ตอนที่678คุยเป็นเพื่อนฉัน
ตอนที่ 678 คุยเป็นเพื่อนฉัน
“พี่พันเดชเหรอ?”
จิดาภา มและกดรับสาย
“อยู่ไหน?”
“อยู่บ้าน!”
“บ้านตระกูลสวันนีย์เหรอ?”
“อื้ม!”
พันเดชชิ่งไปครู่หนึ่ง “กินข้าวเสร็จก็ให้เคนไปส่งคุณ
“อั้ม” จิดาภาไม่ได้ค้านอะไร
“คุณกันเถอะ วางแล้วนะ!
พูดไม่กี่ประโยคก็วางสาย
กชกรมองเธอ “เป็นอะไร? พี่พันเดชกังวลที่เธออยู่คนเดียวเหรอ?”
“เปล่า” จิดาภาตอบ
“ใช่แน่ๆ” กชกรพูด
“พอแล้ว กินข้าวเถอะ” เปรมศักดิ์พูดขึ้นเพื่อหยุดบท สนทนาของทั้งคู่ลง
จิดาภาและกชกรอึ้งไปเล็กน้อย แต่กซ์กรก็ไม่ได้คิดอะไร
เธอหันไปหัวเราะกับจิดาภา จากนั้นจึงลงมือกินข้าว
เมื่อได้เห็นท่าทีของเปรมศักดิ์ การันต์และจันทนีจึงมอง หน้ากัน การันต์พูดขึ้น “กินข้าวกันเถอะ!
จิดาภาและกชกรลงมือกินข้าว
“อั้ม รสชาติไม่เลวนะ พี่สะใภ้ ฝีมือการทำอาหารของเธอ ดีมากเลย” จิดาภาพูด
กชกรยิ้ม “ฉันได้ยินพี่พันเดชบอกว่าฝีมือการทำอาหาร
ของเธอก็ดีเหมือนกัน
“ไม่เท่าเธอหรอก”
“งั้นครั้งหน้าเรามาลองกัน
“ได้”
เห็นจิดาภาและกชกร ดีต่อกันขนาดนี้ บรรยากาศใน ปลาบปลื้มใจ
ครอบครัวก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข การันต์และจันทน์ก็รู้สึก
แต่ทว่า เปรมศักดิ์…
เมื่อมองไปยังเขา เขาได้แต่ก้มหน้ากินข้าวราวกับหุ่นยนต์ ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
เมื่อกินข้าวเสร็จ จิตาภาก็เตรียมจะกลับ
“จิ นี่ก็ดึกมากแล้ว ไม่ต้องกลับหรอก” กชกร จิตาภายิ้ม “คืนนี้ฉันมีงานต้องทำนะ
“งั้นก็ได้”
ขณะนั้นเปรมศักดิ์ที่ยืนอยู่อีกด้าน ก็เอ่ยออกมา “เดี๋ยวฉัน
ไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวอีกสักพักก็มีคนมารับฉัน” จิดาภาพูด
“นี่ก็ดึกมากแล้ว กว่าเขาจะมาถึงก็ไม่รู้กี่โมง ฉันไปส่ง เอง!” เปรมศักดิ์ยืนกราน
“ใช่ ให้พี่เธอไปส่งเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้พวกเราจะได้
วางใจ” กชกรพูด
จิดาภาเหลือบมองกชกร เห็นว่าพวกเขายังยืนกรานอย่าง
นี้ สุดท้ายเธอก็ต้องยอม
“งั้นก็ได้!”
การันต์ยืนอยู่กับจันทนี “พ่อ แม่ หนูไปก่อนนะ
“พันเดชไม่อยู่บ้าน คืนนี้ลูกนอนที่นี่เถอะ” จันทนีพูด
“แม่ หนูต้องกลับไปทำงาน เอาไว้วันหลังจะมาอยู่ด้วยนะคะ”
“เอางั้นก็ได้ เดินทางปลอดภัยล่ะ”
เปรมศักดิ์หยิบกุญแจรถยนต์แล้วออกไปกับจิตาภา
ภายในรถ เปรมศักดิ์ขับรถโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา ตลอดทาง จิดาภาที่นั่งอยู่อีกด้านรู้สึกว่าบรรยากาศมันช่างน่า อึดอัดเสียจริง เธอจึงพูดออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศ
“พี่ กำลังคิดอะไรอยู่คะ?”
เมื่อได้ยินเสียงของน้องสาว เปรมศักดิ์ก็หลุดออกจาก
ภวังค์ “ไม่ได้คิดอะไร!”
“ฉันได้ยินมาว่า พื้นที่ก่อสร้างที่บริษัทธีร์อธิศกับบริษัทแอ
เอสร่วมกันสร้าง กำลังจะเริ่มใช้งานได้แล้ว” จิดาภาถาม
“อั้ม” เปรมศักดิ์ตอบ ดูเหมือนว่าเขาจะเฉยชา เมื่อก่อน ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้
“ดูเหมือนว่า พ่อของกรจะรักเธอมาก
“ยิ้ม!”
“กชเป็นผู้หญิงที่ดี พี่ต้องทะนุถนอมเธอไว้ให้ดีนะคะ” จิดาภาพูดครั้งนี้ เปรมศักดิ์ไม่ได้ตอบอะไร ทำให้จิดาภามองพี่ชายของตนแล้วรู้สึกว่าบรรยากาศตอนนี้มันน่าอึดอัดกว่าเมื่อกี้เป็น ไหนๆ
ในเมื่อเห็นว่าเปรมศักดิ์ไม่ตอบอะไร เธอจึงไม่พูดอะไร ออกไปอีก
จนกระทั่งถึงบ้าน เปรมศักดิ์ก็ยังไม่พูดอะไร “ฉันไปก่อน นะ พี่ก็ขับรถระวังด้วย จิดาภาเปิดประตู ขณะที่เธอกำลังจะรถ
จากรถ
“5”
ทันใดนั้นเอง เปรมศักดิ์เอ่ยปากขึ้น
จิดาภาชะงักตามเสียงเรียก หันกลับมามองเปรมศักดิ์ มี อะไรหรือเปล่าคะ?”
เปรมศักดิ์ยังคงนั่งครุ่นคิดอยู่ “ขอโทษนะ
คำที่เขาพูดมา ทำให้ลึกๆ ในใจเธอเกิดความรู้สึกบาง
อย่าง
“คุยกับฉันหน่อยได้ไหม?” เขาถาม ดวงตาดำขลับราวกับ หินออบซิเดียนสีดำแวววาวในยามค่ำคืน มันแวววาวจนทำให้ คนตะลึง
จิดาภามองเปรมศักดิ์อย่างไม่สามารถปฏิเสธได้แล้วพยัก
เขามองจิดาภาแล้วรู้สึกพร่ามัวไปชั่วครู่ นานแค่ไหนแล้วที่พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังแบบนี้ ถึงแม้จะขับรถช้า ขนาดไหน แต่สุดท้ายมันก็ถึงปลายทางแล้ว
แสงสีอุ่นจากหลอดไฟส่องกระทบพื้น บนถนนไร้ผู้คน
ภายในรถมีเพียงแค่เขาทั้งคู่กับแสงไฟสว่างไสว เปรมศักดิ์ยังนั่งอยู่ตรงนั้น เขาครุ่นคิดและพูดออกมา “เธอรู้สึกไหมว่าฉันมันไร้ประโยชน์
จิดาภาอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วหันหน้ามองเขา “ทำไมพูดอย่าง นั้นล่ะ?”
“ตั้งแต่เบลล่ามาจนถึงกช ฉันทำได้แค่ยอมรับมันเท่านั้น น้ำเสียงของเขาดูว่างเปล่าและเฉยเมย แสงไฟส่องลงมากระ ทบใบหน้าด้านข้างอันหล่อเหลา จนเห็นสีหน้าที่ดูโดดเดี่ยว
ผ่านมานานมากแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เปรมศักดิ์พูดถึงเบลล่า
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ