ภรรยาที่น่าเกลียดของฉันเป็นคนสวย หรือไม่?

ตอนที่700จะเป็นแมงดา



ตอนที่700จะเป็นแมงดา

ตอนที่ 700 จะเป็นแมงดา

หลังจากเสร็จเรื่องแล้ว ทั้งสองคนก็กอดกันและกัน เพลิดเพลินไปกับแสงสายัณห์แห่งความรักอย่างมาก

จิดาภาแอบอิงไปที่ตัวของเขา แล้วฟังเสียงหัวใจที่เต้น แรงที่หน้าอกอันแข็งแกร่งของเขา

ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่จำเป็นต้องพูดออกมา เพียง

แค่เธอแน่ใจว่าเขายังคงอยู่ในตอนนั้นเป็นความจริงก็พอ ส่วนพันเดชก็พอใจอย่างมาก มองไปที่จิดาภา “คุณจิดา

ภา หลังจากนี้ถ้าคุณริเริ่มเหมือนวันนี้มันจะดีมากเลยนะ !

เมื่อได้ยินสิ่งนี้จิดาภาก็กลอกตามองไปที่เขา

พันเดชยิ้มแล้วเอาเธอวางไว้ที่อกพลางกอดเธอแน่นขึ้น

ขณะนั้น จิดาภาก็คิดอะไรขึ้นมาได้กะทันหัน จับมือของ พันเดชเพื่อที่จะดูนาฬิกาของเขา จากนั้นจึงเงยหน้ามองไปที่ เขา “ไม่ใช่ว่าอันนี้อยู่ที่ไหนก็รับสัญญาณได้เหรอ แล้วทำไมถึง ไม่มีล่ะ ?”

มองไปยังนาฬิกาที่อยู่ในมือ จิดาภาจึงเอ่ยปากพูดขึ้น

“ตอนนั้นเครื่องบินลงจอดฉุกเฉิน แม้ว่าจะหยุดลงแล้ว แต่ก็ยังมีผู้คนไม่น้อยได้รับบาดเจ็บ ก็คือเสียอยู่ในตอนช่วยเหลือ คน !

เมื่อพูดถึงสิ่ง จิตาภาก็กอดพันเดชไว้ “ฉันได้ยินมาว่า case ที่คุณอยู่สิงคโปร์มีบางอย่างเกิดขึ้น ก็เลยว่าจะไปหาคุณ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเครื่องบินจะเกิดอุบัติเหตุ ในตอนนั้นฉันยัง คิดอย่างโง่เขลาว่าคุณอยู่สิงคโปร์ จนกระทั่งเจ๊กกลับมา ฉัน ถึงได้รู้ตามจริง !”

พูดถึงสิ่งนี้ พันเดชก็หันหัวไปด้านข้าง แล้วจูบไปที่หน้า ผากของจิดาภา “ทุกอย่างที่คุณทำผมก็ได้ยินแล้ว จิ ขอบคุณ นะ !”

“ขอบคุณอะไรคะ ?”

“ขอบคุณที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับผมแล้วคุณดูแลคุณย่า และปิดบังพวกเขา ขอบคุณที่คุณช่วยผมปกป้องบริษัทไว้ พันเดชพูด

มุมปากของจิดาภายกขึ้นแล้วมองไปที่เขา “คุณพันเดช คุณแอบโอนหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์เป็นชื่อของฉันตั้งแต่ตอน ไหน ?”

“เอ่อ ก็คือวันที่ขอคุณแต่งงานไงล่ะ !

“แล้วทำไมฉันไม่รู้ล่ะ ?”

“ไม่ใช่ตอนนี้รู้แล้วเหรอ ?

“คุณควรจะโอนให้ฉันยี่สิบเปอร์เซ็นต์นะ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็จัดการกับผู้อำนวยการศัพท์ให้ยาก ! มุมปากของพันเดยยกขึ้น “ไม่ใช่ตอนนี้หุ้นของคุณเยอะ

กว่าผมซะอีกเหรอประธานจิดาภา !” พันเดชพูดด้วยรอยยิ้ม จิดาภายิ้มขึ้น “ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของคุณ ตอนนี้บริษัท อาจจะเป็นของคนอื่นไปแล้ว !” จิดาภาพูดด้วยรอยยิ้ม

พูดถึงสิ่งที่มุมปากของพันเดชก็ยกขึ้นด้วยรอยยิ้ม ใบหน้า ที่หล่อเหลาก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็น “อยากได้บริษัทของ ผมก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีความสามารถนั่นหรือไม่…

จิดาภามองไปที่เขา ยื่นมือออกมาแล้วกอดไปที่เขา

รู้สึกได้ถึงความหนักเบาของเธอ พันเดชก็ลดสายตาลง เห็นเธอหลับตาแล้ว “ว่าไง ? ง่วงแล้วเหรอ ?”

จิดาภาหลับตาแล้วพยักหน้า “อืม ง่วงมาก !

พันเดชจูบเธอไปหนึ่งคำเบาๆ “อืม ดึกมากแล้ว นอนกันเถอะ !”

“อืม !”

เมื่อไฟถูกปิดลง ไม่นานนักจิดาภาก็หลับไป แต่มือก็ยัง กอดไปที่พันเดช ไม่ได้แยกออกสักนิดเดียว

ส่วนพันเดชก็กอดไปที่เธอ หลายวันมานี้ในที่สุดก็ได้นอนหลับดีๆ

วันถัดไป
พันเดชนตั้งแต่เช้า เมื่อเขาตื่นมาก็เห็นจิดาภายังคง หลับตาอยู่ เขาไม่รู้ว่าสองสามวันนี้เกิดอะไรขึ้นมาบ้าง แต่เขา มั่นใจได้หนึ่งเรื่องว่า การที่เขาหายไปในสองสามวันนี้ ทุกคืน เธอต้องไม่ได้นอนแน่ๆ

เช่นเดียวกับเขาที่นอนไม่หลับ เพราะรู้ว่าเธอเป็นห่วงเขา

โน้มตัวลงไปแล้วจูบไปที่หน้าผากของเธอเบาๆ หนึ่งคำ จากนั้นก็ลุกขึ้น

เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย พันเดชก็เดินออกไป

เขาเพิ่งเปิดประตู ในเวลาเดียวกันก็เห็นเพียงแต่ประตู ข้างๆ ของเขาเปิดขึ้น เจมน่า เดินออกมาจากข้างใน

“อรุณสวัสดิ์ค่ะพันเดช !” เมื่อเจมน่าเห็นแล้วก็ทักทายกับ

“ทำไมคุณตื่นเช้าขนาดนี้ล่ะ ?” พันเดชยิ้มจางๆ แล้วถามเขา

ขึ้น

เจมน่ายิ้มขึ้น มีความเป็นวัยรุ่นอย่างสมบูรณ์ “ฉันชินกับ การเข้านอนไวและตื่นเช้าค่ะ !

พันเดชยิ้มขึ้น “ลงไปกินอาหารเช้ากันเถอะ !

เจมน่า พยักหน้า กำลังจะเดินลงไป ทันใดนั้นก็นึกอะไร ขึ้นมาได้กะทันหัน “ใช่แล้ว พ่อให้คุณโทรกลับหาเขาด้วย เหมือนว่ามีเรื่องจะคุยกับคุณ แต่เมื่อวานดึกเกินไปฉันจึงไม่ได้ รบกวนคุณค่ะ !”
หลังจากพันเดชได้ยินแล้วก็พยักหน้า “โอเค ผมรู้แล้ว !” จากนั้นทั้งสองคนก็เดินลงไปชั้นล่าง

มุ้งมิ้งก็ทําอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เจมน่า นั่งทานอาหารเช้ากับพันเดชอยู่ตรงนั้น

“เดี๋ยวคุณต้องไปที่บริษัทไหมเนี่ย ?” ขณะที่กินอาหารเช้า เจมน่าก็มองไปที่เขาแล้วถามขึ้น

พันเดชหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาดูเรื่อยเปื่อย ได้ยินคำพูด ของเธอจึงพยักหน้า “อืม !

“งั้น ฉันไปกับคุณด้วยได้ไหม ?” เจมน่าถาม

พันเดชมองไปที่เธอ “คุณจะไปบริษัททำไมเหรอ ?

“ก็อยู่ที่นี่ฉันไม่มีคนรู้จักนี่นา จะให้ฉันอยู่ที่บ้านตลอดเหรอ ?”

“ถ้าเบื่อก็เล่นเกมหรือว่าท่องอินเทอร์เน็ตก็ได้นี่ !

เจมน่าเบะปาก “งั้นเอาเถอะ !

“คุณจะกลับไปตอนไหนเหรอ ?”

“ว่าไงนะ ? นี่คุณไล่ฉันกลับเหรอ ?”

“ผมจะกล้าไล่คุณกลับซะที่ไหนกันล่ะ คุณอยากจะอยู่ถึงเมื่อไหร่ก็ได้ !”
“นี่ก็ถูกแล้ว นี่ก็คือทัศนคติที่มีต่อผู้มีบุญคุณของคุณ เจมน่าพูดด้วยรอยยิ้ม

เมื่อจิดาภาตื่นขึ้นมาเห็นว่าคนข้างๆ ไม่อยู่แล้ว จึงขมวด คิ้วเล็กน้อย เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกไป เพิ่งเดิน ออกจากประตูไป ก็เห็นร่างที่กำลังทานอาหารเช้าอยู่ชั้นล่าง

เพิ่งจะเอ่ยปากพูด ก็พลันเห็นพันเดชหยิบแก้วอะไรสัก

อย่างให้กับเจมน่า ส่วนเจมน่าก็ยิ้มแล้วรับไว้ “นี่ก็ถูกแล้วนะ ! พูดจบก็ยิ้มหวานแล้วดื่มลงไป

ไม่รู้เลยว่าเพราะจิดาภาหวั่นไหวเกินไปหรือยังไง รู้สึกว่า พวกเขาไม่ได้เหมือนแค่คนช่วยชีวิตพันเดชธรรมดาๆ ขนาดนี้

ไม่รู้ว่ายืนคิดอยู่ตรงนั้นนานมากแค่ไหน จนกระทั่งมุ่งมึง เอ่ยปากพูด จึงดึงความคิดของเธอกลับมา

“คุณนายคะ คุณตื่นแล้วเหรอคะ ?

จากเสียงของมุ้งมิ้ง พันเดชกับเจมน่า ก็มองไป

จิดาภายิ้มพลางพยักหน้า แล้วเดินลงไป

“ทำไม่นอนต่อล่ะ !?” พันเดชยื่นมือออกไปหาเธอ ส่วน ดาภาก็จับไว้โดยธรรมชาติ นอนอิ่มแล้วล่ะ !”

“กินอาหารเช้ากันเถอะ !

“อืม !” จิดาภานั่งอยู่ด้านข้างโดยธรรมชาติ

เจมน่า มองไปที่เธอ ยิ้มแล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “คุณจิดาภาสีหน้าของคุณ ในวันนี้ดูเหมือนจะดีกว่าเมื่อวานนะคะ ( มองไปที่เจมน่าแล้วจิดาภาก็ยิ้มขึ้น “นอนอิ่มแล้ว การที่ สีหน้าดีขึ้นมากก็เป็นเรื่องธรรมชาติ !

ขณะนั้นมุ่งมึงก็ยกอาหารเช้าออกมาแล้ววางไปด้านหน้า ดาภา “คุณนายคะ ช่วงนี้ดูเหมือนว่าคุณจะผอมลงมากเลยนะ คะ !”

จิดาภายิ้มขึ้น “ไม่ได้กินอาหารเช้าที่มุ่งมึงทำ ฉันก็ต้อง ผอมอยู่แล้วล่ะจ้ะ !”

มุ่งมึงก็ยิ้มขึ้น จิดาภามักจะไม่ถือตัวและปากหวานอยู่ เสมอ รูปร่างหน้าตานั้นทำให้ผู้คนชื่นชอบมาก

“งั้นวันหลังฉันก็จะทำให้คุณทุกวันนะคะ !!

“จ้ะ !” จิดาภารับปากด้วยรอยยิ้ม

มุ่งมึงยิ้มแล้วเข้าไปทำงานให้ห้องครัว

พันเดชมองไปที่เธอ ใบหน้าปีศาจอ่อนโยนเป็นพิเศษ “กิน อาหารเช้าเสร็จแล้วก็ไปนอนต่ออีกสักพักเถอะนะ !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ