ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 344 คนสวมหน้ากาก



บทที่ 344 คนสวมหน้ากาก

อาหยู่กำลังจะห้ามปราม แต่ก็ไม่ทันการ อันหลิงหยุน เดินตามเข้าไปข้างในแล้ว

ภายในลานกว้างขวางใหญ่โต อันหลิงหยุนมองสำรวจดู บริเวณรอบๆ ที่นี่เหมือนกับเรือนด้านหลังของจวนอ๋องคน ใดคนหนึ่งเลย ทว่าเรือนด้านหลังของที่นี่ใหญ่มากจริงๆ

เพิ่งกวงเดินนำคนติดตามสองสามคน และอันหลิงหยุน มุ่งเดินไปข้างหน้า

เดินไปได้สักระยะหนึ่ง แล้วเดินอ้อมผ่านประตูบานหนึ่ง ไป ทุกคนล้อมตัวอาหยู่ไว้ อันหลิงหยุนย้อนกลับมาดู คน พวกนั้นเริ่มลงมือต่อสู้กัน

เม่งกวงยิ้มเยาะ “พระชายา ขอเพียงเจ้ายอมเป็นของข้า ข้าจะดีต่อเจ้าแน่นอน”

“คนที่อยากทำดีต่อข้ามีเยอะเกินไป สุดท้ายก็ต้องตาย ไป” สายตาของอันหลิงหยุนแลดูสบายๆไม่ได้ใส่ใจเลย สักนิด

เมิ่งกวงกลับชื่นชอบผู้หญิงแบบอันหลิงหยุนนี่แหละ

“งั้นข้าจะขอลองดู ในเมื่อเจ้าพูดเองว่ายังเหลือเวลาอีก สองชั่วโมง ข้าจะลองดู”

ขณะที่เพิ่งกวงพูดก็คิดอยากจะเข้าใกล้ อันหลิงหยุนหัน หน้าไปทางอื่นไม่อยากมอง เมิ่งกวงที่เพิ่งจะประชิดเข้าใกล้ กาด่าตัวหนึ่งบนลงมาจากฟากฟ้า พุ่งตรงลงมาผ่าน ดวงตาของเมิ่งกวงอย่างวูบวาบ ลำตัวเขาโยกไปครู่หนึ่ง รู้สึกเหมือนมีของเหลวอุ่นๆไหลออกมาจากเบ้าขอบตา เขาเพิ่งจะดึงสติกลับมาได้รีบเอามือไปปิดตรงเบ้าขอบตา ไว้ รอจนกว่าเขาเห็นเลือดในมือ ก็ตกใจกลัวไปทั้งตัว

อันหลิงหยุนแหงนหน้ามองไป กาดำน้อยที่คาบดวงตา ของคนไว้กำลังบินแล่นไปมาอยู่บนฟากฟ้า อันหลิงหยุ นพูด “ช่างกล้ายิ่งนัก บังอาจทำร้ายคน

กาดำน้อยกลัวอันหลิงหยุนมาก เมื่อได้ยินนางพูดเช่น นั้นรีบบินกลับไปเลย เมิ่งกวงตื่นตระหนกดิ้นไปมา รอจน กระทั่งเขานิ่งสงบ พลันใช้มือจับตรงดวงตากลับไปมา

“กลับมาแล้ว กลับมาแล้ว”

เพิ่งกวงร้องตะโกนเสียงดังลั่นเหมือนคนเสียสติ อันหลิง หยุนส่ายหน้า ปากของกาดำน้อยชอบจิกกินเนื้อเน่าเสีย ดวงตาที่มันคาบกลับไปส่งมอบนั้น เป็นสิ่งที่ถึงแก่ชีวิตคน ได้

ชีวิตของเมิ่งกวงสิ้นบุญแล้ว

“เมิ่งกวง ใครสั่งให้เจ้าทำร้ายเสินหยุนเจ๋?”

อันหลิงหยุนถาม เมิ่งกวงมองไปยังอันหลิงหยุน แม้นเขา จะมีรูปร่างที่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่สามารถแบกรับความเจ็บ ปวดเช่นนี้ได้

เขาตัวสั่นอยู่สักพัก เขายังคงรู้สึกไม่พอใจ เขาพูดว่า”คนใกล้ตายอย่างข้าพูดอะไรล้วนเป็นความจริง พระ ชายาตามข้ามาเถอะ”

เมื่อพูดจบเมิ่งกวงเดินเข้าไปด้านใน อันหลิงหยุนมองดู อาหยู่ที่ถูกสกัดกั้นตัวเอาไว้ แล้วเดินตามไป

ตลอดทางที่เดินมา ทั้งสองเว้นระยะห่างไม่ไกลกัน คน หนึ่งอยู่ด้านหน้าอีกคนอยู่ด้านหลังรวมระยะทางสอง ประมาณเมตร

อันหลิงหยุนไม่ได้เกรงกลัวเมิ่งกวง มีแต่เพิ่งกวงที่ค่อย หวาดระแวงป้องกันตัวห่างจากอันหลิงหยุน

ทั้งสองคนเดินมาได้สักระยะหนึ่ง เดินออกจากบริเวณ เรือนด้านหลังมายังเรือนด้านหน้า อันหลิงหยุนรู้สึกได้ อย่างเลือนลางว่า ใกล้จะได้พบคนของราชนิกุลแล้ว

“บอกให้เจ้ารู้ไว้ก็ไม่เสียหาย คนที่ให้สินบนข้าคือคน ของราชนิกุล เขาเป็นถึงอ๋อง แต่ข้าบอกเจ้าไม่ได้ว่าเขา เป็นใคร ทว่าเมื่อเจ้าได้เห็นพวกเขา เจ้าจะรู้เอง”

เมิ่งกวงแหงนหน้ามองไปยังอันหลิงหยุน ร่างกายกำยำ แข็งแกร่งยังคงสั่นสะท้าน ดวงตาข้างหนึ่งของเขาเหมือน มีก้อนเลือดอยู่ในเบ้าตาของเขา เลือดของเขาไหลออก มาจากดวงตาอย่างไม่ขาดสาย

อันหลิงหยุนมองดูใบหน้าอันน่าสยดสยองเขา และ สงสัยว่ากาคําน้อยมีพิษหรือเปล่า

มิเช่นนั้นทำไมจึงรู้สึกว่าเลือดตรงขอบตาของเมิ่งกวงถึงได้ไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่มองดูอันหลิงหยุน เมิ่งกวงเกามือไปมา และใช้ มีอยกกางเกงขึ้นมา เหมือนว่าภายในกางเกงมีของดีอะไร ที่ทำให้เขาอยากจะลองดู

อันหลิงหยุนเข้าใจดี เขากำลังกระสับกระส่าย

“ข้าจะพูดกับเจ้านายเอง ประทานเจ้าให้กับข้า พอถึง ตอนนั้นเจ้ากับข้าจะมีความสุขมาก

เมิ่งกวงที่กำลังพูดแล้วสั่นดึกๆ เขาหัวเราะชอบใจ หมุน ตัวแล้วเดินต่อไป

อันหลิงหยุนแหงนหน้ามองไปยังกาดำน้อย เห็นท่าทาง ของกาคําน้อย เหมือนยังอยากจะลงมาทำร้ายเพิ่งกวง อันหลิงหยุนส่ายหน้า กาดำน้อยจึงไม่ได้เข้ามาใกล้ แล้ว บินไปยังบนหลังคาเพื่อมองสังเกตการณ์ทางนี้

เพิ่งกวงเดินต่อไป และอันหลิงหยุนเดินตามไปข้างหน้า

เพียงไม่นานก็เดินมาถึงปากทางเข้าตรงประตู เมิ่งกวง ผลักประตูออกแล้วเดินเข้าไป ตรงลานบ้านมีป่าไผ่ผืน หนึ่ง เมิ่งกวงเดินไปยังป่าไผ่ด้านโน้น

อันหลิงหยุนเดินตามไป มองเห็นเลือนรางเหมือนภายใน ป่าไผ่มีคนยืนอยู่หนึ่งคน สวมใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งชุดและ สวมหน้ากากไว้ มองดูลักษณะท่าทางแล้ว อันหลิงหยุน เดาได้ว่าเป็นผู้ชาย อีกทั้งยังแลดูหนุ่มแน่นมาก
อันหลิงหยุนคาดเดาว่า คนๆนี้เป็นคนของราชนิกุล

พอเมิ่งกวงเดินเข้าไปก็ใกล้รีบคุกเข่าลงไป สองมือ ประสานคํานับ “ข้าน้อยขอพบเจ้านาย”

ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้หมุนตัวกลับมา เอามือไขว้หลังและ ยืนอยู่ตรงนั้น อันหลิงหยุนสังเกตบุคคลนี้ นิ้วโป้งข้างซ้าย ของเขาสวมแหวนปานจื่อสีดำไว้

เมิ่งกวงพูดว่า “เจ้านาย ข้าได้รับบาดเจ็บ และรู้สึกไม่ ไหวแล้ว ขอเจ้านายได้โปรดให้ข้าได้สมดั่งปรารถนา ประการสุดท้ายด้วย ”

อันหลิงหยุนไร้คำพูดใดจริงๆ จะตายอยู่แล้วยังไม่เจียม เนื้อเจียมตัว

เขามาจนถึงขั้นนี้แล้ว ยังคิดอยากจะร้องขออีก

คนที่ยืนอยู่ที่นั่นในที่สุดก็เปิดปากพูด “เมิ่งกวงเจ้ารู้หรือ ไม่ เจ้าพานางมาที่นี่เป็นข้อผิดพลาดอันใหญ่หลวง ข้า ต้องฆ่าเจ้าทิ้งอย่างแน่นอน!”

เมิ่งกวงตะลึงงัน “เจ้านาย ข้าล้วนทำเพื่อเจ้านาย!”

“เจ้าโง่ ข้าสั่งให้เจ้ามาเป็นผู้บงการหรือไง?”

คนนั่นหมุนตัวกลับมา หน้ากากสีเลือดน่ากลัวมาก อีก ทั้งยังเป็นรูปสัตว์ประหลาดน่าเกลียดน่ากลัว จนอัน หลิงหยุนยังตกใจไปครู่หนึ่ง ทำไมถึงมีหน้ากากสัตว์ ประหลาดที่น่ากลัวถึงเพียงนี้?
ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้สนใจอันหลิงหยุน ในทางกลับกัน กลับเพ่งมองไปยังเมิ่งกวงแทน

บริเวณรอบๆมีเงาร่างดำปรากฏตัววูบวาบ เมิ่งกวงกำลัง จะเอ่ยปากพูด ทันใดนั้นศีรษะขาดสะบั้นกลิ้งไปกับพื้น หลายตลบ จนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของอันหลิง หยุน

อันหลิงหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เห็นศีรษะที่มีใบหน้า น่าเกลียดมองตรงมาหานาง นางไม่ได้กลัว แต่นาง ขยะแขยง หมุนตัวเดินหลบไปด้านข้างหลายก้าว จนอด ไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมา

พออาเจียนเสร็จ เช็ดมุมปาก อันหลิงหยุนฝืนทำตัวให้ สบาย พร้อมใช้มือกุมที่อก แล้วหมุนตัวมองไปทางด้านใน ของป่าไผ่

ชายชุดดำที่มาพร้อมกับการสวมหน้ากากสีแดงน่า เกลียด ห่างจากข้างกายเขาไม่ไกลมีคนยืนอยู่บางส่วน และอีกฝั่งหนึ่งเป็นศพของเมิ่งกวง

อันหลิงหยุนรู้สึกว่าครั้งนี้ไม่ได้มาเสียเวลาเปล่าเลย ขอ เพียงแค่ได้เห็นหน้าคนๆนี้ เขาเป็นตัวจริง หากพบเจอกัน อีกครั้งจะต้องจำหน้าได้แน่นอน

“พระชายาเสียน สบายดีหรือไม่”

ชายชุดดำพูดอย่างเรียบเฉยว่า อันหลิงหยุนตะลึงงันไป ครู่หนึ่ง “เจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงรู้จักข้า?”
“หญิงสาวที่ฉลาดหลักแหลม และเก่งเกาจเรื่องการ รักษาอย่างพระชายาเสียน ไม่มีเหตุผลใดที่ข้าจะไม่รู้จัก”

อันหลิงหยุนแปลกใจ รู้จัก?

เป็นใคร?

ไม่รอให้อันหลิงหยุนได้พินิจพิเคราะห์ คนนั้นพลันหมุน ตัวเดินกลับไปยังป่าไผ่ และพูดว่า “ฆ่าทิ้งเสีย

“ขอรับ”

บริเวณรอบๆมีเสียงลมดังขึ้นมา คนชุดดำหลายคนพุ่ง ตัวมาหาอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนเดินถอยหลัง ไม่กล้า ลงมือต่อสู้

กาดำน้อยที่บินอยู่บนหัวไม่รู้หายไปไหน ไม่เห็นแม้แต่ เงาของมันเลย

อันหลิงหยุนรู้สึกเย็นวูบในจิตใจ ซึ่งไม่ได้จริงๆ

ขณะที่กำลังกังวลว่าจะทำอย่างไรดี คนชุดดำได้ขยับ เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ตอนที่อันหลิงหยุนเตรียมตัวจะต่อสู้ กับศัตรู มีเงาร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา อันหลิงหยุนรู้สึก ว่าร่างกายหนักหน่วง ถูกคนโอบกอดไว้ในอ้อมอก เมื่อ แหงนหน้ามองไปกงชิงวี่ก็อยู่ตรงหน้าแล้ว คนที่เหลืออีก สิบกว่าคนรีบพุ่งตัวเข้าไปข้างในป่าไผ่ ส่วนที่เหลือไม่กี่ คนอยู่ต่อสู้กับคนชุดดำที่เหลือ

อันหลิงหยุนโล่งอกไปที ยังดีที่มาทันเวลา
สายตาของกงชิง หนักแน่นลึกล้ำ เพ่งมองไปทางป่าไผ่ ที่อยู่ตรงหน้า

อันหลิงหยุนรู้ดีว่ากงชิงวี่อยากจะจับชายคนนั้นให้ได้ ทว่าสุดท้ายเขาก็มาช้าไปหนึ่งก้าว จับไม่ทัน

เพียงไม่นานคนของกงชิงวี่ก็กลับมารายงาน ส่ายหน้า มาทางกงชิงวี่ ส่วนทางนี้ คนเหล่านั้นต่อสู้พ่ายแพ้ย่อยยับ

คนของกงชิงวี่รีบเร่งจัดการ ทันใดนั้น คนเหล่านั้นก็ไม่ ขยับตัวอีกเลย

ขณะที่อันหลิงหยุนนึกแปลกใจ คนพวกนั้นก็ล้มลงไปที่

พื้น

ร่างกายเหมือนกับก้อนหิน ล้มลงไปที่พื้นโดยตรง สถานการณ์แปลกพิลึก

อันหลิงหยุนมองไปยังกงชิงวี่ แล้วเดินไปดูอาการ ปรากฏว่าคนพวกนั้นล้วนมีเลือดไหลออกมาทางประสาท สัมผัสทั้งเจ็ด และดวงตาเบิกกว้าง

อันหลิงหยุนนั่งลงไปตรวจสอบ สังเกตเห็นว่าหลังใบหู ของทุกคนล้วนมีเข็มเงินสีขาวอยู่หนึ่งอัน

อันหลิงหยุนสวมถุงมือและหยิบเข็มเงินขึ้นมา สังเกตดู อย่างละเอียด อันหลิงหยุนลุกขึ้นมา แล้วนำไปให้กงชิงวิ่ ดู “ท่านอ๋อง เป็นเข็มเงินแบบเดียวกันที่พบที่ต้นขาของฮู หยินเฉินกั๋วกง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ