ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 407 ความแตกต่างที่มากมาย



บทที่ 407 ความแตกต่างที่มากมาย

ราชครูจุนเข้าประตูมา ฮูหยินรองลุกขึ้นเตรียมจะ กลับ จากนั้นหันไปคารวะราชครูจุน “ข้าน้อยคารวะท่าน ราชครู”

ราชครูจุนมองไปที่ฮูหยินรองเล็กน้อย และเดินไปนั่ง

“เจ้านั่งลงเถิด ดูว่าสิ่งที่เจ้าคลอดออกมานั้นเป็น อย่างไร”

“เจ้าค่ะ”

ฮูหยินรองได้เดินไปนั่ง ใช้มือคลึงไปที่ลูกประคำแต่ละ ลูก แววตาฉายแววเย็นยะเยือก สุดท้ายแล้วก็ไม่มีคลื่น ลูกใหญ่อันใด

ราชครูจุนมองคนที่อยู่บนพื้นกล่าว“วันนี้ข้าได้ตัดสิน ประหารชีวิตไปแล้ว หากว่าพวกเจ้ายังวิ่งวุ่นก่อความ วุ่นวาย พวกเจ้าไม่เห็นโลงศพไม่หลังน้ำตากันหรอกหรือ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไปเป็นชาวบ้านอยู่หมู่บ้านที่รกร้างแถบ มืองทางภาคใต้เสีย พรุ่งนี้ก็แต่งออกไปเถิด”

“ได้อย่างไร? ”

ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานได้ถูกทำให้ตกใจ จะเป็น เช่นนั้นได้อย่างไร?

นี่มิใช่ว่าต้องการเอาชีวิตหรอกหรือ?
ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานไม่สนหน้าตาคลานไปที่พื้น ดึง ไปขากางเกงของราชครูจุน ราชครูจุนได้ยกขาออก และถีบฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานกลิ้งออกไป

จุนเจิ้นหนานรีบไปพยุงภรรยา เงยหน้ามองไปที่ราชครู

จุน “ท่านพ่อ ตามที่ท่านกล่าวมาเมื่อครู่ หาผู้ใดมาแต่ง

ก็ได้ เอาเป็นว่าพวกเรายอมรับแล้ว ” เขามองตาของท่านแม่ จุนเจิ้นหนานก็พลันเข้าใจขึ้นมา

แรกเริ่มเดิมทีตระกูลจุนของพวกเขามิสามารถตัดสินใจ ได้ด้วยตนเอง ทั้งหมดถูกยึดกุมไว้ในมือของท่านพ่อ

หากไม่ยอมรับชะตากรรมชีวิตรังแต่จะย่ำแย่ลง

ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานไม่ยินยอม อยากจะกล่าว อะไร ทว่าถูกจุนเจิ้นหนานดุด่าว่ากล่าว “เจ้ามิต้องกล่าว อันใดแล้ว เจ้าไม่ต้องการชีวิตแล้วใช่หรือไม่? ”

ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานช่างโง่งมนัก ราชครูจุนมอง ไปรอบหนึ่ง เดิมทีคิดจะไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้ง ราชครูจุนกล่าว “ในเมื่อหญิงผู้นี้ไม่ยินยอมที่จะอยู่ในจวน ต่อไป เช่นนั้นก็หย่าเสียเถิด”

“หา? ”

คู่สามีภรรยาจุนเจิ้นหนานล้วนแต่โง่เขลาเบาปัญญา ไม่เข้าใจว่าเหตุใดราชครูจุนจึงได้ไร้ความปราณีเช่นนี้

“ท่านกล่าวอันใด ? “ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานั้นคลุ้มคลั่ง คล้ายกับจะกระโดดขึ้นมา

บ้านนางไม่ใช่ไม่มีผู้ใด แต่อย่างไรก็มิอาจสู้ขุนนางใหญ่ อย่างราชครูจุนได้ ทว่าหย่าภรรยาเรื่องนี้กล่าวว่าจะให้ หย่าก็จะทำเลยอย่างนั้นหรือ?

ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานเตรียมที่จะอาละวาดต่อ ไป ราชครูจุนก็ได้ออกคำสั่ง “ใครก็ได้ลากนางออกไปส่ง ที่บ้านของนาง ไม่ว่าผู้ใด อย่างไรพรุ่งนี้จุนซือซือก็ต้อง ออกเรือน ตระกูลจุนไม่อาจเก็บบุคคลที่มีนิสัยชั่วร้ายนี้ไว้ ได้”

คนที่เข้ามาได้นำฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานที่กำลัง ร้องไห้โวยวายออกไป จุนเจิ้นหนานกำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้น โดยที่เหงื่อออกไปทั่วศีรษะ เขาช่างเขลานัก ที่ไม่ทราบ ว่าบุคคลที่นิสัยชั่วร้ายนี้เป็นผู้ใด?

บุตรสาวเขา?

ทว่าบุตรสาวเขาเป็นเด็กสาวที่น่ารักมิใช่หรือ?

ราชครูจุนนั่งลง มองบุตรชายที่ไร้ประโยชน์พลางกล่าว “ครอบครัวเจ้าไม่มีผู้อื่นแล้ว? ”

“คือว่า…”

จุนเจิ้นหนานไม่กล้ากล่าวอันใด กลับเป็นฮูหยินรองที่ กล่าวขึ้น “เดิมทีมีฮูหยินใหญ่อยู่ผู้หนึ่ง นิสัยของนางนั้น ช่างอ่อนโยน นอกจากนั้นจัดการเรื่องในบ้านได้ไม่เลว”
ราชครูจุนมองฮูหยินรอง ก็พลันเข้าใจว่านางกล่าวถึงผู้ ใด

“เช่นนั้นก็เลือกนางเถิด ให้เป็นภรรยาหลวงของเจ้า คืนนี้เรียกนางไปให้ไปหาซือซือที่เรือนแม่เจ้า พรุ่งนี้เช้า จักต้องให้นางออกเรือนให้จงได้ หากเจ้ามาช้าก็เตรียม โลงไว้รอได้เลย”

“…จุนเจิ้นหนานที่เหงื่อท่วมหัว จำใจรับปากออกไป

หลังออกมาจากประตูจุนเจิ้นหนานแทบล้มทั้งยืน เกิด อะไรขึ้นกันแน่?

จุนซือซือไหนเลยจะยอม แต่ทว่านางยังมิทันได้ต่อสู้ ดิ้นรน ก็ถูกคนมัดนางเอาไว้แล้ว ไม่ว่านางจะคลุ้มคลั่ง หรือกรีดร้องไปก็ไร้ประโยชน์

แม่นมที่สามสี่คนที่มาก็ถูกทุบตี ตีจนกลิ้งไปบนพื้น

ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใน คืนนั้นได้รับฟัง ในที่สุดก็หาครอบครัวที่เหมาะสมได้แล้ว ฟังว่าพวกเขาใช้ได้ทีเดียว

ตระกูลนี้เป็นญาติห่างของราชวงศ์ นั่นก็คือชินจง แต่ว่า เป็นญาติที่ค่อนข้างห่างไกลเสียหน่อย ดังนั้นนอกจากยศ ถาบรรดาศักดิ์แล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว

จุนเจิ้นหนานก็จนปัญญา และได้เลี่ยงออกไป

หากว่าฝั่งตรงข้ามเห็นด้วย การแต่งงานครั้งนี้ก็สำเร็จ
เช้าวันต่อมา อันหลิงหยุนที่เพิ่งออกจากประตูก็เห็น ว่าที่ถนนนั้นครึกครื้น มองไปไม่ไกลนั้นมีขบวนส่งเกี้ยว ไปรับเจ้าสาว

อันหลิงหยุนแปลกใจ ถามอาหมู่ “คล้ายว่าจะเป็นขบวน ที่มาจากจวนราชครูจุน ภายในจวนราชครูจุนมีผู้ใดแต่ง ภรรยา? ”

“ไม่ทราบขอรับ เช่นนั้นข้าจักไปดูเสียหน่อย”อาหยู่รีบ ไปสืบถาม กลับมาบอกกล่าวอันหลิงหยุนเรื่องที่จุนซือซือ แต่งงาน

อันหลิงหยุนไต่ถาม“จุนซือซือไม่กี่วันก่อนที่มาสู่ขอผู้ นั้นหรือ? ”

“ขอรับ”

“เช่นนั้นก็เป็นการสุกเอาเผากินแล้ว เกิดเรื่องอันใด

ขึ้น?

อาหยู่ไหนเลยจะทราบ ดังนั้นก็ไม่ได้ตอบนางกลับ

อันหลิงหยุนตามไปดู จากการสอบถามได้ทราบว่า ผู้ที่ จุนซือซือแต่งงานด้วยอายุสามสิบห้าแล้ว ภรรยาที่แต่ง มาสองคนก็ได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว เล่ากันว่าถูกทุบตีจน ตาย

ตระกูลนี้มียศถาบรรดาศักดิ์เป็นอ๋องหุ้น มีเงินทอง ค่อนข้างมาก เนื่องจากสามารถเก็บค่าเช่า และสามารถ สร้างกำไรได้
แต่จุนซือซืออายุเพียงแค่สิบสี่ อันหลิงหยุนมองไปยัง ขบวนเกี๊ยวรับเจ้าสาวที่ครื้นเครงแล้ว ก็ให้งุนงงไปพัก หนึ่ง

สุดท้ายแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

กลับไปที่จวนอ๋องเสียนอันหลิงหยุนก็ได้เล่าเรื่องของ จุนซือซือให้แก่กงชิงฟัง วันนี้กงชิงยุ่งอยู่กับกิจของ ราชสำนัก และงานภายนอกที่เร่งรีบ ตอนที่เขาอยู่บ้าน พวกเขาส่วนใหญ่กำลังรับมือกับความเร่งรีบเหล่านี้

อันหลิงหยุนก็ไม่ได้ไปรบเร้าเขา แต่ไปหาเขาตอนกิน อาหารเท่านั้น

กงชิง วางอาหารการกินไว้ตรงหน้า เขาก้มหน้าลง ทำงานที่ยุ่ง และเขามักจะทบทวนอย่างเร่งรีบ

อันหลิงหยุนไม่กล่าวอะไรก็เป็นเขาที่เป็นฝ่ายถาม

อันหลิงหยุนจึงได้กล่าวถึงเรื่องที่ผ่านมา ว่าจุนซือซือได้ แต่งงานออกไปอย่างสุกเอาเผากิน กงชิงวี่กล่าวเพียงว่า “ดูเหมือนว่าบุตรสาวของตระกูลจุนจะประสบความสำเร็จ เพียงไม่กี่คน แต่กลับสร้างปัญหาไว้อย่างมากมาย

“ท่านอ๋องรู้จักนางหรือ? “อันหลิงหยุนแต่ไหนแต่ไรไม่ เคยได้ยินเขากล่าวถึงมาก่อน

“นางและกุ้ยเฟยมีอายุที่เท่ากัน ตามหลักแล้วหยุนหยุ นกับนางก็คุ้นเคยกัน นางกับหยุนหยุนไปมาหาสู่กันมา ก่อน”
“เรื่องนานมาแล้วข้าจำไม่ได้”อันหลิงหยุนนึกถึงร่างเดิม ที่โง่เขลาเบาปัญญา ก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย

ตระกูลจุนนั้นฉลาด จึงได้ยอมเล่นกับร่างเดิมนาง นอกจากใช้ประโยชน์ยังจะมีอันใดอีก?

อย่าหาคำตอบเลย ในเมื่อแต่งงานออกไปแล้ว

ก็มิต้องสนอันใดแล้ว

อันหลิงหยุนกล่าวถาม “งานแต่งของเว่ยหลิงชวน ท่าน อ๋องเตรียมอะไรไว้เป็นของขวัญหรือ? ”

“ช่วงนี้ข้าค่อนข้างยุ่ง หยุนหยุนช่วยเป็นธุระให้ข้าที

อันหลิงหยุนลุกขึ้นและไม่ได้รบกวนเขาต่อ จากนั้นก็ไป ตระเตรียมของขวัญ

พริบตาเดียวก็ถึงวันแต่งงานของเว่ยหลิงชวน อ้นหลิง หยุนและกงชิงวี่ได้ออกจากจวนแต่เช้าตรู่ ดูผู้คนที่สนุก ครึกครื้น จึงได้เดินทางไปยังต้าจงเจิ้งย่วน

องค์หญิงใหญ่และตระกูลหยุนได้เป็นญาติกัน เป็น เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พาลให้คนรอบข้าง อิจฉาเป็นอย่างมาก

อันหลิงหยุนนำของขวัญไปวางไว้ และคอยเจ้าสาว

บัดนี้โรคซึมเศร้าขององค์หญิงใหญ่นั้นได้บรรเทาไป มากแล้ว ยาแผนปัจจุบันก็ถูกเปลี่ยนออก ทุกวันนี้ต้องดื่มเพียงแค่ยาจีนรสขมที่จัดไว้ให้เท่านั้น

คนเราพอได้ประสบพบเรื่องมงคลก็พลันทำให้ร่างกาย ดูกระปรี้กระเปร่า และยังทำให้ความคลางแคลงใจของ อ๋องทั้งเจ็ดนั้นเจือจางลงไปอีกด้วย

หลังจากดื่มไปสามจอกอันหลิงหยุนจึงได้ส่งองค์หญิง ใหญ่ไปพักผ่อน อันหลิงหยุนห่มผ้าให้นางอย่างเรียบร้อย นั่งลงตกอยู่ในภวังค์

กงชิงวีได้หลับไปแล้ว

อันหลิงหยุนเดินเอาเสื้อไปพาดบนไหล่เขา และตนเองก็ ไปนั่งอยู่ด้านข้าง

ไม่รู้ว่าเขาเหน็ดเหนื่อยมากเพียงใด คาดไม่ถึงว่าเพียง แค่ดื่มเหล้าก็หลับไปแล้ว

สามวันต่อมาเว่ยหลิงชวนได้พาคุณหนูสี่ตระกูลหยุนก ลับไปที่จวน ตระกูลหยุนได้เชิญอันหลิงหยุนและกงชิงวิ่ มาร่วมรับประทานอาหารที่จวนอีกด้วย ทั้งยังได้เชิญอ๋อง ตวนและพระชายาอ๋องตวนอีกด้วย

หยุนโล่ชวนได้ข่าวว่าอันหลิงหยุนทำตามเงื่อนไขนาง ก็ได้รีบออกมารอต้อนรับอันหลิงหยุน

อ๋องตวนมิค่อยไว้วางใจนัก ทุกวันนี้เอาแต่มองหยุนโล่ ชวน และได้อยู่กับนาง

อันหลิงหยุนลงมาจากรถม้า ก็เห็นหยุนโล่ชวนยืนอยู่ที่หน้าประตู ทั้งสองพบกันก็ต่างดีอกดีใจ หยุนโล่ชวนนั้น ทำตัวราวกับนกนางแอ่นที่พร้อมบินออกไปหาอันหลิงหยุ ไม่ต้องกล่าวมากความ ก็ได้นำหมาจิ้งจอกหางสั้นขึ้น น มาอุ้มไว้ก่อน

“เชิญพี่สาว”

หยุนโล่ชวนย่อกายคารวะ และอุ้มหมาจิ้งจอกหางสั้น ออกไป

อันหลิงหยุนมองไปที่หยุนโล่ชวน นางมารับตนเองหรือ มารับหมาจิ้งจอกหางสั้นกันแน่?

แขกเหรื่อที่มานั้นไม่มาก มีเพียงพี่น้องตระกูลหยุนที่ มาก เวลานี้เว่ยหลิงชวนนั้นได้ตกอยู่สถานการณ์อึดอัด

กล่าวทางนี้ที ตอบโต้ทางนูนที เขาเป็นแค่บัณฑิตหนุ่มผู้

อ่อนแอ ไหนเลยจะรับมือได้

ขอแค่ไม่ทำร้ายจิตใจคุณหนูสี่ตระกูลหยุน และคอย ปกป้องนาง เพียงเท่านี้เว่ยหลิงชวนก็ไม่ต้องเหนื่อยเพิ่ม ขึ้นแล้ว

ในทางตรงข้าม อ๋องตวนก็รู้สึกว่าตนนั้นได้ถูกทอดทิ้ง

ทั้งสองเป็นลูกเขยของตระกูลหยุนเช่นกัน เหตุใดถึง ทำท่าทีที่แตกต่างกันเช่นนี้?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ