นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่ 125 เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ



บทที่125เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ

เธอ

บทที่ 125 เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ

อยู่ในห้องรับแขกราวกับว่าเวลาและอากาศทุกอย่างหยุด อยู่ในนั้น เสิ่นอีเวยไม่ได้หันหัวกลับไป แต่เดินต่อไปยังข้างหน้า และพูดว่า “ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ”

“ผมจำได้ว่าเมื่อครั้งก่อนได้พูดกับคุณแล้ว ให้เป็นคนดีว่า นอนสอนง่าย ไม่งั้นผมจะให้คุณเธอกับสิ่งที่คุณไม่สามารถรับ มันไหว”

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้เดินไปยังข้างหน้าอีกหลายก้าวจึงเดินมายัง ต่อหน้าของเสิ่นอีเวย เขาได้พูดกับเธอว่า “อย่าลืมสิ คุณเคย นำพาความอัปยศให้กับผมมามากมาย การสวมเขา.คุณ คิดว่าผมจะปล่อยคุณไปง่าย ๆ รี ?”

เสิ่นอีเวยในทันใดนั้นเหมือนกับคนที่พูดจาไม่ออก

ใช่แล้ว ในค่ำคืนนั้นที่เธอได้โกหกและพูดกับเขาว่าลูกที่ แท้งนั้นไม่ใช่ของเขา เพราะว่าเธอกับสวีอันฉิงได้ทาะเลาะในที่ ของตระกูลเซิ่งวันนั้น เขานั้นได้มีคำพูดในทำนองที่ปกป้องสวี อันนิ่งต่อหน้าพนักงานในบริษัท และในตอนนั้นใจของเธอก็ได้ แตกสลายไป ณ ที่ตรงนั้น บทที่125เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ

เธอ

บทที่ 125 เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ

อยู่ในห้องรับแขกราวกับว่าเวลาและอากาศทุกอย่างหยุด อยู่ในนั้น เสิ่นอีเวยไม่ได้หันหัวกลับไป แต่เดินต่อไปยังข้างหน้า และพูดว่า “ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ”

“ผมจำได้ว่าเมื่อครั้งก่อนได้พูดกับคุณแล้ว ให้เป็นคนดีว่า นอนสอนง่าย ไม่งั้นผมจะให้คุณเธอกับสิ่งที่คุณไม่สามารถรับ มันไหว”

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้เดินไปยังข้างหน้าอีกหลายก้าวจึงเดินมายัง ต่อหน้าของเสิ่นอีเวย เขาได้พูดกับเธอว่า “อย่าลืมสิ คุณเคย นำพาความอัปยศให้กับผมมามากมาย การสวมเขา.คุณ คิดว่าผมจะปล่อยคุณไปง่าย ๆ รี ?”

เสิ่นอีเวยในทันใดนั้นเหมือนกับคนที่พูดจาไม่ออก

ใช่แล้ว ในค่ำคืนนั้นที่เธอได้โกหกและพูดกับเขาว่าลูกที่ แท้งนั้นไม่ใช่ของเขา เพราะว่าเธอกับสวีอันฉิงได้ทาะเลาะในที่ ของตระกูลเซิ่งวันนั้น เขานั้นได้มีคำพูดในทำนองที่ปกป้องสวี อันนิ่งต่อหน้าพนักงานในบริษัท และในตอนนั้นใจของเธอก็ได้ แตกสลายไป ณ ที่ตรงนั้น เขาไม่ได้คำนึงถึงและดูแลเธอตอนที่เธอนั้นแท้งลูก เธอ เหมือนถูกตบหน้าท่ามกลางคนมากมาย ผู้หญิงที่ถูกเขา ปกป้องนั่นก็คือสวีอันฉิง พอคิดถึงเรื่องที่สวีอันฉิงได้ทำกับเธอ เอาไว้เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตัวเองในตอนนั้นต้อยค่าเหลือเกิน

ดังนั้นเพื่อที่เธอจะทำการแก้แค้นเลยทำให้ในตอนนั้นพูด แบบนั้นออกมา แต่งงานมานานขนาดนี้เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่เคยคิดถึง ความรู้สึกของเธอเลยแม้แต่น้อย เลยทำให้นับแต่ตั้งจากนั้น เป็นต้นมา เธอจึงใช้วิธีเช่นนี้เพื่อให้เขานั้นรู้สึกเจ็บปวด

ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีทำลายศักดิ์ศรีของบุรุษคนหนึ่ง

เสิ่นอีเวยรู้ว่าตัวเองนั้นทำไม่ถูกต้อง แต่เธอก็ไม่มีวิธีอื่นใด “พอแท้งลูก ร่างกายชั้นก็รู้สึกไม่ค่อยสบาย ดังนั้นเลยไป หาหมอเพื่อหายาทาน”

ภายใต้สถานการณ์ที่เร่งรีบ เสิ่นอีเวยก็เลยได้ทำการ โกหกอีกครั้ง

เซิ่งเจ๋อเฮชิงที่บีบเธออยู่นั้นก็เลยค่อย ๆ ปล่อยออกมา ริม ฝีปากที่สดสวยของเขานั้นก็ได้มีรอยยิ้มที่เยือกเย็น “อ้อ ที่แท้ เป็นแบบนี้ แต่คุณนี่ก็น่าสงสารเสียจริงนะ พ่อของเด็กล่ะ ? ทำไมไม่เห็นเขามาเป็นห่วงเป็นใยเลย ? ”

เสิ่นอีเวยก็ได้เพียงแต่ฟังอย่างเงียบ ๆ เซิ่งเจ๋อเฉิงใช้คำ พูดที่เสียดสีจนทำให้ในใจของเธอนั้นเต็มเจ็บปวดจนจะหยุด หายใจ ใช่ ผู้ชายคนนี้เก่งเรื่องในการใช้คำพูดมาทำร้ายให้คน อื่น โมโห หากว่าอยากจะใช้วิธีเช่นนี้มาต่อกร เธอก็จะไม่ยอม เขาไม่ได้คำนึงถึงและดูแลเธอตอนที่เธอนั้นแท้งลูก เธอ เหมือนถูกตบหน้าท่ามกลางคนมากมาย ผู้หญิงที่ถูกเขา ปกป้องนั่นก็คือสวีอันฉิง พอคิดถึงเรื่องที่สวีอันฉิงได้ทำกับเธอ เอาไว้เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตัวเองในตอนนั้นต้อยค่าเหลือเกิน

ดังนั้นเพื่อที่เธอจะทำการแก้แค้นเลยทำให้ในตอนนั้นพูด แบบนั้นออกมา แต่งงานมานานขนาดนี้เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่เคยคิดถึง ความรู้สึกของเธอเลยแม้แต่น้อย เลยทำให้นับแต่ตั้งจากนั้น เป็นต้นมา เธอจึงใช้วิธีเช่นนี้เพื่อให้เขานั้นรู้สึกเจ็บปวด

ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีทำลายศักดิ์ศรีของบุรุษคนหนึ่ง

เสิ่นอีเวยรู้ว่าตัวเองนั้นทำไม่ถูกต้อง แต่เธอก็ไม่มีวิธีอื่นใด “พอแท้งลูก ร่างกายชั้นก็รู้สึกไม่ค่อยสบาย ดังนั้นเลยไป หาหมอเพื่อหายาทาน”

ภายใต้สถานการณ์ที่เร่งรีบ เสิ่นอีเวยก็เลยได้ทำการ โกหกอีกครั้ง

เซิ่งเจ๋อเฮชิงที่บีบเธออยู่นั้นก็เลยค่อย ๆ ปล่อยออกมา ริม ฝีปากที่สดสวยของเขานั้นก็ได้มีรอยยิ้มที่เยือกเย็น “อ้อ ที่แท้ เป็นแบบนี้ แต่คุณนี่ก็น่าสงสารเสียจริงนะ พ่อของเด็กล่ะ ? ทำไมไม่เห็นเขามาเป็นห่วงเป็นใยเลย ? ”

เสิ่นอีเวยก็ได้เพียงแต่ฟังอย่างเงียบ ๆ เซิ่งเจ๋อเฉิงใช้คำ พูดที่เสียดสีจนทำให้ในใจของเธอนั้นเต็มเจ็บปวดจนจะหยุด หายใจ ใช่ ผู้ชายคนนี้เก่งเรื่องในการใช้คำพูดมาทำร้ายให้คน อื่น โมโห หากว่าอยากจะใช้วิธีเช่นนี้มาต่อกร เธอก็จะไม่ยอม แพ้อีกต่อไป

ระหว่างนั้น เสิ่นอีเวยในใบหน้าของเธอนั้นก็เต็มไปด้วย รอยยิ้ม “สำหรับปัญหานี้ ก็ไม่จำเป็นจะต้องลำบากถึงท่าน ประธานเพิ่งมาเป็นห่วงหรอก พ่อของเด็กงานยุ่งเต็มไปหมด ชั้นจะหาเวลาไปหาเขาอย่างแน่นอน”

พอพูดเสร็จก็ไม่รอเพิ่งเจ๋อเฉิงตอบอะไร เธอก็เดินขึ้นห้อง

ไป

หนึ่งก้าว หนึ่งก้าว ….เสิ่นอีเวยใช้พละกำลังทั้งหมดเดิน อย่างเงียบ ๆ แต่ทว่ามือและเท้าของเธอไม่สามารถที่จะหยุด การสั่นได้ ค่าพูดที่จะไปหาพ่อของเด็กนั้นเป็นคำพูดที่เป็นเท็จ เธอเพียงแต่ไม่อยากจะยอมแพ้ต่อหน้าของเขา

เชิ่งเจ๋อเฉิงได้มองเธอขึ้นไปยังบนห้อง สายตาที่เต็มไป ด้วยความน่ากลัว เขาให้มือซ้ายของเขาออกจากอก และเห็น ยาที่มีลักษณะกลม

พ่อของเด็กงานยุ่งมาก ฉันจะหาเวลาไปหาเขาเอง

คำพูดของเธอเมื่อสักครู่นี้ที่เต็มไปด้วยความดีอกดีใจเลย ทำให้ในใจเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธ ในค่ำคืนนั้นเขาก็ไม่ ได้เมาจนเสียสติไปทั้งหมด

ดังนั้นเธอต่อกรกับเขาอย่างไร รวมไปถึงตอนที่เขาเมา รู้สึกว่าเสิ่นอีเวยเต็มไปด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นก็ได้เห็น เธอนั้นกลืนยาลงไป แต่ทว่าต่อกับเรื่องราวพวกนี้เต็มไปด้วย ความเลอะเลือนยิ่ง แพ้อีกต่อไป

ระหว่างนั้น เสิ่นอีเวยในใบหน้าของเธอนั้นก็เต็มไปด้วย รอยยิ้ม “สำหรับปัญหานี้ ก็ไม่จำเป็นจะต้องลำบากถึงท่าน ประธานเพิ่งมาเป็นห่วงหรอก พ่อของเด็กงานยุ่งเต็มไปหมด ชั้นจะหาเวลาไปหาเขาอย่างแน่นอน”

พอพูดเสร็จก็ไม่รอเพิ่งเจ๋อเฉิงตอบอะไร เธอก็เดินขึ้นห้อง

ไป

หนึ่งก้าว หนึ่งก้าว ….เสิ่นอีเวยใช้พละกำลังทั้งหมดเดิน อย่างเงียบ ๆ แต่ทว่ามือและเท้าของเธอไม่สามารถที่จะหยุด การสั่นได้ ค่าพูดที่จะไปหาพ่อของเด็กนั้นเป็นคำพูดที่เป็นเท็จ เธอเพียงแต่ไม่อยากจะยอมแพ้ต่อหน้าของเขา

เชิ่งเจ๋อเฉิงได้มองเธอขึ้นไปยังบนห้อง สายตาที่เต็มไป ด้วยความน่ากลัว เขาให้มือซ้ายของเขาออกจากอก และเห็น ยาที่มีลักษณะกลม

พ่อของเด็กงานยุ่งมาก ฉันจะหาเวลาไปหาเขาเอง

คำพูดของเธอเมื่อสักครู่นี้ที่เต็มไปด้วยความดีอกดีใจเลย ทำให้ในใจเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธ ในค่ำคืนนั้นเขาก็ไม่ ได้เมาจนเสียสติไปทั้งหมด

ดังนั้นเธอต่อกรกับเขาอย่างไร รวมไปถึงตอนที่เขาเมา รู้สึกว่าเสิ่นอีเวยเต็มไปด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นก็ได้เห็น เธอนั้นกลืนยาลงไป แต่ทว่าต่อกับเรื่องราวพวกนี้เต็มไปด้วย ความเลอะเลือนยิ่ง ในตอนเช้าของวันนี้ที่ตื่นขึ้นมา เรื่องแรกที่เขาทำก็คือเดิน ไปเปิดลิ้นชักที่วางยา ขวดยาเล็ก ๆ สีขาว ดูไปแล้วก็ไม่ได้มี อะไรพิเศษมากมายนัก แต่เขาพบว่าบนยานั้นไม่ได้มีค่าอธิบาย ใด ๆ มีเพียงแต่ร่องรอยที่เห็นว่าถูกฉีกออก

เขาไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องยาอะไรมากมายนัก ดังนั้น เขาไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเธอนั้นกินยาอะไรลงไป แต่เขาก็รู้ว่าหาก ถามเธอไป เธอก็คงไม่ตอบอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาเลยได้แอบ เก็บไว้ที่ตัวเองหนึ่งเม็ด เขารู้ดีกว่าหากตรวจสอบขึ้นมาจริง ๆ ก็ ย่อมตรวจได้แน่นอน และในตอนนั้นนั่นเองเขาก็ได้ข้อชัดเจนที่ ว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรปิดบังเขาอย่างแน่นอน

แต่ว่าเธอได้บอกว่านั่นคือยาที่บำรุงร่างกายหลังการแท้ง ดังนั้นเขาเลยคิดว่าลูกนั้นไม่ใช่ของเขา

ยาที่อยู่บนมือเขานั้นกลายเป็นลูกไฟ ร้อนจนมือเขานั้น เจ็บไปหมด

มือของผู้ชายที่เต็มไปด้วยความโมโหก็ได้ทำให้สลายไป ยาสีขาวเม็ดเล็ก ๆ ไม่รู้เลยว่าถูกทิ้งไปอยู่ที่ไหน

ตอนเย็นเวลาห้าโมงครึ่ง ณ บริษัทเซิ่งชื่อ

เสิ่นอีเวยได้ทำงานชิ้นสุดท้ายของวันนี้ ทันใดนั้น โทรศัพท์ ก็ตั้งขึ้นมา พอเธอเปิดดูเป็นเบอร์แปลกหน้า

ตกใจ แล้วรับสายโทรศัพท์

“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ” ในตอนเช้าของวันนี้ที่ตื่นขึ้นมา เรื่องแรกที่เขาทำก็คือเดิน ไปเปิดลิ้นชักที่วางยา ขวดยาเล็ก ๆ สีขาว ดูไปแล้วก็ไม่ได้มี อะไรพิเศษมากมายนัก แต่เขาพบว่าบนยานั้นไม่ได้มีค่าอธิบาย ใด ๆ มีเพียงแต่ร่องรอยที่เห็นว่าถูกฉีกออก

เขาไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องยาอะไรมากมายนัก ดังนั้น เขาไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเธอนั้นกินยาอะไรลงไป แต่เขาก็รู้ว่าหาก ถามเธอไป เธอก็คงไม่ตอบอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาเลยได้แอบ เก็บไว้ที่ตัวเองหนึ่งเม็ด เขารู้ดีกว่าหากตรวจสอบขึ้นมาจริง ๆ ก็ ย่อมตรวจได้แน่นอน และในตอนนั้นนั่นเองเขาก็ได้ข้อชัดเจนที่ ว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรปิดบังเขาอย่างแน่นอน

แต่ว่าเธอได้บอกว่านั่นคือยาที่บำรุงร่างกายหลังการแท้ง ดังนั้นเขาเลยคิดว่าลูกนั้นไม่ใช่ของเขา

ยาที่อยู่บนมือเขานั้นกลายเป็นลูกไฟ ร้อนจนมือเขานั้น เจ็บไปหมด

มือของผู้ชายที่เต็มไปด้วยความโมโหก็ได้ทำให้สลายไป ยาสีขาวเม็ดเล็ก ๆ ไม่รู้เลยว่าถูกทิ้งไปอยู่ที่ไหน

ตอนเย็นเวลาห้าโมงครึ่ง ณ บริษัทเซิ่งชื่อ

เสิ่นอีเวยได้ทำงานชิ้นสุดท้ายของวันนี้ ทันใดนั้น โทรศัพท์ ก็ตั้งขึ้นมา พอเธอเปิดดูเป็นเบอร์แปลกหน้า

ตกใจ แล้วรับสายโทรศัพท์

“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ” ในปลายสายนั้นคือเสียงของผู้ขาย “ฮัลโหล อีเวย

ไหม ?

ใช่

เสิ่นอีเวยตกใจ รู้สึกว่าทำไมเสียงนั้นรู้สึกคุ้น ๆ มาก เธอ เลยได้ดูเบอร์ที่โทรมาอีกครั้งหนึ่งแต่กลับไม่ได้รู้สึกคุ้นตาสัก เท่าไหร่

ทันใดนั้น เสียงและในความทรงจำนั้นได้ปรากฏภาพ บุคคลคนหนึ่ง

เธอรู้สึกตกใจแล้วพูดว่า “คุณคือ คุณอา ? ”

เสียงปลายสายนั้นได้ฟังแล้วรู้สึกเธอนั้นเดาถูกต้อง ใน เสียงนั้นก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นใจ “ใช่ใช่ใช่ ฉันคืออาไง อี เวย”

เสียอีเวยไม่ได้พูดอะไรถึงสามวินาที เธอได้จับโทรศัพท์ไว้ แน่นมากพร้อมด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “คุณโทรมาหาฉันมี เรื่องอะไรไหม ? ”

เสียงปลายสายได้ยินเสียงที่เยือกเย็นของเธอ หัวเราะว่า “อย่าทำเหมือนคนไกลเลย ฉันคืออาแท้ ๆ ของเธอเลยหนา เพราะว่าไม่ได้ติดต่อกันนานเลยโทรมาหานะ ในไม่กี่วันก่อนใด้ เห็นข่าวว่า…คุณได้เป็นรองประธานบริษัทเซิ่งชื่อแล้วหรอ ? ”

พอได้ฟังคำพูดของอาเธอที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม เธอ เลยไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์แล้วโกรธได้อีกต่อไป

อาคนนี้คือเสิ่นเหยียนซึ่ง เป็นน้องชายของเสิ่นเหยืนยเฟิง ในปลายสายนั้นคือเสียงของผู้ขาย “ฮัลโหล อีเวย

ไหม ?

ใช่

เสิ่นอีเวยตกใจ รู้สึกว่าทำไมเสียงนั้นรู้สึกคุ้น ๆ มาก เธอ เลยได้ดูเบอร์ที่โทรมาอีกครั้งหนึ่งแต่กลับไม่ได้รู้สึกคุ้นตาสัก เท่าไหร่

ทันใดนั้น เสียงและในความทรงจำนั้นได้ปรากฏภาพ บุคคลคนหนึ่ง

เธอรู้สึกตกใจแล้วพูดว่า “คุณคือ คุณอา ? ”

เสียงปลายสายนั้นได้ฟังแล้วรู้สึกเธอนั้นเดาถูกต้อง ใน เสียงนั้นก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นใจ “ใช่ใช่ใช่ ฉันคืออาไง อี เวย”

เสียอีเวยไม่ได้พูดอะไรถึงสามวินาที เธอได้จับโทรศัพท์ไว้ แน่นมากพร้อมด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “คุณโทรมาหาฉันมี เรื่องอะไรไหม ? ”

เสียงปลายสายได้ยินเสียงที่เยือกเย็นของเธอ หัวเราะว่า “อย่าทำเหมือนคนไกลเลย ฉันคืออาแท้ ๆ ของเธอเลยหนา เพราะว่าไม่ได้ติดต่อกันนานเลยโทรมาหานะ ในไม่กี่วันก่อนใด้ เห็นข่าวว่า…คุณได้เป็นรองประธานบริษัทเซิ่งชื่อแล้วหรอ ? ”

พอได้ฟังคำพูดของอาเธอที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม เธอ เลยไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์แล้วโกรธได้อีกต่อไป

อาคนนี้คือเสิ่นเหยียนซึ่ง เป็นน้องชายของเสิ่นเหยืนยเฟิง เคยได้ฟังเรื่องราวของอาจากคุณพ่อ อาคนนี้ตอนยังเป็นหนุ่ม เคยได้ทำกิจการหลายอย่าง แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้สำเร็จอะไร กลายเป็นคนที่ไม่มีจิตใจมุ่งมั่นที่จะไปหาเงินก้อนใหญ่ ๆ

พ่อแม่ของเสิ่นอีเวยตอนมีชีวิตอยู่คุณอาก็ได้มายิบยืมเงิน บ่อยครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการคืนเลย แต่ว่าความจริงแล้ว ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อครอบครัวเธอสักเท่าไหร่ เพราะพ่อของ เธอก็เป็นทนายความ แม่เธอก็เป็นบริษัทออกเงียบการแต่งงาน ซึ่งทั้งสองก็มีชื่อเสียงในแวดวงของตน ดังนั้นก็เลยไม่ได้ไป สนใจอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น

ดังนั้นตลอดมาเธอก็คิดว่าคุณอาเป็นคนที่ชอบเอาเปรียบ ผู้อื่น แต่ว่าหลังจากนั้นมาเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอเองนั้น เห็นธาตุแท้ของอาคนนี้

คู่ สี่ปีที่แล้วพ่อแม่ของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุก็ได้เสียชีวิตทั้ง เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด ดังนั้นทรัพย์สินต่าง ๆ ก็ ไม่ได้มีการจัดการอย่างเรียบร้อย เธอก็เลยรับกลับมายังบ้าน พอคิดไปถึงตอนที่พ่อแม่ยังมีชีวิตส่วนมากก็จะมอบเงินทองให้ กับองค์กรการกุศล เลยทำให้มีการตัดสินใจในการมอบเงิน เหล่านี้ให้กับองค์กรการกุศล

ตอนนั้นเสิ่นอีเวยเพิ่งจะ 21 ปี ยังไม่จบมหาวิทยาลัย แต่ เสิ่นหุ้ยแม้เป็นพี่สาวของเธอ แต่ว่าก็ไม่ได้มีความรู้สึกเสียใจ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของพ่อแม่ ตอนนั้นเลยทำให้ทั้งสองได้ เกิดปากเสียงนั้น แต่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้รับการแก้ไขอะไรเลย เนื่องจากความวุ่นวาย เขาเลยไม่ได้ไปเฟ้นหาต้นเหตุอะไรเลย เคยได้ฟังเรื่องราวของอาจากคุณพ่อ อาคนนี้ตอนยังเป็นหนุ่ม เคยได้ทำกิจการหลายอย่าง แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้สำเร็จอะไร กลายเป็นคนที่ไม่มีจิตใจมุ่งมั่นที่จะไปหาเงินก้อนใหญ่ ๆ

พ่อแม่ของเสิ่นอีเวยตอนมีชีวิตอยู่คุณอาก็ได้มายิบยืมเงิน บ่อยครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการคืนเลย แต่ว่าความจริงแล้ว ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อครอบครัวเธอสักเท่าไหร่ เพราะพ่อของ เธอก็เป็นทนายความ แม่เธอก็เป็นบริษัทออกเงียบการแต่งงาน ซึ่งทั้งสองก็มีชื่อเสียงในแวดวงของตน ดังนั้นก็เลยไม่ได้ไป สนใจอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น

ดังนั้นตลอดมาเธอก็คิดว่าคุณอาเป็นคนที่ชอบเอาเปรียบ ผู้อื่น แต่ว่าหลังจากนั้นมาเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอเองนั้น เห็นธาตุแท้ของอาคนนี้

คู่ สี่ปีที่แล้วพ่อแม่ของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุก็ได้เสียชีวิตทั้ง เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด ดังนั้นทรัพย์สินต่าง ๆ ก็ ไม่ได้มีการจัดการอย่างเรียบร้อย เธอก็เลยรับกลับมายังบ้าน พอคิดไปถึงตอนที่พ่อแม่ยังมีชีวิตส่วนมากก็จะมอบเงินทองให้ กับองค์กรการกุศล เลยทำให้มีการตัดสินใจในการมอบเงิน เหล่านี้ให้กับองค์กรการกุศล

ตอนนั้นเสิ่นอีเวยเพิ่งจะ 21 ปี ยังไม่จบมหาวิทยาลัย แต่ เสิ่นหุ้ยแม้เป็นพี่สาวของเธอ แต่ว่าก็ไม่ได้มีความรู้สึกเสียใจ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของพ่อแม่ ตอนนั้นเลยทำให้ทั้งสองได้ เกิดปากเสียงนั้น แต่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้รับการแก้ไขอะไรเลย เนื่องจากความวุ่นวาย เขาเลยไม่ได้ไปเฟ้นหาต้นเหตุอะไรเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ