นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่ 258 สำหรับต้นเหตุที่แท้จริง



บทที่258สําหรับต้นเหตุที่แท้จริ

บทที่ 258 สำหรับต้นเหตุที่แท้จริง

สิ่งที่เขาไม่รู้เลยก็คือว่า เสิ่นอีเวยถูกดึงเข้ามาเกี่ยวด้วย

แต่โชคดีที่ว่า พอถึงสุดท้าย เขายังรักษาความเป็นตัวตนทางด้านปั

ญญาและความเยือกเย็น ยังคงไม่ถูกสิ่งใดมารบกวน และยืนหยัดต่อการตัดสินใจของตัวเอง

ก็คือให้เจิ้งอวิ๋นชวนได้รับบทลงโทษจา กตำรวจ

ตั้งแต่เริ่มต้นเขาไม่เคยใช้เรื่องนี้มาบีบ บังคังเจิ้งโป๋หงแล้วใช้เป็นเครื่องมือใน เซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นผู้ที่ไม่มีทางทำเช่นนั้นแ น่นอน

แต่ที่น่าตกใจก็คือเจิ้งโป๋หงพูดถึงตัวเข าเองในคำพูดเหล่านั้น

ความจริงแล้วเขาคือคนที่เลือดเย็น ดังนั้นคำพูดของเจิ้งโป๊หง เขาก็เลยไม่ได้จะพูดอะไรมากมาย

“ครอบครัวของประธานเจิ้งจะได้รับควา มตั้งใจของคุณอย่างแน่นอน”

ก็เพียงแค่พูดคุยแค่ไม่กี่คำแค่นั้นเอง

ซึ่ง ณ

เวลานี้เสิ่นอีเวยที่อยู่ด้านนอกก็เริ่มรู้สึก ถึงความผิดหวัง

คําพูดที่เจิ้งโป่หงพูดเมื่อสักครู่ ก็ทําให้ เธอสามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด การงานสองสิ่งนี้ตั้งแต่โบราณมาก็ยาก ที่จะทำให้มันสมบูรณ์พร้อมกันได้ เซิ่งเจ๋อเฉิงก็เช่นกัน

ดังนั้นเสิ่นอีเวยก็อยากจะรู้บ้างว่าความ จริงแล้วปัญหาเหล่านี้เขาคิดเห็นอ่านอ ย่างไร

แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย ดังนั้นเธอก็เลยไม่สามารถรับรู้อะได้

เจิ้งโป๋หงมองเซิ่งเจ๋อเฉิงแล้วพูดว่า “ชนรุ่นใหม่ชอบมีปรากฏการณ์ใหม่ เมื่อก่อนเป็นผมเองที่มองข้ามคุณชายเ ซึ่งไป”

คำพูดของเจิ้งโป๋หง

ไม่ได้ทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงเปลี่ยนสีหน้าอะ

ไรเลย แล้วกลับถามไปว่า

“ประธานเจิ้งไฉนจึงพูดเช่นนี้ ? “ “เมื่อก่อนในแวดวงธุรกิจผมก็ได้เห็นคุ ณอยู่บ้าง

ตอนนั้นแค่อยากรู้จักว่าเป็นคนอย่างๆไ

5

ปรากฏว่าเมื่อได้รับตำแหน่งในการดูแล บริหารบริษัทเซิ่งชื่อเพียงแค่ระยะเวลา

2 ปี

ก็สามารถทำให้ขยายได้กว้างขวางขนา ดนี้”

“ประธานเจิ้งกล่าวเกินไปแล้ว เป็นเพียงแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้นเอง” เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดด้วยความอ่อนน้อมถ่อม ตน

เจิ้งโป๋หงได้เห็นการตอบกลับของเซิ่งเ จ๋อเฉิงก็ได้มีความรู้สึกในการชื่นชมขอ งชายวัยหนุ่มคนนี้ าวและสัมผัสกับทุกชนฉันมา

ก็ได้น้อยมากกับคนที่มีความอ่อนน้อมถ่

อมตน

อายุสามสิบ

หากพูดถึงแวดวงธุรกิจแล้ว

ถือว่าอายุน้อยมากๆ ดังนั้นหากพูดถึงฐานะทางสังคมของเซิ่ งเจ๋อเฉิงควรจะเป็นพวกที่หยิ่งยโส แต่เขากลับไม่เลย แต่ความอ่อนน้อมของเขานั้นไม่ได้ทำใ ห้คนนั้นอิจฉาริษยาแต่อย่างใด

แต่กลับมีความอ่อนน้อม

เจิ้งโป๋หงได้ดื่มชาหมดแก้ว โชคดีนักที่ได้รู้จักกับคุณชายเซิ่ง มารอบนี้ก็ไม่ได้มาเปล่า ๆ แล้ว”

แล้วได้พูดต่อไปว่า “ดีมาก ล้วพูดว่า

“ในบางเรื่องอาจจะไม่ได้สมดั่งใจตามค

วามต้องการของคน แต่ว่าคนทำฟ้านั้นดู

การทำผิดก็ต้องได้รับโทษนั้นและ หากลูกชายผมเป็นคนที่รู้จักที่ค่าที่สูงก็ คงไม่เดินมาถึงตอนนี้”

เจิ้งโป๋หงแม้นจะพูดดูมีความงดงามแต่ กลับซ่อนความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ในนั้น เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่ได้ตอบอะไร เพื่อให้ทุกอย่างมันจบลงไป

คำพูดของเจิ้งโป๋หงนั้นเขาเข้าใจดี โดยเฉพาะเกี่ยวกับนักธุรกิจ

หากคนที่มาทำงานในวงการธุรกิจ ก็มีไม่กี่คนที่โง่เขลา

สองคนนี้แม้นจะอายุห่างกันถึงยี่สิบปี ถือว่าเป็นบุคคลสําคัญทั้งสองคน

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมก็ต้องขอตัวก่อน” เจิ้งโป่หงได้พูดออกมา

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้มองไปยังตาของเขา แล้วพูดว่า “ประธานเจิ้งค่อย ๆ เดิน”

เสิ่นอีเวยที่อยู่ข้างนอกที่เห็นเจิ้งโป๋หง กำลังเดินออกมา ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง เลยเดินหนีไปข้างๆ และในตอนนี้ก็ได้ยินเจิ้งโป๋หงพูดอะไร สักหน่อย ที่สำคัญมากๆ

เจิ้งโป๋หงที่อยู่ดีดีก็คิดอะไรได้ขึ้นมานั้น หันหลังกลับมาถามเซิ่งเจ๋อเฉิงว่า “คุณชายเซิ่ง ไม่ขอปิดบังแล้วละกัน ผมยังมีปัญหาอีกข้อหนึ่งที่จะถามคุณ เซิ่งเจ๋อเฉิงกับหน้าที่ไร้อารมณ์แล้วพูด

ว่า “เชิญท่าน”

เจิ้งโป๋หงได้คิดคำแล้วพูดขึ้นมาว่า “สำหรับเรื่องที่คุณชายเซิ่งจะแจ้งตำรว จนั้น ในใจผมก็กำลังสงสัยอยู่

ไม่รู้ว่าคุณชายเพิ่งจะบอกผมถึงเรื่องคว ามจริงกับผมได้หรือไม่”

ห้องทำงานก็กลับเข้าสู่สภาพที่เงียบงัน อีกครั้งหนึ่ง

เสิ่นอีเวยที่กำลังจะเดินออกไปก็หยุดช

ะงักลง

ฟังที่เจิ้งโป๋หงพูดแล้ว

เหมือนเซิ่งเจ๋อเฉิงกำลังคิดว่าปิดบังอะ

ไรเขาอยู่ เซิ่งเจ๋อเฉิงได้มองเจิ้งโป๊หงอย่างเยือก เย็น ในใจก็รู้สึกถึงความแปลกใจ เขาคิดว่าเขาก็ปกปิดอารมณ์ได้ดีแล้ว แต่ทำไมถูกเจิ้งโป๋หงจับได้

คนต่อหน้านี้ เป็นคนที่ละเอียดยิ่งนัก

แต่เรื่องถึงวันนี้

ก็ไม่มีอะไรจะต้องปิดบังอีกแล้ว เชิงเจ๋อเฉิงก็เริ่มปรับอารมณ์ตัวเอง

เขาก็ได้มองไปยังคนตรงข้ามของเขาแ ล้วพูดว่า “ผมมีพี่ชายคนหนึ่ง อายุมากกว่าผมสองปี แต่ว่าเมื่อห้าปีก่อนเขาได้เสียไปแล้ว อ้อใช่ไม่

หากพูดอย่างถูกต้องก็คือไม่ใช่เสียชีวิต แต่เสียสละชีวิต” เสี่นอีเวยที่แอบฟังอยู่นั้นก็ได้ฟังอย่างชั

ดเจน

เธอรู้สีกว่าหัวใจเธอนั้นหยุดเต้นไปชั่วข

ณะ

เซิ่งเจ๋อเฉิงมีพี่ชายคนหนึ่ง ?

ทำไมไม่เคยเห็นเลย

คงฟังไม่ผิดหรอกมั้ง

และยังบอกว่าเสียสละชีวิต เรื่องอะไรกัน ?

เสิ่นอีเวยก็ได้ฟังอย่างตั้งใจต่อไป

เซิ่งเจ๋อเฉิงได้มองหน้าเจิ้งโป๋หงและพู ดต่อไปว่า

“เขาเป็นคนที่ผมเคารพที่สุด เมื่อห้าปีก่อนได้รับงานที่สำคัญชิ้นหลัง วเอง เพราะพูดกระสุนจากผู้ร้าย สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ พอพูดถึงตรงนี้

ประธานเจิ้งก็คงจะรู้ว่าพี่ชายของผมทำ งานอะไร”

เจิ้งโป๋หงหรี่ตาลงแล้วเหมือนจะงงงวย แต่ก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง

“ไม่ผิด

สิ่งที่เขาทำก็คือจับคนอย่างลูกของท่า นเจิ้งอวิ๋นชวนแบบนี้ ทำผิดเรื่องแบบนี้”

เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย

ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของ เจิ้งโป๋หงแต่อย่างใด 201775850_486911792524385_786382130067705319_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ