ภรรยาที่น่าเกลียดของฉันเป็นคนสวย หรือไม่?

ตอนที่621สมาชิกใหม่



ตอนที่621สมาชิกใหม่

ตอนที่ 621 สมาชิกใหม่

จิดาภาเป็นคนที่ฉลาดและมีวิสัยทัศน์ น้อยครั้งที่จะมี ความฝันและจินตนาการเหมือนอย่างเด็กสาวแบบนี้ ตอนนี้ พอได้มองเห็นความรู้สึกที่แสดงออกมานี้ของเธอ คาดไม่ถึง เลยว่าหัวใจของเขาจะพูดความรู้สึกออกมาไม่ได้

จิดาภา…

แท้จริงแล้วเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่ ยังมีอีก โฉมหน้าที่เขายังขุดคุ้ยไม่เจอ

ระหว่างที่จิดาภากำลังพูดก็ถามถึงที่ด้านล่างขึ้นตึกอย่าง

รวดเร็ว พันเดชหยุดรถแล้วหันไปมองจิดาภา

“ได้ไหมคะ” เธอกะพริบแพขนตายาวของแล้วถามขึ้นมา

พันเดชยื่นมือออกไปลูบลงบนใบหน้าของเธอ แววตาเต็ม ไปด้วยความปรารถนาและความรักอันลึกซึ้ง “ถ้าอย่างนั้นก็ ต้องดูว่าเธอขอร้องฉันอย่างไร…” พูดจบเขาก็จุมพิตลงไปที่ริม ฝีปากของเธอ

จิดาภาที่นั่งอยู่ตรงนั้นเห็นใบหน้าของเขายื่นเข้ามาใกล้ เธอไม่เพียงจะไม่ผละออก กลับยังยิ้มแล้วยื่นมือออกไปโอบ กอดเขาเอาไว้ ตอบรับจุมพิตของเขา…
ในวันที่สอง ขณะที่จิตาภากำลังทำงานอยู่ ในตอนนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงของริมดังขึ้นมา “วันนี้จะขอมาแนะนำเพื่อนร่วม งานคนใหม่จ้า!”

ทุกหันกลับไปมอง มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้จักตมิศา เพราะ เธอคือผู้หญิงที่เข้าไปอยู่ในห้องทำงานของประธานพันเดช ตลอดทั้งบ่าย

รูปร่างหน้าตาก็เรียกได้ว่าสวยใส แต่พอมองดูการแต่งตัว แล้ว ดูเหมือนว่าจะแต่งเสียจัดเต็มจนเกินไป

แต่ก็นับได้ว่าเป็นสาวสวยละนะ

นี่เป็นคำวิจารณ์ที่คนในแผนออกแบบให้กับตมิศา แต่ เพราะมีจิดาภาอยู่ มันจึงยากที่จะมีคนที่สามารถก้าวข้าม ดอกไม้งามของแผนกออกแบบ

“หลังจากนี้ตมิศาจะเป็นคนของแผนกออกแบบ” ริม

แนะนำเธอด้วยรอยยิ้ม

ตมิศาที่ยืนอยู่ตรงนั้นแต่งหน้าบางเบา แก้มของเธอเป็นสี แดง และยังมีดวงตากลมโตทั้งสองข้างที่เปล่งประกาย เธอยิ้ม แล้วพูดว่า “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อตมิศาค่ะ ทุกจะเรียกฉันว่าม ศาก็ได้นะคะ หวังว่าในอนาคตหลังจากนี้ถ้าฉันทำอะไรผิด พลาดไป ทุกคนจะช่วยดูแลและให้อภัยฉันนะคะ!”

แผนกออกแบบกำลังขาดแคลนผู้หญิงเป็นอย่างมาก ดัง นั้นการมาของตมิศาจึงเป็นที่ต้อนรับอย่างมาก
จากที่ได้ยินคำพูดของแก้วและได้มองดูท่าทางของเธอ แล้ว เรียกได้ว่าขึ้นไม่ได้ลงก็ไม่ได้ สหายที่ยังโสดในแผนก ออกแบบล้วนแต่มีโอกาส

พอเห็นว่าตมิศาสามารถที่จะเข้ากับคนอื่น ๆ ได้อย่าง รวดเร็ว แก้วก็เข้าไปยืนข้าง ๆ จิดาภา แล้วพูดออกมาด้วยเสียง ที่ดังพอให้ได้ยินกันแค่สองคนว่า “ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าเธอ เป็นตุลยาคนที่สอง!”

ทันทีที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา จิดาภาก็หันไปมองแก้ว ตอนนี้เองตมิสาก็เดินมาทางพวกเธอพอดี

จิดาภาหันกลับไปมองตมิศาที่ยืนอยู่ตรงหน้า เธอยิ้มออก มาอย่างถ่อมตนและเป็นมิตร “สวัสดีค่ะคุณจิดาภา ฉันชื่อ ภูมิศาค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่เมื่อวานไม่ได้ทักทาย

จิดาภายิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณจะ เข้ามาทำงานที่นี่!”

“เป็นเพราะประธานพันเดชให้โอกาสฉัน ฉันถึงได้มาอยู่นี่ ได้ค่ะ!” ตมิศาพูด ถึงแม้ว่ารอยยิ้มของเธอจะเต็มไปด้วยความ สำนึกในบุญคุณ แต่จิดาภารู้สึกว่าสามารถจับอะไรในแววตาคู่ นั้นได้

“ในเมื่อเป็นแบบนั้น ก็ตั้งใจทำงานเข้าละ

ตศาพยักหน้า “ฉันจะพยายามค่ะ ใช่แล้วคุณจิดาภา ถ้ายังไงตอนเที่ยงเราไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ ฉันเลี้ยงคุณเอง! ตมิสาพูด

ทันทีที่เรื่องนี้ถูกพูดออกมา จิดาภายังไม่ทันจะได้ตอบ

อะไร แก้วที่อยู่ด้านหลังก็พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “จิ ปกติเธอ ไปทานข้าวเที่ยงกับประธานพันเดชนี่นา! พูดแบบนี้แล้ว ตมิศาจึงมองไปทางจิดาภา “อ้อ อย่างนั้นก็

ไม่เป็นไรค่ะ!”

“วันข้างหน้ายังอีกยาว ยังไงก็ต้องมีโอกาสละนะ!” จิดา

ภาพูด

ตมิศาพยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไป ทำงานก่อนนะคะ!”

จิดาภาพยักหน้า จากนั้นตมิศาก็กลับไปที่ของตนเองแล้ว

เริ่มทำงาน ในตอนนั้นเอง แก้วมองไปที่จิดาภาแล้วยักไหล่

อย่างช่วยอะไรไม่ได้

ถึงแม้จะรู้ดีว่าตมิศา กำลังพยายามที่จะตีสนิทจิดาภา แต่ ทว่าท่าทางที่ทำเป็นสนิทสนมกันมาแต่เดิมกับความ กระฉับกระเฉงนั้นทำให้คนรู้สึกอึดอัด ยังดีที่เธอค่อนข้างจะรู้จัก วางตัว

ในตอนเที่ยง จิดาภากำลังทานข้าวอยู่กับแก้ว ในตอนนั้น เองตมิศาก็ถือข้าวของเดินเข้ามา ตอนที่เธอมองเห็นจิดาภา ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปหาทันที
“คุณจิดาภา….คุณไม่ได้ไปทานข้าวกับประธานพันเดชเห รอคะ” ตมิศาถาม

ความจริงแล้วเธอกับเขาก็ไม่ได้ไปทานข้าวด้วยกันทุกวัน เพียงแต่แก้วตั้งใจพูดแบบนั้นออกมาเท่านั้นเอง

จิดาภาที่นั่งอยู่ยังคงสงบเยือกเย็น “วันนี้เขามีประชุมน่ะ ดังนั้นฉันก็เลยมาทานข้าวที่นี่

“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง..” พูดจบ ดวงตาของเธอก็ต้อง มองไปยังทั้งสองคน “ถ้าอย่างนั้น…ฉันขอนั่งด้วยได้ไหมคะ

แก้มองไปที่จิดาภา เธออยากรู้ว่าหญิงสาวจะตอบอย่างไร จิดาภายิ้ม “นั่งสิ!”

“ขอบคุณค่ะ!” พูดจบตมิศาก็นั่งลงตรงหน้าแก้ว ในตอนนี้ เองจู่ ๆ เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เธอมองแก้ว “ใช่แล้ว ฉันยังไม่รู้ จักชื่อของคุณเลย!”

“เรียกฉันว่าแก้วก็พอ!

“แก้ว ชื่อเพราะจังเลยค่ะ!”

แก้วยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไรออก

กลับกันตมิศามองไปที่พวกเธอทั้งสองคน “ฉันมาอยู่ที่นี่ ไม่รู้จักใครเลยสักคน คนที่เจอบ่อยที่สุดก็คือคุณจิดาภา หลัง จากนี้ฉันมาทานข้าวกับพวกคุณได้ไหมคะ” ตมิศาถาม

ท่าทางที่กำลังตักอาหารของแก้วชะงักค้าง
ผู้หญิงคนนี้มีการพัฒนาเร็วเกินไปหรือเปล่า

จิดาภาที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอยังคงดูสงบเยือกเย็น เธอ ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “ได้สิ ถ้าหากเรามาที่นี่ เธอก็มาด้วยได้!”

“จริงเหรอคะ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลยนะสิคะ!” ผมิศาพูด หลังจากพูดจบเธอก็เริ่มลงมือทานอาหาร “คิดไม่ถึงเลยว่า อาหารของบริษัทCAจะอร่อยขนาดนี้!” พูดจบก็เริ่มกินต่อ

จิดาภากับแก้วมองอย่างรู้กัน พวกเธอไม่รู้ว่ายัยตมิศา เจตนาหรือว่ากำลังเสแสร้งกันแน่ แต่เธอมักจะมีความรู้สึกที่ ทำให้คนไม่อยากเชื่อถือ

ความรู้สึกนี้แตกต่างจากที่เธอรู้สึกกับแก้ว สิ่งที่จิตาภา รู้สึกกับแก้วมีเพียงความเรียบง่ายและความสบายใจ ไม่ต้อง คิดหาหนทางอะไรมากมาย แต่สำหรับ มิศาคนนี้นั้น…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ