บทที่ 238 ท่านอ๋องคิดมากแล้ว
ฮ่องเต้ชิงหยู่ไปหาจุนเซียวเซียว เงินเฉิงเลี้ยงได้รับ ข่าวก็รู้แล้วว่า เสินหยุนเอ๋อได้ทำลายตระกูลเงินไปแล้ว
จุนเซียวเซียวไม่ได้พบหน้าฮ่องเต้ชิงหยู่มาสักพักหนึ่งแล้ว
เห็นฮ่องเต้ชิงหยู่รู้สึกแปลกใจไม่น้อย รีบร้อนให้การ ต้อนรับ
คืนนั้นฮ่องเต้ชิงหยู่ประทับที่วังสวยหัว
เสินหยุนชูไม่ได้หลับทั้งคืน นั่งอยู่บนเตียงมองไปทาง ประตูตลอด จนที่สุดแล้วฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ไม่ได้มา
“พระนางควรพักผ่อนแล้วเพคะ”
แม่นมซีเข้ามาหน้าประตู คำนับ หยิบเสื้อตัวหนึ่งมาคลุม ให้จุนเซียวเซียว
เสินหยุนชูดึงเสื้อมาคลุม มือหล่นไปที่มือของแม่นมซี ทั้งเย็นและหนาวเหน็บ
แม่นมซีมองไปที่เสินหยุนชู “พระนางถนอมพระวรกาย ด้วย”
เสินหยุนชูส่ายหน้า “ที่ผ่านมา ข้าคิดมาตลอดว่า ข้าจะ ไม่ถือสาได้ เพราะว่าข้าก็รักเขา
แต่ว่าตั้งแต่ที่เขาไปทางนั้น มีผู้หญิงคนอื่น ข้าถึงได้รู้ว่า ข้าทำไม่ได้
แม่นม รวบเสื้อคลุมให้เงินหยุนซู หันหลังไปเทน้ำร้อน ให้เงินหยุนชูแก้วหนึ่ง “พระนาง ดื่มน้ำหน่อยเถอะ
เสินหยุนชูเงยหน้ามองแม่นมซี “ข้าอยากไปดู เจ้าไปดู กับข้า
“เพคะ”
เสินหยุนชูออกมาจากวังเพิ่งหยีไปยังพระตำหนักจริง จิต ยืนอยู่ตรงหน้าพระตำหนักจรุงจิตสักครู่ นอกจากกง กงและนางกำนัลที่อยู่เวรแล้ว ไม่พบคนอื่น
แม่นมซีถาม “พระนาง ยังไปอีกหรือไม่?”
“เวลายังเช้าอยู่ ไปดู
เสินหยุนชูเดินไปทางวังสวยหัว แม่นมซีตามอยู่ข้างหลัง ทั้งสองไปถึงหน้าวังสวยหัว ประตูวังยังปิดอยู่ แม่นมซีเดินไปดูหน้าประตู ในวังก็ยังเงียบอยู่ แม่นมซีหันกลับมา ไม่ได้ตอบอะไร เสินหยุนชูยืนอยู่สักครู่ “สวีกงกงล่ะ?” ที่สุดแล้วก็ยังไม่ตายใจ
แม่นมซีหันหลังกลับไป เดินจนถึงหน้าประตูวังแล้วเคาะ ประตู
ไม่นานก็มีคนออกมาจากข้างใน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นสวี กงกง
เห็นแม่นมซีสวีกงกงก็รู้ว่าฮองเฮามา รีบออกจากลาน รีบร้อนน้อมทักทายเงินหยุนชู มองไปรอบๆไม่มีคน “พระนางทำไมท่านถึงมาได้? แม่นมซี เร็วเข้า ส่งพระนาง กลับวัง”
แม่นมซีจึงหันหลังกลับไป ส่งเสินหยุนชูกลับไป
ตลอดทางที่เดินมา เสินหยุนซูปวดเศียรเวียนเกล้า แข้ง ขาอ่อนแรง
แม่นมซีประคองเอาไว้ ฟังเสินหยุนชูกล่าว “เวลาราชกิจ
เช้าก็ผ่านไปแล้ว ไม่ไปที่พระตำหนักกังคุน แต่ยังอยู่ที่นั่น
หลายปีมานี้ ข้าไม่เคยปล่อยให้ล่าช้าจนถึงเวลานี้”
แม่นมซีมองไป “พระนาง ถนอมพระวรกายด้วย
เสินหยุนชูพยักหน้า “ราชวงศ์ไร้ซึ่งความปรานี ข้ามัน ลืมตัวไปเอง แม่นมซี.………….
“พระนาง…….”
“กลับเถอะ!
“เพคะ!”
วังชั่วหยาง
ฮั่วไท่เฟยแปลกใจ “เมื่อคืนฮ่องเต้ประทับที่วังสวยหัว?”
แม่นมเว่ยกล่าวว่า “เป็นเช่นนั้นเพคะ ตอนเช้าก็ไม่ได้ ออกว่าราชกิจด้วยเพคะ”
“เป็นเรื่องแปลกใหม่จริงๆ นี่ฮ่องเต้เปิดใจแล้ว หรือว่ามี อะไรผิดปกติ?” ฮั่วไท่เฟยจัดดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน รู้สึก มึนงงไม่เข้าใจ
แม่นมเว่ยก็ไม่รู้จะตอบยังอันใดดี
กลับเป็นฮั่วไท่เฟย กล่าวว่า “แม่นม เมื่อวานให้เจ้าไป ถามเรื่องนั้น เจ้าถามมาหรือยัง?”
“ถามแล้ว” แม่นมเว่ยรีบร้อนตอบ
“ว่าอย่างไรบ้าง?”
“พระชายารองหยุนพักอยู่กับพระชายาเสียนมาสัก พักหนึ่งแล้ว ตั้งแต่อ๋องตวนออกจากวังจนถึงเมื่อวาน ยัง ไม่เคยกลับจวนอ๋องตวน พระชายาตวนก็ไม่ได้ไปรับ อ๋อง ตวนก็ไม่ไป!”
แม่นมเว่ยคิดอยู่ว่าจุนฉูฉูไม่รู้ความอะไรเลยจริงๆ ถึงแม้ จะรู้สึกไม่เต็มใจมากแค่ไหน ก็ไม่ควรไม่ไว้หน้าไท่เฟย แบบนี้ นึกไม่ถึงว่าจะทำเป็นเพิกเฉยไปได้
ฮั่วไท่เฟยกล่าวว่า “แม่นมเจ้าไปรอบหนึ่งเถอะ เรื่องนี้ ต้องจัดการให้ดี อย่าให้จวนกั๋วกงมาคิดบัญชีกับข้า ข้าจะ แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ลำบากเด็กคนนั้นแล้ว
เรื่องพระชายาเอกไม่ได้บอกหรือ ใครให้กำเนิดลูกก่อน ก็ให้คนนั้น ข้าชอบหลานที่ซื่อสัตย์และใจดีมากกว่า” แม่นมเว่ยถาม “พระนาง จุนฉูฉูทำแบบนี้ถือว่าเป็นการ
ไม่ให้เกียรติ แต่ว่ายังอันใดนางก็เป็นคนตระกูลจุน ตอน
แรกราชครูจุน…..
“ตอนแรกคือตอนแรก ข้าไม่ใช่คนโง่ นางนึกว่า ข้าจะ ไม่รู้ว่านางคิดอะไรอยู่ กลัวก็แต่หากมีวันนั้นขึ้นมาจริงๆ หยินเอ๋อก็ไม่อยู่ในสายตานาง
ลูกชายของข้า ข้ายังทนให้เขาน้อยใจไม่ได้ นางคิด ว่านางเป็นใคร?
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลจุนในตอนนี้ก็ไม่ใช่ย่อย จุนฉูฉูคน เดียวไม่เท่าไหร่ ส่วนจุนเซียวเซียวนั้น?
เงียบเกินไปกลับไม่ใช่เรื่องดี รอจนนางคลอดโอรส ให้ฝ่าบาท แล้วนางก็ยังอายุน้อยขนาดนั้นอีก ในวังแห่ง ………ช้าเร็วต้องเกิดความเปลี่ยนแปลง!
ตระกูลเสินกับตระกูลจุน ยังอันใดก็ต้องถ่วงสมดุลกัน”
แม่นมเว่ยพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”
แม่นมเว่ยออกจากวังไม่นานก็ไปถึงจวนอ๋องตวน จวนอ๋องตวนได้รับข่าว จุนฉูฉูแต่งตัวรอแม่นมเว่ยที่หน้าประตู แต่เช้า
แม่นมเวยลงมาจากรถม้า เดินตรงไปข้างหน้าจุนฉูฉูแล้ว คำนับ “คำนับพระชายา”
“แม่นมไม่จําเป็นต้องทำแบบนี้ แม่นมสบายดีหรือไม่? จุนฉูฉูใส่ชุดสีม่วงสดใส ปักปั่นหงส์ไว้บนศีรษะ ท่าทางที่ หยิ่งผยองคล้ายกับว่าควบคุมคนไว้นับหมื่น
เสื้อผ้าบนตัวนางไม่ใช่กลุ่มดอกไม้สีสันฉูดฉาด แต่ เหมือนนกที่บินทะยาน ซึ่งมันดูข้ามหน้าข้ามตาฮั่วไท่เฟย
แม่นมเว่ยเป็นคนเก่าคนแก่ในวัง ขนาดฮั่วไท่เฟยยังไม่ เคยทําเช่นนี้
กลัวว่าใจของจุนฉูฉูคงไม่คิดจะเป็นแค่พระชายาตวน แน่ๆ น่าเสียดายที่ทางนี้ถูกกำหนดให้เป็นทางตัน
แม่นมเว่ยกล่าว “สบายดี”
“แม่นมเชิญ” จุนฉูฉูเชิญแม่นมเว่ยเข้าประตู แม่นมเว่ย เป็นคนสนิทของฮั่วไท่เฟย
เป็นคนข้างกายตอนอ๋องตวนยังเด็ก พูดได้ว่าฐานะ สูงส่ง
จุนฉูฉูไม่กล้าชักช้า
แม่นมเว่ยเข้าประตูก็กล่าวว่า “ข้าน้อยมาตามรับสั่งไทเฟยให้ข้าน้อยมาเยี่ยมพระชายารองหยุน ทำไมพระชายารองยังไม่ออกมา?” ไม่ทราบว่า
มาถึงห้องโถงด้านหน้า แม่นมเว่ยไม่ได้นั่งลง ถามอย่าง ตรงไปตรงมา จุนฉูฉูเข้าใจทันที กลัวว่าวันนี้ไม่ได้มาดีแน่
“แม่นม วันนี้ฉูฉูตั้งใจจะไปรับพระชายารองหยุนอยู่ พอดี ได้รับจดหมายจากในวัง ก็เลยยังไม่ได้ไป ถ้ายังอัน ใดแม่นมรออยู่ที่นี่ก่อน ฉูฉูไปรับพระชายารองหยุนกลับ มา” จุนฉูฉูกล่าวเรียบๆ
แม่นมเว่ยถาม “ได้มีการแจ้งไปล่วงหน้าหรือไม่”
“แจ้งแล้ว แจ้งไปเมื่อคืนนี้ เรื่องนี้กำหนดการเอาไว้ แล้ว” จุนฉูฉูพูดปด เพราะไม่ห่วงว่าหยุนโล่ชวนจะพูดออก มา
แม่นมเว่ยก็ไม่มีเจตนามาทำให้จุนฉูฉูลำบากใจ จึงกล่าว ว่า “เมื่อเป็นเช่นนี้ เชิญพระชายาไปเถอะ ข้าน้อยจะรออยู่
“ได้ แม่นมรอสักครู่” จุนฉูฉูหันหลังออกจากจวนอ๋องต วนไป พาคนไปที่จวนอ๋องเสียน
ร่างกายอันหลิงหยุนยังไม่หายดี แต่นางรู้สึกแค่ว่า ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง แค่กระทบพลังชีวิตเท่านั้นเอง
เมื่อคืนกงชิงสี่นำเครื่องรางม้วนเหล็กมาให้กับนาง นางรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์อะไร แต่ในเมื่อเป็นของ พระราชทานของฮ่องเต้คนก่อน ต้องรับเอาไว้อยู่แล้วเก็บเอาไว้เผื่อได้ใช้
ดื่มซุปขาหมูไปนิดหน่อย อันหลิงหยุนเตรียมจะพักผ่อน
นางค่อนข้างเหมือนอยู่ไฟหลังคลอด คงจะอ้วนขึ้นไม่ น้อย
พ่อบ้านเข้ามาจากด้านนอก “ท่านอ๋อง พระชายา พระ ชายาตวนมา บอกว่าจะมารับพระชายารองหยุน”
อันหลิงหยุนแปลกใจ วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวัน ตกหรือ?
“ท่านอ๋อง ท่านยินแล้วใช่หรือไม่?” อันหลิงหยุนสงสัย จุนฉูฉูหรือจะดีขนาดนี้?
กงชิงวี่กล่าวว่า “นางมาได้ผิดจังหวะพอดี ตอนเช้าข้า ได้ยินว่าพระชายารองหยุนออกไปแล้ว”
อันหลิงหยุนนั่งลง “ท่านอ๋อง ไม่ใช่ว่ารู้อยู่แล้วว่าพระ ชายารองหยุนไม่อยู่ เลยตั้งใจมา?”
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร ข้าจะไปดู และส่งคนไปตามหา พระชายารองหยุน” ถึงแม้กงชิงวี่จะไม่ได้ขาดแคลนเรื่อง อาหาร แต่ถึงยังอันใดก็ไม่เต็มใจที่จะสนใจเรื่องในจวน อ๋องตวน
พระชายารองอ๋องตวน พักอยู่ที่จวนอ๋องเสียนของพวกเขาตลอด ถือเป็นเรื่องอะไรกันแน่?
กงชิงวี่เดินถึงหน้าประตูแล้วหยุดลง หันหลังไปทางอัน หลิงหยุน “หยุนหยุนคงไม่ได้สงสัยข้า?”
มือของอันหลิงหยุนถือกล่องบ๊วยเปรี้ยวเอาไว้ กำลังจะ เอาเข้าปาก ถูกกงชิงวี่หันกลับมาพูดแบบนั้นเกือบจะทำ หล่นลงพื้นไปไม่ได้กิน
อันหลิงหยุนรับบ๊วยเปรี้ยวไว้แล้วเอาเข้าปาก ดวงตาทั้ง คู่ของนางมองไปที่กงชิงวี่ชั่วขณะ “ท่านอ๋องคิดมากไป แล้ว!”
กงชิงวี่ก็รู้สึกว่าตัวเองคิดมากไป แต่เขามองดวงตาคู่ นั้นของอันหลิงหยุน ทำไมรู้สึกไม่มั่นใจเลย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ