บทที่ 277 การตัดสินใจครั้งสุดท้าย
กงชิง สายหัว: “ไม่ใช่ น่าจะเป็นคนที่อยู่ในชีวิตข้ามา ตลอดชีวิต แต่เสียดายที่พวกเขาลงมือแนบเนียนมาก ขอ เพียงแค่ข้าพอจะสืบเจออะไรบางอย่างได้ พวกเขาจะ ต้องส่งคนที่ข้าหาเจอมาให้ข้าประหารอย่างแน่นอน เพื่อ ขอความคุ้มครอง
ข้าคงทำได้เพียงสืบหาต่อไป อีกทั้งคนที่ไม่น่าจะเป็นไป ได้ที่สุด ก็อาจจะเป็นไปได้ และคนที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุด ก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกัน ไม่ได้สืบกันง่ายๆเลย
อ๋องทั้งแปดท่านได้ฝึกฝนคนรุ่นถัดไปเอาไว้แล้ว ใน บรรดาคนเหล่านี้ ได้มีหนึ่งคนที่ถูกเลี้ยงดูมาให้สามารถ รับผิดชอบทั้งหมดได้ คนคนนี้ต่างหากคือคนที่ข้า ต้องการหาตัว
ตะขาบแม้จะตายแล้วแต่ก็ยังไม่หยุดขยับ แต่หากขาด หัวไป เขาก็เป็นได้เพียงแค่ตะขาบตัวหนึ่งที่รอความตาย เท่านั้น”
อันหลิงหยุนรู้สึกโศกเศร้าจนหาอะไรเปรียบไม่ได้ เพียง แค่ข้ามเวลาเท่านั้น แล้วจะก่อกบฏครั้งใหญ่ขนาดนี้เพื่อ อะไรกัน เหมือนกับสงครามสายลับก็ไม่ปาน
อันหลิงหยุนพูดว่า: “ท่านอ๋อง นี่ก็ดึกแล้ว พวกเราไปพัก ผ่อนกันเถอะเพคะ พรุ่งนี้ยังต้องไปหาหัวตะขาบกันต่อ อีก”
“อืม”
เช้าวันรุ่งขึ้น อันหลิงหยุนได้รับสารจากจวนอ๋องตวน กล่าวว่าพระชายาตวนเชิญนางให้ไปตรวจโรคในจวน
อันหลิงหยุนถือกล่องยาไป มุ่งหน้าไปยังจวนอ๋องตวน
วันนี้จุนฉูฉูยนรออันหลิงหยุนอยู่ที่ประตูนานแล้ว เมื่อลง จากรถม้า ก็เห็นจุนฉูฉูยืนรออยู่ที่ประตูอย่างสง่างาม เมื่อ เห็นอันหลิงหยุนก็รีบพยักหน้า: “เจ้ามาแล้ว?”
อันหลิงหยุนไม่รู้ว่าจุนฉูฉูคิดจะเล่นลูกไม้อะไรอีก แต่ก็ ถือเสียว่าน่าสนใจ
“ท่านให้คนไปเรียกข้ามาเพื่อรักษาโรคสินะ เมื่อวาน ท่านได้ดื่มยาหรือยัง?” อันหลิงหยุนพูดอย่างตรงไปตรง มา จะได้รีบกลับ
จุนฉูฉูพูดว่า: “ดื่มแล้ว วันนี้มือและเท้ารู้สึกอบอุ่นขึ้น มาก”
“ดังนั้นท่านเชื่อข้า จึงได้ให้ข้ามาตรวจให้ท่าน?” อัน หลิงหยุนพอจะคิดออกแล้ว
“ไม่ใช่เพราะดื่มยาทั้งหมด ยังมีอีกเรื่องก็คือ เมื่อวานข้า ส่งคนกลับไปยังจวนจุน แม่นมที่รับผิดชอบหน้าที่ดูแลข้า กล่าวว่า จริงๆแล้วข้าเคยได้รับบาดเจ็บตอนอายุหกขวบ ตอนหกขวบข้าฝึกศิลปะการต่อสู้ ที่ท้องถูกไม้พลองที่ม เข้าไป เจ็บอยู่กว่าครึ่งเดือน เดิมทีคิดว่าข้าคงจะไม่รอด ตามหมอมาดูจนทั่ว จนในที่สุดเวลาผ่านไปครึ่งเดือนข้าก็ ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“เช่นนั้นคงจะไม่ผิด น่าจะเป็นตอนหกขวบแน่” อันหลิง หยุนไม่สนใจว่าจะเคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกับจุนฉูฉูมา ก่อน แต่ในเรื่องการรักษานั้นจะต้องจริงจัง
“เชิญพระชายาเสียน”
จุนฉูฉู่เชิญอันหลิงหยุนเข้าไป อันหลิงหยุนจึงเดินตาม ไปยังตำหนักฉู่ซวน
ตรวจดูจุนฉูฉูอยู่สักครู่ แล้วอันหลิงหยุนก็พูดว่า : “ให้ ท่านดื่มยาต่อไปก็จะดีขึ้น”
อันหลิงหยุนลุกขึ้น เตรียมตัวกลบ จุนฉูฉูเองก็ลุกขึ้น ยืน: “พระชายาเสียนช้าก่อน”
อันหลิงหยุนหยุดเดิน แล้วหันมามองจุนฉูฉู จุนฉูฉูนำ กล่องใบหนึ่งออกมาให้อันหลิงหยุน: “สิ่งนี้ข้าขอมอบให้ เจ้า ข้าไม่ติดค้างหนี้บุญคุณใคร นี้ถือว่าข้าตอบแทนบุญ คุณเจ้าก็แล้วกัน”
อันหลิงหยุนเหลือบมองกล่อง: “ของขวัญข้าคงไม่รับ ไว้ ถ้าหากท่านคิดว่าติดค้างหนี้บุญคุณข้าแล้วล่ะก็ ให้ เป็นเหรียญเงินข้าแทนสิ ข้าชอบเหรียญเงินมาก ไม่มาก หรอก ข้าออกตรวจหนึ่งครั้งคิดแค่หนึ่งพันเหรียญเงินก็ พอแล้ว”
“หนึ่งพันเหรียญเงิน?” จุนฉูฉูตะลึงเล็กน้อย: “นี่เจ้าล้อ เล่นใช่หรือไม่?”
“หรือว่าพระชายาเสียนไม่มีค่าพอเทียบเท่าเงินหนึ่งพันเหรียญเชียวหรือ?” อันหลิงหยุนเดินออกมาจากตำหนัก ฉู่ซวน ไม่ทันได้รอให้จุนฉูฉูพูดอะไร นางก็พูดต่อว่า: “ถ้า หากเสียดายก็ช่างเถอะ ข้าจะถือเสียว่ารักษาโดยไม่คิด เงิน”
อันหลิงหยุนเดินออกมา โดยมีจุนฉูฉูเดินตามออกมา ทางด้านหลัง แล้วจึงยื่นกล่องในมือใส่เข้าไปในมือของ อันหลิงหยุน: “เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ส่วนนี่เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆจากข้า หากเจ้าไปต้องการ จะโยนทิ้งเสียก็ได้”
แล้วจุนฉูฉูก็หันหลังเดินกลับตำหนักฉู่ซวนไป อันหลิง หยุนก้มลงมองกล่อง แล้วเปิดดูข้างใน เป็นปิ่นปักผม ไข่มุกหนึ่งเล่ม จึงหยิบออกมาดู มุกสองสามเม็ดที่ประดับ อยู่ด้านบนล้วนแล้วแต่เป็นมุกน้ำดี เป็นของดีจริงๆ แต่น่า เสียดายที่อันหลิงหยุนไม่ชอบ จึงได้หักแล้วทิ้งลงข้างๆ
นางไม่อยากได้ ใครอยากได้ก็เอาไป
อันหลิงหยุนกลับออกมาจากจวนอ๋องตวน ภายในรถม้า มีนางคนเดียว อาหยู่ตามรถม้ามา อันหลิงหยุนรู้สึกเวียน หัวเล็กน้อย รอจนกระทั่งรถม้ามาถึงจวนอ๋องเสียน อาห ยู่ก็เรียกอันหลิงหยุนให้ลงมาจากรถม้า แต่ภายในรถม้า กลับไม่มีเสียง อาหยู่รู้สึกว่าผิดปกติ จึงขึ้นไปบนรถแล้ว เปิดผ้าม่านดู ก็เห็นอันหลิงหยุนนอนอยู่ภายในรถม้า บน รถม้ามีกองเลือดอยู่หนึ่งกอง
“พระชายา” อาหมู่ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ไม่กล้า เข้าไปแตะต้อง
แล้วอาหยู่จึงวิ่งลงจากรถม้าเพื่อไปตามคนในจวนมาเมื่อคนในจวนออกมา อาหยู่ก็อุ้มอันหลิงหยุนเข้าไปใน จวนอ๋องเสียน
พ่อบ้านเห็นเลือดก็ตกใจจนมือเท้าสูญเสียการควบคุม: “ท่านอ๋อง รีบไปตามท่านอ๋องมาเร็ว”
คนที่อยู่ด้านนอกประตูจวนต่างวิ่งหากงชิงกันอย่าง จ้าละหวั่น รอจนกงชิงวี่กลับมาถึง เมื่อเปิดประตูเข้ามาอัน หลิงหยุนก็สูญเสียเลือดไปจำนวนมากแล้วหมอจวนโจว เองก็ไม่สนใจว่าเด็กยังอยู่หรือไม่ เขาเชื่อว่าอันหลิงหยุ นจะต้องไม่เป็นอะไร เพราะหากเป็นอะไรจริงๆ ชีวิตของ เขาเองก็คงหาไม่เช่นกัน
กงชิงวี่ทำใจเข้าเดินเข้ามาด้านใน ตะโกนเรียกหยุนๆ แล้วรีบมุ่งตรงเข้าไปหา แล้วจึงกุมมืออันหลิงหยุนขึ้นมาดู เสื้อผ้าสีขาวถูกย้อมไปด้วยสีแดงช่างน่าตกใจยิ่งนัก
หมอจวนโจว รีบพูดว่า : “ท่านอ๋องทรงว่างพระทัย จะ ต้องไม่เป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ”
หงเถาลุ่ยหลิ่วต่างก็ตกใจจนมือเท้าอยู่มาสุก กงชิงวี่เชื่อ ว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย แต่เขาเองก็ยังเป็นห่วง
กงชิงวี่โบกมือ ทุกคนจึงออกไปข้างนอก เมื่อปิดประตู ลง กงชิงวี่ก็อุ้มอันหลิงหยุนขึ้นมาจากเตียง ทั้งตัวเต็มไป ด้วยเลือด
ใบหน้าซีดเผือดของอันหลิงหยุน ซบอยู่บนไหล่ของกง ชิงวี่ กงชิงวี่ฝืนยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความดุร้าย ในตามีน้ำตาเอ่ออยู่
“ข้าจะฆ่าพวกเขา จะฆ่าทุกคน จึงจะทำให้อันหลินหยุน ปลอดภัยได้
คิ้วของอันหลิงหยุนกระตุก พยายามที่จะตื่นขึ้นมา แต่ เสียดายที่ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง
รู้สึกว่าร่างกายเจ็บปวดมาก ความเจ็บปวดไปรวมอยู่ ตรงจุดเดียวกัน
อันหลิงหยุนเจ็บจนแทบจะไม่มีความรู้สึกแล้ว
แต่นางมีความเชื่ออยู่เพียงเรื่องเดียวก็คือ จะต้อง ปกป้องลูกของนางให้ได้
กงชิงวี่กอดอันหลิงหยุนแน่นอยู่เช่นนี้ อันหลิงหยุนถูก กอดอยู่หลายชั่วยาม จึงจะมีความร้อนในร่างกายขึ้นมา
เมื่อลองคลำดู กงชิงวี่ก็วางคนลง
“เด็กๆ ไปจวนอ๋องจวน แล้วเชิญอ๋องตวนกับพระชายาต วนมา ให้พาพระชายารองหยุนมาด้วย”
กงชิงวี่ที่อยู่ในชุดสีขาวนวล ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยสี แดงของเลือด ด้านนอกอาหยู่รีบรับคำสั่งทันที
ตวนอ๋องถูกเชิญมาจากบนถนน
ที่ตำหนักกั๋วกงมีแค่เพียงแม่นมเว่ยที่คอยอยู่เป็นเพื่อน หยุนโล่ชวน ส่วนคนที่เหลืออยู่เป็นเพื่อนจุนฉูฉู
จุนฉูฉูไม่กลัว อย่างมากก้แค่ถูกฉีกหน้า แล้วจะเป็นไร ไป?
ทุกคนมาถึงลานโอวหลาน ประตูห้องของอันหลิงหยุน เปิดออก กงชิงวี่ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด เดินออก มาด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก
อ๋องตวนตกใจเป็นอย่างมาก ชี้แล้วถามว่า: “เจ้าเป็น อะไรไป?”
กงชิงวี่ยืนเอามือไขว้หลัง สีหน้าเย็นชา : “วันนี้หยุนหยุน ไปตรวจรักษาให้พระชายาตวนที่จวนอ๋องตวน ตอนไปก้ ยังดีๆอยู่ แต่ระหว่างทางกลับเกิดเรื่องขึ้นในรถม้า ตอนนี้ เลือดที่อยู่บนตัวข้ามาจากในท้องของนาง ข้าเองก็ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้น ข้าจึงอยากถามพระชายาตวนว่า เลือดบน ตัวของข้ามันเกิดจากอะไรกัน?”
เป็นครั้งแรกที่จุนฉูฉูเห็นสีหน้าเช่นนี้ของกงชิงวี่ ดูดุร้าย ราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้คนรู้สึกกลัวจริงๆ
จุนฉูฉูรู้สึกกลัวเล็กน้อย จึงได้ถอยไปก้าวหนึ่ง: “อ๋อง เสียนช่างรู้จักพูดจาล้อเล่นนะเพคะ”
“ล้อเล่น? ข้าล้อเล่นเมื่อไหร่กัน? ฝีมือของพระชายาต วนยอดเยี่ยมยิ่งนัก ทำให้ข้ามองไม่ออกเลยจริงๆ
อาหมู่บอกว่าเจ้ามอบกล่องให้หยุนหยุนใบหนึ่ง เปิดออก มาด้านในเป็นปิ่นมุก ขอถามหน่อย ปิ่นมุกอันนั้นไม่อยู่ แล้ว ตอนนี้หยุนหยุนนอนไม่ได้สติอยุ่ จึงไม่มีหลักฐาน ข้า เองก็ไม่มีตำแหน่งอะไร ไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้”
อ๋องตวนหน้าถอดสีทันที: “ฉูฉู เจ้าเป็นคนทําหรือ?”
“ท่านอ๋อง ฉูฉูจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ไม่มีหลักฐาน เช่นนี้ไม่เท่ากับว่าโยนความผิดให้คนอื่นหรอกหรือ? ท่าน อ๋อง หรือว่าท่านไม่เชื่อฉูฉู?” จุนฉูฉูร้องจนรู้สึกน่าสงสาร อ๋องตวนกุมมือนาง แล้วมองไปที่กงชิงวี่ เขาเองก็ลำบาก ใจ
“เรื่องนี้มีอะไรเข้าใจผิดกันหรือเปล่า?”
กงชิงวี่เดินเข้าไป เขาไม่อยากพูดอะไร เขาอยากฆ่าคน
จุนฉูฉูถอยหลัง: “ท่านอย่าเข้ามา อย่าเข้ามา
“อาหยู่ ไปเอาดาบของข้ามา” กงชิงวี่เดินก้าวเข้าไป ฉูฉูตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จุน
อาหยู่โยนดาบให้กงชิงวี่ กงชิงวี่รับเอาไว้
“ระหว่างเจ้ากับข้าขาดก็แต่เพียงตัดความสัมพันธ์กัน ดังนั้นวันนี้ถือว่าเจ้ากับข้าขาดกัน”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ