นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่244 เธอไม่จําเป็นต้องกังว ลเกี่ยวกับเรื่องนี้บทที่



บทที่244 เธอไม่จําเป็นต้องกังว ลเกี่ยวกับเรื่องนี้

บทที่

244 เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่ องนี้

เมื่อเห็นความลังเลของเธอ เซิ่งเจ๋อเฉิงจึงเงยหน้ามองเธอ

เสิ่นอีเวยสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อว่า :

“ทำไมท่าทีของคุณถึงแตกต่างไปจากเ ดิม?”

ในนาทีที่คำถามหลุดออกจากปาก เสิ่นอีเวยเหมือนยกเขาออกจากอก ดูเหมือนว่าบางเรื่องเธอจะคิดมากจนเกิ นไปที่แท้เมื่อพูดคำถามที่อยู่ในใจออก เบิกไม่ได้รู้สึกอะไร

หลังจากฏยาเสร็จแล้ว เซิ่งเจ๋อเฉิงเก็บยาลงในกล่องยาแล้วลุ กขึ้นถือกล่องยาไปเก็บที่เดิม

“มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมเหรอ? เซิ่งเจ๋อเฉิงถาม

เสิ่นอีเวยเงียบไป

แต่หลังจากคิดไปคิดมาอยู่ครู่หนึ่ง พอพูดถึงขั้นนี้แล้วก็ไม่มีอะไรที่จะต้อง

ปิดบังอีกต่อไป

ยังจะมีวิธีอื่นที่จะดีกว่าพูดถามกันซึ่งๆห น้าอีกหรือ?

“ตอนนี้ทำไมคุณถึงดีกับฉันนัก?”

ทันทีที่คำพูดหลุกออกมาจากปาก อุณหภูมิอบอุ่นที่อยู่รอบๆตัวเหมือนถูก แช่แในห้องกลับเงียบสงบเสียจบเหนือ นโดยนเพียงเสียงหายใจของคนสองค

เซิ่งเจ๋อเฉิงมองแววตาที่ใสแจ๋วของเ

สิ่นอีเวย

สีหน้าของเธอราบเรียบตอนมองผ่านแ ววตาคู่นั้นเชิงเจ๋อเฉิงเห็นความหวังที่เ บหรี่

แต่สิ่งที่เธอรออยู่สิ่งที่เธออยากได้ยินจ ะเป็นคำตอบแบบไหนกันนะ?

เซิ่งเจ๋อเฉิงเงียบไปครู่หนึ่ง เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา หินที่ลอยคว้างอยู่ในใจของเสิ่นอีเวยเห มือนตกลงที่หน้าผาอย่างรวดเร็วไม่มีท างจะหวนคืนกลับมาได้แต่เธอไม่มีวันย อมแพ้

ครั้งนี้เธอต้องได้รับคำตอบที่แท้จริงจา

กชายคนนี้ให้ได้ เสนอเวยดว่าเธอเป็นคนแบบไหน สำหรับตัวเธอเองแล้ว เธอยอมรับคำตอบที่แท้จริงแม้จะทำให้ เจ็บช้ำ ดีกว่ามีความสุขอย่างคลุมเครือ

แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงกลับเงียบเธอก็ยิ่งปฏิเ สธความคิดลึกๆในใจ

บางทีอาจเป็นเพราะเธอเข้าใจผิดไปเอ ง ผู้ชายคนนี้จะรักเธอได้อย่างไรกัน?

ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจโกรธเคืองขุ่ นแค้นเหมือนน้ำที่ค่อยๆเอ่อล้นออกมา จากขวดทีละน้อยมัน กระจายไปเต็มพื้นที่ของหัวใจจนลุกลา มไปจนทุกเซลล์ในร่างกายลุกลามไปจ นถึงเส้นประสาททุกเส้น

เสิ่นอีเวยรู้ตัวเองว่าเธอกำลังเข้าใก ล้จุดวิกฤติของอารมณ์แล้ว สายตาของเธอยังคงจ้องอยู่ที่ใบหน าของเซิ่งเจ๋อเฉิงฝ่ายที่นั่งเงียบอยู่นาน สองนาน

ในที่สุดเหมือนจะมีคำตอบในใจ ดวงตาของเขาจ้องไปที่แววตาของเสิ่น อีเวย ริมฝีปากบาง ๆ ของเขาขยับเหมือนกำลังจะพูดอะไรอ อกมา

เสิ่นอีเวยเห็นเพิ่งเจ๋อเฉิงกำลังจะปริ ปากพูด เธอพูดตัดบท: “ฉันง่วงแล้ว พักผ่อนเถอะคะ!”

สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่กล้า

ไม่กล้าที่จะฟังคำตอบที่จะออกมาจากป ากของเซิ่งเจ๋อเฉิง

เสิ่นอีเวยพูดเสียงดังไปนิดหนึ่ง การแสดงออกบนใบหน้าและท่าทางขอ งเธอเหมือนว่าพยายามจะหยุดคำพูดที่ กลงจะออกมาจากปากของเซิงเจ๋อเฉี

แววตาของฝ่ายตรงข้ามรู้สึกงงๆอยู่เล็ก น้อย

เห็นได้ชัดว่า เสิ่นอีเวยตัดบทได้พอดิบพอดี ดูจากท่าทีของเธอเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ตัดสินใ จว่าตอนนี้ยังไม่บอกคำตอบในใจของเ ขากับเธอจะดีกว่า

เซิ่งเจ๋อเฉิงก้าวถอยหลังออกมาสอง ก้าว พูดเบา ๆ ว่า : “โอเค เธอพักผ่อนเถอะ”

พอพูดจบ เขาก็เดินไปที่ประตู

ในขณะที่เพิ่งเจ๋อเฉิงกำลังเปิดประตูออ กไปนั้น เสิ่นอีเวยก็นึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง เดียวก่อน

เซ่งเจ๋อเฉิงหันหน้ามองไปที่เสี่นอีเว ยอย่างสงบ

“เรื่องของเจิ้งอวิ๋นชวน เรื่องนั้นเป็นความจริงไหม? หรือเพียงแค่คุณต้องการจัดการกับเขา

ก็เลยตั้งใจแต่งเรื่องขึ้นมาเองอย่างนั้น หรอ?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับ ว่ามีอะไรทำให้เขาไม่พอใจ อุณหภูมิในแววตาของเขาลดลงอย่างร

วดเร็ว

สายตาของเขาที่มองไปที่เสิ่นอีเวยดูเย็ นชา

เขาเงียบ เสนอเวยถึงกับรู้สึกขนหัวลุกเล็กน้อย แล้วถามต่อว่า: “ทำไมเหรอ?”

ครั้งนี้เพิ่งเจ๋อเฉิงปริปากพูดออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยการถากถาง: “ที่แท้เธอก็เห็นฉัน

เป็นคนต่ำทรามขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เสิ่นอีเวย ชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าทำไมเซิ่งเจ๋อเฉิงจึงถามเช่นนี้

“ฉันพูดมาก่อนหน้านี้แล้ว ฉันจะไม่ต่อสู้กับใครถ้าไม่ได้เตรียมตัว มาก่อน

การที่ฉันจะต่อกรกับใครแน่หล่ะว่าฉันจ ะต้องหาข้อมูลของคนๆนั้นเสียก่อนว่า

มีจุดอ่อนหรือเรื่องอะไรที่ผูกมัดเขาได้ บ้าง พอรู้ข้อมูลพวกนี้แล้ว ฉันถึงจะสะดวกต่อสู้กับอีกฝ่าย ทุกเรื่องบนโลกน ถ้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมันก็ต้องมี เรื่องไหนที่ไม่เกิดขึ้นจริงมันก็ไม่มี ไม่ใช่หรือ?

ถ้าเจิ้งอวิ๋นชวนไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นจริ ง

ฉันก็ไม่สร้างหลักฐานเพื่อเอาผิดเขาหร อกที่เธอพูดแบบนี้ระหว่างฉันกับคนที่ ทำผิดอย่างเจิ้งอวิ๋นชวนมีความแตกต่า งกันตรงไหน? ”

คำพูดของเซิ่งเจ๋อเฉิงทำให้เสิ่นอีเว ยเงียบไปสักพัก แต่ก็จริงอย่างที่เขาพูด ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอเพียงแต่เป็ นคนเย็นชาเท่านั้น

ถึงแม้จะมีนิสัยเอาแต่ใจไปสักหน่อย แต่มุมมองทัศนคติและวิธีการจัดการกับ ปญหาต่าง

ๆไม่เคยทำเลวร้ายหรือใส่ความใคร

การสร้างหลักฐานเท็จเพื่อปลั๊กปล้ำผู้ อื่น เชิงเจ๋อเฉิงทําไม่ลงจริงๆ

เสิ่นอีเวยไม่ได้ถามต่อจากคำพูดขอ งเชิงเจ๋อเฉิงเมื่อครู่ แต่ถามเรื่องอื่นแทน

“แล้วคุณจะจัดการยังไงกับเรื่องนี้

แววตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงกระดูกเล็กน้ อย เขาพูดอย่างไม่แยและ

“โทรแจ้งตำรวจแล้วให้ทางตำรวจจัดก าร”

เสิ่นอีเวยชะงักไปครู่หนึ่ง หล่อนถามเพื่อยืนยันอีกครั้ง “คุณจะทำแบบนั้นจริงๆ หรือ? แม้ว่าเรื่องนี้มันจะค่อนข้างเลวร้ายก็ต ม แต่ถ้าคุณแจ้งตรวจ

ก็เท่ากับว่าคุณเอาบริษัทเ ง อไป ปร ะจันหน้ากับเจิ้งโป๋หงอย่างเปิดเผย โปรเจคที่กำลังจะร่วมมือกันจะดำเนินต่ อไปได้ยังไง? ”

คิ้วของเสิ่นอีเวยค่อยๆขมวดเข้าหากั นในน้ำเสียงของเธอมีความวิตกกังวลเ ล็กน้อย

เซิ่งเจ๋อเฉิงครางเสียงในลำคอเบาๆ และพูดว่า: “ใช่ เธอพูดถูก

ถ้าฉันโทรแจ้งตำรวจเจิ้งโป๋หงจะต้องโ กรธหน้า หน้าแดงและคงระงับความร่ วมมือกับบริษัทเซิ่งชื่อ ทั้งหมด รวมถึงในอนาคตก็คงไม่มีทางกลับไปร่ วมมือกันอีก แต่มีบางเรื่องที่เราปล่อยผ่านไปไม่ได้ เสิ่นอีเวยเธอก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เรื่องของเจงอวชวนไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

พอพูดถึงตรงนี้เพิ่งเจ๋อเฉิงก็หยุดพูด ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อไปว่า: “อีกอย่าง ก่อนที่เธอจะถามคำถามนี้กับฉัน ฉันได้คิดไตร่ตรองไว้อย่างละเอียดแล้ว

นิสัยคุณชายลอยไปลอยมาอย่างเจิ้งอวิ๋

นชวน

บวกกับสิ่งที่คนของฉันไปแอบถ่ายรูปม

าได้

เขาคงไม่ใช่เพิ่งจะสัมผัสกับเรื่องพวกนี้ แค่วันสองวัน

เพราะฉะนั้นเธอเข้าใจใช่ไหม?

ถึงแม้ว่าครั้งนี้ฉันจะไม่ได้กำไพ่ตายขอ งเขาไว้ในมือ

ถึงยังไงก็ต้องมีคนอื่นคว้าไว้อยู่ดี วนขนอยู่กับเวลาช้าหรือเร็วแคนนเอง

“แต่ถ้าคุณทําเช่นนี้ลงไป

คุณจะต้องเผชิญหน้ากับตระกูลเจิ้งทั้ง ตระกูล

ถ้าเรื่องของเจิ้งอวิ๋นชวนแดงขึ้นมา

ภาพลักษณ์องค์กรของเจิ้งโป๋หงจะได้รั

บผลกระทบอย่างรุนแรง

เมื่อห้าปีก่อนฉันแค่ถ่ายภาพของเจิ้งอ นชวนขึ้น

ins บริษัทของตระกูลเจิ้งก็ได้รับผลกระ ทบใหญ่ขนาดนั้น ถ้าเรื่องนี้แดงขึ้นมา คงไม่ต้องคิดว่าบริษัทของพวกเขาจะไ ด้รับผลกระทบถึงเพียงไหนกัน”

แม้ว่าบริษัทเซิ่งซื่อจะเป็นธุกิจของค รอบครัวของเซิ่งเจ๋อเฉิงแทบไม่ได้มีคว ามเกี่ยวข้องใดๆกับหล่อนเลย แต่รวมๆเวลาทเธอทางานอยู่ทบริษัทน

ก็นับปี

บวกกับบริษัทเซิ่งซื่อเป็นแนวหน้าในเรื่

องของดีไซค์ชุดแต่งงาน

ดังนั้นระหว่างที่เธอทํางานอยู่ที่นั้นเธอ

ได้เรียนรู้เรื่องต่างๆมากมาย เธอจึงมีความผูกพันธ์กับบริษัทนี้

ดังนั้นตอนที่เธอพูดถึงเรื่องพวกนี้ เธอคิดแทนบริษัทเซิ่งซื่อและเซิ่งเจ๋อเ

ฉิงจริงๆ

แต่ไม่รู้ว่าคนฟังจะเข้าใจเจตนาของเธอ

หรือเปล่า

“มีอีกเหตุผลหนึ่งคือ”

เซิ่งเจ๋อเฉิงกล่าวต่อไปว่า

.”ครั้งนี้แม้ว่าฉันจะไม่เปิดโปงเรื่องของเ

จิ้งอวิ๋นชวนกับตำรวจ

ถึงแม้ว่าความร่วมมือระหว่างเจิ้งโบ๋หง *กับบริษัทเราจะประสบความสำเร็จ แต่สุดท้ายสักวันหนึ่งพฤติกรรมที่เลวร้า ยของเจิ้งอวิ๋นชวนก็ต้องถูกคนอื่นเปิดโ ปง

บริษัทเจิ้งก็ต้องได้รับผลกระทบอยู่ไม่

ใช่เหรอ? บริษัทไหนที่ร่วมงานกับ เจิ้งโปหงก็ต้องถูกร่างแหไปด้วย ดันนั้น

เมื่อเราสามารถประเมินความเสี่ยงตั้งแ ต่ต้นได้

แล้วเราจะร่วมมือกับพวกเขาตั้งแต่แรก ทำไม?”

น้ำเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงราบเรียบตร รกะในคำพูดของเขาชัดเจนแต่เสิ่นอีเว ยกลับไม่คาดคิดว่า ชายหนุ่มจะมองเรื่องราวได้ทะลุปรุโปร่ งได้ขนาดนี้ เขาไมไดมองเรื่องเพียงผิวเผินเหมือน อย่างหล่อน

มันก็จริงเซิ่งเจ๋อเฉิงคร่ำหวอดกับวงกา

รธุรกิจมานานหลายปี

จะไม่คิดถึงผลประโยชน์ของเซิ่งชื่อได้ อย่างไรกัน?
199788972_345433556941299_4441784362945739003_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ