บทที่269กักบริเวณมันซะ

บทที่ 269 กักบริเวณมันซะ

เดิมทีทั้งห้องมีความเงียบอยู่แล้ว แต่พอมีคำว่าเชียวนั้น

ถึง ห้องก็ยิ่งเงียบไปใหญ่

ปากของเพิ่งเจ๋อเฉิงก็เหมือนจะยิ้มออกมาด้วยความพอใจ แต่ว่าคนข้าง ๆ นั้นสามารถรับรู้ได้ว่ารอยยิ้มนี้มีความคาดไม่

ถึง

ปรากฏว่าเป็งดังที่คาดไว้ คือเดียวกันถึง

เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดมีความนัยน่าสนใจก็คือ “คุณชายเงินรับ เงินทั้งสองฝ่าย คุณลองพูดดูซิว่าผมจะต้องให้คุณทำ อย่างไร ?”

ถึงแม้เพิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่ตั้งใจพูดอะไรมากมาย แต่เป็นเหยี ยนซึ่งกลับตกใจเป็นที่สุด

ความจริงเรื่องราวก็เป็นเช่นนี้

ครั้งแรกที่เสิ่นเหยียนซึ่งพบกับเงินอีเวย ก็ได้ให้เงินไป ก้อนหนึ่งแล้ว จุดประสงค์ก็คือไม่ให้เขานั้นพูดเรื่องค่ำคืนของ ตระกูลเชิงในวันนั้น โดยเฉพาะเสิ่นอีเวย

ดังนั้นมีครั้งหนึ่งที่ห้องโถงตระกูลเชิง ก็ได้เห็นเส้นเหยียนซึ่งไม่เลิกราที่จะรังควานเสิ่นอีเวย

ตอนนั้นเหมือนจะช่วยให้เงินเลยออกจากการตั้งความขอ เงินเหยียนซึ่ง ก็เลยใช้เงินซื้อเงินเหยียนซึ่งมา

สามปีก่อน เขากำลังจะแต่งงานกับเสิ่นอีเวณหนึ่งเดือน พ่อของเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้พูดเองกับปากในค่ำคืนวันนั้น

ถึงแม้ในตอนนั้นเพิ่งเจ๋อเฉิงจะรับรู้เรื่องราวในค่ำคืนนั้น ทั้งหมด แต่ตัวเองไม่ใช่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เลยไม่ได้เข้าใจ ในเรื่องราว

ดังนั้นสิ่งที่ที่พ่อของเพิ่งเจ๋อเฉิงได้บอกกับเขานั้น เขาก็รู้สึก

ตกใจอยู่บ้าง

หากว่าไปเขาก็เป็นพ่อของเพิ่งเจ๋อเฉิง ถึงแม้จะเป็นเรื่อง การจากไปของแม่เขา และทำให้เขานั้นรู้สึกมีความสัมพันธ์กับ พ่อเขาน้อยลง แต่ว่าพอได้ยินพ่อเขาพูดเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้เขา นั้นตกใจเป็นอย่างยิ่ง

เล่ห์เหลี่ยมกับคาดการณ์ เป็นสิ่งที่นักธุรกิจจะต้องมีอยู่ใน

ตัวเอง

เพียงแต่เพิ่งเจ๋อเฉิงมีความคิดถึงต่อเส้นฮุยน ดังนั้นเขาไม่ กล้าคิดก็คือ พ่อของเขานั้นกล้าที่จะทำร้ายกับพ่อแม่ของ

ดังนั้นเมื่อเป็นเรื่องความของผูกพัน เพื่อที่จะรักษาเส้นฮุย เขาเลยไม่อาจจะอภัยให้กับการกระทำของพ่อเขา
หากพูดถึงคุณธรรมแล้ว พ่อของเขาทำเช่นนี้ ลูกชายก็รู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่ง

คนเป็น

แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงได้ใช้เงินปิดปากเงินเหยียนซึ่งก็เพราะว่า อยากให้เรื่องนี้หายไปกับกาลเวลา

ก่อนที่จะมีการตรวจสอบชัดเจนนั้น ในขวดยาของเส้นชัย นที่สวีอันจึงใส่อินซูลินเข้าไปนั้น เพิ่งเจ๋อเฉิงก็เข้าใจในทันที

ความจริงแล้วผู้หญิงคนนี้ ดูแล้วแข็งแกร่งนัก แต่ความ จริงกลับอ่อนแอนเหลือเกิน และตลอดการเดินทางของช่วงชีวิต กับเรื่องราวหลายอย่างมากมาย

แต่ว่า สิ่งที่ทำให้เพิ่งเจ๋อเฉิงยากที่จะคาดเดาได้ก็คือ เ นอีเวยกลับเก็บความรู้สึก ไม่ออกเสียงสักคำ

พอคิดถึงตรงนี้ เลยทำให้เพิ่งเจ๋อเฉิงเริ่มเกิดความสับสน

ทางอารมณ์

ตอนนี้เขาเป็นอะไร ? หรือว่าอาจจะรักผู้หญิงคนนี้แล้ว ?

“ประธานเชิง ผมมีเรื่องหนึ่งเรื่อง ไม่รู้ว่าจะพูดดีหรือไม่ เงินเหยียนซึ่งได้พูดออกมา

เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ครุ่นคิดอยู่นานแล้วเปิดปากว่า “คุณจะพูด อะไร ?

พอเห็นเพิ่งเจ๋อเฉิงให้โอกาสท่าทีก็เริ่มเหมือนมีกำลังขึ้น มา เหมือนจะลืมความเจ็บที่โดนตีไปรอบนั้นไปหมดแล้ว
เมื่อคิดไปตอนที่หลินอเรียกฐานะของเงินอีเวย เส้นเหยี ยนซึ่งก็เหมือนเริ่มจะมีความหวังเกิดขึ้น

“ผมอยากจะเตือนคุณประธานเพิ่งหนึ่งเรื่อง ผมเป็นอาของ เงินอีเวย์ คนที่เป็นญาติสนิทที่สุดนอกจากเงินยนแล้ว ก็เหลือ ผมคนเดียว ตอนนี้ดูแล้วคุณก็เหมือนจะเปลี่ยนแปลงท่าทีใน การกระทำกับเงินอีเวย หรือว่าจะเข้าใจในความรู้สึกเธอแล้ว หรือ ? “

เงินเหยียนซึ่งเพื่อจะหนีออกจากภัยครั้งนี้ เลยพูดออกไป สิ่งที่ควรพูดหรือไม่ก็ต้องพูดออกมาเสียแล้ว เพราะว่าการที่เขา อธิบายเช่นนั้น เลยไม่ได้มองที่สีหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงที่น่ากลัว ขึ้นกว่าเดิม

แม้แต่หลินอวี้ก็ยังขมวดคิ้ว

เส้นเหยียนซึ่งเห็นว่าไม่มีใครคัดค้านก็เลยพูดต่อไปว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ประธานเชิงท่านลองคิดดีดี หากผมเป็น อะไรในมือของท่านแล้วล่ะก็ เสิ่นอีเวยจะเสียใจไหม ? หาก เป็นเช่นนี้ก็อาจจะกระทบความสัมพันธ์ของสามีภรรยามิใช่ หรือ? ท่านคิดว่าถูกไหม ?

เสิ่นเหยียนซึ่งคิดว่าเขาพูดมีเหตุผล เลยยิ้มออกมา แล้ว ยังมีสายตาที่เจ้าเล่ห์เหลี่ยมจัด

เพิ่งเจ๋อเฉิงยืนขึ้นแล้วมองด้วยสายตาเย็นชาแล้วพูดว่า “ตอนแรกคิดว่าจะให้โอกาสคุณดีหรือไม่ แต่ตอนนี้กับคนที่ไม่ สำนึกผมก็คงไม่เอาไว้ ดังนั้นก็ถือว่าเสียดายมาก เพราะคุณไม่ได้รักษาโอกาสไว้

พอพูดเสร็จ เพิ่งเจ๋อเฉิงได้หันหลังกลับไปแล้วพูดกับหลินอ ว่า “กักตัวเขา นอกเสียหากคนนั้นจะมาหาเรา หลินอวี้เข้าใจทันทีว่า “คนนั้น ก็คือ เซียวกันถึง

พอพูดเสร็จเพิ่งเจ๋อเฉิงก็เดินออกจากห้องไป และไม่ได้ สนใจเสียงร้องขอของเสิ่นเหยียนซึ่งสักนิดเดียว รถบิลลี่ย์สีดำที่ขับ ก็มุ่งตรงมายังบ้านตระกูลเชิง

เงินอีเวยได้อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว นอนอยู่บนเตียงแล้วก็ พลิกไปพลิกมา และปวดหัวจนทนไม่ไหว

ตอนที่เธอนั้นกำลังจะโทรศัพท์หาเพื่อนรักหลิน โม่เหยียน

ถามเรื่องที่จะระบายอารมณ์ได้เร็วที่สุด

พอได้ยินเสียงห้องนอนเปิดออกมา

เงินอีเวยตกใจ แต่มือก็ยังโทรศัพท์แน่น หันไปก็คือ

เชิงเจ๋อเฉิง

ในใจของเธอนั้นก็ตกใจแล้วพูดว่า “คุณมาทำไม ? พอพูดเสร็จ เชิงเจ๋อเฉิงที่ยืนอยู่ตรงประตูนั้นก็เหมือนไม่ได้ สนใจในคําถามของเธอ

เสิ่นอีเวยก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วพูดต่อไปว่า “ตอนนี้ชั้นกำลัง จะนอนแล้ว”
ความหมายในค่นี้ก็คือ ชั้นจะนอนแล้ว ขอให้คุณออกไป อย่ามารบการชั้น

เพิ่งเจ๋อเฉิงเป็นคนที่ฉลาดและเข้าใจคำพูดของเส้นเวย แต่ว่า คนฉลาดก็ต้องมีแกมโกง และคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเชิงเจ๋อเฉิง