นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่ 163 คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับฉัน



บทที่163คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับ

ฉัน

บทที่ 163 คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับฉัน

บอดี้การ์ดคนนั้นถือว่ามีปฏิกิริยาคล่องแคล่วว่องไวมาก เขารีบยื่นมาออกมาเพื่อรั้งตัวของเงินอีเวย

“คุณเสิ่น” เสียงบอดี้การ์ดเรียกด้วยความตกใจ

แต่ต่อให้เขาว่องไวปราดเปรียวแค่ไหน แต่ก็รั้งร่างเล็ก ของเสิ่นอีเวยไว้ไม่ทัน บอดี้การ์ดคนนั้นน่าจะสูง ประมาณ190เซนติเมตร บวกกับเงินอีเวยโน้มตัวลงพุ่งตัววิ่ง ผ่านเข้าไป ดังนั้นบอดี้การ์ดยังไม่ทันได้ตั้งตัวเสิ่นอีเวยก็พุ่งตัว ผ่านมือเขาไปแล้ว

บอดี้การ์ดยังคงยืนงงอยู่ที่เดิม

เงินอีเวยยังคงวิ่งต่อไปไม่หยุด มุ่งหน้าไปยังลานจอดรถ ชั้นใต้ดิน มีบอดี้การ์ดวิ่งตามหลังหล่อนมา เสิ่นอีเวยอยู่ที่ คฤหาสน์ตระกูลเซิ่งมาสองปีกว่าแล้ว แน่นอนว่าหล่อนรู้ทางหนี ที่ไล่ในลานจอดรถชั้นใต้ดินเป็นอย่างดี พวกบรรดาบอดี้การ์ด ไม่เก่งเท่าหล่อนแน่นอน ไม่นานเส้นเวยก็สลัดพวกเขาออกไป ได้อย่างรวดเร็ว

หล่อนพุ่งตัวไปสตาร์ทรถอย่างว่องไว เป็นเพราะวิ่งมาด้วย ความตื่นเต้นตลอดทางทำให้หล่อนหายใจหอบ เมื่อรถขับออก มาบนถนน หล่อนก็สามารถมองเห็นจากระยะไกลว่ามีบอดี้ การ์ดกลุ่มหนึ่งมาดักรอหล่อนอยู่ที่หน้าประตูใหญ่

หล่อนสัมผัสได้ถึงเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นตรงหน้าผากหล่อน สองมือของหล่อนกำพวงมาลัยไว้ รถยังคงพุ่งไปข้างหน้า ระยะ ห่างของบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหน้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่พวกเขา ไม่มีท่าทีว่าจะถอยเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเสื่นอีเวยเจอกับสถานการณ์แบบนี้หัวใจหล่อนแทบจะ พุ่งมาอยู่ที่คอหอย ยิ่งมองบรรดาบอดี้การ์ดที่มีความเด็ดเดี่ยว แน่วแน่เหล่านั้น หล่อนก็เข้าใจได้ในทันที

เมื่อก่อนหล่อนไม่เคยคิดว่าจะมีบอดี้การ์ดคนไหนที่ยอม เอาชีวิตตัวเองไปทิ้งเพียงเพราะต้องการทำตามคำสั่งเจ้านาย แต่ครั้งนี้หล่อนลืมไปว่าคนที่ออกคำสั่งคือเพิ่งเจ๋อเฉิง ผู้ชาย เผด็จการชอบบงการคนอื่น ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งเขา

กับอีแค่คำสั่งง่ายๆที่กักตัวหล่อนไว้ในบ้านไม่ให้ออกไป ไหน แต่เมื่อพวกบอดี้การ์ดเหล่านี้กับต้องมาเจอกับ สถานการณ์แบบนี้ พวกเขากลับใช้ร่างของตนเองมาขวางหน้า รถของหล่อน

เสิ่นอีเลยต้องมาเจอกับเหตุการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หล่อนไม่เคยคิดจะทำร้ายพวกเขา แต่ถ้าหล่อนไม่ทำอย่างนี้ วัน นี้หล่อนก็ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ หล่อนไม่ชอบให้เพิ่งเจอ เฉิงกักบริเวณหล่อน หล่อนไม่อยากเป็นนกน้อยในกรงทอง วินาทีนั้นเอง เล่นอีเลยอยากจะลองเดิมพันดูสักตั้ง

โดยปกติคนเราเมื่อตกอยู่ในอันตราย มักจะมี สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด ต้องหนีเพื่อปกป้องตัวเอง ไม่แน่ ว่าเดิมพันครั้งนี้หล่อนอาจจะชนะก็เป็นได้

เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว หล่อนจึงตั้งสติ เท้าที่วางอยู่บนต้น เร่งค่อยๆเหยียบลงไปเพิ่มความเร็วของรถ สองมือที่กำพวง มาลัยอยู่ก็ยังกำแน่นขึ้น สิบเมตร เจ็ดเมตร ห้าเมตร สาม

เมตร..

“เอียด”

เสียงเบรครถดังแหลมขึ้นมา ด้วยแรงกระชากอย่างแรง ทำให้หลังของหล่อนกระแทกเข้ากับเบาะอย่างจัง ผมที่หน้า ผากยุ่งเหยิง

หล่อนสติแตก พยายามข่มตาปิดเพื่อสงบจิตสงบใจ แต่ สุดท้ายก็ไม่สามารถข่มความโกรธในใจได้

หล่อนผลักประตูเปิด ก้าวขายาวๆลงมา

“ปัง”หล่อนดันประตูปิดอย่างแรง สายตาดุดัน พูดด้วยน้ำ เสียงสูงว่า “พวกคุณอยากตายกันหรือยังไง

เหตุการณ์เมื่อสักครู่นั้น คนที่อยู่ข้างๆล้วนเห็นกันหมด รถ ของหล่อนขับมาด้วยความเร็วสูง เกือบจะชนถึงตัวพวกเขาอยู่ แล้ว รถของหล่อนถึงหยุดลง

ถ้าไม่เพราะทักษะการขับรถของหล่อนที่ถือว่าไม่เลว เมื่อ สักครู่อาจจะเกิดชนขึ้นมาได้ และสถานการณ์ก็คงจะเลวร้าย มากแน่นอน

อันที่จริงแล้วเสิ่นอีเวยไม่คุ้นหน้าคุ้นตาพวกบรรดาบอ การ์ดเหล่านี้เลย อาจจะเคยเจอบางคนในคฤหาสน์บ้าง แต่ก็ แค่ทำความเคารพผิวเผินเท่านั้น ไม่เคยได้มีปฏิสัมพันธ์อะไร

ด้วย

ด้วยเหตุนี้เอง เสิ่นอีเวยถึงได้รู้สึกกลัวแทนพวกเขาขึ้นมา หล่อนไม่เคยคิดว่าจะมีใครที่ไม่กลัวตายยอมเอาตัวไปขวางรถ

ไว้แบบนั้น

ตอนนี้ก็ได้เห็นกับบตาแล้ว พวกเขาก็คือคนที่เพิ่งเจ๋อเฉิง

ฝึกมานี่เอง

เมื่อเจอคำถามของเงินอีเวย บรรดาบอดี้การ์ดต่างไม่มี

ใครคิตจะตอบ

พวกเขาได้แต่ยืนสงบนิ่งอยู่ตรงข้ามเส้นอีเวย ไม่ส่งเสียง ใดๆ มีเพียงบอดี้การ์ดคนที่พยายามจะคว้าตัวหล่อนไว้เท่านั้น ที่ตอบอย่างนอบน้อมว่า “พวกเราแค่ทำตามคำสั่งท่านประธาน เชิงเท่านั้น ไม่มีเจตนาร้ายต่อคุณเงินเลย เชิญคุณเงินก็กลับไป กับเราเถอะนะครับ”

เสียงของเขาเรียบเฉย ฟังไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร เหมือน กับว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดเมื่อครู่นั้นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตื่น ตกใจแม้แต่น้อย

เงินอีเวยโกรธจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เหมือนหล่อนกำลัง กำหมัดชกอุ่น ใช่สิ พวกเขาฟังคำสั่งของเพิ่งเจ๋อเฉิงคนเดียว เท่านั้น ใครจะพูดอะไร ก็ไม่สน

วินาทีนั้นเองที่เสิ่นอีเวยรู้สึกโกรธมากจนทะลุลิมิตของ ตนเอง แต่เพราะความมุทะลุหล่อนจึงไม่ได้ควบคุมตัวเองไว้ได้ “ยังไงวันนี้ฉันก็ไม่กลับไปกับพวกนาย ฉันมีธุระที่ต้องทำ ถ้าวัน นี้พวกนายคิดจะขวางฉันละก็ รีบโทรไปหาเจ้านายของพวกคุณ ตอนนี้เลย บอกเค้าว่าฉันอาละวาดไร้เหตุผลอยู่

ท่าทีของหล่อนเย็นชา คงจะเพราะโกรธมากจริงๆ

บรรดาบอดี้การ์ดที่อยู่ตรงข้ามมองหน้ากันไปมา ไม่รู้จะ ทําอย่างไรดี

สำหรับคุณเสิ่นที่อยู่ตรงหน้าเขานั้น แม้ว่าจะเป็นคนที่พวก เขาต้องเคารพนบนอบ แต่เจ้านาย โดยตรงที่แท้จริงของพวก เขาคือเพิ่งเจ๋อเฉิง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขา เมื่อมาเจอคำขอร้องของหล่อนพวกเขาจึงไม่รู้ว่าควรจะตอบ อย่างไร

เสิ่นอีเวยเห็นสีหน้าพวกเขาไม่สู้ดีนัก ก็พอจะเดาได้ถึง สาเหตุ หล่อนขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดด้วยเสียงสูงว่า “ทำไม พวกนายไม่โทรใช่มั้ย ได้ งั้นฉันโทรเอง”น้ำเสียงมีความเย็น เยือก

หลังจากพูดจบ หล่อนก็ถอยไปสองสามก้าวเปิดประตูรถ ออก แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วกดเบอร์ เชิงเจ๋อเฉิงโทรออกไป เพิ่งเจ๋อเฉิงเองก็เหมือนคาดไว้แล้วว่าหล่อนจะต้องโทรมา หาเขา จึงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “มีเรื่องอะไร

เสิ่นอีเวยก็ตอบตรงๆไม่อ้อมค้อมว่า: “บอกคนของคุณให้ ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้”

หล่อนรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากปลายสาย ทำไม ทนอยู่บ้านไม่ได้เหรอ”

“ฉันจะไปทำงานที่บริษัท” หล่อนพยายามควบคุมอารมณ์

เอาไว้

“ถ้าอย่างนั้น ผมคงต้องขอโทษด้วย เพราะที่บริษัทก็ไม่ได้ มีงานอะไรให้คุณทำได้เหมือนกัน”

เสิ่นอีเวยสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ สบด่าเขาออกมา: “เพิ่งเจ๋อเฉิงคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมากักกัน อิสรภาพของฉัน ถ้าคุณคิดจะทำแบบนี้อีก ฉันสามารถฟ้องคุณ ได้นะคุณรู้มั้ย”

เพิ่งเจ๋อเฉิงหัวเราะเยาะออกมา: “เสิ่นอีเวย คุณแน่ใจแล้ว เหรอที่จะเล่นเรื่องกฎหมายกับผม

เมื่อเงินอีเวยได้ยินเขาพูดประโยคนี้ ก็รู้สึกหน้าชาไปเล็ก น้อย ใช่สิ คนอย่างเพิ่งเจ๋อเฉิงทำได้ทุกอย่างสารพัดวิธี รู้จักกัน มานานหลายปีทำไมจะไม่รู้ว่าหล่อนเป็นคนอย่างไร หล่อนจะไป สู้เขาได้อย่างไร

” แล้วคุณต้องการอะไรกันแน่ ฉันก็แค่อยากรู้เหตุผลที่คุณ ทำกับฉันแบบนี้ ฉันจำได้ว่าช่วงนี้ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดต่อคุณ

เพิ่งเจ๋อเฉิงที่อยู่ปลายสายเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพูดว่า “เอาโทรศัพท์ส่งให้พวกเขาหน่อย

เงินอีเวยอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือตนเองส่ง ให้บอดี้การ์ดอีกฝ่ายแสดงความเคารพก่อนจะรับโทรศัพท์ไป

ไม่รู้ว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงคุยอะไรกับพวกเขาบ้าง เสิ่นอีเวยเห็นแค่ ว่าเขาพยักหน้ารับเฉยๆแล้วตอบว่า “ครับ ท่านประธานเพิ่ง

บอดี้การ์ดคนนั้นส่งโทรศัพท์มือถือคืนให้เป็นเวย ก่อนที่ จะส่งสัญญาณให้ทุกคนถอยหลบไปด้านข้าง เขาผายมือขวา ออกมาด้านหน้า ยื่นไปทางประตูใหญ่ก่อนจะพูดว่า : “เชิญ ครับ คุณเงิน”

เงินอีเวยมองเขาอย่างเย็นชาก่อนจะเดินกลับไปที่รถของ ตน ขับมุ่งหน้าไปยังบริษัทเพิ่งซื้อ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ