ภรรยาที่น่าเกลียดของฉันเป็นคนสวย หรือไม่?

ตอนที่793ก่อนวันแต่งงาน



ตอนที่793ก่อนวันแต่งงาน

ตอนที่ 793 ก่อนวันแต่งงาน

แค่คิดถึงชื่อนี้ หัวใจของเขาก็เจ็บปวด

“ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าสรุปแล้วพวกคุณมีความสัมพันธ์ยัง ไงกัน หรือว่าเคยเจอเรื่องอะไรมา แต่ว่าผมมองออกว่า เธอไม่ อยากเจอหน้าคุณ หลายปีมานี้ เธอหายไปขาดการติดต่อ บางทีก็อาจจะเป็นเพราะว่าไม่อยากเจอหน้าคุณ ในเมื่อเป็น แบบนี้แล้ว ทำไมคุณต้องไปตามหาเธออีก? “วรชิตพูด

แม้ว่า เขาจะเป็นคนที่ฉัตรชัยรัก แต่ว่าก็มองออกว่า ฉัตร ชัยตัดสินใจเดินออกมาจากเขาแล้ว ไม่ยังงั้นก็ไม่ฝากลูกไว้กับ ตระกูลสวันนีย์ แล้วตัวเองก็หายไปคนเดียวแบบนี้หรอก

พอได้ยินคำพูดของวรชิต เปศลก็นั่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไป นานก็ยังไม่ได้สติกลับมา

รู้ว่าเธอเกลียดเขา แต่ว่าไม่คิดว่า จะเกลียดจนถึงขั้นนี้

เพื่อเขาแล้ว พยายามซ่อนตัวเองอย่างสุดความสามารถ

แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยทำร้ายต้องการทำร้ายเธอเลย แต่ว่าอยากจะชดใช้ อยากจะรักเธออีกครั้ง ถ้าเกิดว่าเธอไม่ เห็นด้วย เขาก็จะไม่บังคับเธอ แต่ว่าทำไม ทำไมผลลัพธ์มันถึง เป็นแบบนี้ได้
วรชิตไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน นั่งอยู่ตรง นั้น เงียบอยู่นานไม่ได้พูดอะไร แล้วปวีร์ก็เดินเข้ามาเรียกเขา ไว้

“เปล เป็นยังไงบ้างครับ?

พอได้ยินเสียงของเปล เปลถึงได้ลุกขึ้น แล้วก็เดินออก ไปอย่างตัวแข็งๆ แต่ว่ามือหนึ่งก็ยังกุมหัวใจของตัวเองไว้…….

ปวีร์มองอยู่ด้านหลัง ขมวดคิ้วอย่างเป็นห่วง

วันเวลาผ่านไปแบบนี้ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตก็อยากที่จะกลับ ไปสงบอีกครั้ง

และแผลของจิดาภาก็สมานกันได้ดีมาก แล้วอีกอย่าง ก็ ไม่ได้ทิ้งรอยแผลเป็นที่น่ากลัวไว้อย่างที่คิดเอาไว้ แต่ว่าเหลือ ไว้แค่รอยธรรมดาๆ เท่านั้น เล็กมาก ถ้าเกิดว่าไม่สังเกตก็มอง ไม่ออกเลย หมอบอกว่า มันจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปตามกาล เวลา จะไม่เหลือรอยแผลเป็น

ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นรอยจิดาภาก็ไม่สนใจหรอก ถ้าเอา ตามที่พันเดชพูด ถ้าเกิดว่ามีรอยแผลเป็นก็ถือว่าเป็นคำเตือน ให้เขารักเธอมากขึ้น เธอก็เลยไม่ได้หมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ มากเท่าไหร่

งานแต่งงานใกล้เข้ามา จิดาภาที่รู้สึกแย่ๆ มาตลอดก็เริ่ม ที่จะกังวลแล้วก็ตื่นเต้นขึ้นมาแล้วเหมือนกัน

ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่การแต่งงานครั้งแรก แต่ไม่ว่าจะยังไงมันก็เป็นครั้งแรกที่ได้สวมชุดแต่งงาน ต่างหากที่เป็นการ

แต่งงานครั้งแรกสำหรับเธอที่แท้จริง

คืนก่อนวันสำคัญ จิดาภากับคนของตระกูลสวันนีย์และ ตระกูลสวันนีย์มารวมตัวกินข้าวกัน

คนในครอบครัวกินข้าวด้วยกัน รื่นเริงมาก

กชกรมองเอ “จิ ไม่ได้เป็นอะไรแล้วจริงๆ ใช่มั้ย? แผลไม่ เจ็บแล้วใช่มั้ย?

“ไม่มีอะไรแล้วค่ะ! ”

“ตอนที่เกิดเรื่องกับเธอนั้น ฉันไม่ได้อยู่พอดี ก็เลยไม่ได้ ไปเยี่ยม เธอโกรธเปล่า? ”

จิดาภายิ้ม “แน่นอนว่าไม่ แล้วอีกอย่าง หลังจากนั้นเธอก็ มาเยี่ยมฉันแล้วไม่ใช่หรอ? “

“ตอนที่เธอต้องการฉันมากที่สุด แต่ว่าฉันไม่ได้อยู่ข้างเธอ ฉันยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เลย! “กชกรตอบ

จิดาภาม บางเวลากชกรก็น่ารักมากจริงๆ เป็นผู้หญิงที่ ทำให้คนยากจะไม่รัก

เงยหน้าขึ้น มองหน้าเปรมศักดิ์ที่อยู่ด้านข้าง หวังอย่าง มากว่าเขาจะเห็นคนข้างๆ ได้อย่างชัดเจน

“ตอนใส่ชุดแต่งงานจะเห็นรอยแผลมั้ย? “

“แค่นิดหน่อย มองไม่ค่อยออกเท่าไหร่ พันเดชให้ดีไซเนอร์ออกแบบผ้าคลุมให้แล้ว จนถึงตอนนั้นจะได้ใช้ “ยังมีผ้าคลุมอีกงั้นหรอ? ดูเหมือนว่าพี่พันเดชเป็นคน

รอบคอบจริงๆ กชกรพูดด้วยใบหน้าอิจฉา

จิตาภายิ้มอย่างมีความสุข

การันต์กับจันทน์ แม้แต่กชกรก็รุมพูดคุยหัวเราะอยู่กับ ดาภา มีแต่เปรมศักดิ์ที่อยู่ด้านข้าง ได้แต่กินข้าวนิ่งๆ เหมือน กับว่าบรรยากาศที่มีความสุขรอบๆ นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา เลยแม้แต่นิดเดียว

ตอนนั้นเอง กชกรก็มองหน้าเขา “เปรม นายเป็นอะไรไป วันมะรืนจิก็จะแต่งงานแล้ว นายจะไม่พูดอะไรหน่อยหรอ? กชกรมองไปที่เขา

พอได้ยินคำพูดของเธอ เปรมศักดิ์ก็เงยหน้าขึ้นมา คิดอยู่ ซักพัก แล้วก็พูดออกมา “ดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้คนใน ครอบครัวต้องเป็นห่วง! “

จิดาภาพยักหน้า

กชกร “…แค่นี้หรอ ไม่มีแล้ว? ”

เปรมศักดิ์พยักหน้า

กชกรรู้สึกท้อถอย หันหน้ามามองหน้าจิดาภา “จิ เขาคือพี่ ใหญ่ของเธอ เธอคงจะรู้จักเขาดีที่สุดแล้ว แสดงออกไม่ค่อย เก่ง เธอไม่ต้องตำหนิไปหรอกนะ! ”
“แน่นอนว่าไม่หรอก! “ จิดาภายิ้ม

“ที่จริงฉันกับพี่ใหญ่ของเธอได้เตรียมของขวัญไว้ด้วย

ตอนที่พูดอยู่นั้น กชกรก็หยิบกล่องมาจากทางด้านหลัง “นี่คือ น้ำใจเล็กน้อยจากฉันและพี่ใหญ่ของเธอ! จิดาภาอึ้งเล็กน้อย แล้วก็รีบพูดว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะพี่

สะใภ้”

“เธอรับไปเถอะ ถ้าเกิดว่าไม่รับฉันกับพี่ชายเธอจะไม่ สบายใจนะ! ”

“ถ้ายังงั้น…ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ใหญ่ พี่สะใภ้! “จิดา ภายิ้มเรียบๆ แต่ว่าก็ไม่ได้เปิดของขวัญในทันที วางมันไว้ด้าน ข้าง

“พอแล้ว รู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอดี รีบกินข้าว มัน จะเย็นแล้ว! “จันทนียิ้มแล้วตอบ

จิดาภาได้แต่ยิ้มเรียบๆ หลังจากนั้นก็กินข้าวกับคนใน ครอบครัวต่อ

เปรมศักดิ์นั่งอยู่ฝ่ายตรงข้าม ตั้งแต่ต้นจนจบก็ได้แต่เก็บ ไว้ ไม่ได้พูดอะไรมากมาย จิดาภาเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา แล้ว ในหัวก็อดคิดเรื่องที่เจมน่าพูดกับเธอไม่ได้……

จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เธอยอมจะเชื่อว่า เจมน่าโกหกเธอ แต่ว่าในใจก็รู้สึกเชื่ออย่างประหลาด

สีหน้าของเธอหมองหม่นลงเล็กน้อย หลังจากนั้นก็กินข้าว
เธอบอกตัวเองว่า ครั้งนี้ให้เป็นพิเศษ แต่ว่าครั้งหน้าจะไม่

ทำอีกแล้ว หลังจากกินข้าวเสร็จ เปรมศักดิ์ก็ไปรับลมที่ระเบียง หลัง

จากจิดาภาเห็นเขาก็เดินเข้าไป

“พี่ใหญ่! ” เธอเรียก ”

พอได้ยินเสียงเรียก เปรมศักดิ์ก็หันกลับมา แล้วคลี่ยิ้มที่ หาได้ยากออกมา

“คิดอะไรอยู่? ” จิดาภาถาม

“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เรื่องงานน่ะ! “เปรมศักดิ์ได้แต่ตอ

บนิ่งๆ

ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่จิดาภาคุยกับเขาที่บริษัทนั้น ทั้งสองคน ก็ไม่ได้เจอหน้ากันเท่าไหร่

“ช่วงนี้ เรื่องงาน ราบรื่นดีมั้ย? “จิดาภาถามหยั่งเชิง เปรมศักดิ์ยกไวน์ขึ้นดื่ม แล้วพยักหน้า “ยังดีอยู่! “ ”

“ไม่ต้องลำบากมากเกินไปหรอกนะ บางครั้งก็ผ่อนคลาย

บ้างก็ได้! “

“ได้เลย! “

“รอให้งานแต่งงานฉันจบ จะไปช่วยพี่ที่บริษัท! “จิดาภาพูด

พอได้ยินดังนี้ เปรมศักดิ์ก็อึ้งไป เธอที่ไม่เคยสนใจเรื่อง พวกนี้เลย อยู่ดีๆ ก็พูดแบบนี้ออกมา มันช่วยไม่ได้ที่จะทำให้ เอาสงสัยเล็กน้อย

“จู่ๆ ก็คิดได้งั้นหรอ?” เปรมศักดิ์ยิ้มแล้วถาม

“พ่อให้หุ้นฉันตั้ง20%เลยนะ ฉันจะถือแค่หุ้นแต่ไม่ทำอะไร

เลยก็ไม่ได้นิ! “จิดาภายิ้มแล้วพูด

เปรมศักดิ์อึ้งไป ยิ้มแล้วพยักหน้า “ถ้าเกิดว่าเธอยอมกลับ มาช่วยฉัน แน่นอนว่ามันจะดีมาก! “

จิดาภายิ้ม “แต่ว่า ต้องรอให้ฉันคลอดลูกให้เรียบร้อย ก่อนนะ! ”

พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เปรมศักดิ์ก็หมุนตัวมา มองที่ท้องของ เธอ ถึงแม้ว่าจะมองไม่ค่อยออกเท่าไหร่ แต่ว่ามันก็มีความรู้สึก ละมุนออกมาจากตัวของจิดาภาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการที่มี เด็กอยู่ในท้องของเธอนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ต้องสงสัยเลย

เขายิ้ม “บริษัทธีร์อธิศ ต้อนรับเธอเสมอแหละ!

จิดาภาพยักหน้า “ฉันเชื่อว่า จนถึงตอนนั้นลูกน้อยก็อยาก จะเล่นกับคุณลุงแน่นอน!

คุณลุง……

เป็นคำที่ห่างไกล
แต่ว่า เขาก็ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน “ก็ได้ จนถึงตอนนั้น

ฉันจะต้องเล่นกับเขาแน่นอน! ” คุยกันอยู่ซักพัก จนถึงตอนที่คนขับรถมารับเธอ จิดาภา

ถึงได้กลับไป วันนี้ สิ่งที่ควรพูด สิ่งที่ควรแสดงออกเป็นนัยๆ เธอก็ได้ พูดไปหมดแล้ว ได้แต่หวังว่า เปรมศักดิ์จะเข้าใจความหมาย

ของเธอ

ยังเหลืออีกวันนึงก็จะถึงวันแต่งงานของพวกเขาแล้ว

โชคดี ที่ท้องของจิดาภาไม่ได้ชัดเจนเท่าไหร่ พอใส่ชุด แต่งงานก็มองไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว

วันนี้ ทุกคนไปรวมตัวกันที่คฤหาสน์เก่าของตระกูลฐิตา

นันท์

แน่นอน รวมถึงไปรยาและแก้วด้วย

พวกเธอเป็นเพื่อนเจ้าสาวที่ถูกเลือกมาอย่างดี แล้วก็เลย

ต้องมาลองชุด

จากนั้น ตอนที่เพื่อนเจ้าสาวทั้งสองคนลองชุดอยู่นั้น คุณชายทั้งสามก็มาเยี่ยมเยือน

ตอนที่เห็นพวกเขานั้น ลาภิศก็ผิวปากอย่างหน้าหม้อ “มา

ที่นี่ วิวสวยจริงๆ เลยนะ!

แก้วกับไปรยาต่างใส่ชุดเพื่อนเจ้าสาว ตอนที่กำลังปรึกษาหารือกับจิดาภาอยู่นั้น คุณชายทั้งสามคนก็มา

ความสูงของผู้ชายทั้งสามคนไล่เลี่ยกัน หุ่นก็เหมือนกัน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือใส่เสื้อผ้าสีสันไม่เหมือนกัน หน้าตาก็ไม่ค่อยเหมือนกัน แต่ว่าความรู้สึกของชนชั้นสูงนั้น แทบจะไม่ได้ต่างกันเลย

พวกเขาก็เป็นวิวที่งดงามเหมือนกันนั่นแหละ

“ถ้ายังงั้นพวกคุณสามคน ใครเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวคะ? “ไป รยามองแล้วถามพวกเขา

ลาภิศเลิกคิ้ว เป็นทั้งสามคนเลยไม่ได้หรอ? ”

“เพื่อนเจ้าสาวมีแค่สองคน แล้วเพื่อนเจ้าบ่าวจะมีสามคน ได้หรอ? ” ไปรยาถามกลับ บางทีอาจจะเพราะว่าจิดาภาอยู่กับ พันเดชมานาน ก็เลยไม่ได้รู้สึกกับพวกเขาเหมือนคนแปลกหน้า ชำนาญในการหยอกล้ออยู่เหมือนกัน

“ถ้ายังงั้นก็ต้องดูว่าเพื่อนเจ้าสาวสุดสวยทั้งสองท่านจะ เลือกใครให้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว! “ลาภิศยังคงปากจัดเหมือน เดิม

“งั้นก็ดูเหมือนว่านายน่าจะแพ้การเลือกในครั้งนี้นะ ไม่ใช่คนอื่นพูด แต่ว่าเป็นพันเดชที่พึ่งเดินเข้ามาพอดีพูด

“ทำไมล่ะ? “ลาภิศรีบถามทันที

“ลางสังหรณ์! “
“คุณพันเดช อย่าใช้ลางสังหรณ์ของผู้ชายมาเข้าใจความ รู้สึกของผู้หญิงผิดๆ สิ! “

เพียงประโยคเดียว ทุกคนก็หัวเราะออกมา

ตอนนี้เอง อยู่ดีๆ ไปรยาก็คิดขึ้นมาได้ มองหน้าเขา “คุณ ชายลาภิศ ฉันมีคำถามนึงที่อยากถามหน่อยค่ะ!

“อะไรหรอ? “

“วันนั้นคนที่ฉันเจอที่โรงแรม ใช่คุณรึเปล่า?

เพียงประโยคเดียว บรรยากาศก็แข็งตัวทันที“

สายตาของจัสติน ปาณชัย จิดาภา พันเดช และแล้วก็ ต่างมองไปที่เขา

ลาภิศอึ้งไป หลังจากนั้นก็ดึงกลับมา “เธอหมายถึงวัน

ไหนหรอ? ”

“เอ่อ…….น่าจะประมาณสามวันก่อน ฉันเห็นคุณอยู่กับผู้ หญิงคนนึง ขอถามหน่อยว่า เป็นใครกันหรอคะ? “ไปรยาอด ไม่ได้ที่จะถามซุบซิบ น่าจะเพราะว่าลาภิศเองก็เป็นคนที่ไม่เลว ลอย นอกจากข่าวซุบซิบเรื่องเจ้าชู้นิดหน่อยเท่านั้นเอง

ลาภิศคิดอยู่ครู่นึง พอนึกถึงวันนั้นออก ก็อึ้งไป ไม่คิดว่า

เธอจะเห็นด้วย

เกิดความเงียบขึ้น

ไม่ใช่ว่าเขาไม่พูด แล้วคนอื่นจะปล่อยไป
“ลาภิศ จับได้คาหนังคาเขาแบบนี้ ยังจะพูดอะไรได้อีก หรอ? “ จิดาภายิ้มแล้วมองหน้าลาภิศ ลาภิศ …..ผมบอกว่าดูผิดได้มั้ย? สามวันก่อนผมไม่ได้

อยู่ที่โรงแรม ผมอยู่บ้าน “จะเป็นไปได้ยังไงกัน ฉันเห็นชัดมากเลยนะ ว่าคือคุณ! ไปรยาพูดต่ออย่างไม่เกรงใจ ทำให้คุณลาภิศไม่รู้จะทำตัวยังไง!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ