บทที่ 404 กระต่ายที่กลัวภรรยา
อันหลิงหยุนที่ถูกปลุกให้ตื่นนั้น ยังไม่หายอกสั่นขวัญ แขวน ที่หน้าประตูมีหงเถาที่ยืนร้องไห้อย่างหนัก อัน หลิงหยุนก็ไม่รอช้าลงจากเตียงเดินไปที่หน้าประตู ส่วน กงชิงวี่ก็ได้รีบถือเสื้อคลุมตามนางมา และสวมใส่ให้แก่ นาง
“ระวังอากาศเย็น ช้าลงหน่อย”
กงชิงวี่กวาดสายตามองไปรอบๆภายในลาน
หงเถาร่ำไห้กล่าว “พระชายา แม่นางหยุนจิ่นสิ้นใจแล้ว เพคะ”
“ข้าจักไปเดี๋ยวนี้ พวกเจ้ารีบไปเถิด”อันหลิงหยุนเดินไม่ ช้าไม่เร็ว เพราะท้องของนางใหญ่มากแล้ว หลายวันมานี้ จึงราวกับถูกลมพัด กงชิงวี่โค้งตัวลงไปอุ้มนางขึ้นมา มุ่ง หน้าไปยังตำหนักจู๋หยุน
ภายในพบมู่มิงที่กำลังจับข้อมือของหยุนจิ่นไว้แน่น ใบหน้าที่กระวนกระวายนั้นขาวซีดไปหมด
บัดนี้กงชิงวี่ก็ไม่สามารถตระหนักได้ว่าเหตุใดมู่มิงถึง ได้เข้ามาในจวนอ๋องเสียนยามวิกาล พอเข้าประตูมาก็ได้ ปล่อยตัวอันหลิงหยุนให้ไปดูหยุนจิ่น
หยุนจิ่นสวมใส่อาภรณ์สีแดงล้วน และผ้าคลุมไหล่สี แดงสดที่ใช้ในพิธีแต่งงาน
ใบหน้าที่ตกแต่งอย่างบางเบา สองมือวางไว้ที่ด้านหน้า ส่วนคนนั้นก็คล้ายกับกำลังหลับใหล
มู่มิงร่ำไห้กล่าวอย่างฉุนเฉียว “เร็วเข้า เจ้ามองอันใดอยู่ ข้าไม่ให้นางดู”
อันหลิงหยุนรีบร้อนเข้าไปดูนาง ถูกวางยาพิษ
อันหลิงหยุนก็ได้นำยาแก้พิษมาหนึ่งเม็ดและยัดเข้าไป ในปากนาง
ทันใดนั้นจังหวะการหายใจของหยุนจิ่นก็ค่อยๆกลับคืน สู่สภาวะปกติ
อันหลิงหยุนลุกขึ้นสั่งการ “หามคนออกไป”
หยุนจิ่นได้ถูกหามเข้ามาในห้อง อันหลิงหยุนให้คนหลบ ออกไปก่อน และตามเข้าไปดูหยุนจิ่นในห้อง
บัดนี้มู่มิงจิตใจสงบลงเป็นอย่างมาก
กงชิงวี่ประคองอันหลิงหยุนไปนั่ง มองไปที่มู่มิงอย่างไม่ สบอารมณ์ หากว่ามู่มิงยังไม่แต่งงานอีกหนึ่งวัน เขาก็ไม่ สงบสุขไปอีกหนึ่งวัน กงชิงอยากจะให้นางรีบแต่ง เหตุ ใดเว่ยหลิงชวนจึงไม่ถูกใจนางนะ
มู่มิงไม่มีเวลามาสนใจแผนการของกงชิง กลับดื่มชา โดยที่ท่าทีตื่นตกใจยังไม่หายไป จึงได้กล่าว “ข้าทราบว่า พวกท่านกลับมา ก็ได้ไปเดินเล่นครู่หนึ่ง มิอยากรบกวน พวกท่าน ก็เลยไปหาหยุนจิ่น คาดไม่ถึงว่าจะเจอนางฟุบอยู่บนโต๊ะเช่นนั้น”
อันหลิงหยุนขมวดคิ้วเป็นปม “เป็นข้าที่ไม่ดี ที่มิได้ ปฏิเสธองค์หญิงใหญ่ให้เด็ดขาด หยุนจีนช่างอ่อนนอก แข็งในโดยแท้ ถึงขั้นไม่ยินยอมแต่งงานกับผู้ที่ไม่ได้รัก ใคร่”
“แต่งงาน? “มู่มิงแปลกใจ “แต่งกับผู้ใด? ”
“เว่ยหลิงชวน องค์หญิงใหญ่พึงพอใจหยุนจิ่น ต้องการ ให้นางแต่งกับเว่ยหลิงชวน ทว่าหยุนจิ่นไม่ยินยอม
อันหลิงหยุนกังวลใจพลางเดินไปดูหยุนจิ่น ถอนพิษได้ แล้วแต่ยังไม่ฟื้นขึ้นมาในทันที ดูนางช่างเด็ดขาดยิ่งนัก นําเหล้าผสมยาพิษ เห็นทีคงไม่อยากใช้ชีวิตต่อไปแล้ว
หากว่ามู่มิงมาไม่ทันเวลา เวลานี้นางคงจักสิ้นใจไปนาน แล้ว
อันหลิงหยุนมองไปทางมู่มิง สีหน้าของมู่มิงดูแปลก ประหลาด คล้ายกำลังขบคิดอะไรบางอย่าง
“เจ้าเป็นอันใดไป? “อันหลิงหยุนกล่าวถาม
มู่มิงเงยหน้าขึ้นมา “ตอนที่ข้ามานั้นได้พบกับแม่ทัพอัน ยังคิดได้ว่าแม่ทัพอันกล่าวอันใดกับนาง
“ท่านพ่อข้า? “อันหลิงหยุนแปลกใจ หันกลับไปมองกงชิงวี่
ท่าพ่ออยู่ในจวนหรือ? ”
กงชิงที่มีสีหน้าที่งุนงง “ข้าไม่รู้”
อันหลิงหยุนมองไปประตูที่มีอาหมู่ยืนอยู่ สั่งการให้อา หยู่ไปตรวจสอบว่าท่านพ่ออยู่ในจวนหรือไม่
อาหยู่กลับมาอย่างเร็ว นางหาแม่ทัพอันไม่เจอ
อันหลิงหยุนมองมู่มิง “เจ้าแน่ใจ? ”
“เรื่องนี้ใช่นำมาล้อเล่น เห็นก็คือเห็น ขณะที่ข้ามานั้น แม่ทัพอันได้ออกมาพอดี เดิมที่พวกเราประสบพบหน้ากัน แต่ข้าเห็นว่าเขาดูไม่สบอารมณ์ ข้าจึงได้หลบหลีกไป รอ แม่ทัพอันจากไป ข้าจึงได้เข้าไปหาหยุนจิ่น
อันหลิงหยุนแปลกประหลาดใจอย่างมาก “ท่านพ่อข้า ทำอะไรหยุนจิ่น?
ขณะที่กล่าวก็ได้เหลือบมองไปที่กงชิง สีหน้ากงชิง วี่นั้นไม่เบิกบาน “เหตุใดเจ้ามองข้า ? ข้ามิใช่เทพเซียน เทวดา? ”
อันหลิงหยุนหมุนศีรษะกลับไป “อาหยู่ เจ้าไปที่จวน แม่ทัพ รับท่านพ่อข้ามา”
“พ่ะย่ะค่ะ”
อาหยู่เร่งรีบไปเชิญท่านแม่ทัพ ส่วนอันหลิงหยุนทำได้ เพียงแต่รอให้หยุนจิ่นฟื้นขึ้นมา
ขณะที่แม่ทัพอันมานั้นหยุนจิ่นก็เมามายไปแล้ว ทราบ ข่าวหยุนจิ่นเกิดเรื่องก็ทำให้แม่ทัพอันมีสีหน้าที่กลืนไม่ เข้าคายไม่ออก
“หยุนหยุน”พ่อลูกพบกันทว่าแม่ทัพอันไปมองไปยังหยุ นจิ้นเป็นอันดับแรก เห็นลมหายใจที่สม่ำเสมอของนาง ก็ได้วางใจลง
บัดนี้ภายในห้องไม่มีผู้ใด อันหลิงหยุนเชิญแม่ทัพอันนั่ง ลง “ท่านพ่อ เชิญนั่ง”
แม่ทัพอันถูกทำให้สับสนงงงวย แต่เข้าก็เชื่อฟังบุตรสาว เดินไปนั่งลงอีกฝั่ง
อันหลิงหยุนกล่าวถามแม่ทัพอันท่ามกลางผู้คนจำนวน หนึ่ง เห็นได้ว่าท่านพ่อของนางเป็นผู้บริสุทธิ์ โบราณ กล่าวว่า ผู้ที่ยืนตรงมิต้องกลัวเงาที่เอนเอียง นางเชื่อมั่น ว่าพ่อของนางเป็นผู้บริสุทธิ์
“ท่านพ่อ หยุนจิ่นพบท่านก่อนที่จะเกิดเรื่อง ?”อันหลิง หยุนเปิดอกถามอย่างตรงไปตรงมา
แม่ทัพอันตอบอย่างสัตย์ซื่อ “ข้าพบนาง หลายวันมานี้ ข้าเดินเตร็ดเตร่อยู่ในจวนมาโดยตลอด เจ้าไม่เป็นอันใด ก็คิดจะกลับไปที่จวนเสียแล้ว ข้าถือโอกาสที่เจ้ากำลัง ขบคิดและรอเจ้าตกลงกลับไป แต่ทว่า ยังไม่ทันได้พบ เจ้า กลับได้พบกับหยุนจิ้นเสียก่อน หยุนจิ๋นยืนคำนับอยู่ ที่ด้านนอกลานโอวหลาน สักครู่ก็กลับออกไป เห็นนาง ดูเงียบเหงาเศร้าสร้อย เกรงว่าจะเกิดเรื่องขึ้น จึงได้เดิน ตามนางไปจนถึงตำหนักจู๋หยุน นึกไม่ถึงว่าจะถูกนางพบเข้า นางได้ตระเตรียมสุราอาหารไว้ เชิญข้าเข้าไปร่วม ด้วย ค่ำมืดแล้วข้าไหนเลยจะเข้าไป จากนั้นได้กล่าวสั่ง สอนนางไปสองประโยคว่า เว่ยหลิงชวนนั้นไม่เลว ก็ได้ กลับออกไป คิดเพียงว่านางสามารถดื่มกินได้ปกติแล้ว คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ไหนเลยจะรู้ว่านางจะปลงไม่ตก ถึงเพียงนี้?
แม่ทัพอันรู้สึกเสียดายอยู่ครู่หนึ่ง
หลังจากอันหลิงหยุนทราบที่มาที่ไปของเรื่องแล้ว กลับ กล่าวกับแม่ทัพอันว่า “ท่านพ่อ ท่านนี่จริงๆเลย ดึกดื่นค่ำ มืดไม่หลับไม่นอน เชิญท่านไปร่วมรับประทานอาหาร ทั้งยังยืนคำนับที่หน้าประตูของข้า ท่านลองคิดดูเถิด นั่น คือสิ่งที่ผู้คนปกติทำกันหรอกหรือ ? ”
แม่ทัพอันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ไม่คล้ายเลย”
“ท่านพ่อ สายไปแล้ว มืดค่ำแล้วทำให้ท่านต้องกลับไป กลับมา เช่นนั้นท่านมิต้องกลับแล้ว พักผ่อนอยู่ที่จวน เถิด”
แม่ทัพอันพยักหน้า “เช่นนั้นข้าไปพักผ่อนแล้ว”
แม่ทัพอันที่กำลังอารมณ์หดหู่นั้น ได้ลุกขึ้นกล่าว “แตง ที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน องค์หญิงใหญ่ทำพลาดไป มิใช่น้อย!”
หลังจากแม่ทัพอันจากไป อันหลิงหยุนก็ได้หันไปมอง หยุนจิ่น ถึงอย่างไรนางก็ไม่วางใจ กล่าวกับมู่มิง “มู่มิง เจ้า อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนข้าเถิด คนที่เหลือให้กลับไปให้หมด”
“ข้าก็จักอยู่ด้วยเช่นกัน”กงชิงไม่ไว้วางใจมมิง
อันหลิงก็ไม่ได้อยากถกเถียงอันใดอีก หลังจากกำชับ คน ก็อยากที่จะนอนชั่วครู่ ส่วนมู่มิงก็ได้นอนอยู่อีกฝั่ง ของหยุนจิ่น เหลือเพียงแต่กงชิงวี่ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ผู้ เดียว
หยุนจิ่นที่ตื่นมาในตอนเช้า นางคิดว่านางตายไปแล้ว เสียอีก
ลุกขึ้นได้แล้วก็มองไปที่อันหลิงหยุนและมู่มิงก็พลันตก อกตกใจ
“พวกท่านเหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่ ? “หยุนจิ่นที่กำลังตกใจ
อยู่นั้น กลับคิดว่าอันหลิงหยุนและมู่มิงก็ได้ตายไปแล้ว
เช่นกัน
อันหลิงหยุนนั่งอยู่อีกฝั่ง บนโต๊ะนั้นถูกจัดเก็บเรียบร้อย และมีอาหารวางเรียงกันอยู่ มู่มิงพลันรู้สึกหิวขึ้นมา จึงได้ เตรียมตัวทานอาหาร
หลังจากที่มู่มิงนั่งลง ได้นำตะเกียบมาและทานอาหาร ทานไปก่อนเล็กน้อย “หากเจ้าอยากตายช่วยหาที่ไกลๆ เสียหน่อย ถ้าเจ้าตายภายในจวนอ๋องเสียน เจ้าคิดว่า จวนอ๋องเสียนจะมีจุดจบเช่นไร? องค์หญิงใหญ่จักปล่อย จวนอ๋องเสียนไปง่ายดายหรอกหรือ? ”
หยุนจิ่นส่ายศีรษะไปมา”หากเจ้านายอยู่ มิอาจเกิดเรื่อง ได้ ถ้าข้าตายไป จวนอ๋องเสียนก็จะไม่เป็นอันใด ”
อันหลิงหยุนมองไปนัยน์ตาของหยุนจิ่น พลันกระจ่าง หากนางยืนหยัดที่จะไม่แต่ง จวนอ๋องเสียนก็จะมีเรื่อง วุ่นวาย จะให้นางแต่งนางก็ไม่ยินยอม การตายเป็น ทางออกเดียวของเรื่องนี้
อันหลิงหยูนน่าตะเกียบมาคีบอาหารให้แก่กงชิง “ท่าน ช่างมีวาสนายิ่งนัก มีผู้คนมากมายมาร่วมรับประทาน อาหารด้วย? ”
กงชิงวี่ได้ฟังกลับไม่รู้สึกอยากอาหารแล้ว อยู่ไปก็ไม่มี อะไรน่าสนใจ จึงได้ลุกขึ้นหาข้ออ้างเพื่อที่จะจากไป “พวกเจ้ากินกันต่อเถิด ข้ายังมีธุระ”
กงชิง ใส่รองเท้าดีแล้ว ก็เดินจากไป
มู่มิงส่ายหัวอย่างประหลาดใจ “เจ้ายังบอกว่าไม่กลัว ภรรยาอีกหรือ หากนี่ไม่เรียกว่ากลัวภรรยา แล้วเรียกว่า อันใด? ”
แค่คำพูดเพียงหนึ่งประโยคนั้นกลับวิ่งเร็วเสียกว่า กระต่าย เช่นนี้ก็คือกลัวภรรยา !
อันหลิงหยุนคร้านจะสนใจ จึงได้กินข้าวเช้าต่อ
หยุนจิ่นลุกขึ้นจากเตียงได้ก็มาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าอัน หลิงหยุน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ