ตอนที่772 ใจของเจมน่า
ตอนที่ 772 น้ำใจของเจมน่า
เมื่อได้ยินเช่นนั้น พันเดชรีบหันไปมองจิดาภา จับมือ หล่อนไว้แน่น “ผมจะทิ้งคุณไว้ที่บ้านได้ยังไง ไม่เป็นไร ผมค่อย ไปพรุ่งนี้เช้าก็ได้!”
จิดาภาพยักหน้า ไม่พูดอะไรต่อ จากนั้นทั้งสองจึงกลับไป เมื่อจิดาภาอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาเห็นพันเดชยืนอยู่ที่ ระเบียง จากนั้นหล่อนปล่อยผมลงมา เดินปรี่ยงไปที่เขา
“ยังเป็นห่วงเจมน่าอยู่เหรอ?” จิดาภายืนถามอยู่ด้านหลังเขา
เมื่อได้ยินเสียงของจิดาภา พันเดชจึงหันหลังกลับมา ยื่น มือออกไปโอบกอดหลอน “ยิ้ม ผมเป็นห่วงหล่อน แต่ผมแค่ เป็นห่วงหล่อนเฉยๆนะ อย่าคิดมาก!
“คุณพันเดช คุณเป็นห่วงผู้หญิงคนอื่นขนาดนี้ จะไม่ให้ฉัน คิดมากได้ยังไงล่ะ!?” จิดาภายื่นมือออกไปกอดเขาเช่นกัน
“เจมน่าเคยช่วยผมมาหลายครั้งหลายหนแล้ว ตอนนี้ หล่อนกลายเป็นเช่นนี้ ผมอดเป็นห่วงหล่อนไม่ได้ แต่สำหรับ ผมแล้ว หล่อนเป็นเพียงแค่น้องสาวคนหนึ่ง ไม่ได้คิดอื่นอะไร อื่นไกล!” พันเดชกล่าว
เมื่อได้ยินเขาอธิบายเช่นนั้น จิดาภายิ้ม “โอเค ฉันเข้าใจ แล้ว ฉันไม่ได้โกรธ!
พันเดชมองหล่อน ฉีกยิ้มเล็กน้อย
“แต่ขืนเจมน่าเป็นเช่นนี้ต่อไป ยังไงก็ไม่ใช่วิธีที่ดี
“ผมจะบอกพ่อของหล่อนให้รับทราบ และให้มารับตัว
หล่อนกลับไป
“พวกเรากำลังจะแต่งงาน ให้มารับหล่อนกลับไปตอนนี้ ไม่ค่อยดีรึเปล่า!? จิดาภาถามขึ้น
“ผมไม่รู้ แต่ผมไม่อยากให้งานแต่งงานของเราต้องมีอะไร มากระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก” พันเดชกล่าว
จิดาภามองเขาพลางยิ้มและพยักหน้า “พอแล้ว นี่ก็ดึกมาแล้ว นอนกันเถอะ!” พันเดชเอ่ยปาก
พูดขึ้น
“อื้ม!” จากนั้นทั้งสองจึงผล็อยหลับไป
ค่ำคืนนี้ ทั้งสองนอนอยู่บนเตียง ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นอีก แต่ในใจกลับครุ่นคิดเรื่องเดียวกันอยู่
เช้าวันต่อมา
ขณะที่จิดาภายังไม่ตื่น พันเดชก็ตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้า เรียบร้อย จากนั้นออกเดินทางไปโรงพยาบาล
เขาไปถึงโรงพยาบาลตอนเก้าโมงกว่า ซึ่งเป็นเวลาเจมน่า ตื่นนอนแล้ว
“คุณเป็นยังไงบ้าง?” พ้นเดชถามพลางมองไปที่เจมน่า
สีหน้าของเจมน่าไม่สู้ดีนัก มองหน้าพันเดชด้วยสายตา เย็นชานิ่งขรึม “ฉันไม่เป็นอะไร!
“ตอนนี้ร่างกายคุณไม่ค่อยแข็งแรง อย่าไปเที่ยวเล่นที่ไหน
ล่ะ!” พันเดชกล่าว
“อันที่จริงคุณไม่ต้องมารับผิดชอบฉันแบบนี้ และไม่ต้อง มาดูแลฉันเพราะรู้สึกผิดคิดฝังใจกับเรื่องปีก่อนนั้น ฉันไม่ ต้องการความเห็นใจ!” เจมน่ามองหน้าเขาพลางพูดขึ้น
“ผมไม่ได้เห็นใจคุณ และไม่ได้สงสารคุณ!
“งั้นคืออะไร เป็นห่วง? หรืออะไร?” เจมน่าขมวดคิ้วถาม
ขึ้น
“ใช่!” พันเดชไม่ปฏิเสธ สายตามองเข้าไปในนัยน์ตาเจม น่าอย่างลึกซึ้ง “พี่ชายเป็นห่วงน้องสาว ถือเป็นเรื่องปกติ ทั่วไป! พันเดชพูดขึ้น
พี่ชาย น้องสาว…
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจมน่าอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเยือกเย็น อยู่ภายในใจ
สิ่งที่หล่อนอยากได้ ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่สิ่งเหล่านี้
ไม่เคยที่จะเกิดขึ้น!
หล่อนพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ เอียงตัวหันไป มองเขา “งั้นก็ขอบคุณมากสำหรับความห่วงใย ฉันจะรีบกลับ มาแข็งแรง!” เจมน่าพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจและห่างเหิน
พันเดชขมวดคิ้วมองหล่อน เขาเข้าใจความดื้อดันของ หล่อนดี ถ้าหล่อนซื้อเอาแต่ใจขึ้นมา ต้องให้หล่อนคิดได้เอง ไม่เช่นนั้นไม่มีวิธีไหนที่จะเยียวยาได้
ขณะเดียวกันนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นถูกผลัก ออก “เจมน่า… ตอนที่นิสนธิ์เดินมาถึงหน้าประตู เขาตกใจ ชะงักไปทันที
“ประธานพันเดช คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะอยู่ที่นี่” นิสนธิ์พูด
ขึ้น
พันเดชมองเขา คิดไม่ถึงเช่นกันว่าเขาจะมาที่นี่ คิดว่าเขา เป็นเพียงแค่คนที่เจมน่าพูดยั่วโมโหขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าเขาจะ มาจริงๆ
“คุณมาที่นี่ได้ยังไง?” พันเดชถามขึ้น
“ฉันเป็นคนโทรให้เขามาที่นี่เอง!” พันเดชเพิ่งพูดจบ เจม น่าก็พูดต่อ
หันไปมองนิสนธิ์ เจมน่ากลับยิ้มและพูดขึ้น “ที่รัก กว่าจะ มาได้สักที ในมือถืออะไรมาเหรอคะ?”
“อ๋อ ผมซื้ออาหารเช้ามาให้ นิสนธิ์ตอบกลับ
“ฉันหิวจังเลย!”
นิสนธิ์ยิ้ม เดินเข้าไป “ยังร้อนอยู่นะ ตอนนี้ทานได้เลย! เขาพูดพลาง เปิดกล่องอาหารให้หล่อน จากนั้นวางลงบนโต๊ะ ตรงหน้า
เจมน่ายิ้มระรื่นอย่างมีความสุข
พันเดชที่นั่งอยู่อีกด้าน มองดูพวกเขา ไม่แสดงสีหน้า อารมณ์อะไร
“เมื่อวานคุณคงเป็นห่วงฉันมากใช่ไหม?
“ขอโทษ….
“ไม่เป็นไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณไม่เป็นอะไร!” นิสนธิ์พูด
เจมน่ายิ้มให้เขา เวลานั้น พันเดชกลับกลายเป็นเหมือน แจกันที่ตั้งโชว์อยู่ พวกเขาทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น
นิสนธิ์ยังรู้สึกไม่ดี แต่สำหรับเจมน่าแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้อง รู้สึกไม่ดีเลย
มองดูพวกเขา “จีบ” กันอย่างมีความสุข พันเดชไม่อยาก พูดอะไรต่อ “คุณพักผ่อนเยอะๆ ผมขอตัวกลับก่อน!” เขาพูด พลางลุกขึ้นยืนและเดินออกไป
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ช่วงนี้นิสนธิ์มาดูแลฉัน คุณสบายใจได้!” เจมน่าพูดขึ้น
พันเดชตกใจตะลึง หันหลังให้หล่อน ไม่พูดอะไรต่อ เดิน ออกไปทันที
เมื่อเดินออกมายังคงได้ยินเสียงของเจมน่าดังขึ้นแว่วๆ “ขอบคุณนะคะที่รัก…
ตอนที่นิสนธิ์เดินออกมาจากห้อง พันเดชยังคงยืนอยู่ด้าน
นอก
ราวกับรู้ว่าเขากำลังรอตัวเองอยู่ นิสนธิ์เดินเข้าไป “ประธานพันเดชกำลังรอผมอยู่เหรอครับ?
เมื่อได้ยินเสียงของเขา พันเดชเอียงหันไปมองทันที “คุณ นิสนธิ์ เรื่องของเจมน่า ผมคิดว่าคุณคงเข้าใจดี แล้วทำไมยัง คบกับหล่อนอีก?
เมื่อได้ยินพันเดชถามเช่นนั้น นิสนธิ์ยิ้ม “ประธานพันเดช
คิดว่าไงล่ะ?”
“ผมไม่รู้ว่าคุณคบกับหล่อนเพื่อจุดมุ่งหมายอะไร และไม่รู้ ว่าพวกคุณรู้จักกันได้ยังไง แต่ผมเพียงแต่อยากจะบอกคุณไว้ ถ้าผมรู้ว่าคุณคบกับหล่อนเพื่อหวังประโยชน์อะไร เรื่องทั้งหมด จะไม่ง่ายเช่นนี้อีกต่อไป!” พันเดชพูดขึ้นด้วยสายตาที่บ่งบอก ถึงการขู่เข็ญตักเตือน
นิสนธิ์ยิ้ม “เรื่องระหว่างผมกับเจมน่า พวกเราเข้าใจกันดี!”
“นั่นก็เป็นเรื่องของพวกคุณ ผมแค่รับผิดชอบผลลัพธ์ภาย หลังก็พอ!” พ้นเดชพูดพลาง เหลือบตามองเขา จากนั้นหันหลัง เดินออกไป
นิสนธิ์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองดูพันเดชจนเดินออกไป สายตานิ่งขรึม ไม่พูดอธิบายอะไรต่อ
ระหว่างทางที่พันเดซขับรถกลับบริษัท จิดาภาก็โทรเข้ามา
“ทำไมตื่นเช้าจังเลยล่ะ?” เสียงของพันเดชดังขึ้น
“ตื่นนานแล้วค่ะ แล้วเจมน่าเป็นยังไงบ้าง หล่อนฟื้นแล้ว
ยัง?” จิดาภาถาม
“อื้ม! ไม่เป็นอะไรมากแล้ว!
“งั้นก็ดีแล้ว ตอนนี้คุณยังอยู่ที่โรงพยาบาล
“ผมกำลังขับรถกลับไปที่บริษัท
“ไปบริษัทเร็วขนาดนี้เนี่ยนะ!?”
“หล่อนไม่เป็นอะไรมากแล้ว ผมก็ไม่อยากอยู่ตรงนั้น แล้ว!” พันเดชพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง
“โอเค!”
หลังจากวางสายลง จิดาภาทานอาหารเช้าต่อ หลังจาก ทานเสร็จ หล่อนรู้สึกว่าอยู่บ้านคนเดียวน่าเบื่อเกินไป จึงออก จากบ้านไปบริษัทของพันเดช
อย่างน้อย งานแต่งงานมีเรื่องอะไร หล่อนก็ยังสามารถ
ช่วยเหลือได้
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หล่อนจึงออกจากบ้านไปทันที
พันเดชนั่งอยู่ในห้องทำงาน เมื่อเห็นจิดาภาเดินเข้ามา เขาฉีกยิ้มขึ้น “ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”
“ทำไม? ไม่ต้อนรับฉันหรือไง!?
“ผมล่ะอยากจะพาคุณมาอยู่ข้างๆ ทุกวันเลยต่างหาก!” พัน เดชพูดพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม
จิดาภายิ้ม “ฉันอยู่บ้านคนเดียวก็เบื่อ มาที่นี่ยังจะดีกว่า อย่างน้อยก็อาจจะช่วยคุณได้บ้าง!
“อยากช่วยจริงเหรอ?
จิดาภาพยักหน้าด้วยความตั้งใจ
ทันใดนั้น พันเดชยื่นกระดาษให้หล่อน “รายชื่อแขกรับ เชิญในงานแต่งงาน คุณจิดาภาอยากจะช่วยผมเลือกสักหน่อย ไม่ครับ!?”
จิดาภายื่นมือออกไปรับ จากนั้นพยักหน้า “ไม่มีปัญหา งานเสร็จแน่นอน!” หล่อนพูดพลางประทับจูบลงบนปากของพัน เดช จากนั้นเดินไปนั่งบนโซฟา
พันเดชนั่งมองหล่อนพลางยิ้มอย่างมีความสุขมาก ความรู้สึกเป็นทุกข์อึดอัด หายไปในทันที
จากนั้น จิดาภานั่งอ่านรายชื่อแขกรับเชิญในงาน พันเดช ทำงานของเขา ทั้งสองแบ่งงานกันทำ บรรยากาศภายในห้อง ดูอบอุ่นขึ้นมาทันที
ทันใดนั้น จิดาภาเห็นรายชื่อ คิดบางอย่างออก เงยหน้า ขึ้น “พันเดซ!”
“N!?”
“ทำไมไม่มีคุณเปลล่ะ?” จิดาภาถามขึ้น
“เปศล!?”
“อื้ม!” จิดาภาพยักหน้า
“ทำไมคุณอยากให้เขามามากนักเหรอ?” พันเดชถาม
จิดาภาพยักหน้า “เขาถือเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิต และช่วยเหลืออะไรหลายอย่างกับฉัน ฉันคิดว่าจำเป็นต้องเชิญ เขามา! จิดาภาพูดอย่างจริงจัง
เมื่อเห็นท่าทีของหล่อน พันเดชยิ้ม “คุณสบายใจได้ ไม่มี ทางขาดแน่นอน จดหมายของเขาถูกส่งไปเรียบร้อยแล้ว นี่เป็น รายชื่อล็อตที่สอง….
จิดาภา “…….”
รายชื่อเป็นร้อยคนบนกระดาษ นี่คือล็อตที่สองงั้นเหรอ? เขาจะจัดงานยิ่งใหญ่อลังการขนาดไหนเชียว!
“รายชื่อพวกนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วฉันแทบไม่รู้จัก!
“คุณลองจัดดูก็โอเคแล้ว จดหมายเชิญแขกสำคัญถูกส่ง ออกไปหมดแล้ว!
จิดาภาพยักหน้าลง “งั้นก็โอเค ไม่ต้องสนใจเรื่องเมื่อครู่
คุณอย่าว่าฉันนะ!”
พันเดชหัวเราะ “เลือกยังไงก็ได้ ถ้าคุณไม่ชอบ ไม่ต้อง
เลือกใครเลยก็ได้นะ!”
“OK!” จิดาภายิ้มตอบกลับ แม้ว่าจะตอบไปเช่นนั้น แต่ ดาภาก็ไม่ได้ทำอย่างที่พูดไป หล่อนมองดูรายชื่ออยู่นานสักพัก พยายามหารายชื่อที่ทำงานร่วมกับบริษัทCAมาเป็นเวลานาน และบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม
สุดท้าย หลังจากที่คัดเลือกเสร็จ หล่อนจึงยื่นกระดาษราย ชื่อส่งให้เขา
“เร็วจัง เสร็จแล้วเหรอ?” พันเดชถาม
จิดาภาพยักหน้า
พันเดชยื่นมือออกไปรับ กวาดสายตามองดูก็จำได้แล้ว
“ทำได้ยังไงเนี่ย?”
“อะไรเหรอ?”
“คนพวกนี้ คือคนที่ผมต้องการเชิญพอดี!
จิดาภายิ้ม “รายชื่อด้านบน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ทำงาน ร่วมกับบริษัทCAมาเป็นเวลานาน ดังนั้นต้องเชิญมายอย่าง แน่นอน รายชื่ออีกส่วนหนึ่ง เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงดีในสังคม แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้ร่วมงานกับพวกเขา แต่ธุรกิจของคุณมี มากมายขนาดนั้น สักวันก็คงต้องรู้จักกัน ก็เลยเลือกคนที่มีชื่อ เสียงที่ดีในสังคมมาด้วย พูดคุยกันเผินๆก็คงโอเคแล้ว!” จิดา ภากล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนั้น พันเดชดึงหล่อนเข้ามากอดในอ้อมอก และให้นั่งบนตัวเขาเอง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ