ตอนที่698เมื่อรักถึงจุดฝังลึก
ตอนที่ 698 เมื่อรักถึงจุดฝังลึก
“จะเป็นอะไรได้ ก็เป็นแบบนั้นแหละ แต่ก่อนที่ยังไม่แน่ใจ เรื่องของพันเดช ฉันเชื่อว่าเธอจะต้องไม่เป็นอะไร !
เอลิสต์พยักหน้า “หวังว่าจะมีเบาะแสในเร็วๆ นี้นะ !”
“อืม กลับกันเถอะ !” ไปรยาพูด
จากนั้นทั้งสองคนก็ขึ้นไปในรถ
ส่วนชั้นบน จิดาภาพึ่งอยู่ที่โซฟา สายตามองไปที่นาฬิกา ไม่ว่าเธอจะกดไปกี่ครั้ง แต่ก็ไม่มีสัญญาณสักนิดเดียว ไม่ใช่ว่า เพียงแต่มีสิ่งนี้ก็สามารถหาเจอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรอกเหรอ ? แต่ถึงตอนนี้กลับไม่มีเบาะแสสักนิดเดียว…..
จิดาภาแทบจะอยากจะฟาดทิ้ง แต่เมื่อนึกได้ว่าอันนี้เป็น สิ่งที่สามารถหาเขาได้เพียงสิ่งเดียว ดังนั้นจึงจับไว้ในมือของ
เธออย่างเหนียวแน่น มีน้ำใสๆ อยู่ที่เบ้าตา ความคิดก็ล่องลอยไปแสนไกล ถ้า
ไม่ใช่เพราะขนตาที่สามารถกะพริบได้คงดูเหมือนเป็นรูปปั้น ส่วนชั้นล่างหลังจากที่ไปรยากับเอลิสต์กลับไปแล้ว ก็มีรถ คันหนึ่งค่อยๆ ขับมายังชั้นล่าง
ดับรถลงแล้วจอดไว้ยังที่แห่งหนึ่ง เงยหน้ามองขึ้นไปชั้น บน สายตามีความรู้สึกผิดและเจ็บปวดอยู่บ้าง ในความเป็น จริงเขาอยากจะขึ้นไปปลอบมาก แต่เขาไม่สามารถ
มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ในช่วงนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพวก เขาก็มีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เขาเชื่อว่าเธอไม่ได้ไม่มี ความรู้สึก
ดังนั้นเขาไม่สามารถ !
เขาไม่อยากให้ตัวเองเข้าใกล้มากเกินไป แต่ก็ไม่สามารถ ห่างจากเธอไกลเกินไปได้
แต่ในตอนนี้
สายตามองไปยังชั้นบน มีความหวังอยู่บ้าง แต่ก็เศร้า
มากเช่นกัน
เอนหลังพิงเบาะ ไม่รู้ว่ารอไปนานมากแค่ไหน จนกระทั่ง
โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
เห็นว่าเบอร์เป็นของกชกร ก็แค่กวาดไปมอง แต่ไม่มีท่าที ว่าจะรับ สายตาก็จ้องมองไปยังชั้นบนอยู่ตลอดเวลา…..
เสน่หาและคาดหวัง
แม้ว่าไม่สามารถปลอบโยนเธอได้ แต่ผมก็เป็นห่วงเธอในยามที่เธอเสียใจ…….
วันถัดไป
จิดาภาถูกเสียงโทรศัพท์สั่นปลุกให้ตื่น
เหมือนตื่นขึ้นมาจากความฝัน เธอมองไปที่โทรศัพท์ เดิมทีคิดว่าเป็นพันเดช โทรมา แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเด็ก
ไม่ได้มากพอให้คิดก็กดรับสายไป
“ฮัลโหล เจ๊ก” น้ำเสียงเล็กน้อย
“คุณจิดาภาครับ มีเบาะแสของประธานพันเดชแล้ว ! เจ็กตะโกนอย่างตื่นเต้นในโทรศัพท์
เมื่อได้สิ่งนี้ ราวกับใจของเธอถูกอะไรบางอย่างเคาะอย่าง
รุนแรง
“คุณพูดอะไรนะ ?” เธอกลัวว่าตัวเองจะฟังผิดไปบ้าง
“เครื่องบินถูกบังคับให้ลงจอด ตอนนี้ได้รับการค้นพบและ ช่วยชีวิตแล้ว ประธานพันเดชจะนั่งเที่ยวบินกลับไปที่เมือง A ในบ่ายวันนี้ครับ !” เจ๊กพูดทางโทรศัพท์
ในตอนนั้นไม่มีอารมณ์ไหนที่สามารถอธิบายความรู้สึก ของจิดาภา ในตอนนี้ได้
“สิ่งที่คุณพูดจริงไหม ?” มือของเธอสั่นเครือเล็กน้อย แค่ นี้เสียงก็สั่นอยู่บ้าง
“จริงๆ ครับ ประมาณบ่ายโมง !
“ฉันรู้แล้ว รอฉันอยู่ที่บริษัทนะ !” พูดจบ จิดาภาก็วาง สายโทรศัพท์ไป แต่ยังคงมีความไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง กลัวว่าจะเป็นความฝัน แต่หัวใจที่เต้นอย่างรุนแรงบอกตัวเองว่า เป็นความจริง !
พันเดชไม่ได้เป็นอะไร !
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ จิตาภาก็รู้สึกว่าหัวใจจะกระโดดออกมา
ยังไม่ได้จัดการอะไรสักนิดเดียว รีบเปลี่ยนเสื้อตัวเดียวก็ ออกไปแล้ว
ในตอนบ่าย
จิดาภา เจ๊ก ลาภิศ จัสติน ปาณชัย และคนอื่นๆ ก็รออยู่ที่ สนามบินแล้ว
ยืนอยู่ตรงทางออก ดูเหมือนว่าจิดาภาจะกระวนกระวาย และกังวลเป็นพิเศษ
เวลาผ่านไปแต่ละนาทีแต่ละวินาที ผู้คนออกมามากมาย แต่ไม่พบร่างของพันเดชสักนิดเดียว
ราวกับว่ามองเห็นความร้อนรนของจิดาภา ลาภิศจึงเอ่ย ปากพูดขึ้น “วางใจเถอะ ถ้าหาเจอแล้ว มันจะเป็นอะไรไปไม่ได้ แน่นอน !”
จิดาภาพยักหน้าหนัก “อืม !
ในเวลาเดียวกันก็มีร่างร่างหนึ่งเดินออกมาจากทางออก
“นี่มันประธานพันเดชนี่นา !” เจ๊กส่งเสียงอย่างตื่นเต้น
จิดาภาหันหัวกลับ เมื่อมองเห็นพันเดชสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงสีดำ เดินออกมาจากข้างใน เมื่อมองเห็นเขาก็ เซอร์ไพรส์และตื่นเต้นขึ้นมาที่หัวใจที่ยากต่อการอธิบายออก มา ไม่ทันได้คิดจิดาภาก็พุ่งออกไปทันที
พันเดชเพิ่งออกมาก็เห็นร่างหนึ่งบินพุ่งเข้ามา และเมื่อ มองเห็นว่าเป็นจิดาภาก็ดีใจอย่างมาก
“พันเดช !” จิดาภาพุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ส่วนพัน เดชก็กอดเธอไว้แน่น
ภาพคนสองคนโอบกอดกัน กลัวว่ากันและกันจะหายไป เมื่อคนข้างๆ ได้เห็นแล้วต่างก็ตื้นตันใจ
“ดีที่คุณไม่เป็นอะไร !” จิดาภากอดเขาแล้วพูดขึ้น แต่ก็ยัง ทนไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาต่อหน้าพันเดช
ส่วนพันเดชก็มองไปที่เธอ ฝ่ามือใหญ่ลูบไปยังผมที่นุ่ม นวล แล้วมองไปยังแก้มผอมของเธอ “แต่ผมโชคดีมากที่คุณ ไม่ได้ไป !” น่าทึ่งที่ครั้งนี้ทำให้เขารู้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่าสิ่งที่เขา หวงแหนที่สุด สนใจมากที่สุด คิดถึงมากที่สุดคืออะไร !
น้ำตาของจิดาภาไหลพลักๆ พันเดชยื่นมือออกไปช่วยเธอ เช่นน้ำตาอย่างหวงแหน
ใจที่ล่องลอยของจิดาภาก็วางลงไป ในเวลาเดียวกันก็เห็นคนข้างหลังของเขาด้วย
ตกตะลึงเล็กน้อย
ส่วนผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังของเขา เมื่อเห็นจิดาภาแล้วก็ยิ้ม ขึ้นมา “สวัสดีค่ะ !” รอยยิ้มเต็มไปด้วยลักยิ้ม ดูสวยหวานเป็น พิเศษ
ในขณะเดียวกัน ราวกับว่าพันเดชคิดอะไรขึ้นมาได้ จาก นั้นก็มองไปที่เจมน่าที่อยู่ด้านหลัง แล้วแนะนำให้กับจิดาภา “นี่ คือเจมน่าเอง เครื่องบินถูกบังคับให้ลงจอดบนภูเขา เธอเป็น คนช่วยผมไว้ !”
จิดาภามองไปที่เธอแล้วพยักหน้าให้กับเธอ “สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่ช่วยเขานะคะ !
เจมน่าก็ยิ้มขึ้น “ไม่เป็นไรค่ะ นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำ
ควรจะทํา ?
จิดาภายังไม่ทันได้คิด
พันเดชก็มองไปยังพวกเขา “เอาล่ะ ออกไปค่อยว่ากัน เจมน่าพยักหน้า พันเดชกับจิดาภาก็เดินออกไปแล้ว ลาภิศและคนอื่นๆ ก็รออยู่ตรงทางออก เห็นพันเดชออก
มา มุมปากของพวกเขาก็ยิ้มขึ้นอย่างไม่ได้พบกันเป็นเวลานาน
ไม่ได้พูดอะไร แล้วทักทายในแบบที่พวกเขาสามารถ แสดงมิตรภาพ
“เป็นไงบ้าง ต้องไปโรงพยาบาลไหม ?” ลาภิศถามออกไปตรงๆ
มุมปากของพันเดชยกขึ้น “ไม่เป็นไร ไม่ได้มีปัญหาอะไร หรอก !” ในตอนนี้ที่ตัวของพันเดชมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย ส่วน ที่มือก็มีผ้าพันแผล แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบ ต่อความหล่อเหลาของเขา
แล้วยังมีภาพของความเจ็บปวดที่สวยงาม
“ผู้ที่รอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งใหญ่นั้น ถูกกำหนดให้เป็น โชคดีตลอดไป พันเดช นายล้มล้างความคิดของฉันไปหมด เลยนะ ชีวิตของนายมันช่างวิเศษจริงๆ เครื่องบินขาดการ ติดต่อยังรอดมาได้ รู้ไว้ด้วยว่าความเป็นไปได้นี้มีแค่ศูนย์จุด หนึ่งเปอร์เซ็นต์ !”
มุมปากของพันเดชยกขึ้น “ใช่แล้ว ก็แค่ศูนย์จุดหนึ่ง เปอร์เซ็นต์ยังมาปรากฏบนตัวฉัน เห็นได้ว่าพระเจ้าไม่อยากรับ ฉันเลยล่ะ !”
ทั้งสี่คนมองกันและกันแล้วยิ้มขึ้น
ขณะนั้นเจ๊กก็เอ่ยปากพูดอยู่ข้างหลัง “เจ้านายครับ กลับ กันก่อนเถอะครับ รถรออยู่ด้านนอกแล้วครับ !” พันเดชพยัก หน้า จากนั้นพวกเขาก็ออกไป
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ