป็นอาวุธ และเป็นโล่กำบังที่ดีที่สุด อีกด้วย

ต่อให้ฮ่องเต้จะทรงพระพิโรธมากเพียงใด สุดท้ายก็ต้อง เห็นแก่ลูก ยอมผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตาม เจตนารมณ์เดิมฮ่องเต้ไม่ได้คิดจะกระทำการอันใดต่อ ตระกูลจุนเลย

ความเจ้าเล่ห์ของจุนเซียวเซียวอยู่เหนือกว่าจุนฉูฉู น่า เสียดายที่จุนฉูฉูแม้กระทั่งตัวตายก็ยังไม่รู้ว่าน้องสาว คนนี้มีความสามารถมากแค่ไหน นางกลับยังหยิ่งผยอง โอ้อวดแต่ตนเอง

จุนเซียวเซียวส่ายหน้า “ท่านพ่อ หากท่านเป็นอะไรไปข้าก็ไม่ขอมีชีวิตต่อไป ตอนนี้คนที่ข้าสามารถฝากความ หวังไว้ได้ก็คือท่านพ่อ หากท่านพ่อจากไป ข้ากลับไป ตระกูลจุนก็ไม่มีใครรัก สมเด็จย่าเดิมทีก็ไม่ชื่นชอบข้าอยู่ แล้ว สมเด็จย่าตายไปข้ายิ่งไม่ได้รับการยอมรับจากที่ บ้าน ส่วนท่านแม่ท่านก็ทราบดี ไม่เคยคิดเข้าข้างข้าเลย คนภายในบ้าน ทุกคนล้วนชื่นชอบแต่พี่สาว มีเพียงท่าน พ่อเท่านั้นที่เมตตาข้าเป็นครั้งครา หากต้องสูญเสียพ่อไป ข้าไม่มีเหตุผลใดที่จะมีชีวิตต่อ สงสารก็แต่ลูกในท้องคน นี้ ฮ่องเต้………….

พอจุนเซียวเซียวร้องไห้ จุนเจิ้นตงเจ็บจี๊ดที่หัวใจ เขาไม่ เคยสนใจลูกสาวคนนี้จริงๆ พอคลอดออกมาเห็นว่าเป็นผู้ หญิงก็ส่งตัวกลับไปให้มารดาของนาง ผู้เป็นมารดาก็ไม่ ชื่นชอบ จึงส่งต่อให้เรือนฮูหยินรองเป็นคนดูแลแทน ตัวฮูหยินรองไม่ได้เป็นคนจิตใจเมตตา ไฉนจะทำดีต่อ ลูกสาวหรือ? ซึ่ง

“เจ้าอย่าเพิ่งร้องไห้ พ่อคิดหาวิธีก่อน”จุนเจิ้นตงเหลือบ มองหน้าท้องของลูกสาว อย่างไรก็ตามก็ถือเป็นหลาน แท้ๆของเขา จนถึงตอนนี้เขายังไม่มีหลานให้อุ้มเลย

“เจ้าว่ามาสิ เจ้าท้องลูกของฮ่องเต้จริงๆรึ?” จุนเจิ้นตง ต้องการยืนยันเรื่องนี้ ขอเพียงมีลูกจริง ก็ถือว่าเป็นหลัก ประกันที่ดี ตอนนี้กลับใจยังทัน เดิมทีเขาเองก็ไม่ได้คิด จะก่อกบฏ เพียงเพราะว่าการตายของลูกสาวและมารดา ทำให้จิตใจเขาด้านชาไป

“ข้าเองก็ไม่มั่นใจ พระชายาเสียนเป็นคนบอกกับข้าเอง”
จุนเซียวเซียวมองไปทางอันหลังหยุน นางโยนประเด็น ตรงเป่าจริงๆ อันหลังหยุน ก าจับใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ