นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่ 367ถูกเจียงเฉิงหวินสะกดรอยตาม



บทที่ 367ถูกเจียงเฉิงหวินสะกดรอยตาม

บทที่ 367 ถูกเจียงเฉิงหวินสะกดรอยตาม

หยางอันทรานเห็นเงินอีเวณที่ทำหน้าตาที่ไม่น่าดูแล้วพูด ไปว่า “เสิ่นอีเวยนะเงินอีเวย คุณก็ยังเป็นคนแบบนี้เหมือนเดิม คุณรู้ไหมว่าเจียงเฉิงหวินมีผู้หญิงรอบข้างมากมาย ทำไมจะ ต้องมาถึงคุณล่ะ คนอื่นจะมาจีบคุณด้วยท่าทีที่โง่ขนาดนั้น เชียวหรือ ? *

เสิ่นอีเวยก็ไม่รู้ว่าหยางอันทรานนั้นกำลังพูดอะไรอยู่ ก็ เลยหันกลับไปแล้วพูดว่า “หากพูดไปแล้วเจียงเฉิงหวินนั้นก็ เป็นหัวหน้าคุณอยู่ครึ่งหนึ่ง แล้วคุณคิดอย่างไรกับการที่เขาจะ มาจีบฉันล่ะ ? หากเปลี่ยนประโยคก็คือ คุณคิดว่าฉันจะตอบ รับเขาไหม ?”

หยางอันตรานก็ได้มองไปยังเสิ่นอีเวยแล้วพูดว่า “คุณอย่า พูดเลย ตอนที่รู้ว่าเขานั้นจะจีบเธอ ฉันก็ได้ไปสำรวจผู้ชายคนนี้ แล้ว นิสัยค่อนข้างบ้ากาม มีความสัมพันธ์ประหลาด เพราะว่า คุณนั้นหน้าตาดี ก็เลยถูกใจเขาไงล่ะ”

เงินอีเวย “…” ”

เงินอีเวยก็รู้สึกเงียบขรึมไป ไม่ใช่เพราะเป็นคำพูดของ หยางอันทราน แต่เป็นเพราะเธอไม่คิดว่าหยางอันหลานเธอจะไปทำการสำรวจผู้ชายคนนี้

เธอนั้นไม่ได้ถูกคนเอาอกเอาใจมานานแล้วใช่ไหม ? เ นอีเวยก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เพียงแค่ตอนนี้เธอรู้สึกคัดจมูก

“อันทราน…. เงินอีเวยก็เรียกขึ้นมาทันใด

หยางอันหรานหันมาแล้วพูดว่า “อะไรหรือ ?

“ขอบใจนะ” คำง่าย ๆ สามพยางค์ ซึ่งไม่ได้พูดออกมา

นานแล้ว

หยางอันทรานรู้สึกมีความแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก กับคำนี้ แล้วก็ได้เอามือไปเตะตรงหน้าผากเสื่นอีเวย แล้วพูด ว่า “คุณไข้ขึ้นหรือ ? “

เงินอีเวยหัวเราะแล้วก็เอามือเขาลงมือ

บางเรื่อง บางความเป็นห่วง ไม่ต้องพูดออกมาอย่าง

ชัดเจน แต่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นเข้าใจก็พอแล้ว

“แล้วเจียงเฉิงหวินคนนั้น เขานั้นได้เริ่มเข้าหาคุณหรือ ยัง ? ” หยางอันทรานถาม

เงินอีเวยก็ขมวดคิ้ว เนื่องจากคิดถึงเรื่องที่ไม่ชอบใจขึ้น มา “ไม่มีที่ไหนล่ะ วันหนึ่งสามข้อความ สวัสดีเช้าเย็น พูดไป แล้วนะ เป็นการรบกวนชีวิตฉันจริง ๆ เลย หากไม่ได้เห็นกับตา แล้ว ลูกชายของเจ้าของบริษัทการบันเทิงเฟิงสิ่งจะมีนิสัยเข้า ขนาดนี้
หยางอันทรานหัวเราะแทบน้ำลายจะพุ่งออกมา แล้วถาม ว่า “แล้วครั้งที่แล้วที่เห็นเขาคือตอนไหนล่ะ ? ”

เงินอีเวยก็เอนหัวคิดอยู่สักครู่หนึ่ง ตอบกลับไปว่า “วัน แรกที่พบกัน…คือวันที่ฉันไปดูนิทรรศการ

“หม…หากพูดความจริงแล้ว เจียงเฉิงหวินก็เป็นคนที่เลอะ เพื่อนคนหนึ่ง แต่ว่าพูดจากภายนอกก็เป็นคนที่มีความสำเร็จ อยู่บ้างนะ ดังนั้น ก็เลยไปลุ่มหลงในตัวเขาล่ะ ” หยางอัน หนานก็พูดด้วยท่าทีที่มีความเป็นห่วง

เสิ่นอีเลยก็ได้เบิกตากว้างขึ้นแล้วพูดว่า “คิดว่าฉันเป็นคน ที่ง่าย ๆ แบบนั้นหรือ ? การดูคนของฉันก็ยังแม่นอยู่นะ

เงินอีเวยพูดค่านี้ออกมา หยางอันทรานก็ตอบกลับไปว่า “คุณหญิงเส้น คุณคิดว่าการมองคนของคุณนั้นแม่นยำ ? หาก เป็นเช่นนี้แล้วล่ะก็ ก็คงไม่อาจจะไม่พูดถึงคนนี้ สวีเส้าเพิ่ง

ความจริงแล้ว ตอนที่หยางอันหรานพูดประโยคที่สองออก มา เธอก็รู้สึกตัวแล้ว แต่ที่เธอพูดไปแบบนั้นก็เพราะว่าสวี่เส้า เพิ่งนั้นไม่ได้มีความลึกซึ้งอะไรกับเธอมากมายนั้น แล้วเธอกับ เหมียนเหมียนก็ไม่ได้รับความเสียหายอะไร

สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ช่วยอะไรสวีเส้าเทิง พูดโดยรวมแล้ว เธอก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับสวีเส้าเชิงเลย

เสิ่นอีเวยก็ได้พูดให้กับตัวเองว่า “ดีแล้ว ฉันยอมรับ เรื่อง สวีเส้าเพิ่งนั้นฉันพลาดไป การมองคนผิดก็ทำให้เสียเวลาไปมากมาย แล้วก็ยังทำให้เหมียนเหมือนอยู่ในห้วงแห่งความ อันตรายอีก แต่ฉันก็ได้ยอมรับการสั่งสอนครั้งนี้

“สวีเส้าเหิงคนนั้นเป็นคนที่เพื่อนฉันแนะนำมา ฉันก็เลยไม่ ได้มีการป้องกันอะไรคิดว่าเขาเป็นคนดี ซึ่งต่อหน้าฉันก็แสดง ได้อย่างดีเยี่ยมเลย

หากพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ตอนที่หลิน โม่เหยียนรู้เรื่องราว

ทั้งหมด ก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เพียงแค่รู้ว่าจะหลอกเงิน ของเงินอีเวย ก็ได้โมโหจนมากมาย แล้วก็จะบอกว่ารอกลับมา ประเทศบ้านก่อน แล้วจะจัดการคนนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

พอคิดถึงหลิน โม่เหยียน แล้วก็มาเห็นหยางอันทราน ความจริงแล้วเสิ่นอีเวยก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นมีกลุ่มเพื่อนที่ แข็งแกร่งยิ่งนัก เหมือนกับเป็นความโชคดีที่สุด

พอพูดถึงสวีเส้าเหิง เสิ่นอีเวยก็เกิดคำถามขึ้นมา “พูดไป แล้ว ครั้งที่แล้วที่คุณบอกว่าจะหาคนไปสั่งสอนสวีเส้าเหิง ไม่รู้ ว่าทําอะไรกับเขาบ้าง ?

หยางอันตรายหรี่ตาแล้วพูดว่า “ก็เป็นเรื่องของเมื่อวาน ก่อน ฉันได้หาคนกลุ่มหนึ่งไปจัดการพวกมัน ดังนั้นคาดไว้แล้ว ว่าคงไม่มาหาปัญหาให้คุณอีกแล้ว หากกล้าแล้วล่ะก็ ฉันจะ บอกคุณว่า ฉันจะไปตัดปากพวกมันทิ้งไป

เสิ่นอีเวย “

มองหยางอันตรานที่มีท่าทางจริงจัง เสิ่นอีเวยก็รู้สึกถอนหายใจในใจ “เหมียนเหมือนเอ่ยเหมียนเหมียน ได้เจอกับคนที่ เป็นคนแข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย…..

แล้วทันใดทันเล่นอีเลยก็ได้พูดขึ้นมาว่า “วางใจเถอะ ส เส้าเพิ่งที่ทำเรื่องชั่วร้ายกับฉันขนาดนั้น จะมีหน้ามาระรานฉัน อีกหรือ ? *

หยางอันหวานพูดว่า “นั่นก็ไม่แน่นอน บนโลกนี้คนที่มี นิสัยขยะก็มีมากมาย เรื่องราวผ่านไปแล้ว คุณไม่ไปหาเรื่อง เขา เขาก็จะมาหาเรื่องคุณ คุณจะต้องระวังหน่อยนะ

เสิ่นอีเวยเห็นหยางอันทรานที่พูดอย่างให้ระวังตัว เสิ่นอีเว ยก็รับรู้และจดจําแล้วพูดว่า “รู้แล้ว เข้าใจแล้ว หากเขามาระ รานฉันอีก ฉันก็จะให้เขารู้ว่าผู้หญิงนั้นไม่ใช่ให้มาหาเรื่องง่าย ๆ นะ ”

หยางอันทรานฟังค่นี้ก็วางใจ “แบบนี้สิ ความจริงแล้วฉัน ไม่ค่อยเป็นห่วงเธอหรอก เธอถึงแม้จะดูภายนอกเป็นคนอ่อน โยน แต่หากว่าอยู่นสถานการณ์ที่ไม่ดีแล้วล่ะก็ หวังว่าดำเนิน มันต่อไป”

เสิ่นอีเวยก็มองเธออีกสักครู่แล้ว แล้วสองคนก็ได้พูด หยอกล้อกันสองสามประโยค แล้วก็หยางอันทรานยังมีเรื่องอื่น อีก ดังนั้นเงินอีเวยก็ได้ออกจากสตูดิโอแล้ว

วันนี้ความจริงแล้วก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรมากมาย ดังนั้นก็เลย หลังจากดูเหมียนเหมียนเสร็จแล้วก็ได้ไปเดินเล่นที่ห้างสรรพ สินค้า
เงินเลยก็ได้เดินออกจากบริษัทแล้วก็ได้ยืนอยู่ตรงที่จุด รอแท็กซี่ แล้วตาก็ถูกกระจกเงาสะท้อนแสงโดนตาเต็ม ๆ

อกวงจง เหมือนกับรถคนนั้นก็ได้ขับมาหาเธอ เงินอีเว ยก็เลยได้ยกมือขึ้น แล้วรอรถสุดหรูที่มาหยุดตรงหน้าเธอนั้น แล้วเธอก็ได้เห็นคนขับรถที่แท้จริง

เจียงเฉิงทวีน

เงินอีเวยก็ขึ้นอย่างนั้นนิ่ง ๆ แล้วมือก็ค่อย ๆ เอาลง แล้วก็ไม่ได้เตรียมตัวที่จะออกรถ เพราะว่าคนและรถนั้นได้บัง เธอเอาไว้

เจียงเฉิงหวินลงมาจากรถ แล้วก็ได้นำดอกไม้กุหลาบแดง ติดมือออกมา “คุณหญิงเส้น บังอิญจริง ๆ

เพื่อเป็นการให้เกียรติลูกชายของเจ้าของบริษัท เสิ่นอีเว ยก็ไม่ได้แสดงสีหน้าที่ไม่พอใจออกมา แล้วก็ได้ใช้ท่าทีที่เลือก เย็นว่า “ประธานเจียง บังเอิญนะคะ

เจียงเฉิงหวินก็ได้ฟังแล้วรู้สึกมีความที่จะหลีกเลี่ยงก็ได้ ถามไปว่า “วันนี้ได้ยินว่าคุณมาบริษัท ดังนั้นก็เลยแวะมาหา ไม่รู้ว่าจะได้เลี้ยงอาหารคุณสักมื้อไหม

พอฟังแล้ว เสิ่นอีเวยก็มีสายตาที่เยือกเย็นแล้วพูดว่า “ได้ยินมา ? ใครพูดคะ ? ฉันเดาว่าคุณคงให้คนมาสะกดรอย ตามฉันแน่นอน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ