ตอนที่788ค่าขอบคุณของเจมน่า
ตอนที่ 788 คำขอบคุณของเจมน่า
เธอรู้สึกเสียใจนิดหน่อย ถ้าเกิดว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นล่ะ ก็ เธอต้องรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ แต่โชคดีที่มันยังไม่มี อะไรเกิดขึ้น
เห็นท่าทางที่เธอลูบท้องของตัวเอง พันเดชก็รีบถาม “ทำไมหรอ? ไม่สบายท้องหรอ?
จิดาภาส่ายหน้า “ฉันก็แค่รู้สึกกลัว ตอนนี้กำลังคิดว่า ถ้า เกิดว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อให้ขอโทษเป็นแสนรอบ ฉันก็ไม่มีวัน ชดเชยความผิดนี้ไปได้! “
พอได้ยินดังนั้น พันเดชยิ้มอย่างรู้ทัน “เธอพูดแบบนี้ได้ ฉันก็รู้สึกวางใจแล้ว! “ ”
จิดาภามองหน้าเขา “ตอนนั้นสถานการณ์มันล่อแหลม ไม่มีทางหนีทีไล่ได้เลย แล้วอีกอย่าง ฉันก็ไม่คิดว่านิสนธิจะสูญ เสียการควบคุมจนไปถึงขั้นนั้นได้
“ยังไงก็ต้องรับปากกับฉัน ว่าต่อจากนี้ไปต้องปกป้องตัว เองก่อน! “อย่าพูดอย่างจริงจังมาก
จิดาภาพยักหน้าอย่างอ่อนโยน “อืม! ”
ทั้งสองคนคุยกันอยู่พักนึง ฟ้าก็มืด พันเดชมองหน้าเธอ
“โอเค ดึกมากแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ยังต้องไป ตรวจอีก! “
จิดาภาเองก็ไม่ได้พูดอะไร พยักหน้า แล้วก็นอนลง
พันเตชห่มผ้าให้เธอ แล้วก็เดินไปที่โซฟา
จิดาภานอนลง พอเห็นร่างสูงของเขานอนลงที่โซฟาอย่าง น่าหดหู่นั้น ก็รู้สึกเหนื่อยแทนเขา
“หรือว่า นายมานอนนี่! ” จิดาภาเอ่ยปาก
พันเดชมองหน้าเธอ
จิดาภาขยับที่ หมายความว่า ให้พันเดชมานอนที่นี่ พัน เดชก็ไม่ได้ปฏิเสธ ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามา
โชคดี ที่เตียงไม่ได้เล็กขนาดนั้น ทั้งสองคนสามารถอยู่ได้ แต่ว่าพันเดชก็พยายามอยู่ให้ห่างมากที่สุด เพราะว่ากลัวว่าจะ
ไปทับจิตาภาเข้า
“ฉันไม่เป็นอะไร ไม่ได้เบียด! “จิดาภาพูด
พันเดชขยับเข้ามา แล้วก็จบลงที่หน้าผากของเธอ “อืมนอนเร็วๆ ฝันดี! ”
“ฝันดี! ”
หลังจากพูดจบทั้งสองคนก็นอน พันเดชระมัดระวังตัวเอง ทั้งคืน กลัวว่าจะไปทับจิดาภาเข้า กลัวว่าจะไปโดนแผลของเธอ เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
และเจมน่าที่อยู่ตรงประตูนั้น มือที่อยากจะเคาะประตูนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้ยกขึ้นมา สุดท้ายก็ยืนอยู่นาน แล้วก็ กลับห้องตัวเองไป
วันถัดมา
แต่เช้า พอฟ้าสว่างพันเดชก็ตื่นแล้ว กลัวว่าจิดาภาจะนอน ไม่สบาย เพราะฉะนั้นก็เลยตื่นตั้งแต่เช้ามาก เห็นว่าเธอยัง หลับอยู่ ก็ออกไปซื้ออาหารเช้า
เขาจึงออกไปได้ไม่นาน จิดาภาก็ตื่นขึ้นมา
ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา! ” เธอพูด
ตอนนี้เอง ประตูก็ถูกผลักเข้ามาเบาๆ
และตอนที่เห็นคนที่เข้ามานั้น จิดาภาก็อึ้งไปเล็กน้อย เจมน่าเงยหน้าขึ้น มองหน้าจิดาภา “ฉันอยากคุยกับเธอหน่อย! “
“นั่งสิ! “
เจมน่าเดินเข้ามา นั่งลงข้างเตียงของจิดาภา “ฉันมา เพราะว่าอยากจะขอบคุณเธอ! ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ว่า ตอนนี้ก็เหมือนกับว่าเธอคิดอะไรได้แล้ว
การที่อยู่ดีๆ เธอมาพูดขอบคุณ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ จิดาภารู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่ จิดาภามองเธออย่างสงสัย แต่ ว่าก็ไม่ได้รีบพูดอะไรออกมา เจมน่าเองก็มองหน้าเธอเหมือน กัน “ฉันไม่คิดว่าเธอจะสู้สุดชีวิตเพื่อช่วยฉัน
“เธอไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ฉันไม่ได้ทำเพื่อเธอ ตอนนี้ ฉันแค่อยากรู้ว่า ตอนที่เธอวิ่งหนีออกไปนั้น เคยคิดมั้ยว่าจะให้ พันเดชมาช่วยฉัน! ”
เจมน่าเงยหน้ามองหน้าเธออย่างตะลึง “แน่นอน ถึง แม้ว่าฉันจะไม่ชอบเธอ แต่ว่าฉันก็ไม่ได้เลวขนาดนั้นหรอก นะ! “เจมน่าตอบ
พอเห็นท่าที่ร้อนรนของเธอ จิดาภาก็รู้ว่าเธอไม่ได้พูด โกหก เธอค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา “แค่นั้นก็พอแล้ว! “
เจมน่าขมวดคิ้ว รู้สึกนึกไม่ถึง “นี่เธอ ไม่โทษฉันหรอ?
“โทษเธอทำไม? “
“ฉันทิ้งเธอไว้ แล้วหนีไปคนเดียว…… ถึงแม้จะรู้ว่ามันไม่ดี แต่ว่าเจมน่าก็ยังพูดออกมาแบบนี้ เสียงของเธอเบาลงเรื่อยๆ เบาจน แม้แต่ตัวเองยังรู้สึกละอายใจ
“ในเวลานั้น การวิ่งหนีคือการวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด ยิ่ง ไปกว่านั้น ถ้าตอนนั้นเธอไม่หนี ตอนนี้ฉันก็คงไม่อยู่ตรงนี้แล้ว บางทีพวกเราสองคนอาจจะไม่รอดแล้วก็ได้! ” จิดาภาพูดออก มานิ่งๆ
เจมน่ามองจิดาภา ตอนนั้นเอง ก็เหมือนกับว่าเธอเข้าใจ อะไรบางอย่าง
ผ่านไปนานที่เธอมองหน้าจิตาภาอยู่แบบนั้น ไม่รู้ว่าควร จะพูดอะไรถึงจะดี
หลังจากนั้น เธอก็ยิ้มออกมา “ตอนนี้เหมือนกับว่าฉันจะ
เข้าใจแล้ว ว่าทำไมพันเดถึงชอบเธอ!
จิดาภาไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของเธอเท่าไหร่ เลิกคิ้วแล้ว มองหน้าเธอ “อะไรนะ? ”
“ไม่มีอะไรหรอก!! เจมน่าพูดออกมา หลังจากนั้นก็มอง ไปที่จิตาภาด้วยสายตาที่แน่วแน่ “ฉันจะรับผิดชอบในสิ่งที่ฉัน ทํา! “
จิดาภาขมวดคิ้ว มองหน้าเธอ “เธอคิดจะทำอะไร? เจมน่ายิ้ม “วางใจเถอะ ฉันจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น
การกระทำของเธอ ทำให้จิดาภาไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลว่า ทำไม ตอนที่จิดาภากำลังอยากจะพูดอะไรอยู่นั้น ประตูก็ถูก เปิดออก พันเดชก็เดินเข้ามา
ตอนที่มองจิดาภากับเจมน่าที่นั่งอยู่ตรงนั้น พันเดชก็นิ่ง เรียบไร้สีหน้า
เจมน่ากลับลุกขึ้น มองหน้าเขา “พันเดช
“เธอมาที่นี่ได้ยังไง? “พันเดชเดินเข้าไป แล้วก็เอาอาหารเช้าที่ซื้อมาให้จิดาภาวางลงบนโต๊ะ
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกปากตำหนิเธอ แต่ว่าท่าทีที่เป็น ชาของเขา กลับทำให้หัวใจของเจมน่ารู้สึกหนาวเหน็บ
“ไม่มีอะไรหรอก พี่จิฉันกลับก่อนนะ หลังจากพูดจบ ” เธอก็เดินออกไปด้านนอก
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม พอเห็นท่าทางของเจมน่า จิดาภา กับรู้สึกเหมือนทนไม่ค่อยได้
คิดเหมือนกับว่าเด็กคนนึงที่ได้รับความไม่ยุติธรรมแต่ไม่ สามารถพูดออกมาได้
หลังจากเจมน่าออกไปแล้ว จิดาภาก็มองหน้าพันเดชและ ถามออกมา “นายเป็นอะไรไป? “ ”
“เป็นอะไรอะไรหรอ? ” พันเดชถามทั้งๆ ที่รู้ “1
“นายโทษเจมน่าหรอ? ”
“เปล่า! “เขาตอบนิ่งๆ ไม่มองหน้าเธอ
แต่ว่าท่าที่เป็นเฉยของเขาได้แฉเขาหมดแล้ว
“ตอนนี้ฉันยิ่งรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า เจมน่าก็เป็นแค่เด็ก
คนนึง! “ จิดาภาพูด
พันเดชจัดการข้าวเช้าเรียบร้อย แล้วก็ยกมาให้จิดาภา จิ ดาภารับไป อยากจะกินโจ๊ก แต่ก็พบว่ามืออีกข้างของเธอไม่ สามารถยกได้
เพราะว่าพันเซเลินเล่อเอง
“ฉันเอง! “เขาหยิบชามออกมาจากมือของจิดาภาอย่าง
ระมัดระวังอีกครั้ง หลังจากนั้นก็เป่าให้เย็น แล้วป้อนให้จิดาภา เธอรู้สึกมีความสุขที่โดนพันเดชปรนนิบัติแบบนี้ อ้าปาก
แล้วกินลงไป “เขาพูดอะไรกับเธอบ้าง? ”
“เธอมาบอกว่าขอบคุณ!
จิดาภาเห็นอย่างชัดเจนว่าสีหน้าของพันเดชตะลึงนิด หน่อย แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไร จิดาภาเองก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือน
กัน
หลังจากกินข้าวเสร็จ การันต์กับจันทนีก็มาเยี่ยม หลังจาก นั้นคุณหญิงกับคุณหญิงภารดีก็มาเหมือนกัน หลังจากนั้นก็แก้ว กับไปรยา สรุปแล้ว ห้องผู้ป่วยไม่ได้เงียบเลย
ไปรยารีบมาหาเธอท่ามกลางตารางงานที่ยุ่งมาก “จิดาภา ทำไมเธอถึงเข้าโรงพยาบาลอีกแล้วล่ะ? ”
จิดาภาเองก็มีท่าทีทำตัวไม่ถูก “ปีนี้เป็นปีแห่งหายนะ! “
“ลูกทูนหัวของฉันโอเคใช่มั้ย? “ไปรยาถาม
จิดาภาคลี่ยิ้มออกมา บอกตอนไหนกันว่าจะยกให้เป็นลูก
ทูนหัวของเธอ เธอมีท่าทีเหมือนคุ้นเคย
“เขาไม่ได้เป็นอะไร! “ จิดาภาตอบ
ไปรยาถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “เดี๋ยวเธอ หายเมื่อไหร่ฉันจะพาไปไหว้พระ! ” จิดาภาก็หัวเราะออกมา “เธอเชื่อเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“ถ้าเชื่อว่ามีมันก็ต้องมีสิ เธอลองพูดดูสิ ว่าปีนี้เธอเข้ามา กี่ครั้งแล้ว! “
จิดาภานับไม่ไหวจริงๆ
“เธอยังขนาดนี้ ยังมาได้อีกหรอ?
“หลังจากที่ฉันกับเอลิสต์ได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ ตอน แรกเขาก็อยากจะมากับฉัน แต่ว่าตอนนี้เขาอยู่ในระหว่างการ ฝึกแบบปิดเพราะฉะนั้นก็เลยมาไม่ได้ ฉันก็เลยมาเอง! ไปร
ยาตอบ
“ดูเหมือนว่า ชื่อเสียงของเอลิสต์ กำลังจะมาถึงในไม่ช้า
นะ!
พอพูดถึงเอลิสต์ ใบหน้าของไปรยาก็แดงขึ้นมาทันที ตอนนี้พอมีช่างแต่งหน้ากับสไตลิสต์ที่เปลี่ยนโฉมให้ เอลิสต์ก็ หล่อขึ้นกว่าแต่ก่อนมากจริงๆ
แต่ว่าเธอได้แต่ยิ้ม ไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ “รอให้เขาผ่านช่วง นี้ไป ถ้าฝึกเสร็จแล้วก็คงมาหาเธอ! ”
จิดาภายิ้มแล้วพยักหน้า
ตอนนี้เอง ไปรยาก็มองไปที่พันเดช “คุณพันเดช ไหนที่ ตกลงกันว่าจะปกป้องจิของพวกเราล่ะคะ? ”
“เรื่องนี้ เป็นเพราะว่าผมปกป้องเธอไม่ดีเอง! ”
“ถ้ายังงั้นงานแต่งเดือนหน้าจะทำไงล่ะ? ” ไปรยาถาม
พอพูดถึงเรื่องนี้ สายตาของพันเดชก็มองไปที่จิดาภา วัน นี้ทั้งวัน เขาได้ลืมเรื่องนี้ไปหมดเลย
ใครจะได้รู้ว่าจิดาภาจะกลับพูดออกมาเอง “งานแต่งงานก็ จะจัดขึ้นตามปกติ! “
“แต่ว่าแผลของเธอ! ”
“ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ไม่ได้เจ็บถึงกระดูก ผ่านไปไม่
นานก็หายแล้ว! “
“แล้วมันจะมีรอยแผลเป็นมั้ย! ไปรยาตอบ
เหมือนกับประโยคนี้จะเป็นจุดสำคัญ
แก้วก็รีบพูดออกมา “น่าจะไม่หรอก เดี๋ยวก็หายแล้ว!
ตอนแรกก็นึกว่าจิดาภาจะคิดมาก แต่ว่าเธอกลับยิ้มแล้ว พูดออกมา “ถ้าเกิดว่ามีก็เป็นเรื่องที่ทำอะไรไม่ได้ มีก็มีไป เถอะ ยังไงก็ไม่ใช่บนหน้า ไม่ทำให้งานแต่งงานล่าช้าหรอก!
ไปรยาก็รู้สึกสงสัย ว่าจิดาภานี่เป็นผู้หญิงจริงรึเปล่า
ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะว่ารู้จักเธอมานาน และรู้จักกันดีล่ะก็ เธอต้องสงสัยแน่ว่าเธอเป็นผู้ชายที่ปลอมตัวมาเป็นผู้หญิง
ใจของผู้หญิงนั้น คนธรรมดาไม่สามารถเข้าใจได้หรอก
แต่ว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถ้าเกิดว่าเศร้าเสียใจเพราะ เรื่องนี้ ถ้ายังงั้นก็คงจะไม่เหมือนกับจิตาภาจริงๆ
ตอนนี้เอง พันเดชก็เดินเข้ามา “ต่อให้เป็นแผลเป็น เธอก็ จะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดบนโลกใบนี้
“ปากหวานมาก! “ จิดาภายิ้มแล้วพูดออกมา
เห็นท่าทีสวีทหวานของพวกเขาแล้ว ไปรยาก็ไม่รู้จักพูด อะไรอีก ขนาดแค่มองยังรู้สึกอิจฉา เรื่องพวกนี้ มีแค่พวกเขา เท่านั้นที่รู้ดีที่สุด
เธอเชื่อมาตลอดว่า จิดาภาเป็นผู้หญิงที่มีสติปัญญามาก เป็นคนอ่อนไหว แต่ในเรื่องของความรักนั้น เธอก็ไม่หยุมหยิม ตราบใดที่เธอไม่คับข้องใจ เธอก็สบายใจแล้ว
อยู่ที่นั่นหนึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็กลับไปเพราะได้รับเรื่อง ด่วนทางโทรศัพท์
หลังจากเธอกลับไป แก้วก็กลับไปเหมือนกัน
จิดาภาตรวจร่างกายเสร็จ ก็ไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ ให้ นอนโรงพยาบาลอีกหนึ่งวันเพื่อสังเกตอาการแล้วก็กลับบ้านได้ แล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ