ภรรยาที่น่าเกลียดของฉันเป็นคนสวย หรือไม่?

ตอนที่773 าใจของเจมน่า



ตอนที่773 าใจของเจมน่า

ตอนที่ 773 น้ำใจของเจมน่า

“คุณจิ จะว่าไป คุณเข้าใจผมมากเลยนะ ไม่สิ พูดให้ถูก ต้องก็คือ คุณมีความเข้าใจต่อบริษัทของผมมาก

จิดาภายกนิ้วชี้ขึ้น “NONONO คุณพันเดช อย่าลืมไปสิคะ ตอนนี้ฉันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของบริษัทนะคะ ฉันเป็น ประธานบริษัทที่สมบูรณ์แล้วต่างหาก คุณก็เป็นแค่ลูกจ้าง ทำงานให้ฉัน!” จิดาภาพูดพลางหัวเราะขึ้น

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ พันเดชจึงหัวเราะขึ้นมา “เอ๊ะ คิดไม่ถึง เลยว่า สักวันผมจะต้องกลายเป็นไม้อ่อนอยู่ในโอวาทคุณ!

“ดังนั้น คุณพันเดช คุณต้องทำตัวดีๆกับฉัน ไม่เช่นนั้นฉัน มีอำนาจที่จะกำจัดคุณออกไปได้ทุกเมื่อนะ!” จิดาภามองเขา “ แล้วนะ”

“เมีย คุณทำได้ลงคอเหรอ?”

“งั้นก็ต้องดูว่าคุณทำตัวยังไงกับฉัน

ทันใดนั้น พันเดชเงยหน้ามองหล่อน “คุณสบายใจได้ ผม จะรักและดูแลคุณให้มากๆ พูดพลาง ปากของเขาเผยอขึ้น ประทับจูบลงบนริมฝีปากของจิดาภา
เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มเคลิ้ม ได้คับจะเอาศอก จิดาภารีบผลัก ตัวออกมาจากอ้อมอกของเขา

“คุณพันเดซ ที่นี่บริษัทนะ อย่าทำแบบนี้สิ!” จิตาภาพูด เดือน

เมื่อเห็นท่าทีของหล่อน พันเดชทำท่าทางหงอยคอตก เสมือนกินเหยื่อไม่สำเร็จ ทำได้เพียงเชื่อฟังคำสั่ง ใครให้เขา กลายเป็นคน “เชื่อฟัง” เช่นนี้แล้วล่ะ

ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทันใดนั้น มือถือที่ตั้งอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น

พันเดชมองเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอ จากนั้นกดรับ

“ฮัลโหล…”

เมื่อได้ยินเสียงของคู่สาย พันเดชขมวดคิ้วขึ้นทันที “โอเค ผมรู้แล้ว ตามใจหล่อนเถอะ!

หลังจากวางสายลง จิดาภามองหน้าเขา “ทำไมเหรอ? เกิดอะไรขึ้น? ”

“เจมน่าโวยวายจะออกจากโรงพยาบาล!” พันเดชตอบกลับ

“คุณยอมเหรอ?”

“ถ้าผมไม่ยอมหล่อนก็แอบหนีออกมาเองได้ ทำไมจะไม่ ยอมล่ะ!” พันเดชพูดขึ้น
จิดาภามองเขา รู้ว่าพันเดชก็ลำบากใจ หล่อนขมวดคิ้ว

“หล่อนคนเดียว!?

“ยังมีนิสนธิ์!”

นิสนธิ์ จิดาภาพูดชื่อขึ้นอีกครั้ง “คนที่เจอเมื่อคืน

พันเดชพยักหน้า

จิดาภาตก ใจตะลึง เดิมที่คิดว่าเป็นการพบกันโดยบังเอิญ ที่เจมน่าตั้งใจยั่วโมโหพันเดช แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะ รู้จักและติดต่อกันจริงๆ

“นิสนธิ์เขาเป็นคนยังไง?” จิดาภาถาม

พันเดชส่ายหน้า “ไม่แน่ใจ

พันเดชขมวดคิ้ว เหมือนกำลังคิดบางอย่างอยู่

จากนั้น พันเดชมองหล่อน “ช่างเถอะ ไม่ต้องคิดแล้ว ไม่ เช่นนั้นลูกชายคุณจะอารมณ์ไม่ดีด้วยนะ คิดดีกว่าว่าเที่ยงนี้ ทานอะไรกันดี!” พันเดชไม่อยากให้จิดาภาต้องมาคิดกังวลกับ เรื่องเช่นนี้

จิดาภายิ้มและพยักหน้า “โอเค!

เมื่อถึงตอนกลางวัน ภาออกไปทานข้าวกับพันเดช ขณะที่ทั้งสองกำลังทานข้าวพูดคุยกันอยู่ มีเสียงบางอย่าง ดังแทรกขึ้นระหว่างบทสนทนา
“พันเดช พิจิดาภา บังเอิญจังเลย!

เมื่อได้ยินเช่นนั้น พันเดชและจิดาภาต่างพากันหันไปมอง จากนั้นเห็นเจมน่าเดินควงแขนมากับนิสนธิ์ ทั้งสองยืนยิ้มอยู่ Gานข้างพวกเขา

จิดาภามองตรงไปที่ทั้งสอง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ทำได้ เพียงมองไปหาพันเดช

พันเดชกลับทานสเต็กด้วยท่าที่ผู้ดี “บังเอิญดี!

“ฉันเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล นิสนธิ์ก็เลยพาฉันมา ฉลองที่นี่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอพวกคุณ” เจมน่าพูดพลาง หัวเราะขึ้น

“ยังไงก็ต้องดูแลสุขภาพด้วยนะ!” จิดาภาพูดขึ้น

เจมน่าพยักหน้าพลางยิ้มให้ “เข้าใจแล้วค่ะ ในเมื่อเป็น แบบนี้ งั้นพวกเราไม่ขอรบกวนพวกคุณทานอาหารแล้วนะคะ! พูดพลาง หันมองนิสนธิ์ “พวกเราไปทางโน้นกัน!” จากนั้นทั้ง สองหันหลังเดินตรงไปอีกทางหนึ่ง

ตอนนั้นเอง จิดาภามองหน้าพันเดช เขายังคงมีสีหน้า เรียบนิ่ง ราวกับเรื่องทั้งหมดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเอง

เขาทานอาหารต่อเรื่อยๆ จนจิดาภาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ

อันที่จริงที่เจมน่าทำเช่นนี้ พวกเขาดูออกอย่างชัดเจนว่าหล่อนตั้งใจ
เมื่อก่อนไม่เคยได้ยินว่าเจมน่ารู้จักคนแบบนี้ด้วย แค่เคย เจอกันที่ผับ จากนั้นก็คบกันเป็นแฟน เรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องไร้ สาระที่สุด พูดให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อ

ดังนั้น ที่เจมน่าทำเช่นนี้ มีจุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียว เพื่อตั้งใจทำให้พันเดช โมโห

“ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ?” พันเดซขับรถพลางหันหน้ามาถาม

หล่อน

จิดาภามองหน้าเขา “พันเดช เจมน่าทำแบบนี้ คุณคงรู้ เจตนาของหล่อนดีใช่ไหม!

เมื่อได้ยินจิดาภาพูดเช่นนั้น พันเดชจึงหันข้างมา ยื่นมือ มาจับมือของหล่อนไว้ “อย่าคิดมากนะ ไม่ว่าหล่อนจะทำเพื่อ อะไร ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว!” พันเดชพูดเช่นนี้ เพราะกลัวว่าจิดาภาจะคิดมาก

“หล่อนทำแบบนี้ก็เพราะอยากจะทำให้คุณโมโห ส่วนนิ สนธิ์เป็นคนยังไง พวกเราไม่มีใครรู้! จิดาภาพูดขึ้น

“นี่เป็นทางเลือกของหล่อน ไม่ว่าหล่อนจะทำเพื่ออะไร

หล่อนก็ต้องชดใช้กับการกระทำของตัวเอง!” พันเดชหันมอง หล่อนพูดขึ้น

“ถ้า…เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจมน่าล่ะ คุณจะรู้สึกผิด เปล่า?” จิดาภาถาม

“หล่อนช่วยผมไว้จนกลายเป็นเช่นนี้ ผมคงต้องรู้สึกผิดแต่ถ้าดูจากการกระทำของหล่อนในตอนนี้ ผมคงไม่รู้สึกเช่น นั้น สิ่งที่หล่อนทำ ผมเคยห้ามแล้ว แต่สุดท้าย ก็ต้องขึ้นอยู่กับ ตัวของหล่อนเอง เพราะนี่เป็นสิ่งที่หล่อนเลือก!” พันเดชพูด อย่างชัดถ้อยชัดคำ

ในเมื่อเขาพูดเช่นนี้แล้ว จิตาภาจึงพยักหน้าลง

“แต่ คุณจะไม่โกรธจริงเหรอ?” จิดาภาถาม

“คุณหมายถึงเรื่องไหน?”

“เจมน่าไง หล่อนตั้งใจทำให้คุณโกรธ คุณน่าจะดูออกนะ!”

พันเดชจับมือของหล่อนไว้แน่น “ผมโกรธ เพราะสิ่งที่ หล่อนทำทั้งหมดนี้ไร้ประโยชน์สิ้นดี ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไร ได้!”

“แต่ผมไม่มีทางโกรธเพราะหล่อนไปคบกับผู้ชายอีกคน ถ้าผมเกิดรู้สึกขึ้นมา เช่นนั้น ผมคงไม่ควรค่ากับความรักของ

คุณ…

ไม่มีทางปฏิเสธได้เลยว่า เมื่อจิดาภาได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ทำให้หล่อนมีความสุขมาก

เพราะหล่อนเข้าใจเป็นอย่างดี ถ้าพันเดชรู้สึกโกรธขึ้นมา จริงๆ ท่าทางหึงหวง หล่อนคงไม่มีทางยอมรับได้

ไม่ว่าเขาจะมีข้อแก้ตัวหรือเหตุผลอะไรที่ดีกว่านี้ หล่อน เข้าใจดีว่าเขาคงเติมแต่งบางอย่างขึ้นบ้าง แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาพูดออกมา กลับทำให้หล่อนมีความสุขมาก

รถแล่นไปบนท้องถนน ทั้งสองไม่พูดอะไรต่อ แต่กลับจับ มือกันไว้แน่น

เจมน่าออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ยังอยู่ที่บ้านของพัน

เดช

คุณหญิงภารดีและคุณยายตระกูลฐิตานันท์ดูแลและเอ็นดู

หล่อนมาก

ทุกวันที่ผ่านมานอกจากหล่อนจะกลับไปนอน ช่วงกลางวัน หล่อนก็มักจะอยู่กับนิสนธิ์ตลอด และนิสนธิ์ก็เป็นคนมาส่ง หล่อนกลับบ้านทุกวัน

ว่าไปแล้ว หล่อนคงอยู่ในช่วงความรักที่ยังไฟแรงอยู่

วันนี้ พันเดชกลับบ้านมาทำธุระ เมื่อเขากำลังออกจาก บ้าน บังเอิญเห็นนิสนธิ์มาส่งเจมน่ากลับบ้านพอดี

ทั้งสามยืนอยู่ตรงนั้น มองหน้ากันไป มองหน้ากันมา ท้ายสุดนิสนธิ์เป็นฝ่ายพูดทักทายพันเดชก่อน “ประธาน

พันเดช!”

พันเดชยืนอยู่ที่เดิม ใส่ชุดกันลมสีดำ ดูยิ่งใหญ่มีอำนาจ มือทั้งสองประสานไขว้อยู่ด้านหลัง ไม่พูดอะไร แต่สายตามอง ตรงไปที่พวกเขาทั้งสองคน

ตอนนั้นเอง นิสนธิ์มองหน้าเจมน่า “ดึกมากแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะ!”

“อื้ม โอเคค่ะ ขับรถระวังด้วยนะคะ ฉันจะคิดถึงคุณนะ!” เจมน่าพูดพลางยิ้มให้เขา จากนั้นเดินเข้าไปจูบลงบนใบหน้า ของนิสนธิ์ ท่าทางของหล่อนเหมือนผู้หญิงที่กำลังอยู่ในช่วง ความรักไฟแรง

นิสนธิ์ยิ้มและพยักหน้าลง “คุณก็เช่นกันนะ รีบพักผ่อนได้

แล้ว ฝันดีครับ!

“ฝันดีค่ะ!”

นิสนธิ์เหลือบมองพันเดช ไม่พูดอะไรต่อ จากนั้นขึ้นรถขับ ออกไปทันที

หลังจากที่เขากลับไป เจมน่าก็เดินกลับเข้าบ้าน

“คุณจริงจังเหรอ?” ระหว่างที่หล่อนเดินผ่าน พันเดชรีบ

ถามขึ้น

เจมน่าหยุดเดิน หันไปคุยกับพันเดช “คุณคิดว่าไงล่ะ?”

พันเดชมองหล่อน “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าคุณคิดยังไง แต่ เจมน่า ผมแค่อยากจะบอกคุณว่า อย่าทำเรื่องอะไรที่ต้องทำให้ ตัวเองเสียใจภายหลัง

เจมน่ามองเขากลับ หรี่สายตาลง “ทำไมล่ะ? เห็นฉันมี ความสุขแล้ว คุณไม่พอใจงั้นเหรอ?

“ถ้าคุณมีความสุขจริง ผมคงจะดีใจแทนคุณอย่างแน่นอน!” พันเดชพูดด้วยเสียงนิ่งเรียบ

เจมน่าหัวเราะเยาะภายในใจ

มองตรงไปที่เขา “งั้นคุณหมายความว่ายังไงล่ะ?”

“แค่เตือนคุณเท่านั้น!

“ฉันไม่ใช่เด็ก ทำอะไร ฉันรู้ตัวเองดี!” เจมน่าพูดด้วยน้ำ เสียงไม่สบอารมณ์นัก แต่ก็เป็นเพราะรีบเร่งเกินไป

เมื่อได้ยินเช่นนั้น คนที่ควรจะหงุดหงิดควรจะเป็นหล่อนถึง จะถูก

แน่นอน พันเดชมีท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย สีหน้านิ่งเรียบ เหมือนเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมก็สบายใจแล้ว

รีบพักผ่อน

ขอตัวกลับก่อน!” เมื่อพูดจบ พันเดชหันหลังเดินออกไป

ผม

เจมน่ายืนอยู่ที่เดิม เมื่อได้ยินเขาพูดออกมาเช่นนั้น รู้สึก ปวดใจขึ้นมา จากนั้นหล่อนยื่นมือออกไปจับหัวใจ น้ำตาไหล รินออกมา

“เดี๋ยวก่อน!” หล่อนพูดขึ้น

พันเดชหยุดชะงัก มองไปที่หล่อน ใบหน้าอันหล่อมีเสน่ห์ เขาถามขึ้น

หันกลับมาด้วยสีหน้าแปลกใจ “ยังมีเรื่องอะไรอีกงั้นเหรอ?”
“ขอให้คุณครองรักกับพี่จิดาภาไปจนแก่เฒ่า” หล่อนพูด อยากชัดถ้อยชัดค่า

“ขอบคุณ พวกเราต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน!” พูดพลาง พันเดชขึ้นไปบนรถ จากนั้นขับรถออกไปทันที

แต่เจมน่ายังคงยืนอยู่ที่เดิม มองดูเขาจากไป น้ำตายังคง ไหลลงมาไม่หยุด

พันเดช คุณไม่สนใจฉันสักนิดจริงเหรอ?

อย่างน้อย สักนิดนึง…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ