นายเป็นแค่สามีเก่า

ตอนที่ 117 เธอทำให้ฉันสะอิดสะเอียน



ตอน117เธอทำให้ฉันสะอิดสะเอียน

ตอนที่ 117 เธอทำให้ฉันสะอิดสะเอียน

เดิมที่เสิ่นอีเวยกำลังนอนอยู่ ตอนนี้ถูกเชิ่งเจ๋อเฉิงกดไว้ แบบนี้ ยิ่งทำให้เธอดูอ่อนแอมากยิ่งขึ้น

“ฉันพูดว่า เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของคุณ”

มือที่จับคางไว้ของเซิ่งเจ๋อเฉิงสั่นเครือ ในแววตาแฝงไว้ ด้วยความโกรธที่ร้ายแรง เพียงแค่นิดเดียวก็ใกล้จะระเบิดออก มา เขาถอนหายใจลึก “เพราะอะไร?”

แม้ว่าตอนนี้เสิ่นอีเวยจะอ่อนแอมาก เธอรู้สึกได้ว่าสองมือ ของเธอไร้เรี่ยวแรง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังเอามือออกจากผ้าห่ม มา พยายามดึงมือของเซิ่งเจ๋อเฉิงออก “ปล่อย!!”

ทำเช่นนั้นอยู่ซักพัก เสิ่นอีเวยกลับรู้สึกว่าตนเองได้ ออกแรงอย่างเต็มที่แล้ว เธอเริ่มที่จะไออย่างรุนแรงออกมา ผม ที่ยุ่งเพราะดิ้นสั้นก็ตกลงไปที่แก้มสองข้าง

เพราะอะไร? เสิ่นอีเวยยิ้มออกมาอย่างไม่มีเสียง

“ในสายตาคุณฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ยั่วผู้ชายไปทั่วหรอก หรอ? ตั้งแต่ ฉินโม่ และก็เซียวหันถึง ไม่ใช่ว่าคุณคิดว่าฉันมี อะไรกับพวกเขาหรอ? ถ้าเป็นเช่นนี้ ลูกของฉันคนนั้นไม่ใช่ส่วน หนึ่งของที่คุณคิดไว้หรอ?” ตอน117เธอทำให้ฉันสะอิดสะเอียน

ตอนที่ 117 เธอทำให้ฉันสะอิดสะเอียน

เดิมที่เสิ่นอีเวยกำลังนอนอยู่ ตอนนี้ถูกเชิ่งเจ๋อเฉิงกดไว้ แบบนี้ ยิ่งทำให้เธอดูอ่อนแอมากยิ่งขึ้น

“ฉันพูดว่า เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของคุณ”

มือที่จับคางไว้ของเซิ่งเจ๋อเฉิงสั่นเครือ ในแววตาแฝงไว้ ด้วยความโกรธที่ร้ายแรง เพียงแค่นิดเดียวก็ใกล้จะระเบิดออก มา เขาถอนหายใจลึก “เพราะอะไร?”

แม้ว่าตอนนี้เสิ่นอีเวยจะอ่อนแอมาก เธอรู้สึกได้ว่าสองมือ ของเธอไร้เรี่ยวแรง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังเอามือออกจากผ้าห่ม มา พยายามดึงมือของเซิ่งเจ๋อเฉิงออก “ปล่อย!!”

ทำเช่นนั้นอยู่ซักพัก เสิ่นอีเวยกลับรู้สึกว่าตนเองได้ ออกแรงอย่างเต็มที่แล้ว เธอเริ่มที่จะไออย่างรุนแรงออกมา ผม ที่ยุ่งเพราะดิ้นสั้นก็ตกลงไปที่แก้มสองข้าง

เพราะอะไร? เสิ่นอีเวยยิ้มออกมาอย่างไม่มีเสียง

“ในสายตาคุณฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ยั่วผู้ชายไปทั่วหรอก หรอ? ตั้งแต่ ฉินโม่ และก็เซียวหันถึง ไม่ใช่ว่าคุณคิดว่าฉันมี อะไรกับพวกเขาหรอ? ถ้าเป็นเช่นนี้ ลูกของฉันคนนั้นไม่ใช่ส่วน หนึ่งของที่คุณคิดไว้หรอ?” คำถามเหล่านี้ทยอยออกมาจากปากของเสิ่นอีเวยอย่าง ไม่ขาดสายและรวดเร็ว แต่ละคำถามไม่มีแม้แต่จะหยุดเว้น วรรคพูดแม้แต่น้อย เธอไม่อยากให้เซิ่งเจ๋อเฉิงมีโอกาสตอบโต้ ในเมื่อเขาคิดว่าตนเองเป็นคนชอบสำส่อนและชอบไปยุ่งพัวพัน กับผู้ชายคนอื่น ถ้าเช่นนั้นครั้งนี้เธอจะเป็นผู้หญิงประเภทนั้น เสียเลย

แววตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงเปลี่ยนไป ริมฝีปากอันบางเม้มแน่น ความโกรธในใจนั้นได้ถึงจุดสูงสุดชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สายตาของเขาคล้ายกับแววตาของเสือชีต้าห์ที่อยู่กลางป่าใน ตอนกลางคืน ที่จับจ้องมาที่เสิ่นอีเวยตลอด

ยังไงสถานการณ์ก็ได้มาถึงขั้นที่จนปัญญาแล้ว ในใจของ เสิ่นอีเวยได้ว่างเปล่าอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นคำพูดที่ตรงไปตรงมา ไม่ทำให้ตกตลึงจนตาย

“จำตอนที่คุณพาฉันไปคุยเจรจากับเชียวหันถึงได้มั้ย ใน คืนวันนั้นที่ตอนหลังพวกเราอยู่ด้วยกันลำพัง? คุณยังจำคืนวัน ที่คุณโทรหาฉันแต่สุดท้ายฉินโม่เป็นคนรับสายได้ไหม?”

“ฉันจะบอกจริงคุณให้ เรื่องราวมันก็เป็นอย่างที่คุณคิดไว้ ตั้งแต่แรกนั่นแหละ ประธานเชิ่ง ฉันขอโทษคุณด้วยนะ!”

เสิ่นอีเวยพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ แต่ว่าคำในประโยคแต่ละ คำนั้นเหมือนกับสายฟ้าฟาด เธอรู้ว่าตอนนี้ในใจของผู้ชายที่ อยู่ข้างหน้านั้นเหมือนดั่งมีระเบิดหนึ่งลูก แต่ว่าเธอไม่รู้ว่าเมื่อ ไหร่ระเบิดจะแตกออกมาอย่างกะทันหัน ดังนั้นจึงต้องลอง คำถามเหล่านี้ทยอยออกมาจากปากของเสิ่นอีเวยอย่าง ไม่ขาดสายและรวดเร็ว แต่ละคำถามไม่มีแม้แต่จะหยุดเว้น วรรคพูดแม้แต่น้อย เธอไม่อยากให้เซิ่งเจ๋อเฉิงมีโอกาสตอบโต้ ในเมื่อเขาคิดว่าตนเองเป็นคนชอบสำส่อนและชอบไปยุ่งพัวพัน กับผู้ชายคนอื่น ถ้าเช่นนั้นครั้งนี้เธอจะเป็นผู้หญิงประเภทนั้น เสียเลย

แววตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงเปลี่ยนไป ริมฝีปากอันบางเม้มแน่น ความโกรธในใจนั้นได้ถึงจุดสูงสุดชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สายตาของเขาคล้ายกับแววตาของเสือชีต้าห์ที่อยู่กลางป่าใน ตอนกลางคืน ที่จับจ้องมาที่เสิ่นอีเวยตลอด

ยังไงสถานการณ์ก็ได้มาถึงขั้นที่จนปัญญาแล้ว ในใจของ เสิ่นอีเวยได้ว่างเปล่าอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นคำพูดที่ตรงไปตรงมา ไม่ทำให้ตกตลึงจนตาย

“จำตอนที่คุณพาฉันไปคุยเจรจากับเชียวหันถึงได้มั้ย ใน คืนวันนั้นที่ตอนหลังพวกเราอยู่ด้วยกันลำพัง? คุณยังจำคืนวัน ที่คุณโทรหาฉันแต่สุดท้ายฉินโม่เป็นคนรับสายได้ไหม?”

“ฉันจะบอกจริงคุณให้ เรื่องราวมันก็เป็นอย่างที่คุณคิดไว้ ตั้งแต่แรกนั่นแหละ ประธานเชิ่ง ฉันขอโทษคุณด้วยนะ!”

เสิ่นอีเวยพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ แต่ว่าคำในประโยคแต่ละ คำนั้นเหมือนกับสายฟ้าฟาด เธอรู้ว่าตอนนี้ในใจของผู้ชายที่ อยู่ข้างหน้านั้นเหมือนดั่งมีระเบิดหนึ่งลูก แต่ว่าเธอไม่รู้ว่าเมื่อ ไหร่ระเบิดจะแตกออกมาอย่างกะทันหัน ดังนั้นจึงต้องลอง เธอ

ที่

ว่าที่ ข้าง เธอ

ที่

ว่าที่ ข้าง ทดสอบอย่างซ้ำๆ เหมือนกับทำจนติดเป็นนิสัย

เป้าหมายของเธอคืนนี้คือการยั่วโมโหซึ่งเจ๋อเฉิง แบบ นั้นตนเองถึงจะสบายใจ

น้ำเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงเย็นชาจนไม่เหลือความอ่อนโยน แม้แต่นิดเดียว “ยินดีกับเธอด้วย สิ่งที่เธอทำถือว่าเป็นการเปิด หูเปิดตาฉัน”

เติมทีคิดว่าหลังจากที่ตนเองพูดคำพูดเหล่านั้นไปแล้วใน ใจจะมีความสุขอย่างไม่มีอะไรสามารถเปรียบเทียบได้ แต่ว่าเสี่ นอีเวยกลับไม่รู้ว่าตกลงแล้วผิดพลาดตรงที่ไหน เพราะตอนนี้ ในใจของเธอยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น เหมือนกับแต่ละก้าวเหยียบ ลงไปอย่างแรงบนมีดคม และแต่ละก้าวก็มีเลือดหยดไหลเป็น หยดๆ

ความร้อนรุ่มในใจและความเดือดดาลโมโหไม่ได้เป็น ส่วนหนึ่งที่เสิ่นอีเวยคาดเดาไว้ว่าจะต้องเผชิญ ในใจเกิดความ แปลกประหลาดใจยิ่งนัก ทันใดนั้นเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน

รูปร่างของเขาสูงใหญ่ เขาอยู่ในที่สูงและมองกราดลงมา ที่เสิ่นอีเวยด้วยสายตาเมินเฉย ความเย็นชาทะลุใบหน้าอัน หล่อเหลาออกมา เธอคิดว่าแววตาของเขาเหมือนกับพระมหา กษัตริย์ที่ยืนอยู่เหนือมวลชนและกำลังมองลงมาที่พสกนิกรของ ตนเอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเหมือนกับว่าเขายืนมองกองขยะอยู่ที่ ข้างถนนคนเดียว

ในที่สุด ริมฝีปากของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ขยับเบาๆ เขาพูดด้วย ทดสอบอย่างซ้ำๆ เหมือนกับทำจนติดเป็นนิสัย

เป้าหมายของเธอคืนนี้คือการยั่วโมโหซึ่งเจ๋อเฉิง แบบ นั้นตนเองถึงจะสบายใจ

น้ำเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงเย็นชาจนไม่เหลือความอ่อนโยน แม้แต่นิดเดียว “ยินดีกับเธอด้วย สิ่งที่เธอทำถือว่าเป็นการเปิด หูเปิดตาฉัน”

เติมทีคิดว่าหลังจากที่ตนเองพูดคำพูดเหล่านั้นไปแล้วใน ใจจะมีความสุขอย่างไม่มีอะไรสามารถเปรียบเทียบได้ แต่ว่าเสี่ นอีเวยกลับไม่รู้ว่าตกลงแล้วผิดพลาดตรงที่ไหน เพราะตอนนี้ ในใจของเธอยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น เหมือนกับแต่ละก้าวเหยียบ ลงไปอย่างแรงบนมีดคม และแต่ละก้าวก็มีเลือดหยดไหลเป็น หยดๆ

ความร้อนรุ่มในใจและความเดือดดาลโมโหไม่ได้เป็น ส่วนหนึ่งที่เสิ่นอีเวยคาดเดาไว้ว่าจะต้องเผชิญ ในใจเกิดความ แปลกประหลาดใจยิ่งนัก ทันใดนั้นเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน

รูปร่างของเขาสูงใหญ่ เขาอยู่ในที่สูงและมองกราดลงมา ที่เสิ่นอีเวยด้วยสายตาเมินเฉย ความเย็นชาทะลุใบหน้าอัน หล่อเหลาออกมา เธอคิดว่าแววตาของเขาเหมือนกับพระมหา กษัตริย์ที่ยืนอยู่เหนือมวลชนและกำลังมองลงมาที่พสกนิกรของ ตนเอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเหมือนกับว่าเขายืนมองกองขยะอยู่ที่ ข้างถนนคนเดียว

ในที่สุด ริมฝีปากของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ขยับเบาๆ เขาพูดด้วย เสียงเย็นชาขึ้นว่า “เส้นอีเวย เธอทำให้ฉันสะอิดสะเอียน”

ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูห้องก็ถูกคนปิดลงอย่างแรง เสียงที่ ดังมากในเวลากลางคืนที่เงียบสงัดยิ่งทำให้เพิ่มความดังสนั่น หู ใจของเสิ่นอีเวยเต้นอย่างรุนแรง เหมือนมีก้อนหินใหญ่มา กระแทกชนที่หัวใจเธออย่างแรง

เสิ่นอีเวยรู้ว่า ในครั้งนี้ ระหว่างเธอกับเซิ่งเจ๋อเฉิงได้ แตกหักกันโดยสิ้นเชิงแล้ว หนักกว่าเมื่อก่อนในแต่ละครั้งมาก

คำพูดโกหกของเธอได้ไปจี้จุดขีดจำกัดของเขา เขาไม่มี ทางที่จะให้อภัยเธอ และเธอก็จะไม่ทำการประนีประนอมใดๆ ทั้งสิ้น

ในวันต่อมา เสิ่นอีเวยก็ไปทำงานที่บริษัทเซิ่งซื่อตามปกติ แต่ว่าการดำเนินชีวิตก็ไม่ได้ปกติเหมือนแต่ก่อน

ผู้คนแทบจะทั้งตึกของบริษัทเซิ่งชื่อต่างก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ในชั้นยี่สิบสี่ในวันนั้น ในบริษัทก็พูดต่อกันออกไปว่าจริงๆแล้ว เซิ่งเจ๋อเฉิงกับเสิ่นอีเวยได้หย่ากันแล้ว การแต่งงานของทั้งสอง คนตอนนี้เป็นเพียงแค่พิธีเท่านี้

ห้องน้ำมักจะเป็นสถานที่ในตึกที่เอาไว้ชุบซิบนินทา

“ครั้งที่แล้วฉันก็พูดแล้วใช่ไหมว่าชีวิตคุณนายของพวก เศรษฐีไม่ได้ดีอย่างที่คิด ครั้งนี้ผู้อำนวยการเสิ่นแท้งลูกแต่พวก เธอดูสิประธานเชิงทำกับเธอยังไง แม้แต่ลาพักร้อนยังไม่มีให้ แล้วยังให้เธอมาทำงาน ใจของผู้ชายที่ดีพร้อมช่างโหดเหี่ยม

จริงๆ” เสียงเย็นชาขึ้นว่า “เส้นอีเวย เธอทำให้ฉันสะอิดสะเอียน”

ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูห้องก็ถูกคนปิดลงอย่างแรง เสียงที่ ดังมากในเวลากลางคืนที่เงียบสงัดยิ่งทำให้เพิ่มความดังสนั่น หู ใจของเสิ่นอีเวยเต้นอย่างรุนแรง เหมือนมีก้อนหินใหญ่มา กระแทกชนที่หัวใจเธออย่างแรง

เสิ่นอีเวยรู้ว่า ในครั้งนี้ ระหว่างเธอกับเซิ่งเจ๋อเฉิงได้ แตกหักกันโดยสิ้นเชิงแล้ว หนักกว่าเมื่อก่อนในแต่ละครั้งมาก

คำพูดโกหกของเธอได้ไปจี้จุดขีดจำกัดของเขา เขาไม่มี ทางที่จะให้อภัยเธอ และเธอก็จะไม่ทำการประนีประนอมใดๆ ทั้งสิ้น

ในวันต่อมา เสิ่นอีเวยก็ไปทำงานที่บริษัทเซิ่งซื่อตามปกติ แต่ว่าการดำเนินชีวิตก็ไม่ได้ปกติเหมือนแต่ก่อน

ผู้คนแทบจะทั้งตึกของบริษัทเซิ่งชื่อต่างก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ในชั้นยี่สิบสี่ในวันนั้น ในบริษัทก็พูดต่อกันออกไปว่าจริงๆแล้ว เซิ่งเจ๋อเฉิงกับเสิ่นอีเวยได้หย่ากันแล้ว การแต่งงานของทั้งสอง คนตอนนี้เป็นเพียงแค่พิธีเท่านี้

ห้องน้ำมักจะเป็นสถานที่ในตึกที่เอาไว้ชุบซิบนินทา

“ครั้งที่แล้วฉันก็พูดแล้วใช่ไหมว่าชีวิตคุณนายของพวก เศรษฐีไม่ได้ดีอย่างที่คิด ครั้งนี้ผู้อำนวยการเสิ่นแท้งลูกแต่พวก เธอดูสิประธานเชิงทำกับเธอยังไง แม้แต่ลาพักร้อนยังไม่มีให้ แล้วยังให้เธอมาทำงาน ใจของผู้ชายที่ดีพร้อมช่างโหดเหี่ยม

จริงๆ” ใจของเสิ่นอีเวยก็เจ็บปวดออกมา ในร่างกายจู่จู่ก็เกิด ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรง

“ถ้าอย่างนั้นเธอรู้มั้ยว่าระหว่างเขาสองคนตกลงแล้วเกิด อะไรขึ้น?”

“ข้อเท็จจริงยังไม่เคยได้ยินใครพูด แต่ถ้าเอาตามที่ฉันพูด นะ ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนไม่ดีมาแต่ไหนแต่ไร แล้ว ไม่มีความรักกันฉันท์สามีภรรยา เรื่องที่ผู้อำนวยการเสิ่น แท้งในครั้งนี้ อาจจะมีอะไรมากกว่าที่เราเห็นก็ให้”

เสียงซุบซิบของหญิงสาวค่อยๆไกลออกไป

เสิ่นอีเวยไม่มีความรู้สึกสนใจกับคำซุบซิบพวกนี้ใดๆทั้ง สิ้นและเธอก็ไม่สามารถที่จะปรากฏตัวออกมาขัดขวาง เมื่อ ได้ยินก็ทำได้เพียงยิ้มและก็ปล่อยผ่านไป ยังไงตอนนี้เธอก็ไม่ สนใจอะไรอยู่แล้ว

แต่ตอนนี้เพิ่งเจ๋อเฉิงทำเมินเฉยเย็นชากับเธออย่างสุดขีด จนบางครั้งสามารถพูดได้ว่าถูกกลั่นแกล้ง

ร่างกายของเสิ่นอีเวยนับวันนับยิ่งแย่ขึ้นมาก แทบจะต้อง กินยาระงับความปวดตลอด คุณหมอลู่ได้โทรศัพท์มาให้เธอ เข้ารับการรักษาอยู่หลายครั้ง แต่ว่าหลังจากที่สูญเสียลูกน้อย ไป เธอก็รู้สึกว่าความหวังในชีวิตของตนเองได้ดับสูญไปแล้ว

เมื่อเป็นคนที่ชีวิตไม่ต้องเฝ้ารอหรือคาดหวังสิ่งใดๆทั้งสิ้น การดำเนินชีวิตก็คือการผ่านไปเป็นวันๆ ใจของเสิ่นอีเวยก็เจ็บปวดออกมา ในร่างกายจู่จู่ก็เกิด ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรง

“ถ้าอย่างนั้นเธอรู้มั้ยว่าระหว่างเขาสองคนตกลงแล้วเกิด อะไรขึ้น?”

“ข้อเท็จจริงยังไม่เคยได้ยินใครพูด แต่ถ้าเอาตามที่ฉันพูด นะ ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนไม่ดีมาแต่ไหนแต่ไร แล้ว ไม่มีความรักกันฉันท์สามีภรรยา เรื่องที่ผู้อำนวยการเสิ่น แท้งในครั้งนี้ อาจจะมีอะไรมากกว่าที่เราเห็นก็ให้”

เสียงซุบซิบของหญิงสาวค่อยๆไกลออกไป

เสิ่นอีเวยไม่มีความรู้สึกสนใจกับคำซุบซิบพวกนี้ใดๆทั้ง สิ้นและเธอก็ไม่สามารถที่จะปรากฏตัวออกมาขัดขวาง เมื่อ ได้ยินก็ทำได้เพียงยิ้มและก็ปล่อยผ่านไป ยังไงตอนนี้เธอก็ไม่ สนใจอะไรอยู่แล้ว

แต่ตอนนี้เพิ่งเจ๋อเฉิงทำเมินเฉยเย็นชากับเธออย่างสุดขีด จนบางครั้งสามารถพูดได้ว่าถูกกลั่นแกล้ง

ร่างกายของเสิ่นอีเวยนับวันนับยิ่งแย่ขึ้นมาก แทบจะต้อง กินยาระงับความปวดตลอด คุณหมอลู่ได้โทรศัพท์มาให้เธอ เข้ารับการรักษาอยู่หลายครั้ง แต่ว่าหลังจากที่สูญเสียลูกน้อย ไป เธอก็รู้สึกว่าความหวังในชีวิตของตนเองได้ดับสูญไปแล้ว

เมื่อเป็นคนที่ชีวิตไม่ต้องเฝ้ารอหรือคาดหวังสิ่งใดๆทั้งสิ้น การดำเนินชีวิตก็คือการผ่านไปเป็นวันๆ เสิ่นอีเวยเอาทั้งกายและใจของตนเองทุ่มให้กับการ ทำงาน ไม่อยากที่จะเข้าใจเรื่องราวซับซ้อนยุ่งเหยิงนั้นอีกแล้ว การแข่งขันออกแบบจัดงานแต่งงานระดับโลกจะจัดตั้งในอีก หนึ่งเดือนกว่าๆข้างหน้า เสิ่นอีเวยยุ่งทุกวันจนเท้าแทบไม่ติด ดิน แต่ในช่วงเวลานี้เพิ่งเจ๋อเฉิงกลับมาสร้างความยุ่งยากให้ กับเธอ

ประตูห้องทำงานถูกผลักเปิด เสิ่นอีเวยเงยหน้า และเชิ่ง เจ๋อเฉิงก็เดินเข้ามา

สิ่งที่เธอทำอยู่ในมือได้หยุดชั่วคราว จากนั้นก็ก้มหน้า ทำงานที่อยู่ในมือต่อ

เพิ่งเจ๋อเฉิงเดินเข้ามายืนใกล้ที่ตรงข้ามเธอ เสินอีเวยไม่ ได้ยินที่เขาพูด เธอเพียงแค่เงยหน้าขึ้น สายตาของเซิ่งเต๋อเฉิง เย็นชา ทั้งตัวส่งกลิ่นอายบางอย่างที่ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้

“อีกสิบนาทีประชุมใหญ่ ฉันมีเรื่องสำคัญที่จะประกาศ เธอ ควรจะเตรียมตัวให้ดี”

ในใจของเสิ่นอีเวยชะงัก รู้สึกแปลกใจ ประชุมก็คือชุม จำเป็นที่จะต้องมาบอกเธอถึงที่เลยหรอ? ก็เป็นเพียงแค่การ ประกาศเกี่ยวกับเรื่องการแข่งขันออกแบบจัดงานแต่งงาน เท่านั้น

ในใจกำลังคิดเช่นนี้อยู่ แต่ปากก็ได้พูดออกไปตามหน้าที่ งานว่า “รับทราบแล้ว”

หน้าของเสิ่นอีเวยและเพิ่งเจ๋อเฉิงต่างเย็นชาด้วยกันทั้งคู่ เสิ่นอีเวยเอาทั้งกายและใจของตนเองทุ่มให้กับการ ทำงาน ไม่อยากที่จะเข้าใจเรื่องราวซับซ้อนยุ่งเหยิงนั้นอีกแล้ว การแข่งขันออกแบบจัดงานแต่งงานระดับโลกจะจัดตั้งในอีก หนึ่งเดือนกว่าๆข้างหน้า เสิ่นอีเวยยุ่งทุกวันจนเท้าแทบไม่ติด ดิน แต่ในช่วงเวลานี้เพิ่งเจ๋อเฉิงกลับมาสร้างความยุ่งยากให้ กับเธอ

ประตูห้องทำงานถูกผลักเปิด เสิ่นอีเวยเงยหน้า และเชิ่ง เจ๋อเฉิงก็เดินเข้ามา

สิ่งที่เธอทำอยู่ในมือได้หยุดชั่วคราว จากนั้นก็ก้มหน้า ทำงานที่อยู่ในมือต่อ

เพิ่งเจ๋อเฉิงเดินเข้ามายืนใกล้ที่ตรงข้ามเธอ เสินอีเวยไม่ ได้ยินที่เขาพูด เธอเพียงแค่เงยหน้าขึ้น สายตาของเซิ่งเต๋อเฉิง เย็นชา ทั้งตัวส่งกลิ่นอายบางอย่างที่ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้

“อีกสิบนาทีประชุมใหญ่ ฉันมีเรื่องสำคัญที่จะประกาศ เธอ ควรจะเตรียมตัวให้ดี”

ในใจของเสิ่นอีเวยชะงัก รู้สึกแปลกใจ ประชุมก็คือชุม จำเป็นที่จะต้องมาบอกเธอถึงที่เลยหรอ? ก็เป็นเพียงแค่การ ประกาศเกี่ยวกับเรื่องการแข่งขันออกแบบจัดงานแต่งงาน เท่านั้น

ในใจกำลังคิดเช่นนี้อยู่ แต่ปากก็ได้พูดออกไปตามหน้าที่ งานว่า “รับทราบแล้ว”

หน้าของเสิ่นอีเวยและเพิ่งเจ๋อเฉิงต่างเย็นชาด้วยกันทั้งคู่ ทั้งสองเหมือนกับไม่มีใครยอมใคร

เมื่อเห็นความหยิ่งยโสของเสิ่นอีเวย เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ยิ้มมุม ปากและพูดด้วยน้ำเสียงเหน็บแนมขึ้นว่า “คิดไม่ถึงว่าร่างกาย และจิตใจของคนที่แท้งจะฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้ เธอคงลำบาก มากสินะ”

ในใจของเสิ่นอีเวยเจ็บปวด แต่พูดด้วยสีหน้าที่ยังคงไม่ เปลี่ยน “ทำงานแลกกับเงินเดือน ฉันจะกล้าเฉยเมยได้อย่างไร ฉัยไม่อยากเสียลูกไปแล้วและยังต้องมาเสียงานอีก ยังไงฉันก็ ต้องหาเลี้ยงชีวิตตนเอง ใช่มั้ยคะปนะธานเซิ่ง?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดด้วยแววตาที่เยือกเย็นมากขึ้น “ปากยังแข็ง อยู่เหมือนเดิม หวังว่าอีกซักพักในที่ประชุมเธอจะสามารถเอา พลังความกล้าแบบนี้ออกมานะ”

เมื่อพูดจบเขาก็เดินออกไป ทั้งสองเหมือนกับไม่มีใครยอมใคร

เมื่อเห็นความหยิ่งยโสของเสิ่นอีเวย เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ยิ้มมุม ปากและพูดด้วยน้ำเสียงเหน็บแนมขึ้นว่า “คิดไม่ถึงว่าร่างกาย และจิตใจของคนที่แท้งจะฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้ เธอคงลำบาก มากสินะ”

ในใจของเสิ่นอีเวยเจ็บปวด แต่พูดด้วยสีหน้าที่ยังคงไม่ เปลี่ยน “ทำงานแลกกับเงินเดือน ฉันจะกล้าเฉยเมยได้อย่างไร ฉัยไม่อยากเสียลูกไปแล้วและยังต้องมาเสียงานอีก ยังไงฉันก็ ต้องหาเลี้ยงชีวิตตนเอง ใช่มั้ยคะปนะธานเซิ่ง?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดด้วยแววตาที่เยือกเย็นมากขึ้น “ปากยังแข็ง อยู่เหมือนเดิม หวังว่าอีกซักพักในที่ประชุมเธอจะสามารถเอา พลังความกล้าแบบนี้ออกมานะ”

เมื่อพูดจบเขาก็เดินออกไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ