ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 307 อ๋องจวิ้นเสี้ยวตัดเองแล้ว



บทที่ 307 อ๋องจวิ้นเสี้ยวตัดเองแล้ว

อันหลิงหยุนไม่อยากฟังพวกเขาเถียงกัน หันหลังเดินไป

ก่อน

กงชิงวี่เห็นอันหลิงหยุนไปแล้ว หันหลังก็อยากจะไป ถู กมู่มิงคว้าเอาไว้

มู่มิงตะโกนด้วยความโมโห “กงชิงวี่ วันนี้เจ้าจะต้องช่วย ข้าทำให้ที่นี่กลับไปสู่สภาพเดิม ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่ยอม จบกับเจ้าแน่ พรุ่งนี้ข้าจะไปหาท่านน้า ใช้ความตายบีบให้ ได้แต่งงานกับเจ้า

เจ้าไม่อยากให้ข้าแต่งกับเจ้าไม่ใช่หรือ?

แต่ข้าจะต้องแต่งกับเจ้าให้ได้”

อันหลิงหยุนเดินไปรออยู่ไม่ไกล กงชิงวี่ตีมูมิงสลบไป อีกครั้ง ถึงจะมาหาอันหลิงหยุนได้

พอถึงข้างกายอันหลิงหยุนกงชิงวี่เรียกคนที่อยู่ที่ลับ ออกมา สั่งพวกเขาฟื้นฟูหลุมฝังศพให้กลับไปสู่สภาพเดิม จากนั้นพามู่มิงกับเสินหยุนเจ๋กลับจวนอ๋องเสียน

ส่วนอันหลิงหยุนกับกงชิงวี่เดินกลับไปพร้อมกัน

อันหลิงหยุนไม่รู้สึกเหนื่อย นางเอาแต่คิดถึงเรื่องของป่า ยสู้สู้ตลอด ก็ไม่ได้มีความคิดเห็นอย่างอื่น เพียงแค่หวังให้ นางยังมีชีวิตอยู่

กลับไปถึงจวนอ๋องเสียนก็ดึกมากแล้ว อันหลิงหยุนขึ้น ไปบนเตียงหัวถึงหมอนก็หลับเลย
เช้าวันรุ่งขึ้น พ่อบ้านรีบร้อนเข้ามายังลานโอวหลานจน ทำให้อันหลิงหยุนตื่น กงชิงวี่ใส่เสื้อผ้าแล้วก็ออกไป

อันหลิงหยุนออกไป กงชิงวี่ก็ออกจากจวนไปแล้ว ถาม พ่อบ้านถึงได้รู้ว่า เมื่อคืนจวนอ๋องจวิ้นเสี้ยวเกิดเรื่องขึ้น อ๋องจวิ้นเสี้ยว เมียน้อยของเขาจนตายทั้งเป็น

“อะไรคือถูกตีจนตายทั้งเป็น?” อันหลิงหยุนรู้สึกไม่ เข้าใจ

พ่อบ้านส่ายหน้า แต่เขาก็กล่าวว่า “ถูกตีจนตายทั้งเป็น ก็คือถูกตีจนตาย แต่รายละเอียดยังไม่รู้ เมื่อกี้ท่านถางวิ่ง กลับมา บอกว่าเห็นแล้วดูน่ากลัวมาก!”

อันหลิงหยุนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ท่านอ๋องกลับมาก็มา รายงานข้าด้วย

“ขอรับ”

พ่อบ้านไปแล้วอันหลิงหยุนก็ไปกินข้าวเช้า

ตื่นเช้ามู่มิงก็ตื่นขึ้นมาแล้ว อีกทั้งอันหลิงหยุนเพิ่งจะ นั่งลงก็เห็นมู่มิง มู่มิงก็นั่งลงไปอย่างไม่เกรงใจ หยิบเอา ตะเกียบขึ้นมากินข้าว

นางทำหน้าราวกับว่าอันหลิงหยุนติดหนี้นางแล้วไม่คืน กินอย่างสง่างามเลย

อันหลิงหยุนก็ไม่ได้สนใจมู่มิง อาจจะเป็นเพราะว่านาง คิดได้แล้ว
แต่พ่อบ้านกลับทนดูไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะทำกับเจ้าไม่ถูก ทำให้เจ้าไม่สามารถแต่งออกไปได้แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะ วิ่งมาอาละวาดไร้เหตุผลที่จวนอ๋องเสียน

อันหลิงหยุนถาม “แม่ทัพน้อยตระกูลเงินยังอยู่ไหม?” เมื่อคืนกลับมาพร้อมกัน

พ่อบ้านรีบร้อนกล่าว “เมื่อเช้าลืมตาขึ้นก็ออกมาแล้ว แต่เดินไม่ไหวเกือบล้มลงตรงหน้าประตูเลยกลับไปนอน พักต่อ เมื่อกี้ทำตามคำสั่งของท่านอ๋องหาคนไปดูแลรับ ใช้แล้ว น่าจะกินข้าวแล้ว”

อันหลิงหยุนกลับประหลาดใจ กงชิงวี่จะส่งคนไปดูแล รับใช้

“ดูแลเขาให้ดี อีกสักพักข้าจะไปดู”

อันหลิงหยุนกินข้าวเสร็จก็ไปดูเสินหยุนเจ๋ เขานอนอยู่ ข้างในจริงๆร่างกายอ่อนเพลียมาก

อันหลิงหยุนตรวจดูให้เขา คนถือว่าไม่เป็นอะไรแล้ว เพียงแต่ยังอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่ก็เป็นเพราะร่างกายถูก พิษ

เห็นท่าทางของเสินหยุนเจ๋อันหลิงหยุนรู้สึกโชคดีมาก ดี ที่เป็นมืออยู่ไม่สุขของเสินหยุนเจ๋จะช่วยนางปักปิ่นปักผม ไม่เช่นนั้นกงชิงวี่เองก็มือไม้อยู่ไม่สุขเช่นกัน คนที่นอนอยู่ ตอนนี้คงจะเป็นกงชิง

อันหลิงหยุนหยิบเอายามาให้เงินหยุนเจ๋ เขากินเสร็จแล้วก็เริ่มมองอันหลิงหยุน

“ร่างกายข้ายังไม่แข็งแรง ไม่สามารถกลับไปได้ เพื่อ ไม่ให้มีปัญหา อีกสักพักหนึ่งข้าจะไปชายแดนแล้ว เจ้าก็ ไม่ต้องรีบร้อนไล่ข้าหรอก”

อันหลิงหยุนรู้สึกประหลาดใจ นางนั่งลงไปแล้วถาม

“เจ้าจะไปไหน?”

“ชายแดน เดิมข้าก็อยากไปเฝ้าชายแดนแล้ว ในเมือง หลวงไม่ขาดแคลนแม่ทัพ แม่ทัพมีอยู่ทุกที” เสินหยุนเจ๋อ่ อนเพลียไร้เรี่ยวแรง อันหลิงหยุนก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขา ต่อ

ตรวจดูให้เขาแล้วอันหลิงหยุนก็ไปข้างนอก

พ่อบ้านตามอันหลิงหยุนไป ถาม “พระชายา เสินหยุนเจ๋ จะไปชายแดนหรือ?”

“อืม”

อันหลิงหยุนไม่มีอะไรที่อยากจะพูด

ที่จริง เหล่าทหารทั้งหลายที่อยู่ชายแดนสามารถสู้ รบได้อย่างซื่อสัตย์ ปกป้องราชวงศ์นี้ ไม่ได้เป็นเพราะ ต้องการปกป้องบ้านเมือง นั่นอาจจะเป็นความคิดในตอน แรก แต่ที่จริงสาเหตุสำคัญที่สุดของพวกเขา คือพ่อแม่พี่ น้องและลูกๆอยู่ในกำมือฮ่องเต้
ในเมืองหลวงแห่งนี้ ผู้หญิงกับเด็กมากมาย ลูกสาว แม่ทัพใหญ่อยู่ในจวนท่านอ๋อง ลูกสาวของเฉินเสี้ยงอยู่ใน มือฮ่องเต้ แม้แต่หลานสาวของไท่ฟูยังอยู่ในมืออ่องตวน

ในโลกนี้ต้องมีสิ่งคอยควบคุมกันไว้อยู่

และบรรดาแม่ทัพที่ออกไปสู้รบข้างนอก ไม่ว่าจะมี ความดีความชอบมากแค่ไหน พูดตามจริงแล้ว ก็เพื่อให้ ฮ่องเต้พอใจ เพื่อให้ลูกสาวสามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ที่

นางกับหยุนโล่ชวนถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด

ฮ่องเต้ ไทเฮาต่างก็ไว้หน้า

ไม่ใช่เพราะว่าคุณงามความชอบของตระกูลเยอะหรือ ภักดี บวกกับคุณงามความชอบ ยังมีอะไรที่ทำให้ฮ่องเต้ สบายใจไปกว่าสิ่งเหล่านี้อีก

ก็ต้องให้อภิสิทธิ์และประโยชน์มากมายอยู่แล้ว

พ่อบ้านกลับไม่คิดเช่นนี้ แค่คิดว่าเงินหยุนเจ๋จะไป แล้ว พ่อบ้านก็รู้สึกวางใจมาก ทีนี้ก็ไม่มีคนสามารถสร้าง ปัญหาให้กับท่านอ๋องแล้ว

อันหลิงหยุนไปศึกษายาพิษตลอดช่วงเช้า ช่วงบ่ายถึง จะเห็นกงชิงวี่

คนกลับมานางก็ไปหา เจอกันที่หน้าประตูอันหลิงหยุน เห็นสีหน้ากงชิงวี่ไม่ค่อยดี
“เป็นอะไรไป?” อันหลิงหยุนถาม

“เมื่อคืนอ่องจวิ้นเสี้ยวตีป่ายชิงชิงจนตายทั้งเป็นต่อ หน้าคนรับใช้ในจวน

ยังมีลูกในท้องของป้ายชิงชิง ตอนถูกตีลูกก็แท้งไป

เลือดไหลไปทั่ว ตัวเขาเองตีคนเสร็จก็เป็นบ้าไป ใช้มีด

ทำร้ายตัวเองในจวน ตอนนี้อันนั้นของเขาไม่มีแล้ว!” ตอนกงชิง พูดเรียบเฉยมาก แต่อันหลิงหยุนก็ยังฟังที่ เขาพูดไม่ออกเล็กน้อย

“อันนั้นคืออันไหน?”

กงชิงวี่เหลือบมองไปที่คนที่อยู่หน้าประตู หลังจากคน ถอยออกไปแล้ว เขากระซิบที่ข้างหูอันหลิงหยุน อันหลิง หยุนตกใจ “เป็นขันทีแล้ว”

กงชิงวี่กล่าว “ร้ายแรงกว่าขันทีอีก ขันทียังมีของ เพียง แต่ไม่สามารถใช้งานได้ แต่เขาใช้มีดตอนของตัวเองแล้ว ได้ยินว่าตอนนี้ข้างล่างเหลือของแค่สองสิ่งแล้ว”

อันหลิงหยุนตกตะลึง “ตอนแล้ว?”

กงชิงวี่ดึงอันหลิงหยุนเข้าไป นั่งลงไปดื่มน้ำคำหนึ่งก่อน ถึงกล่าวว่า “ข้าได้ยินจากหมอจวนของเขา แต่ว่าข้าก็เห็น จริงๆ เขานอนถ่างขาอยู่บนเตียง เปิดกว้างเอาไว้ ไม่ได้ใส่ กางเกง ใช้ผ้าขาวคลุมเอาไว้

คนรอบข้างเป็นผู้ชายหมด อ๋องหกกับพี่น้องของเขาก็อยู่ พวกเขาต่างทําหน้าเศร้า และได้ยินมาว่า ไม่มีใครใน ประเทศต้าเหลียงสามารถช่วยได้

ด้านข้างมีถาดวางไว้อันหนึ่ง ได้ยินว่าของที่อยู่ข้างใน คือของๆเขา ข้างบนยังคลุมด้วยผ้าขาวผืนหนึ่ง

ข้าไม่สังเกตดูดีๆ กลัวว่ากลางคืนจะนอนฝันร้าย”

อันหลิงหยุนนั่งลง “ท่านอ๋อง คำพูดท่านฟังราวกับว่า ยินดีในความโชคร้ายของเขา”

“ข้าไม่ได้ยินดีในความโชคร้ายของเขา ข้าแค่นึกสงสัย เขาเป็นเช่นนี้แล้วต่อไปจะใช้ชีวิตอย่างไร?”

“ข้าไม่เชื่อหรอก” อันหลิงหยุนคิดอยู่สักครู่ “ที่จริงถึง แม้จะตอนลงมาแล้ว เพียงแค่มีห้องปลอดเชื้อกับเตียง ผ่าตัด ก็สามารถช่วยเขาต่อกลับไปได้

“ข้าไม่สนใจเขาหรอก เจ้าก็ห้ามไป เป็นผู้หญิงจะไปทำ

เรื่องเช่นนั้นกับชายอื่นได้อย่างไร?”

กงชิงวี่ไม่พอใจแล้ว

อันหลิงหยุนยิ้มออกมา “ข้าไม่ไปหรอก ข้ายังกลัวจะ นอนฝันร้าย แต่ว่าหากสู้สู้ยังมีชีวิตอยู่ นางสามารถช่วย เขาได้ ถึงอย่างไรนางก็เป็นหมอ ข้าแค่ช่วยชี้แนะนิด หน่อย นางน่าจะดำเนินการได้ ถึงแม้ว่าในอนาคตจะ กลายเป็นขยะไร้ค่าแต่อย่างไรเสียก็ถือว่ามีอยู่ พอจะไม่ ให้คนหัวเราะเยาะได้
ท่านอ๋อง ท่านรู้หรือไม่ เขาเป็นเช่นนี้ทรมานกว่าวันที่ อีก?”

กงชิง เลิกคิ้ว “ข้าไม่รู้

“ท่านอ่องคิดดูสิ ขันทีคือยอมแพ้แต่แรกไม่ไปแตะต้อง ผู้หญิง แต่อ่องจวิ้นเสี้ยวเป็นดั่งพ่อพันธุ์ม้า(มีเสน่ห์ดึงดูด ให้ผู้หญิงคลั่งไคล้) แม้นอนฝันก็ยังอยากจะหาผู้หญิง เนื้อ แท้ไม่เหมือนกัน

ก็เหมือนท่านอ๋องท่าน ที่ผ่านมาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงก็ แล้วไป ร่างกายก็ไม่เคยกระสับกระส่ายร้อนรน แต่เวลานี้ หากไม่แตะต้องผู้หญิงแล้ว ท่านอ๋องจะทำอย่างไร?”

สีหน้ากงชิงวี่ขรึมลง กล่าวอย่างไม่พอใจว่า

“ข้าจะเหมือนกันได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าข้าแยกจาก ผู้หญิงไม่ได้ ข้าแค่ไม่สามารถแยกจากพระชายาได้ มโนธรรมเช่นเจ้าได้ต่างหาก!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ