บทที่ 113 เรื่องของพระชายารอง
เมื่อออกมากวัง สีหน้าของอันหลิงหยุนก็เต็มไปด้วย ความโศกเศร้า เห็นทีว่าเรื่องลูกคงจะเป็นเรื่องเร่งด่วน เสียแล้ว
แต่เรื่องของท้องเป็นเรื่องที่พูดยาก ไม่ใช่ว่าอยากจะ ให้มันป่องมันก็ป่องขึ้นมาได้
ไม่เพียงแค่นั้น หากมีขึ้นมาจริงๆ ก็เกรงว่าจะอธิบาย ได้ยาก
ฮ่องเต้ทรงมีทายาทแล้ว จวนอ๋องเสียนของพวกเขาก็ ต้องรีบมีเช่นกัน คนนอกอาจจะไม่สนใจ แต่ฮ่องเต้ชิงห ยู่จะทรงคิดเช่นไร?
ฮองเฮาจะทรงคิดเช่นไร?
แต่การที่เสินหยุนชูตั้งครรภ์ในเวลานี้ ทำให้อันหลิง หยุนรู้สึกตกใจจริงๆ
เห็นชัดๆว่ากินยาคุมกำเนิดเหล่านั้นไปหมดแล้ว ตัวนางเองสามารถฟื้นฟูได้ แต่เสินหยุนชูนั้นเป็นไปไม่ ได้เลย นอกเสียจากว่าเงินหยุนชูจะกินยาถอนพิษไว้ ล่วงหน้า
ถ้าเช่นนั้นเรื่องนี้เห็นจะมีคนโชคร้ายแค่คนเดียวคือ
อีกทั้งหากตอนนี้นางตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงๆ เสินหยุนชู จะมองว่ากระไร?
นางพบแล้วว่า ยาใช้ไม่ได้ผล
ถ้าหากไม่ได้ผล เช่นนั้นทำไมจุนฉูฉูจึงเป็นไข้ทับระดู
ยานั้น หากจะว่ากันตรงๆก็คือทำให้ผู้หญิงเป็นไข้ทับ ระดู จุนฉูฉูถูกฮองเฮาทำร้าย จึงเป็นไข้ทับระดู
หากนางตั้งครรภ์ขึ้นมา ฮองเฮาจะต้องสังเกตเห็น อะไรอย่างแน่นอน
ดังนั้น หากเด็กคนนี้ไม่มา ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
แต่หวางฮองไทเฮารีบร้อนอยากมีหลาน นางเองก็ไม่ กล้าปฏิเสธ
ภายในรถม้าเงียบสงบเป็นอย่างมาก อันหลิงหยุนขึ้นร ถม้า มีความรู้สึกเพียงแค่อย่างเดียวก็คือ มึน!
หมาจิ้งจอกหางสั้นปีนขึ้นมาบนตัวของนาง แล้วขด รวมอยู่ด้วยกัน เงยหน้าขึ้นมาร้องเรียกอยู่หลายครั้งแต่ นางไม่ทันสังเกตเห็น
กงชิงวี่นั่งอยู่ข้างๆนาง ใช้เท้าที่ใส่ถุงเท้าสีขาวของเขา เตะขาของอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนหันมองไป แล้วจึง กดเท้าของกงชิงวี่ไว้ใต้ขาของตนเอง แล้วพูดอย่างไม่ สบอารมณ์นัก: “รู้ทั้งรู้ว่าไม่มี ท่านยังจะกล้าพูดส่งเดชอีก ถ้าหากเกิดออกมาไม่ได้ขึ้นมา จะคอยดูว่าท่านจะ อธิบายว่ากระไร?”
“อธิบายเป็นเรื่องของวันข้างหน้า แต่การหลีกเลี่ยง เรื่องของพระชายารองจวนอ๋องตวนนั้นสำคัญกว่า” กง ชิงวี่ลุกขึ้นแล้วขยับเข้าไปใกล้ๆอันหลิงหยุน อันหลิง หยุนรู้สึกเหมือนจะไม่ใช่เรื่องดี จึงคิดที่จะถอยหนี ด้าน หลังเป็นที่นั่งของรถม้า ไม่มีที่ให้ถอย จึงทำได้เพียงแค่ นอนลงไปตรงนั้น
หมาจิ้งจอกหางสั้นลุกขึ้นมามองทั้งสองคนด้วยความ โกรธ แล้วจึงออกไปนั่งกับคนขับรถม้าด้านนอก
เมื่อคนขับรถม้าเห็นหมาจิ้งจอกหางสั้น ก็รีบหันไป
พยักหน้ากับนาง นี่เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของพระชายา จะล่วงเกินไม่
ได้
หมาจิ้งจอกหางสั้นไม่ได้สนใจ ดวงตาที่ที่เป็นประกาย ราวกับไข่มุกราตรีในยามค่ำคืนที่สามารถสะกดผู้คนได้ คู่นั้น กำลังจ้องมองผู้คนที่เดินอยู่ตามถนนใหญ่และตาม ตรอกซอกซอยต่างๆ
มีเด็กคนหนึ่งมองเห็นหมาจิ้งจอกหางสั้น ก็ชี้แล้ว ตะโกนว่า: “ท่านแม่ ข้าจะเอา”
หมาจิ้งจอกหางสั้นกระดิกหูหนึ่งที แล้วจึงหันหลังเดิน กลับเข้ารถม้าไป
แม่ของเด็กคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองหา เมื่อเห็นคนขับรถ ม้าก็ยกมือขึ้นตีเด็กหนึ่งที: “พูดจาเหลวไหล
พูดจบก็หันไปโค้งคำนับคนขับรถม้า เกรงว่าจะ เป็นการล่วงเกินคนขับรถม้าของจวนอ๋องเสียน
คนขับรถม้าไม่ได้สนใจ แต่กลับแปลกใจที่ หมาจิ้งจอกหางสั้นเหมือนจะอ่านความรู้สึกของคนออก
ภายในรถม้า อันหลิงหยุนถูกถอดเสื้อผ้าท่อนบนออก หมด กำลังหายใจหอบ แล้วมองดูผู้ชายที่อยู่บนร่างของ ตนด้วยความโกรธ
คนคนนี้ชอบทำเรื่องแบบนี้ข้างนอก ไม่รู้จักอายเลย แม้แต่น้อย
มิหนำซ้ำด้านนอกยังมีคนขับรถม้าอีกหนึ่งคน เขาช่าง
ไม่รู้จักละอายใจเลยจริงๆ!
หมาจิ้งจอกหางสั้นเดินเข้ามา กงชิงวี่ดึงตัวมันเอาไว้ แล้วลุกขึ้นพร้อมกับอุ้มอันหลิงหยุนขึ้นมา แล้วเอาผ้ามา ห่มตัวอันหลิงหยุนไว้ ต่อให้เป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็จะมาดู สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้
หมาจิ้งจอกหางสั้นเองก็ขี้เกียจมองจึงนอนลง
อันหลิงหยุนหนุนอยู่บนไหล่ของกงชิงวี่ละหายใจหอบ กวชิงวี่เองก็บรรเลงเพลงรักมาถึงจุดสุดยอดแล้ว ไฟร้อนในใจไม่ดับลงแต่กลับทวีความรุนแรงขึ้น แต่เขาก็ พยายามข่มเอาไว้
กงชิง กอดคนที่อยู่ในอ้อมแขนไว้ แล้วกระซิบเบาๆ ว่า: “เมื่อกี้จะเสียงดังขนาดนั้นทำไม?”
อันหลิงหยุนจะไปจำเรื่องที่เสียงดังหรือไม่เสียงดังได้ อย่าไร เห็นอยู่ชัดๆว่าเขาต่างหากที่หน้าไม่อาย
แต่นางก็รู้ว่า เขาเองไม่ค่อยพอใจนักที่หมาจิ้งจอก หางสั้นเข้ามา
อันหลิงหยุนพลิกตัวนอนลงบนอ้อมอกของอันชิววี่: “เหนื่อย!”
“ข้าเป็นคนบรรเลงยังไม่เหนื่อยเลย แต่เจ้ากลับ เหนื่อยแล้วรึ?” กงชิงวี่รู้สึกตลก
อันหลิงหยุนถอนหายใจ: “ตามที่ท่านว่า พวกเรา สามารถหลีกเลี่ยงจากเรื่องการแต่งตั้งพระชายารอง ของจวนอ๋องตวนได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยง จากเรื่องการแต่งตั้งพระชายารองของจวนอ๋องเสียนได้ ท่านจะรีบดีใจไปทำไม? สักวันก็จะต้องมีการยกเรื่องนี้ ขึ้นมาพูด”
“เจ้านี่มันช่างเป็นผู้หญิงที่โลภเสียจริงๆ ข้าเองเป็น ถึงท่านอ๋อง จะให้มีเพียงแค่พระชายาเอกคนเดียวได้ กระไรกัน” กงชิงวี่หยิกแก้มของอันหลิงหยุน
ถึงแม้เขาจะไม่เคยคิดถึงเรื่องพระชายารองมาก่อน แต่เขาเป็นถึงท่านอ๋อง เรื่องของการแต่งงานจะต้องดู พระประสงค์ของฮ่องเต้และเสด็จแม่ด้วย เพราะเป็น เรื่องที่เกี่ยวพันถึงความรู้สึก
แต่เรื่องการที่จะมีพระชายารองอีกคน นางเองก็กัด ไม่ปล่อยเหมือนกัน กลับทำให้เขายิ่งรู้สึกงง
ไม่ต้องพูดถึงท่านอ๋องสู่ขอพระชายารอง แม้แต่คน ธรรมดาทั่วไป การแต่งภรรยาน้อยเข้าบ้านก็ถือเป็น เรื่องปกติ
นางเองก็เป็นคนกล้าหาญ เรื่องที่ไม่อนุญาตให้แต่ง ภรรยารองก็พูดอยู่ตลอดทั้งวันไม่หยุด แสดงความไม่ เต็มใจออกมา ไม่มีสิ้นสุด!
“แต่ข้าไม่มีทางชื่นชมท่านร่วมกับผู้หญิงคนอื่นได้ หากท่านสู่ขอพระชายารองล่ะก็ ก็จะเป็นเวลาที่ท่าน กับข้าขาดกัน ท่านจะไม่รั้งข้าก็ได้ แต่ยังไงเสียข้าก็ยัง คงต้องไปจากท่านอยู่ดี” อันหลิงหยุนลุกขึ้นมองกงชิง วี่ เรื่องอื่นสามารถคุยปรึกษากันได้หมด ยกเว้นเรื่องนี้ที่ ไม่อาจปรึกษากันได้
กงชิงวี่แววตานิ่งสงบ: “แล้วถ้าข้าไม่ได้เป็นคนตัดสิน ใจล่ะ”
“การแต่งงานเป็นของท่าน แม้แต่ในวันแต่งงานท่าน ยังคิดที่จะฆ่าข้า แล้วจะมีเรื่องอะไรที่ท่านไม่สามารถ ตัดสินใจด้วยตัวเองได้อีก?” อันหลิงหยุนขุดคุ้ยเรื่องเก่าขึ้นมาพูด สีหน้าของกงชิงวี่หม่นหมองลง
“เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ทำไมเจ้าถึงคิด เล็กคิดน้อยเช่นนี้ คอยแต่จะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาตลอด ทำไม?” ยัยคนนี้ช่างน่าโมโหจริงๆ! เอาแต่พูดถึงเรื่อง เก่าอยุ่ได้
“ข้าเองก็ไม่ได้เจตนา แต่ว่าเรื่องนั้นเคยเกิดขึ้นจริงๆ ท่านอ๋องจําไม่ได้ แต่ข้าจำได้” นางไม่ได้เป็นคนขี้ลืม ขนาดนั้น
กงชิง โกรธจนตาร้อนผ่าว: “เช่นนี้ ข้าเองก็ก้าวก่าย เสด็จแม่กับฮ่องเต้ไม่ได้
พูดไปก็มีแต่จะทำให้เสียความรู้สึก อันหลิงหยุนจึง ไม่ได้ตอบอะไร ทำเพียงแค่จ้องมองกงชิงวี่ มองกงชิง วี่เหม่อลอย แล้วน้ำเสียงก็ค่อยๆอ่อนลง: “จริงๆแล้วก็ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทาง”
“วิธีอะไรรึ?”
กงชิงวี่กอดอันหลิงหยุนไว้ในอ้อมกอดแน่น: “มีลูกให้ ข้าสักคน เรื่องนี้ก็แก้ไขได้แล้วไม่ใช่หรือ? ทางที่ดีต้อง สองปีมีหนึ่งคน สามปีมีสองคน เอาไว้อุดปากของพวก เขา เช่นนี้ใครจะกล้าบังคับให้ข้าสู่ขอพระชายารองอีก ล่ะ?”
“ถึงจะพูดเช่นนี้ แต่… อันหลิงหยุนพิงเข้าไปในอ้อม กอดของกงชิงวี่ด้วยท่าทีลังเล
“เจ้าเป็นคนของข้า มีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถพูดกับข้า ได้อีกหรือ?” กงชิงวี่จับคางของนาง รอนาง
อันหลิงหยุนหันหน้าไปซบในอ้อมกอดของกงชิงวี่: “เรื่องนี้จะว่าไปแล้วเป็นเรื่องใหญ่ หากข้าพูดออกไป เกรงว่าจะเป็นการรบกวนท่าน แต่ต่อให้ไม่พูดตอนนี้ สัก วันก็จะต้องพูด”
“เช่นนั้นก็รีบบอกข้ามา” กงชิงวี่ถูกผู้หญิงคนนี้ทำให้ มึนงง ยั่วให้เขาอยากรู้แล้วไม่พูด ทำให้เขาไม่พอใจใจ ยิ่งนัก!
“ท่านยังจำได้หรือไม่ว่า ตอนที่ข้าและพระชายาตวน เข้าวัง มีหลายครั้งที่ถูกฮองเฮาทรงเรียกให้ไปเข้าเฝ้า ทรงกล่าวว่าต้องการให้พวกเราไปร่วมทานขนม จิบน้ำ ชา?”
“ข้าจำได้”
“ข้าไม่วางใจ รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ฮองเฮา มีขนมสองสามชิ้นก็ต้องการที่จะร่วมแบ่งปันกับข้าและ พระชายาตวน ดังนั้นข้าจึงแอบเหลือไว้นิดหน่อย เมื่อ กลับมาก็โยนให้แมวที่กำลังเป็นสัด เมื่อแมวกินเข้าไปก็ ไม่เป็นสัดแล้ว เมื่อนำไปศึกษาดู ยาที่อยู่ภายในนั้นเป็น ยาคุมกำเนิดที่ทำให้คนรู้สึกเย็นชากับเรื่องพวกนี้
“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?” กงชิงวี่มองลงต่ำ เชื่อในสิ่งที่ อันหลิงหยุนพูด
อันหลิงหยุนพยักหน้า: “เรื่องนี้เดิมทีข้าเองไม่คิดที่จะ เล่า แต่เมื่อเกี่ยวพันกับการให้กำเนิดบุตร ไม่รู้ว่าข้าควร มีหรือไม่ควรมี?”
“เหลไหล ข้าต้องการมี เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?” กงชิง วี่ขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก
“เช่นนั้นถ้าหากว่ามีแล้ว ฮองเฮาจะทรงมองข้าเช่นไร พระชายาตวนและข้ากินด้วยกัน พระชายาตวนมีลูกไม่ ได้ กลายเป็นไข้ทับระดู ส่วนข้ากลับไม่เป็นอะไร ข้ารู้ว่า ตัวเองถอนพิษได้แล้ว หรือว่ายังไม่ได้กินยานั้นกันแน่?” นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องที่อันหลิงหยุนกังวล นี่ก็ไม่ใช่นั่นก็ ไม่ใช่ ไม่ว่าจะล่วงเกินใครก็ไม่เป็นผลดีทั้งนั้น กระต่าย เมื่อจนตรอกยังกัดคนได้ โดยเฉพาะเสินหยุนชู นางถึง ขนาดทำยาคุมกำเนิดออกมาให้แก่ฮ่องเต้ชิงหยู่ได้ เช่น นั้นนางก็คงจะต้องกล้าทำเรื่องที่น่ากลัวกว่านี้ออกมาได้
คนคนหนึ่ง เมื่ออยู่ดีๆถูกผลักให้ลงเหว นางก็จำเป็น จะต้องทิ้งไพ่ใบสุดท้าย เพื่อการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
การโจมตีครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร นางก็ไม่ สามารถจะช่วยป้องกันได้
“เรื่องนี้ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ ข้าจะให้คนส่งสารลับไป บอกเสด็จแม่ เรื่องนี้เจ้าปล่อยให้ข้าจัดการดีแล้ว ส่วน เรื่องที่ฮองเฮาทำเช่นนี้เพื่อจุดประสงค์อะไรนั้น ข้าจะ ต้องสืบรู้ให้ได้”
กงชิงวี่ลูบอันหลิงหยุนเบาๆ: “เรื่องนี้เจ้าควรจะบอกข้า ตั้งนานแล้ว”
“ความสัมพันธ์ของเราก็เพิ่งจะดีได้ไม่นาน บวกกับที่ ช่วงนี้ฮองเฮาเองก็ไม่ได้เรียกให้ข้าเข้าวัง ข้าเองจึงลืม ไปแล้ว” อันหลิงหยุนจำไม่ได้แล้วจริงๆ
กงชิงวี่พิงที่รถม้า ขาที่เรียวยาวไขว้กันอยู่ อันหลิงหยุ นพิงลงไปที่อ้อมกอดของเขา ทั้งสองมีท่าทีผ่อนคลาย แต่ก็ยังไม่ทิ้งความสง่างาม
อันหลิงหยุนปืนขึ้นไปนั่งบนตักของกงชิงวี่ กำลังคิด หาวิธีแก้ไขเรื่องนี้
กงชิงวี่เอามือลูบผมสีดำของนาง ลูบด้วยความเอ็นดู เหมือนลูกหมาลูกแมว: “ครั้งนี้ทั้งสองพระองค์ต่างก็ เรียกให้เข้าเฝ้าพร้อมกัน แสดงให้เห็นว่าต้องการให้มี พระชายารองทั้งคู่ ตัวข้าและอ๋องตวนเองก็แต่งงานมา สักระยะหนึ่งแล้ว หากไม่มีโรค ก็ควรจะมีลูกได้แล้ว
ดังนั้นทั้งสองพระองค์จึงได้รีบร้อนเช่นนี้ อาจจะไม่ใช่ เรื่องของพระชายารองทั้งหมด จริงๆแล้วเป็นเพราะ ต้องการให้มีลูกหลานไว้สืบสกุล แต่ถ้าหากในเร็ววันนี้ ข้ายังไม่มีคำอธิบายที่ดีอีกล่ะก็ ก็จำเป็นจะต้องแต่งพระ ชายารองเช่นเดียวกับอ๋องตวน”
“หมายความว่ายังไง? ทำไมท่านถึงได้มั่นใจนักว่าอ๋อง ตวนจะสู่ขอพระชายารอง หรือว่าพวกท่านได้พูดคุยกัน แล้ว?” อันหลิงหยุนเริ่มงง ลุกขึ้นมามองกงชิงวี่ พวกเขาเพียงแค่คาดเดาเท่านั้น แต่เมื่อได้ยินที่เขาพูด กลับฟัง ดูเหมือนว่าจะสู่ขอพระชายารองจริงๆ
“ฮั่วไทเฟยเป็นคนแข็งกร้าว ตอนที่เสด็จแม่ยังทรง เป็นฮองเฮา แม้แต่ต่อหน้าพระพักตร์ของเสด็จพ่อ นาง เองก็ยังไม่เคยอ่อนข้อให้ มักจะโต้เถียงด้วยเหตุผล ต้องการที่จะเสมอภาคกับเสด็จแม่
นั้นขนาดอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของเสด็จพ่อ ชั่ว ไท่เฟยยังกล้าทำถึงขนาดนี้ แล้วนางจะไปสนใจอะไร กับอ๋องตวนกับพระชายาอ๋องตวน เกรงว่าเรื่องนี้ดู เหมือนว่าจะถอยไม่ได้อีกแล้ว
อีกทั้งที่ข้ารู้มา ฮั่วไท่เฟยเคยเรียกให้อันกั๋วกงเข้าเฝ้า แล้ว คงจะต้องมีการแจ้งให้ทราบกันเรียบร้อยแล้ว”
ถ้าเช่นนั้นก็คงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
อันหลิงหยุนเพิ่งจะเข้าในตอนนี้เอง: “ถ้าเช่นนั้นแสดง ว่าวันนี้ท่านก็เตรียมตัวมาแล้ว?”
“ไม่ใช่ ข้ารู้ว่าไท่เฟยแสนเลวคนนั้นคิดที่จะสู่ขอ พระชายารองให้แก้อ๋องตวน แต่ข้าไม่รู้เรื่องที่ทั้งสอง ตำหนักมีข่าวดี”
“ถ้าเช่นนั้นจุดประสงค์ของท่านก็คือไม่ต้องการสู่ขอ พระชายารอง?” อันหลิงหยุนมองกงชิงวี่ด้วยแววจา สนับสนุน กงชิงวี่รู้สึกขำ จึงเขย่าจมูกนางเบาๆ
“แค่นี้ก็ดีใจแล้วหรือ?”
“อืม”
กงชิงวี่นิ่งอยู่สักพัก จริงๆแล้วนางก็ไม่ได้ต่างจากผู้ หญิงอื่นทั่วไป ดึงเข้ามากอดในอ้อมแขน แล้วทั้งสองก็พูดคุยกันต่อ
อันหลิงหยุนงง: “ถ้าเช่นนั้นท่านรู้ได้กระไรว่าเรื่องที่อ๋อง
ตวนสู่ขอพระชายารองจะกระทบมาถึงท่าน”
“เด็กโง่ ข้าคิดว่าเจ้าจะฉลาดเสียอีก ข้าพูดชัดเจน ขนาดนี้แล้ว เจ้ายังไม่รู้อีกหรือ?” กงชิงวี่รู้สึกโมโหจริงๆ เรื่องใหญ่ๆนางมีความคิดเหนือคนอื่นใด แต่เมื่อเจอกับ เรื่องแบบนี้นางกลับโง่!
แต่เขาก็พูดด้วยความมั่นใจว่า: “ข้ากับอ๋องตวน แต่งงานวันเดียวกัน เขาไม่มีข่าวดี ข้าเองก็ยังไม่มีข่าวดี หากจะว่ากันตามเหตุผล ก็ควรจะสู่ขอพระชายารอง พร้อมกัน นี่คือข้อปฏิบัติอย่างไม่เป็นทางการนัก
“อยู่ในราชตระกูล ช่างเหนื่อยจริงๆ!” อันหลิงหยุน นอนหลับ ไม่อยากจะสนใจอะไรอีก กงชิงวี่ใส่เสื้อผ้าให้ นางเรียบร้อย แล้วกลับไปยังจวนอ๋องเสียนพร้อม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ