ภรรยาที่น่าเกลียดของฉันเป็นคนสวย หรือไม่?

ตอนที่627คุณย่าฟื้นแล้ว



ตอนที่627คุณย่าฟื้นแล้ว

ตอนที่ 627 คุณย่าฟื้นแล้ว

ในตอนเช้า

กว่าไปรยาจะตื่นนอนกก็ปาเข้าไปใกล้จะสิบโมงแล้ว

เธอรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเมื่อคืนตัวเองหลับไปได้ยัง ไง แต่พอตื่นขึ้นมาเห็นว่าจิดาภาไม่อยู่แล้วจึงรู้ได้ว่าเธอกลับไป แล้ว

เธอลุกจากโซฟาแล้วขยี้ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงแล้วก็เดินไปหา อะไรกิน ดื่มเบียร์ไปมากมายขนาดนั้นตอนที่ท้องยังว่าง ๆ กระเพาะของเธอเลยรู้สึกแสบนิด ๆ

ในตอนนี้เองเสียงกริ่งที่ประตูก็ดังขึ้นมา

ไปรยารู้สึกแปลกใจว่า ใครมันมาเอาป่านนี้ แถมปกติก็ไม่ค่อยจะมีใครมาหาเธออีกด้วย

พอคิดได้ดังนั้นเธอเดินตรงไปเปิดประตูโดยไม่แม้แต่จะ

ล้างหน้าล้างตา

แต่ทว่าหลังจากที่มองเห็นคนที่อยู่ด้านหน้าประตู ไปรยา นิ่งอึ้งจากนั้นก็ขมวดคิ้ว “นายมาทำไม”

คนที่อยู่ข้างนอกนั่นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเอลิสต์
เมื่อวานตอนที่เห็นข่าวการหมั้นของเปรมศักดิ์เขาก็รู้เลย ว่าไปรยาจะต้องเจ็บปวด ดังนั้นเขาจึงขอที่อยู่มาจากจิดาภา แล้วมาที่นี่

แต่พอเห็นสภาพไปรยาตอนนี้แล้วดวงตาของเขาก็ส่อง ประกายแสงที่ตรวจจับได้ยาก เขาปรับสายตาแล้วพูดขึ้นมาว่า “มาส่งข้าวเช้า!”

เห็นข้าวเช้าที่อยู่ในมือเขาแล้วไปรยาก็ยังไม่เข้าใจ “อะไร ของนาย คิดอยากจะตอบแทนฉันหรือไง”

เอลิสต์เงียบไป

“ไม่ไปหาตุลยาของนายละ

เอลิสต์ยังคงเงียบ

พอเห็นเขาไม่พูด ไปรยาก็ยิ่งโมโห “เอาไปส่งให้ดุลยา ของนายเถอะ!” พูดจบก็ปิดประตูดังปัง

เธอไม่ยอมให้เอลิสต์เข้ามา

เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่พอเห็นเขาเงียบ ไปแบบนั้นเธอก็เลยโมโห โมโหอย่างน่าประหลาด!

เขาก็รู้อยู่ชัด ๆ ว่าผู้หญิงคนนั้นนอกจากทำร้ายเขาแล้ว ไม่เคยทําอย่างอื่นเลย แล้วยังจะโง่ไปหาเธออีก

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นไปหาเธอเสียสิ

แต่ทำไมในหัวใจของเธอถึงได้รู้สึกอึดอัดนิด ๆ กันนะ
ในตอนนั้นเองเสียงกริ่งก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง ไปรยาขมวดคิ้ว เธอตัดสินใจแล้วว่าจะออกไปด่าเขาสักยก จึงหันกลับไปเปิด

ประตู

แต่ทว่าข้างนอกว่าเปล่าไม่มีคนอยู่ เธอนิ่งอึ้ง เขาไปแล้ว

เหรอ

เธอมองไปที่ถุงที่วางอยู่บนพื้น เขาวางของเอาไว้แล้วก็ไป อย่างนั้นเหรอ

ไฟโทสะของไปรยายิ่งไม่สามารถระบายออกมาได้ เธอ หยิบถุงที่ตั้งอยู่ข้างนอกขึ้นมา กำลังคิดที่จะเอาไปทิ้ง แต่ทว่า พอคิดดูอีกทีเธอก็หยิบมันกลับไป

“หิวจะตายอยู่แล้ว!” ไปรยาพูด หลังจากนั้นก็หยิบมันเข้า มาแล้วนั่งลงเตรียมที่จะกิน

ดูแลเขามานานขนาดนั้น ตอนนี้กินข้าวของเขาสักมื้อก็คง ไม่เกินไป ด้วยเหตุนี้ไปรยาจึงเริ่มลงมือกิน

ขณะที่กำลังกิน จะท่านั่งท่ากินก็ไร้ซึ่งภาพลักษณ์ใด ๆ หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ ตั้งสติได้ มองไปที่ตัวเองที่ใส่กางเกงขา สั้น เสื้อยืด เธอคิดไปสักพัก เมื่อกี้นี้เธอออกไปประจันหน้ากับ เอลิสต์ด้วยสภาพนี้อ่ะนะ

ตอนที่กำลังกินอยู่ไปรยาก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เธอคิดไป พลางเคี้ยวไปพลาง
ท้ายที่สุดก็ยกมือขึ้นกุมหัวอย่างจนปัญญา ช่างเถอะ จะ เห็นอะไรก็เห็นไป

เธอเองก็เคยเห็นของเขามาหมดแล้วเหมือนกัน!

พอคิดได้แบบนี้ ก็รู้สึกสมดุลขึ้นมานิดหน่อย แล้วก็ลงมือ กินต่อไป!

เดิมทีก็คิดว่าเรื่องนี้จะผ่านไปแบบนี้แล้ว แต่คิดไม่ถึงมา ก่อนเลยว่า วันที่สอง วันที่สาม วันที่สี่ เสียงกริ่งประตูของเธอจะ ดังขึ้นทุกเช้า แล้วหลังจากที่เปิดประตูก็จะพบข้าวเช้าวางอยู่ที่ หน้าประตู

อีกทั้งเมนูในแต่ละวันก็ไม่ซ้ำกัน

แต่ไปรยารู้ว่าเอลิสต์เป็นคนส่งทั้งหมดนี้มา

ไม่กี่วันก่อนหน้าก็กินอย่างมีความสุขอยู่หลอก อารมณ์ โกรธก็ค่อย ๆ กระจัดกระจายหายไปแล้ว ไม่กี่วันให้หลังตอนที่ คิดว่าอยากจะพูดคุยกับเอลิสต์ดี ๆ ก็พบว่าจะทำยังก็ไม่ได้เห็น หน้าเขา

ทุกครั้งที่เสียงกริ่งดังขึ้นเธอก็จะรีบเปิดประตูทันที แต่ก็ยัง ไม่พบเอลิสต์!

ความจริงเจ้าเอลิสต์คนนี้กำลังคิดอะไรอยู่แน่

ท้ายที่สุดในเช้าวันหนึ่งไปรยาก็ตัดสินใจได้แล้วว่า เธอ ตัดสินใจจะนั่งเฝ้าข้างโคนต้นไม้เพื่อจับกระต่าย

พอถึงตอนที่ข้าวเช้ากำลังใกล้จะมาส่ง เธอก็จะไปรอให้เอลิสต์ให้มาปรากฏตัวอยู่ที่ประตู

เธอใช้ตาแมวมองไปยังลิฟต์ พอเห็นว่ามีคนกำลังขึ้นมา เธอก็เปิดประตูออกไปทันที

แต่ทว่าเธอกลับนิ่งอึ้งไปตอนที่เห็นคนที่หยุดอยู่หน้าประตู

ชัดเจนแจ่มแจ้งเอามาก ๆ พอคนที่หน้าประตูมองเห็นเธอ ก็ชะงักไปเหมือนกัน

“นายเป็นใคร” ไปรยาถามคนที่หน้าประตู

“ผม…ผมมาส่งอาหารเช้าครับ!”

“ฉันไม่ได้รู้จักนาย!”

“ผมเองก็ไม่ได้รู้จักคุณ!” อีกฝ่ายพูดออกมาด้วยสีหน้า

เหยเก

ไปรยา “ไม่รู้จักฉันแล้วยังมาส่งข้าวเช้าให้ฉันทุกวันนี้คิดที่ จะวางยาฉันหรือยังไง!

“ไม่ใช่…ไม่ใช่นะครับ….มีคุณผู้ชายคนหนึ่งบอกผมว่าทุก เช้าให้ผมขึ้นมาส่งอาหารเช้าที่นี่ ผมเป็นคนในตึก…”คนคนนั้น พูด

พอเขาพูดแบบนี้แล้ว ไปรยาก็รู้สึกคุ้นหน้า

แน่นอนว่าเธอเองก็รู้ว่าคุณผู้ชายที่เขาพูดถึงคนนั้นเป็น

“เขาละ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เขาให้เงินค่าอาหารเช้าสอง เดือนกับผม แล้วให้ผมขึ้นมาส่งตามเวลาที่นัดไว้

ไปรยา “.….”

ดังนั้นจึงพูดได้ว่าจนถึงตอนนี้ก็เป็นเขาที่คอยเอาส่งอยู่ทุก

วัน

ในตอนนี้เองคนคนนั้นก็พูดออกมาว่า “คุณผู้หญิง แฟน ของคุณดีกับคุณมากเลยนะ อย่าโมโหไปเลย!

แฟนเฟินอะไร

ไปรยากระพริบตาปริบ ๆ เธอมองไปที่ชายคนนั้น ก็เข้าใจ ได้ในทันทีว่าเขากำลังพูดถึงเอลิสต์

“คุณเข้าใจผิดแล้ว เขาไม่ใช่แฟนของฉัน!

“ไม่ใช่บ้าง…”คนคนนั้นถาม

ไปรยาขี้เกียจจะพูดอะไรเยอะ “เอาของมาให้ฉันแล้วคุณก็ กลับไปได้แล้ว”

“ครับ ๆ ” คนคนนั้นส่งเสียงรับคำออกมาซ้ำ ๆ สองครั้ง แล้วก็ส่งข้าวเช้าให้กับไปรยา

หลังจากไปรยารับมาแล้ว ก็กลับเข้าไปในห้องทันที

เธอวางข้าวเช้าเอาไว้บนโต๊ะ จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเงียบเหงาได้ รสชาติขึ้นมาทันที

เธอคิดอยู่สักพักแล้วก็ตัดสินใจที่จะโทรศัพท์หาเอลิสต์แต่คิดไม่ถึงว่าโทรศัพท์จะปิดเครื่องไปแล้ว เธอโทรอีกครั้ง ก็ยังคงปิดเครื่อง…

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสองวัน ทุกครั้งที่เธอไปโทรศัพท์ ก็ยังคงปิดเครื่องเอาไว้เสมอ

ไปรยาเริ่มที่จะร้อนใจ เขายังคงส่งข้าวเช้ามา แต่ทว่าทำ ยังไงโทรศัพท์ก็ยังคงติดต่อไม่ได้

นี่มันหมายความว่ายังไง

ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เธอจึงไปหาเอลิสต์โดยตรง

ไปรยานั่งดิ้นรนอยู่ในรถที่ข้างล่างตึกอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ ตัดสินใจไปหาเขา

ไม่ง่ายเลยที่จะปลุกปั่นความกล้าขึ้นมาแล้วเดินขึ้นไป แต่

เธอกลับพบว่าประตูเปิดอยู่ข้างในก็มีคนอยู่จำนวนมาก

ไปรยาเดินเข้าไปก็เห็นว่าข้างในนั้นว่างเปล่า “ขอถาม หน่อยค่ะ เกิดอะไรขึ้นที่นี่เหรอคะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ