ภรรยาที่น่าเกลียดของฉันเป็นคนสวย หรือไม่?

ตอนที่770เพื่อนชายของเจมน่า



ตอนที่770เพื่อนชายของเจมน่า

ตอนที่ 770 เพื่อนชายของเจมน่า

ในขณะที่ไปรยากำลังคิดสะเปะสะปะไปเรื่อย เอลิสต์ก็ต้อง

มองเธอ แต่ว่า ฉันมีเงื่อนไขข้อนึง

ไปรยากระพริบตาปริบๆ เงื่อนไขอะไร

“นอกจากว่า เธอจะไปเป็นผู้ช่วยให้ฉัน

“ฉันเหรอ ไปรยาไม่ค่อยอยากจะเชื่อตัวเองเอลิสต์พยักหน้า ใช่สิ! ”

ในใจ รู้สึกลิงโลดขึ้นมา แต่ว่าก็ทำเป็นนิ่งไว้ แล้วทำไม ต้องเป็นฉันล่ะ”

“เป็นเพราะมีแค่เธออยู่ข้างกายเท่านั้น ฉันถึงวางใจ! “เอ ลิสต์พูดเสียงค่อย

ในใจของไปรยา เริ่มไม่เชื่อฟังเธอขึ้นมาอีก มันสับสน วุ่นวาย แต่ก็หวาน ความรู้สึกทั้งมวลถาโถมเข้ามาในใจ

“เป็นยังไงบ้าง อยากจะเป็นเพื่อนฉันไหม เอลิสต์ถาม

“แต่ว่า ฉันยังยุ่งอยู่นิดหน่อยนะ….”ไปรยากล่าว

“ร้านของเธอดังมากแล้ว ตอนนี้หาคนมาอีกสองสามคนก็ช่วยได้แล้ว! “เอลิสต์กล่าว

“เอาล่ะ กินอะไรก่อน ถ้าเธอไม่อยากจริงๆ ก็ปัดไปซะ! เอลิสต์กล่าว จากนั้น จึงดึงเธอไปที่โต๊ะอาหาร

“ฉัน ฉันไปล้างหน้าก่อนนะ! ไปรยากล่าว แล้วหันหน้า

ไปทางห้องน้ำ

เอลิสต์มองเธอ แล้วยิ้ม จากนั้นจึงวางของต่อ

หลังจากที่ไปรยาออกมา ก็กินได้เลย

“กินเถอะ! “เอลิสต์กล่าว

ไปรยาพยักหน้า นั่งลงตรงข้าม

ทั้งสองคนกินอาหาร ไปรยากินไป เหลือบตามองเขาไป เธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร

“เป็นไงบ้าง อยากจะพูดอะไรเหรอ เอลิสต์ถาม

ไปรยามองดูเขา ฉันคิดว่า นายจะไม่กลับมาเสียอีก

พูดถึงเรื่องนี้ เอลิสต์ที่กำลังกินข้าวจึงสะดุดลง เหลือบตา ขึ้นมองไปรยา เพราะงั้นเมื่อคืนเธอเลยนอนที่โซฟาห้องรับแขก ทั้งคืน เพราะรอฉัน! ? ”

ไปรยา ……

เธอบอกหรือไงว่าเธอหมายความว่าแบบนั้น
เธอกระพริบตาปริบๆ ก้มหน้าก้มตากินข้าวที่ไหนกันเล่า ฉันก็แค่เหนื่อยนิดหน่อย พอเอนก็เผลอหลับไปเท่านั้นเอง

“อย่างนั้นเหรอ”

“อย่างนั้นสิ! “ไปรยากล่าว เธอไม่มีทางยอมรับหรอกว่า เธอรอเขาจนหลับไปอยู่ตรงนั้น

เอลิสต์ก็ไม่ได้ถามต่อไป ได้แต่มองเธอแล้วยิ้ม กินข้าว

เถอะ!

ไปรยากินต่อ แต่ว่าที่มุมปาก กลับเชิดขึ้นอย่างไม่มี เหตุผล……

หลังจากที่กินข้าว ทั้งสองคนจึงไปที่ร้าน

ตลอดทาง ไปรยารู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก หลัง จากที่ไปถึงร้าน จีจ้ากับพนักงานอีกคนก็พุ่งเข้ามา

“พี่เอลิสต์ คนเมื่อวานคือใครเหรอ มาหาพี่ทำอะไร

“ใช่ที่ ดูรวยมากเลยนะ!

เอลิสต์ได้แต่ยิ้มไปทำงานไป ทำราวกับไม่ได้ยินว่าพวก เขากำลังพูดอะไรกัน

“พี่เอลิสต์คะ พี่ไม่รู้หรือว่า เมื่อวานหลังจากที่พี่ไปแล้ว พี่ ไปรยาเหมือนคนไร้วิญญาณเลย ไม่พูดอะไรสักคำ ดูไม่มีความ สุขเลย !

ในตอนที่พูดถึงไปรยา เอลิสต์ก็เริ่มมีอารมณ์เล็กน้อย เขาหันหน้ากลับไปมองจีจ้า

ส่วนเจ้าเองก็ยิ้ม แล้วเดินจากไป

เอลิสต์ยืนอยู่ตรงนั้น มองดูไปรยาที่กำลังง่วน มุมปาก ค่อยๆเชิดขึ้น

ในหนึ่งวันมานี้ นอกจากงานยุ่งก็คืองานยุ่ง

พอถึงช่วงบ่าย ตอนที่เสร็จธุระแล้ว มือถือของเอลิสต์ก็ดัง

ขึ้นอีก

เมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์มือถือ สีหน้าของเอลิสต์ก็เปลี่ยนไป แม้ว่าจะเปลี่ยนไปไม่ค่อยมาก แต่ไปรยาก็จับพิรุธได้

ดังนั้น เอลิสต์จึงถือโทรศัพท์มือถือไปอีกทาง

“ขอโทษนะครับ ผม……..

“เขาตอบรับแน่นอนครับ! “เอลิสต์เพิ่งพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง โทรศัพท์มือถือในมือก็กระดอนออก เขามองผู้หญิงตรงหน้า เธอกลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบ่นพึมพำ จากนั้นก็วางสายไป

“ฉันตอบรับเธอ! ไปรยากล่าว

เอลิสต์ตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าไปรยาจะตอบรับ

ในเวลานี้เอง ไปรยาเปิดปากขึ้นเป็นผู้ช่วยให้ดาราใหญ่ดีกว่าเปิดร้านตั้งเยอะ อีกอย่าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลังจากที่ เธอเป็นดาราแล้ว ร้านของฉันก็ยิ่งดังน่ะสิ ฉันขยายร้านได้ เปิดสาขาก็ได้! ไปรยายิ้มพลางพูด

เมื่อฟังความคิดของเธอ เอลิสต์เองก็ยิ้มแก้มปริ แล้วเดิน ไป เธอรับปากแล้วจริงๆเหรอ

ไปรยาพยักหน้า”ใช่สิ นายพูดไม่ผิด ฉันหาคนมาเฝ้าร้าน เพิ่มอีกสองสามคนก็ได้ อีกอย่างฉันกลับมาดูบ้างก็ได้ ไม่มี ปัญหา!

“เธอตัดสินใจแล้ว

ไปรยาพยักหน้า ยิ้มหน้าบานเป็นดอกไม้แรกแย้ม เอลิสต์มองดูเธอ มุมปากยิ้มขึ้นไปรยา ขอบใจนะ……

วันแต่งงานใกล้เข้ามา เหลืออีกเพียงเดือนเศษเท่านั้น มี ธุระปะปัง ให้ทำอีกมาก

แม้ว่าจิดาภาจะไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แต่ว่าก็ยังคงมีธุระ บางอย่างต้องทำ เธอผู้เป็นเจ้าสาว ยังมีอะไรต้องจัดการอีก

เช่น ซื้อเสื้อผ้า ตรวจตราบัตรเชิญเป็นต้น

จิดาภาก็ต้องลงไปดูหน่อย ในความว้าวุ่นเธอก็มีแอบ เกียจบ้าง หลังจากที่จิดาภาซื้อของเสร็จก็ไปที่บริษัทของพันเดช

พันเดชกำลังง่วนกับงาน ส่วนจิดาภารออยู่บนโซฟากำลังกินผลไม้ นั่งเล่นไอแพด ดูข่าวสาร ดูท่านักข่าวช่างรู้ ความเคลื่อนไหวของพวกเขาในสองสามวันนี้ดีเหลือเกิน

ในขณะที่จิตาภากำลังทอดถอนใจกับความเหนื่อยยาก

ของนักข่าว มือถือของพันเดชก็ดังขึ้น

จิดาภาเหลือบตาขึ้น เห็นพันเดชหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้น รับ“ฮัลโหล…..……

เพิ่งพูดออกไป สีหน้าของพันเดชก็เปลี่ยนไป

ในเมื่อไม่ได้พูด แต่ว่าจิดาภาก็ดูออก

“เป็นแบบนี้ได้ไง”

“ตกลง ผมรู้แล้ว! ”

หลังจากที่วางโทรศัพท์แล้ว พันเดชจึงรีบรับโทรศัพท์ต่อ

“เจ๊ก เข้ามาหน่อย!

หลังจากที่วางหูโทรศัพท์ จิดาภาจึงมองดูพันเดช เกิด อะไรขึ้นเหรอคะ”

พันเดชขมวดคิ้ว เจมน่าออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ไม่รู้ ว่าไปไหน…..

ได้ยินเรื่องนี้ จิดาภาเองก็ตกตะลึง

“เธอออกจากโรงพยาบาลได้แล้วเหรอ

พันเดชส่ายหน้า ผมเองก็ไม่รู้ สองสามวันนี้ค่อนข้างยุ่งไม่ได้ไปดู! ”

ในช่วงที่กำลังพูดคุย ประตูก็ถูกผลักออก เจ๊กเดินเข้า มา เจ้านายครับ หาผมเหรอครับ

“ไม่เห็นเจมน่าแล้ว รีบตามคนไปหาตัวเร็ว ไม่ว่าอย่างไร ก็ตาม จะต้องหาตัวมาให้ได้! “พันเดชกล่าว

เจ็กตะลึงงัน จากนั้นพยักหน้าครับ ผมทราบแล้ว! “หลัง จากที่ขานรับ เจ๊กจึงรีบออกไป

ในเวลานี้เอง พันเดชก็ไม่มีกะจิตกะใจทำงาน เขายืนบน เก้าอี้ เดินไปที่ด้านหน้าริมหน้าต่าง ดูออกว่า เขากังวลใจมาก

จิดาภาวางไอแพด ในมือ เดินไปทางพันเดช อย่ากังวลไป เลย เจมน่าออกมาจากโรงพยาบาลได้ก็แปลว่าไม่มีอะไรแล้ว ล่ะ หรือ พวกเราจะออกไปตามหาดี! “จิดาภากล่าว

พอได้ยินคำพูดจิดาภา พันเดชจึงมองเธอ ผมส่งคุณกลับ บ้านก่อน ผมออกตามหาเอง! ”

“ฉันจะนิ่งรออยู่บ้านได้ไงล่ะคะ ฉันไปกับคุณดีกว่า! “จิดาภากล่าวพันเดชก็ไม่ได้ยืนกรานต่อไป จึงออกไปบริษัทกับจิดาภาเมื่อขับรถ ทั้งสองคนเดินเลียบหาตามถนนในเวลานี้เอง พันเดชหยิบมือถือขึ้นมาโทรศัพท์หาที่บ้าน จิดาภามองดูเขา”คุณโทรหาใครคะ”
“คนที่บ้าน จะดูว่าเจมน่าได้กลับไปไหม!

“ฉันพูดเองค่ะ! “จิดาภาเปิดปากพูด

พันเดชก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยื่นโทรศัพท์ส่งให้จิตาภา

ไม่นานโทรศัพท์ก็โทรติด คุณหญิงภารตีรับสาย

“ฮัลโหล หนูเองค่ะ!

“หนูจิดาภาหรือจ๊ะ

“ค่ะ หนูเอง! “

“เป็นอะไรจ๊ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

“อ๋อ ไม่มีเรื่องอะไรหรอกค่ะ แค่อยากจะถาม วันนี้ได้ไปดู เจมน่ากันที่โรงพยาบาลกันบ้างหรือเปล่าคะ

“เจมน่าเหรอ ไม่ได้ไปมาสองสามวันแล้วจ๊ะ มีอะไรจ๊ะ! ? ”

ได้ยินดังนี้ จิดาภาหันหน้าไปมองพันเดซ เป็นที่รู้กันว่า เจมน่าไม่ได้กลับบ้าน

“เกิดอะไรขึ้นหรือจ๊ะหนูจิ”คุณหญิงภารตีถามมาจากสาย

โทรศัพท์

“อ๋อ ไม่มีอะไรจ๊ะ ตอนแรกตั้งใจจะตุ้นน้ำแกงไปให้เจ มน่าน่ะค่ะ เลยถามเฉยๆว่าได้ไปแล้วหรือยังค่ะ!

“สองสามวันนี้กำลังยุ่งเรื่องงานแต่งของพวกหนูนะค่ะ เลยไม่ว่าง อีกสองสามวันค่อยไปนะจ๊ะ!

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นอย่าวิ่งไปวิ่งมาเลยค่ะ วันนี้หนูอยู่

เป็นเพื่อนเขาทางนั้นจะดีกว่า! “จิดาภากล่าว คุณหญิงภารตีลังเลเล็กน้อย พยักหน้างั้นก็ได้จ๊ะ ตอนนี้ หนูตั้งท้องอยู่ ก็ควรจะพักผ่อนมากๆ อย่าหักโหมนะจ๊ะ!

“ค่ะ หนูทราบแล้วค่ะ คุณย่าสบายใจนะคะ!

หลังจากพูดไปแล้วสองสามคำ จึงวางหูโทรศัพท์

จิดาภามองดูพันเดช น้ำเสียงในโทรศัพท์ พวกเขาได้ยิน ชัดเจน เป็นอันว่า เจมน่าไม่ได้กลับไป

สีหน้าของพันเดชไม่สู้ดี

จิดาภามองดูพันเดช ในตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจ

อย่างไรดี

“จริงสิ ทางนี้นอกจากคุณแล้ว เธอยังรู้จักใครอีกไหม

ดาภาถาม

พูดมาถึงตรงนี้ พันเดชก็นึกขึ้นได้จริงสิ โทรศัพท์หาลาภ ศกันเถอะ! “

พวกเขาสี่คน เจมน่ารู้จักหมดทุกคน แต่ว่านอกจากเขา แล้ว เจมน่าจะสนิทกับลาภิศมากหน่อย

จิดาภาพยักหน้า รีบหยิบมือถือขึ้นมา โทรศัพท์หาลาภิศ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้พันเดช
ไม่นานนัก โทรศัพท์โทรติด“ฮัลโหล…….

“ลาภิศ นี่ฉันเองนะ เจมน่าไปหาเธอหรือเปล่า! “พันเดช

ถามออกไปตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม

“เธออยู่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ

“เธอหนีออกมาจากโรงพยาบาล ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราว

เลยแม้แต่น้อย! “พันเดชพูดอย่างเป็นกังวล

“ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ”

“เปล่า! “พันเดชปฏิเสธ

“แล้วเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง!?

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ช่วยหาหน่อย ถ้าเธอติดต่อมา รีบบอกฉันเลยนะ!

ลาภิศพยักหน้า “ฉันรู้แล้วล่ะ!แบบนี้ แล้วจึงวางสายโทรศัพท์ไปจิดาภามองเขา ลาภิศก็ไม่รู้หรือคะ”

พันเดชพยักหน้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ