ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 219 นางเป็นเบอร์อันใด



บทที่ 219 นางเป็นเบอร์อันใด

“นี่คืออันใด?”กงชิงวี่หยิบมีดทหารขึ้นมาเปิดดู อันหลิง หยุนกำลังจะไปห้าม ทันใดนั้นมือของเขาก็มีเลือดไหล ออกมา พอปล่อยมือมีดก็หล่นลงไปบนพื้น ทำให้เกิด เสียงโลหะกระทบกันขึ้นมา

อันหลิงหยุนรีบจับมือของกงชิงวี่ไว้ในทันที หยิบน้ำยา ฆ่าเชื้อขึ้นมาล้างแผลให้เขา จากนั้นก็พันผ้าเอาไว้

กงชิงวี่จ้องมองมีดที่อยู่บนพื้นด้วยความสนใจ มันเงาวับ จนใบมีดสามารถสะท้อนหน้าคนได้

ตอนที่อันหลิงหยุนกำลังทำแผลให้กับกงชิงวี่ กงชิงวี่ก็ โค้งลงไปเก็บขึ้นมา แล้วถามกลับไปว่า “นี่คืออันใด?”

“มีดทหาร

อันหลิงหยุนตอบอย่างช่วยมิได้ เห็นใบหน้าของกงชิงวิ่ ก็เข้าใจได้ว่าเขาชอบมีดเล่มนี้
ยังอันใดซะที่นี่ก็มิมีของอันใดที่ประณีตขนาดนี้

มีดแบบนี้ แม้แต่ที่ที่นางอยู่ก็ยังพบเจอได้ยาก พอมาที่นี่ ก็ยิ่งล้ำค่า

“เอาไว้ทำอันใด?”กงชิงวี่นั่งลง แผลที่อยู่บนนิ้วเขามิได้ ใส่ใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

อันหลิงหยุนนั่งลง “ของแบบนี้ในที่ที่พวกเราอยู่ ใน หน่วยของพวกเรา มีกันทุกคน แต่พวกเราก็มีแค่สิบกว่า

คน

เล่มนี้เป็นของซูโมู่หรง

“ซูโมู่หรง?”กงชิงวี่แสดงสีหน้าที่มิพอใจ “ฮี!
อันหลิงหยุนคิดว่ากงชิงวี่คงจะโยนมีดที่อยู่บนมืดทิ้ง ปรากฏว่าเขามีท่า แถมยังพูดอีกว่า “อย่างนั้นข้าก็ยิ่ง คืนให้เขามิได้แล้ว”

..”อันหลิงหยุนรู้สึกนับถือความคิดฉ้อโกงที่สุดยอด นี้ แย่งของคนอื่นไปยังทำตัวสูงส่งขนาดนี้อีก

“ถ้าเจ้าชอบก็เก็บไว้เถอะ”อันหลิงหยุนพูดด้วยความ จริงใจ

กงชิงวี่จ้องไปมาแล้วถามว่า “ก่อนหน้านี้มิเห็นมีเลยนี่?”

“บอกไปเจ้าอาจจะมิเชื่อ”อันหลิงหยุนรู้สึกแบบนี้จากใจ

จริง

“มิบอกแล้วจะรู้ได้ยังอันใดว่าข้าจะเชื่อหรือเปล่า?”กง ชิงวี่มิพอใจยิ่งกว่าเดิม มีศัตรูที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ทำให้ รู้สึกมิสบายใจ
อันหลิงหยุนเล่าเรื่องที่เจอมีดทหารในวันนั้นให้ฟัง

กงชิงวี่รู้สึกแปลกใจ “เจ้าจะบอกว่า เจ้าฝันเห็นซูโมู่หรง กลายเป็นองค์รัชทายาท?”

อันหลิงหยุนพยักหน้า “ก่อนหน้านี้ข้าฝันเห็นเขาสวมชุด คลุมสีขาว ยังฝันเห็นเขาตายอีกด้วย หลังจากนั้นก็ฝัน เห็นอีกมิกี่ครั้ง ทุกครั้งก็รู้สึกประเดี๋ยวใกล้ประเดี๋ยวไกล แต่ครั้งนี้รู้สึกจะแปลกไปจากทุกที่ ราวกับว่าเขามาที่นี่ จริงๆ”

กงชิงวี่แสดงสีหน้าที่มืดมน “ต่อให้เขามาก็มิสามารถมี ชีวิตอยู่ได้

อันหลิงหยุนมองด้วยหางตา “แต่ทำไมถึงมีมีดเล่มนี้ได้ล่ะ?”

กงชิงวี่ก็มิรู้ว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังอันใด แต่เขามอง ไปมองมาก็หยิบฝักดาบขึ้นมา เป็นหนังสัตว์ แต่มิเหมือน กับหนังสัตว์ของพวกเขาที่นี่
“นี่คืออันใด?”

“นี่เป็นหนังสัวต์ที่ผ่านการขัดมาแล้ว การขัด จะช่วยให้ ทนทานขึ้น”

อันหลิงหยุนหยิบมีดใส่เข้าไปข้างใน เอาหนังเก็บไว้ที่ ตัว “มีดมันเก็บความเย็น ตอนฤดูหนาวถ้าเก็บไว้กับตัวมัน จะหนาวมาก พวกเราเก็บไว้ที่นี่”

อันหลิงหยุนเก็บมีดทหารไว้บนขากางเกง ตบไปตบมา แล้วก็หยิบขึ้นมา “ข้างในรองเท้ามันมีซองหนัง ข้างนอก ยังมีอีกชั้น เพื่อป้องกันข้อเท้า สามารถหนีบไว้บนนี้ได้ ถ้า เกิดเป็นโลหะ ก็คือ เหล็ก ทองแดง มันจะเย็นมากทำให้มิ สะดวก แถมยังตกลงไปได้ง่ายๆ เวลาจะใช้มันอาจจะมิ อยู่กับตัว

อีกอย่างก็คือ มีดที่ทำมาจากโลหะ ตอนเอาออกมา มัน จะเกิดเสียงขึ้นมา มีบางภารกิจ พวกเราจะทำให้เกิดเสียง มิได้”
กงชิงวี่เอามืดทหารมาหนีบไว้บนข้อเท้า พอตรวจสอบ อีกครั้งก็ยิ่งชอบเข้าไปอีก

“มันคมมัน”กงชิงวี่ชื่นชอบเป็นอย่างมาก

อันหลิงหยุนยิ้ม “อืม ใช่แล้ว”

“ข้าชอบมันมาก”กงชิงวี่เห็นสัญลักษณ์สามอย่างบนใบ มีด “นี่มันคืออันใด?”

“ตัวเลขอารบิก 0แทนความหมายว่ามิมี 1 ใช้แทนหนึ่ง ที่หนึ่ง”อันหลิงหยุนอธิบายอย่างละเอียด

“หมายความว่าอันใด?”

“หน่วยของพวกเรา มากสุดก็มิแสวยหนึ่งร้อย 00เป็นการบอกว่าข้างหน้ามิมีคน 1 ก็คือที่นี่ หมายถึงเก่ง ที่สุด”

กงชิงวถาม “นี่เป็นหมายเลขของซูโมู่หรง มีดเล่มนี้เป็น ของเขา เขาเป็นคนที่เก่งที่สุด?”

“อืม”อันหลิงหยุนอยากจะอยู่กับคนฉลาด กงชิงวี่ก็คือ

คนฉลาด

กงชิงวถาม “เจ้าล่ะ หมายเลขเท่าไหร่กัน?”

“เจ้าลองทายซิ!

“หมายเลขยี่สิบเก้า?”

“ฮ่าๆ……”อันหลิงหยุนอยากจะหัวเราะ
“หมายเลขอันไหล่ะ?”

อันหลิงหยุนลุกขึ้น “เจ้ามิมีวันทายถูกหรอก

กงชิงวี่อยากจะรู้ยิ่งกว่าเดิม ลุกขึ้นมายืน “ข้าจะต้องรู้ ให้ได้”

“อย่างนั้นก็ค่อยๆคิดซิ

กงชิง ทายไปหลายรอบแต่ก็มิถูก

กงชิงวี่มิทายแล้ว มองที่ใบมีดแล้วถามว่า “นี่เป็นเหล็ก อันใดกัน ทำไมถึงคมได้ขนาดนี้?”

อันหลิงหยุนรู้สึกว่ากงชิงวี่ราวกับเด็กน้อยที่เจอสมบัติ มิ รู้เรื่องอันใด อยากรู้อยากเห็นทุกสิ่งที่เขาเจอ
อันหลิงหยุนยิ้ม “นี่เป็นหนึ่งในวิธีการหลอมเหล็ก ตีใน ตอนที่อุณหภูมิสูงๆ แต่ข้าทำมิเป็นหรอกนะ”

กงชิงวิ่ผิดหวัง “ทำไมถึงมิเป็นล่ะ?”

“ข้ามิใช่คนที่ทำได้ทุกอย่าง ถ้าเกิดข้าทำได้ทุกอย่าง ข้าก็คงกลับไปแล้ว”

“เจ้ากล้ารึ?”

กงชิงวี่รีบเดินเข้าไปอยู่ตรงหน้าของอันหลิงหยุน กอด อันหลิงหยุนด้วยความโกรธ “อย่าพูดแบบนี้อีกนะ ถ้าเกิด หลิงหยุนมิยอมกลับใจ ข้าก็คงมีแต่ต้องขังเจ้เอาไว้”

“.….….……..อันหลิงหยุนมิสนใจ กลับคิดขึ้นมาว่า ทำไมจู่ๆถึง มีมีดเพิ่มขึ้นมาหนึ่งเล่มได้กันนะ?

“ตอบข้ามา”
“อืม”อันหลังหยุนถึงว่าตอบตกลงแล้ว

กงชิงวี่จูงมืออันหลิงหยุนกลับไป มือกุมมีดทหารไว้แล้ว ตั้งคำถามขึ้นมากมาย อันหลิงหยุนพอได้พูดคุยความ กลัวจึงหายไป พักผ่อนอยู่ในอ้อมกอดของกงชิงวี่ กงชิงวี่ ถือมีดไว้บนมือแล้วเริ่มตรวจดูอย่างละเอียด

ฮ่องเต้ชิงหยู่อยู่กับหวางฮองไทเฮา หวางฮองไทเฮา มองเขาไปแวบหนึ่ง “นี่กี่โมงกี่ยามแล้วทำไมยังมิกลับไป พักผ่อนอีก มาทำอันใดในที่ของข้า?”

“องค์หญิงใหญ่ได้ลงมือทำร้ายคนแล้ว ได้ข่าวว่าทำนิ้ว ของพระชายาอ๋องชินเฉิงหักไปสามนิ้ว หลังจากนี้ก็มิมี ทางกลับมาเหมือนเดิมได้อีก

หญิงสาวคนหนึ่ง หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ หลังจากนี้ก็ คงมิมีหน้าไปเจอใครได้อีก
พระชายาอ๋องชินเฉิงเดิมที่ก็เป็นทุกข์อยู่แล้ว ยิ่งโดน แบบนี้เข้าไป ได้ข่าวว่าพระชายาอ๋องชินเฉิงมิยอมเสวย อันใด”

หวางฮองไทเฮาดูซึมเศร้า “ความเมตตาของฮ่องเต้ข้า นั้นเข้าใจดี แต่ฮ่องเต้ก็คงจะเข้าใจนิสัยขององค์หญิง ใหญ่ดี มิใช่ว่าข้ามสงสารพวกเขา แล้วเคยมีใครสงสาร ข้าบ้างล่ะ?”

ฮ่องเต้ชิงหยู่พูดว่า “ข้าเองก็มิรู้ เรื่องในครั้งนี้ ใช่ว่า จะเป็นความผิดขององค์หญิงใหญ่ แต่นางรู้ทั้งรู้ว่าอ๋อง เสียนนั้นทำตัวเอง ยังจะไปลงโทษพวกอ๋องชิงอีก มิรู้ว่า ต้องการอันใดกันแน่?

หวางฮองไทเฮามองไป ยังถือว่าพอใจกับฮ่องเต้ชิงหยู่

คนที่เป็นฮ่องเต้ แน่นอนว่าจะมีแต่ความเมตตามิได้

ในเมื่อใช้เรื่องของพระชายาอ๋องชินเฉิงเพื่อถามเรื่องที่ คาใจ หวางฮองไทเฮาก็มิจำเป็นต้องตำหนิอันใดมาก
“พวกราชนิกุลมิพอใจกับกระทำของข้า แต่พวกเขา เห็นแค่กระทำของข้า ลืมไปแล้วข้าทำแบบนี้เพื่อจุด ประสงค์อันใด

ที่ข้าให้พวกเขาเข้ามาในวังก็เพื่อรอความตาย แต่นั่น เป็นแค่จุดเริ่มต้น

ถ้าเกิดพวกเขายอมอยู่เฉยๆ เก็บเรื่องไว้เงียบๆปล่อย ให้มันผ่านไปอย่างชัดๆ เก็บความคิดที่มิควรไว้ในใจ ทุก อย่างก็จะเรียบร้อย

แต่พวกเขามิเพียงแค่มิยอมเก็บเอาไว้ แถมยังร้ายแรง

กว่าเดิม

ถ้าเกิดอ๋องชินหรงยอมรับผิด ยอมสารภาพออกมา มากสุดก็แค่โดนเนรเทศ พวกเขายอมเสียสละอ๋องชินห รง เพื่อให้อ๋องเสียนรับผิดชอบเรื่องนี้ ก็เพื่อตัดกำลังของ ฮ่องเต้
อ๋องตวนเกิดเรื่อง อ๋องเสียนเกิดเรื่อง นางคิดว่าราช สำนักมิมีคนแล้วรีอันใด

รังแกแม่ลูกอย่างพวกเรา?

เหล่าขุนนางนับร้อยที่อยู่ในราชสำนักมิสามารถออก หน้าได้ เพราะว่าพวกเขาเป็นราชนิกุล มิมีใครสามารถ เข้าไปยุ่งได้

แต่ว่าพวกเขาคงลืมไปแล้ว ว่ายังมีต้าจงเจิ้งย่วน

ยังมีองค์หญิงใหญ่อยู่

ฮ่องเต้องค์ก่อนมองออกตั้งแต่แรก ถึงความโลคที่อยู่ใน ใจพวกเขา

ถ้าเกิดพวกเขายอมใช้ชีวิตอย่างสงบ ทุกอย่างก็ว่าอันใด
ถ้าเกิดพวกเขามียอม แม่ลูกอย่างพวกเราแล้วยังอันใด?

ในเมื่อพวกเราสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ได้นานขนาด นี้ ก็มกลัวราชนิกุลอย่างพวกเขาทรยศ

“เสด็จแม่เป็นคนแนะนำองค์หญิงใหญ่อย่างนั้น

?”ฮ่องเต้ชิงทรงค่อนข้างประหลาดใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ