บทที่ 32 พระชายาที่กลิ้งไม่เป็น
เมื่อนึกถึงเรื่องที่อันหลิงหยุนถูกรังแกโดยกงชิงหยิน และกงชิงวี่ในวังวันนั้น แม่ทัพอันก็รู้สึกโกรธขึ้นมา ถ้า ลูกสาวมีความสามารถทางด้านกังฟู นางจะไม่ถูกคนอื่น รังแกอีก
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แม่ทัพกล่าวว่า “มี แต่มันเหนื่อย มาก!”
“ท่านพ่อ ข้าทำได้
เมื่อพ่อและลูกสาวมองหน้ากัน แม่ทัพอันพูดว่า ถ้า อย่างนั้นก็ฝึกกระบี่แล้วกัน แม้ว่าพ่อจะมีชื่อเสียงเรื่อง หอก แต่พ่อก็มีเพลงกระบี่ไร้ใจที่ข้าสามารถเรียนรู้ได้”
“เพลงกระบี่ไร้ใจเหรอ?” อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกมาก ชื่อนั้นดีและไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย มันมีอะไรอยู่ใน ความทรงจำของร่างเดิมเลย
แม่ทัพอันหันตัวกลับและเดินไปข้าง ๆ หยิบกระบี่ลง มาหนึ่งด้าม
“หยุนหยุน ลูกถอยไปก่อน”
อันหลิงหยุนถอยไปด้านข้าง แม่ทัพอันก็เริ่มเล่นเพลง กระบี่
หลังจากดูไปสักพักแล้ว อันลิงหยุนไม่เพียงแต่รู้สึก แปลก วิธีควงกระบี่นี้ แค่ดูก็รู้แล้วว่ามันไม่ได้เป็นกระบี่ สําหรับผู้ชาย แม้ว่าแม่ทัพอันจะเล่นได้อย่างชำนาญ แต่ ก็สามารถเห็นได้ว่าพลังเอวนั้นทรงพลังมากดังนั้นจึง เป็นดาบหญิง
“หยุนหยุนลูกเห็นชัดเจนหรือยัง?” แม่ทัพอันเล่นไป สักพักหนึ่ง และมันเป็นส่วนที่ซ้ำ ถ้าเป็นร่างเดิมอาจไม่ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่อันลิงหยุนสามารถ เห็นชัดได้
อันลิงหยุนพยักหน้าและก้าวไปข้างหน้าแล้วบอกว่า “ท่านพ่อ ข้าจะลอง”
เมื่อหยิบดาบออกมาจากมือของแม่ทัพอัน อันหลิงหยุ นก็ขยับตัว ณเวลานี้นางก็ยังรู้สึกว่าลำตัวยังไม่ค่อยลื่น ไหล
แต่การเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างก็ไม่เป็นปัญหา หลัง จากเดินไม่กี่จุดที่ใต้เท้า อันหลิงหยุนก็หายใจหอบและ หยุดพัก
สีหน้าของแม่ทัพอันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขากังวล ร่างกายของลูกสาว แล้วอีกอย่างเขาก็ตกใจมากด้วย
เขายืนอยู่ที่นั่น ราวกับว่าเขาเห็นอีกคนหนึ่งและใช้ เวลานานก่อนที่เขาจะหายตกใจ
แม่ทัพอันรีบไปหาอันหลิงหยุนและถามด้วยความกังวลว่า”หยุนหยุน ลูกเป็นอะไรไหม”
อันหลิงหยุนส่ายหัวและพูดว่า “ท่านพ่อ ถึงจะเหนื่อย หน่อย แต่ข้าอยากจะเรียนรู้”
แม่ทัพอันลังเลพักหนึ่งแล้วพูดว่า”สามารถเรียนรู้ได้ แต่ข้าต้องสัญญากับพ่อว่า
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะหมดหนทางแล้วจริงๆ ลูกบอกให้ ใครรู้ไม่ได้
เพลงกระบี่ไร้ใจชุดนี้ของข้าสามารถใช้เพื่อช่วยชีวิต ได้เท่านั้น”
อันหลิงหยุนเข้าใจในสิ่งที่แม่ทัพอันบอก แต่นางแกล้ง ทำเป็นไม่รู้และถามว่า “ท่านพ่อ ทำไมเหรอ? ”
“เชื่อฟังพ่อ พ่อไม่ทำร้ายลูก”
อันหลิงหยุนรู้ดีว่าเพลงกระบี่ไร้ใจชุดนี้ต้องเกี่ยวกับ คนสำคัญและสิ่งสำคัญบางสิ่ง และตามที่ความทรงจำ ส่วนลึกของร่างเดิม ทำให้ นางยิ่งมั่นใจมากขึ้น
“ท่านพ่อ “ไว้ใจได้เลย ข้ารู้”
“อืม”
พ่อและลูกสาวออกจากห้องฝึกวิทยายุทธท้องฟ้าก็มืดแล้ว
หลังจากกินข้าวเสร็จ พ่อกับลูกสาวถึงแยกกันไปพัก ผ่อน
จวนอ๋องตวน
“อีโง่ ใครสั่งให้เจ้าส่งองครักษ์ลับออกไปโดย การ ส่วนตัว?
ด้วยคำด่าอย่างรุนแรง ตามมาด้วยคือการตบหน้า ของจุนฉูฉู คนที่อยู่ตรงข้ามไม่กล้าปิดหน้า ก้มหัวลง และไม่กล้าพูดอะไร
เถาลั่วตัวสั่นไปทั้งตัว รู้สึกผิดมาก
จุนฉูฉูหน้าซีดและด่าว่าก็รู้ดีอยู่แล้วว่า อันจือซาน ได้เป็นคนธรรมดา องครักษ์ลับเพียงแค่ไม่กี่คนนั้นล้วน แต่ไม่ใช่คู่แข่งของเขา เจ้ายังส่ง องครักษ์ลับไปที่จวน ของแม่ทัพ เจ้าคิดว่าข้าอยู่แบบไม่มีอะไรทำมากเกินไป เหรอ ?”
“เถาลั่วไม่กล้า”
สาวคนรับใช้ส่วนตัวของจุนฉุ คุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว จุนฉูฉู พูดออกมาอย่างเย็นชา
“ไม่กล้าเหรอ ยังมีอะไรที่เจ้าไม่กล้าทำบ้างเหรอ?”
สายตาที่จุนฉูฉูแสดงถึงว่าตัดสินใจจะฆ่าและพูดว่า “มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเลี้ยงดูเจ้าต่อไป มา นำไปฆ่า”
“ขอให้อภัย ท่านพระชายา ขอไว้ชีวิต!
เมื่อเถาลั่วขอการให้อภัย จุนฉูฉูไม่เหลียวมองแม้แต่ ครั้งเดียว คนที่ติดตามนางมานานกว่าสิบปีก็ถูกลาก ออกไปเช่นนี้
ในห้องเงียบ มีคนเดินเข้ามาจากข้างนอก จุนฉูฉูไม่ หันหน้ากลับเลยและพูดว่า “หาทางที่จะพบร่างของ องครักษ์และกำจัดมันโดยเร็วที่สุด โชคดีที่มันถูกฆ่า โดยการยิงตายไม่อย่างนั้นถ้ามีการตรวจสอบ มันจะ เดือดร้อนมาถึงพวกเราได้ ”
“รับทราบ” ชายในชุดดำถอยตัวออกไป
จุนฉูฉูจับมืออย่างแน่นๆ อันหลิงหยุน นางอยู่ได้อีกไม่ กี่วันหรอก
หลังจากพักผ่อนไปหนึ่งวัน อันหลิงหยุนเข้าไปที่ พระราชวังเพื่อปฏิบัติรักษาฮ่องเต้ชิงหยู่ ทันทีที่นางเข้า มาในวังก็เห็นถางเหอเขายืนอยู่ด้านในประตูพระราชวัง อันหลิงหยุนไม่สนใจเขาและเข้าไปข้างในโดยตรงเลย
ถางเหอเขารู้ว่าเขาไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ดังนั้นเขา ได้ดูอันหลิงหยุนเข้าไปที่พระตำหนักจรุงจิตเท่านั้น
อันหลิงหยุนมาขอพบที่ด้านนอกพระตำหนักจรุงจิต รอไปตั้งครึ่งชั่วโมงและอากาศก็หนาว แต่อันหลิงหยุนก็ต้องทนไว้
รอจนกว่าจะถึงเวลานานถึงจะปล่อยให้นางเข้าไป
เมื่อไปถึงที่พระตำหนักจรุงจิต อันหลิงหยุนกราบลง และพูดด้วยว่า”ขอมารายงานตัวกับฮ่องเต้
“ลุกขึ้นได้”
ฮ่องเต้ชิงหยู่พูดเบาๆว่า ตอนนี้ฮ่องเต้ชิงหยู่ยังคงยุ่ง อยู่ เขากำลังตรวจอ่านหนังสือราชการที่กองไว้ด้านหน้า ของตอนเช้าอันหลิงหยุนยืนขึ้นและยังก้มหัวอยู่
“ทุกคน ถอยลงไปก่อน”
ผู้หญิงในวังถอนตัวออกทีละคนๆเหลือเพียงสวีกงกง และฮ่องเต้ชิงหยู่ถึงพูดว่า “เอามาเลย”
อันหลิงหยุนหยิบขวดเล็กๆออกจากในข้อมือแขนเสื้อ สวีกงกงมอบ ของให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ ด้วยความเคารพ
ฮ่องเต้ชิงหยู่แสดงท่าทีที่จะหยิบออกมาสองเม็ดและ ให้สวีกงกงเอาไปให้กงชิงวิ่
หลังจากสวีกงกงออกไปแล้ว ฮ่องเต้ชิงหยู่ให้ อันหลิง หยุนสองเม็ดตามปกติ
อันหลิงหยุนแอบหัวเราะในใจว่า ยาที่นางปรุงนั้นจะ รักษาไม่ได้เหรอ
ถึงกระนั้น อันหลิงหยุนก็เหลือแต่ผงยาไว้นิดหน่อย กันไว้ดีกว่าแก้
หลังจากทานยามาเกือบครึ่งชั่วโมง สวีกงกงกลับมา จากวิหารบรรทมรองและบอกฮ่องเต้ชิงหยู่ว่ากงชิงไม่ เป็นไร ฮ่องเต้ชิงหยู่ถึงทานยาไปสองเม็ด
“ไปเลยไปเยี่ยมอ่องเสียน เขาต้องอยากเจอเจ้าด้วย แน่ๆ”
อันหลิงหยุนไม่อยากเจอเขาจริงๆและพูดว่า”หม่อมฉัน ไม่อยากเจอเขา”
ดวงตาของฮ่องเต้ชิงหยู่นั้นใสๆเหมือนน้ำ ตรัสออกไป ว่า “ถือว่าไปแทนข้าเถอะ”
“รับทราบ”
ฮ่องเต้ชิงหยู่พูดมาขนาดนี้แล้ว อันหลิงหยุนจำต้องไป วิหารบรรทมรอง แต่ไปแบบยินยอมสมัครใจ
คนอย่างกงชิงวี่นั้น นางขี้เกียจที่จะใส่ใจอีก แต่ฮ่องเต้ สั่งให้ไป ก็ต้องทำตามดีกว่า
นอกจากนี้ยังมีบางอย่างที่สั่นคลอนในร่างกายทุก ครั้งเมื่อได้ยินอะไรที่เกี่ยวกับกงชิงวี่ มันก็เริ่มเกิดความ
กระวนกระวาย
เมื่อนางมาถึงวิหารบรรทมรอง ถางเหอเห็นว่าอันหลิงหยุนมาก็รีบไปทักทายกับนางทันที
“ท่านพระชายา
อันหลิงหยุนรู้สึกกระวนกระวาย ตอนนี้ก็นึกถึงพระ ชายา ทำไมตอนที่ท่านอ๋องของพวกเขาไปเล่นชู้กับคน อื่น ไม่คิดถึงพระชายาอย่างนางบ้างล่ะ
“อืม”
ตอบรับหนึ่งเสียง อันหลิงหยุนก็ไม่ได้ถามอะไร มากมาย แต่ถางเหอเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไร ในอดีตถ้า อันหลิงหยุนโวยวาย เขาก็จะมีวิธี แต่วันนี้เงียบอย่างนี้ ทำให้เขาไม่มีวิธีช่วยได้
อันหลิงหยุนเดินไปที่ประตูวิหารบรรทมรองและเคาะ
ประตู
ถางเหอรู้สึกคาดไม่ถึง พระชายารู้จักที่จะเคาะประตู ก่อนแล้วเหรอ? ถ้าเป็นเมื่อก่อน นางวิ่งเข้าไปจวนอ๋อง เสียนโดยตรงเลย ผลักประตูเข้าไปเหมือนกับตามล่า คนทรยศ
“มีเรื่องอะไรเหรอ?” เสียงของกงชิงวี่มาจากวิหาร บรรทมรอง ถางเหอยังไม่ทันได้ตอบ อันลิงหยุนกล่าว ว่า “ตามคำสั่งของฮ่องเต้ มาเยี่ยมอ๋องเสียน”
” กงชิงวี่ ระเบิดออกมาด้วยความโกรธและรู้สึก หัวใจปั่นป่วนไปหมด อะไรคือคำสั่งจากฮ่องเต้? หากฮ่องเต้ไม่ได้ออกคำสั่งนางจะไม่มาเหรอ?
“กลิ้งเข้ามาเลย!”
อันหลิงหยุนตะลึงงัน แต่นาทีต่อไปก็หันตัวออกไป จากนั้นเลย
ถางเหอรีบตามอันหลิงหยุนไปและถามนางว่า “ท่าน พระชายา ท่านกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ มาเพื่อไปพบ
ท่านอ๋องแต่ไม่เข้าไป ท่านคิดอะไรอยู่หรอ”
ถางเหอตั้งใจที่จะให้อันหลิงหยุนไปช่วยดูอาการของ กงชิงวี่ ท่านทานยาที่ฮ่องเต้ส่งมาสองวันติดกัน ถางเหอ เขากังวลมาก
ถ้าอันหลิงหยุนออกไปอย่างนี้แล้วใครจะมาดูให้?
ณตอนนี้ในวังทุกแห่งหนกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ เขาเข้ามาได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว ทุกวันนี้แพทย์ หลวงกล้าที่จะมาเข้ามา และพวกเขาก็ไม่กล้าใช้
อันหลิงหยุนเดินอย่างเร็วและตรัสว่า ข้ามาแล้วก็ แสดงว่ามาเยี่ยมแล้ว แต่ถ้าให้ข้ากลิ้งเข้าไป ข้าไม่ สามารถทำได้ ข้าจะเรียนกลิ้งให้เป็นก่อนและจะกลิ้ง เข้าไปในครั้งหน้า!”
หลังจากพูดเสร็จแล้ว ถางเหอยังไม่รู้ตัวเลยว่าอันหลิง หยุนได้จากไปไกลแล้ว
ข้างนอกอากาศหนาวมาก อันหลิงหยุนแน่นอนว่าไม่ อยากให้ตัวแข็ง นางได้วางแผนที่จะไปที่วิหารบรรทม รองเพื่อทำให้ร่างกายอุ่น แต่ให้นางกลิ้งเข้าไป มีสิทธิ อะไรกัน?
กงชิงวี่นอนอยู่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่เขาได้ยิน คำพูดอะไรบางอย่างจากข้างนอก
นึกถึงอันหลิงหยุนโดยปกติแล้วจะเชื่อฟังทุกอย่าง แต่ ตอนนี้ไม่ถูกใจอะไรนาง ก็จะเจอตัวนางไม่ได้เลย รู้สึก อัดอั้นใจมาก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ