นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่ 129 เงื่อนไขสองข้อคุณต้องเลือกมาหนึ่งข้อ



บทที่129เงื่อนไขสองข้อคูณต้องเลือก

มาหนึ่งข้อ

บทที่ 129 เงื่อนไขสองข้อคุณต้องเลือกมาหนึ่งข้อ

“เข้ามา”

เงินอีเวยได้หยุดหน้าประตูอยู่สักครู่แล้วค่อยผลักประตู เข้ามา เพิ่งเจ๋อเฉิงกำลังอ่านเอกสารอยู่ เขาได้เงยหน้าขึ้นมา จาก ใบหน้าที่เป็นปกติแต่วินาทีนั้นกลับกลายเป็นสีหน้าที่เลือก เย็น เธอจึงได้ละสายตาไป เพราะไม่อยากใส่ใจตั้งแต่แรกแล้ว

“ประธานเซ็ง ชั้นมีเรื่องจะคุยกับคุณน่ะ” เธอใช้น้ำเสียงที่

เป็นจริงเป็นจัง

เพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นได้วางปากกาลง แล้วเอนตัวไปพิงกับผนัง พิง ทั้งสองมือนั้นได้วางอยู่ประสานกันเสมือนกับวางมาด

“พูดมา มีเรื่องอะไร

เงินอีเวยเงียบ ๆ ไปสักครู่แล้วเงยหน้าขึ้นมามองตาเขา แล้วพูดว่า “เซิ่งเจ๋อเฉิง พวกเราหย่ากันเถอะ”

พอพูดออกไป เธอเห็นคิ้วของเขานั้นได้กระตุก

“คุณพูดอีกครั้ง” น้ำเสียงของชายคนหนึ่งที่เต็มไปด้วย

ความโกรธที่ซ่อนอยู่ข้างในอย่างอดทนไม่ไหว เงินเลยพยายามที่จะบังคับอารมณ์ของตน เธอได้กำชับ ตัวเองไว้ว่าวันนี้เขาจะนำความจริงใจมาพูดกับเพิ่งเจ๋อเฉิงจริง ๆ ดังนั้นปัญหาแรกก็ไม่ควรที่จะไปสร้างความรำคาญใจให้เขา ไม่งั้นปัญหาอีกข้อหนึ่งก็ไม่สามารถที่จะพูดได้อีกต่อไป

“วันนี้ชั้นไม่ได้มาจะทะเลาะกับคุณนะ……….แต่งงาน มาสองปี ความจริงแล้วชีวิตที่ผ่านช่างไม่มีความสุขจริง ๆ จน มาถึงสถานการณ์ตอนนี้ ชั้นขอพูดประโยคหนึ่งซึ่งไม่ได้กลัวว่า คุณจะดูถูกในตัวชั้น ชั้นรู้ว่าในใจคุณน่ะ มีแต่เสิ่นปุ๋ย และไม่เคย เปลี่ยนแปลง แต่ว่าตอนเวลาที่แต่งงานตอนนั้นชั้นคิดจริง ๆ ว่า คนที่จะอยู่ชั้นไปตลอดชีวิตก็คือคุณ ไม่วันใดก็วันหนึ่งคุณจะมี ใจให้ชั้น ตอนนั้นไม่แน่ว่าคุณจะลืมเงินหุ้ยไปแล้วก็ได้ แล้วให้ ชั้นเข้าไปในใจคุณ……..

เสิ่นอีเวยพอพูดถึงตรงนี้ก็หยุดไป แต่สีหน้าของเขากลับ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่สับสน และไม่สามารถมีใครคาดเดาได้ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

เสิ่นอีเวยก็ได้สงบอารมณ์ของตนเองลง และพูดต่อไปว่า “แต่ในภายหลัง ไม่ว่าชั้นจะทำอะไรคุณก็ไม่เห็นใจ นอกจาก เวลาที่คุณอารมณ์ดีเท่านั้น เพิ่งเจ๋อเฉิงชั้นพูดความจริง……

เหมือนกับการตัดสินใจครั้งใหญ่

“ชั้นไม่อยากมีความรักที่ต่ำต้อยเช่นนี้แล้ว ชั้นเป็นผู้หญิง คนหนึ่ง มีเลือดเนื้อ ชั้นเจ็บเป็น……..จนถึงตอนนี้ ชั้นรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองเรานั้นมาถึงขั้นที่แย่ที่สุดแล้ว ในเมื่อ เป็นเช่นนี้ ไม่รู้ว่าพวกเราวางเรื่องราวพวกนี้ลงไปเสียเถิด !!

พอพูดถึงสุดท้ายน้ำเสียงของเล่นอีเวยก็ได้ดังนั้นและมี ความมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง เหมือนกับพูดให้เพิ่งเจ๋อเฉิงได้ฟังแต่ ว่าความจริงแล้วกลับพูดในตัวเองฟัง

มีเพียงแต่การไม่เหลือเยื่อใยในการตัดสินใจว่าตัวเองจะ ทําอย่างไรดี หรือบางทีอาจจะเป็นการเตือนตนเองว่าในก้าวที่ แสนยากลำบาก จะดำเนินต่อไปอย่างไร

ห้องทำงานขนาดใหญ่เงียบเหมือนกับห้องน้ำแข็งอย่างไร อย่างนั้น ได้ยินเพียงแต่เสียงของแอร์ที่ดังออกมา

เงินอีเวยได้เพียงแต่มองเชิงเจ๋อเฉิงอย่างสงบ และรอคำ ตอบจากเขา เธอคิดว่าคำพูดวันนี้จะมีน้ำหนักพอที่จะสามารถ ทำให้มีข้ออ้างอิงได้ และไม่มีจุดผิดพลาดใด ๆ ในการทำผิด

ต่อเขา ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะไม่เซ็นชื่อลงไป

เสิ่นอีเวยจึงได้นำเอกสารการหย่าร้างวางบนโต๊ะอย่างเบา ๆ และได้ยื่นต่อหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิง “นี่คือเอกสารการหย่าร้าง ชั้นลงชื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว

สายตาของเพิ่งเจ๋อเฉิงได้มองอย่างรวดเร็ว และมองด้วย ความเฉยเมยกับกระดาษที่ขาวแผ่นนั้น และได้มองอยู่ในกรอบ

สายตา

“ดังนั้นความหมายของคุณคือ จะหย่ากับผม แล้วไปหา

สามีของคุณเฑียวกันถึง ? ” ในใจเธอสั่นไปหมด ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะ

สามารถพูดแบบนี้ออกมาได้ เพราะว่าในความเข้าใจของเธอ นั่นคือเพียงแต่การโกหกของเขาแค่นั้น เป็นเพราะความคิดของ เพิ่งเจ๋อเฉิงที่คิดง่ายเกินไปเลยคิดว่าจริง

ความรู้สึกในใจเขาเหมือนกับหมัดที่ต่อยบนสำลี อึดอัด

ไม่สบายเป็นอย่างมาก

เสิ่นอีเวยสูดหายใจลึก ๆ แล้วพูดว่า “หากชั้นพูดว่า เด็ก คนนี้เป็นของคุณ คุณจะเชื่อไหม ? ในคืนนั้นที่ชั้นพูดโกหกไป เพราะว่าชั้นไม่สามารถระงับไว้ได้ ดังนั้นชั้นจึงจงใจให้คุณ

โกรธ”

เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ยิ้มอยากเยือกเย็นเย็น

“คุณคิดว่าผมเชื่อคุณไหม ? ”

ในใจของเสิ่นอีเวยกลับเต็มไปด้วยความไร้เรี่ยวแรง “คุณ ดูนะ ไม่ว่าชั้นจะพูดอะไรคุณก็ไม่เชื่ออยู่แล้ว แล้วทำไมยังไม่ ยินยอมที่จะหย่ากับชั้นล่ะ ? ”

เอาหลักฐานออกมา” เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดอย่างเนิบ ๆ เสิ่นอีเวยไม่ได้รู้สึกตัว “หลักฐานอะไร ? ”

“เรื่องราวผ่านไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้คุณจะบอกผมว่าเด็ก คนนั้นเป็นของผมไม่ใช่ของคนอื่น หากอยากจะให้ผมเชื่อ ทาง ที่ดีที่สุดก็เอาหลักฐานออกมา หรือว่า…….. เพิ่งเจ๋อเฉิงได้หยุดไปชั่วครู่ สายที่หลงมา และเต็มไปด้วย ความสงสัยอย่างเห็นได้ชัด

“คุณได้รับการปฏิบัติไม่ได้จากเซียวหันถึง ดังนั้นตอนนี้ก็ เลยอยากกลับมาหาผมน่ะหรือ ? ”

เสิ่นอีเวยได้หายใจแล้วหยุด “เพิ่งเจ๋อเฉิง…….. ทำไมคุณถึง คิดว่าชั้นเป็นผู้หญิงแบบนี้ล่ะ” น้ำเสียงของเธอที่เต็มไปด้วย หัวใจสลายและผิดหวัง

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้นั่งลงไปอีกครั้ง เห็นสายตาที่เธอที่เต็มไป ด้วยความเร่าร้าง “เสิ่นอีเวย คุณอย่าไปโทษใครเลย ทั้งหมดนี้ คุณสร้างมันมาเอง”

เสิ่นอีเวยเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าอยู่ต่อหน้าเขาแล้วได้ เรี่ยวแรง ซึ่งความรู้สึกที่รุนแรงยิ่งว่าการแท้งลูกที่ภูเขาหวิน เธอได้พูดถึงขนาดนี้แล้ว แต่ว่าผู้ชายที่อยู่ต่อหน้ากลับไม่

ยินยอม

โชคดีที่ว่าเธอได้เตรียมไว้สองแผน

“ดี คุณไม่ยอมรับการหย่าร้าง แต่ชั้นได้มีแผนสองแผน

ด้วยกัน คุณจําเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ชั้นจะลาออก” เพิ่งเจ๋อเฉิงมองด้วยสายตาที่เยือกเย็น ทำไม รอง

ประธานบริษัทเพิ่งมันไม่ดีอย่างไร ? ” วันนี้เธอได้ใส่ชุดสีดำประจำตำแหน่ง สีผิวของเธอเดิมสี

ขาว ใบหน้าเป็นรูปไข่เล็กๆ แผ่นหลังก็ได้มัดผูกโบว์เอาไว้ แต่ ทว่าความอ่อนโยนที่มีของวันนี้กลับหายไป แต่กลับมาสายตา

ที่จิก

เขาได้เห็นเธอในสภาพแบบนี้รู้สึกถึงระลานตามาก เขา ชอบผู้หญิงคนนี้ที่ถูกตัวเองกลั่นแกล้งแล้วเชื่อว่า เหมือนเช่นกัน กับวันนี้ที่มาคุยกับเขา

เขาไม่ชอบ

เสิ่นอีเวยพูดอย่างสุขุม “เพิ่งเจ๋อเฉิง ชั้นไม่ใช่เด็กสามขวบ ไม่ใช่มาขู่แบบนี้ หลังจากที่คุณได้เลื่อนตำแหน่งชั้นเป็นรอง ประธาน ชั้นมีอำนาจขนาดไหน ในใจคุณไม่ชัดเจนหรือไม่ ความจริงแล้วแบบนี้ช่างไม่มีความหมายเอาเสียเลย จริง อย่างไรคุณก็เกลียดชั้น ชั้นขอรับรองว่าหลังจากนี้ก็จะไม่ออก มาให้คุณเห็นหน้าอีก พวกเราสองคนต่างอยู่ต่างใช้ชีวิตเสียจะ ดีกว่า แบบนี้ไม่ดีหรือ ? ”

เขาได้เดินเข้าใกล้มาหาเธอ มีน้ำเสียงที่เหมือนกับหยกที่ ตกลงบนพื้นเข้าไปในหูเขาว่า “เงินอีเวย อยู่ที่นี่คุณไม่มีสิทธิ์ เลือกอะไรทั้งนั้น หย่าร้างและลาออก ผมไม่ยินยอมสักอย่าง

เงินอีเวยกำลังจะพูดต่อ แต่กลับโดยเขาพูดต่ออกว่า “ยิ่ง ไปกว่านั้น ผมตั้งใจจะเอาคุณอยู่ข้าง ๆ ผมไม่งั้นหากคุณว่างขึ้น มาแล้วยังจะทำอะไร ? ใส่ร้ายเงินหุ้ยหรอ ? ”

เงินหุย ชื่อนี้อยู่ดีก็เข้ามาในหัวข้อนี้เลยทำให้เสื่นอีเวย หยุดหายใจไปหนึ่งรอบ

ความคิดเขาตาลปัตรไปหมดแล้วค่อย ๆ กลับมาได้สติ ใช่แล้ว………วงระยะเวลานี้ เธอลืมไปเสียสนิทว่าต้นเหตุที่

ตัวเองและเขามีปัญหาเพราะอะไร คือคนที่นอนอยู่บนเตียงที่ยัง

ไม่ได้สติกลับคืนมาคือเงินหุ้

แต่ว่าจุดประสงค์ของตัวเองจะต้องทำให้สำเร็จ! เธอไม่ อยากจะใช้ชีวิตที่ไม่มีความหมายแบบนี้อีกต่อไป

“เพิ่งเจ๋อเฉิง ชั้นมีสองเงื่อนไขจำเป็นที่เธอจะต้องเลือกหนึ่ง ข้อ ไม่มีข้ออะไรทั้งสิ้น

เงินอีเวยพูดอย่างหนักแน่น เหมือนกับชีวิตนั้นถูกกำหนด

ไว้ด้วยอะไรสักอย่าง

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้เปิดประตูออก ได้ฟังคำที่เสิ่นอีเวยพูดออก มา และไม่ได้หันตัวกลับมานานอยู่ขณะหนึ่ง และรอคอยเวลาที่ คิดว่าเธอจะไม่สนใจเขาแล้ว เขาก็เลยเปิดปาก

“ความต้องการของคุณ อยากให้ผมเลือกมาหนึ่งข้อก็ย่อม ได้ แต่ว่าคุณจะต้องรับปากผมหนึ่งเรื่อง

เสิ่นอีเวยได้เห็นเพิ่งเจ๋อเฉิงพูดออกมาแล้ว ในใจก็เริ่มมี

ความหวังเล็ก ๆ ขึ้น เงื่อนไขอะไร ? ”

“วันมะรืนจะมีแขกที่เข้ามาทำสัญญา พอถึงเวลาคุณจะ

ต้องไปพบเขากับผม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ