นายเป็นแค่สามีเก่า

บท443ถูกหานฉีเฟิงเอาตัวออกมา



บท443ถูกหานฉีเฟิงเอาตัวออกมา

บทที่ 443 ถูกหานฉีเฟิงเอาตัวออกมา

แถวเริ่มขยับให้เร็วขึ้น เสิ่นอีเวยถึงกับถอนหายใจในยาม นี้เอง เธอถึงพบว่าบริเวณด้านหลังของเธอนั้นเหงื่อไหล โชก เต็มไปหมด

ห้องโถงขนาดใหญ่กลับมีลักษณะไม่เหมือนเมื่อครู่ที่ หล่อนเห็น ไฟด้านบนเพดานกลับสว่างไสวขึ้นมาก โซฟาที่อยู่ ข้างๆ โต๊ะชงชาก่อนหน้านั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้ย้ายไปอยู่ที่ไหนแล้ว ส่วนตำแหน่งโต๊ะชงชานั้นกลับมีโต๊ะขนาดใหญ่วางอยู่แทนที่ อาหารอันเลิศรสชนิดต่างๆ พร้อมทั้งเครื่องดื่มหลากหลาย มากมายวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ ไม่รู้ว่าทั้งหมดที่หล่อนเห็นอยู่ ก่อนหน้านี้ หล่อนจำอะไรผิดไปหรือเปล่า

เหล่าหญิงสาวต่างสวมใส่เสื้อผ้าโป๊เปลือยนุ่งน้อยห่มน้อย สีหน้านิ่งสนิท มุมปากยิ้มอ่อนๆ ทำราวกับว่าพวกหล่อนคุยชิน กับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้านี้แล้ว

ตรงกลางของห้องโถงจัดเวทีเล็กเหมาะสำหรับการเต้นรำ โดยไม่รู้ว่าจัดเรียงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เสิ่นอีเวยถึงกับตกตะลึง เพราะเวทีมีลักษณะทรงกลมๆ มีบันไดสองชั้น ตรงกลางเวทีนั้น มีท่อนเสาสีเงินความยาวประมาณสองเมตร
เมื่อก่อนหล่อนกับหลินโม่เป็นไปผับอยู่บ่อยครั้ง เพราะ ฉะนั้นหล่อนทราบดีว่าท่อนเสากลมๆอันนี้มันเอาไว้สำหรับเต้น รูดเสาหรือเรียกว่าระบำเปลื้องผ้า

ตอนนั้นเอง หญิงสาวรูปร่างเพรียว สวมใส่ชุดบิกีนี่ รองเท้าส้นสูงแหลมปรี๊ดกำลังเดินขึ้นบนเวทีทรงกลมนั่น ส้น รองเท้าที่แหลมปรีดนั่นยามเมื่อกระทบกับพื้นช่างเป็นเสียงดัง แหลมเข้าหู

บรรยากาศในห้องโถงขนาดใหญ่วุ่นวายอุตลุด ทว่าทุก คนต่างเตรียมตัวกันอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ทุกคนต่างเริ่มต้นที่จะ เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสุดเหวี่ยงในค่ำคืนนี้ ขนาดอวัยวะ มือนั้นก็ร่วมวงตามสถานการณ์ไปด้วย

ทุกโต๊ะในห้องโถงต่างดื่มเหล้าและเล่นเกม Morra (เกม เป่ายิ้งฉุบ) ไปพร้อมกันจนเสียงดังลั่นเซ็งแซ่ เสิ่นอีเวย พยายามยืนนิ่งในมุมห้องแห่งหนึ่งพร้อมใช้สายตาไร้อารมณ์ มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า ตอนนี้หล่อนอยู่ท่ามกลาง บรรยากาศที่เลวร้ายทั้งหมด หล่อนแค่หวังว่าตัวเองคงไม่โดน คนของท่านฉินสังเกตเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผังจื่อที่ถูก หล่อนตีหัวคนนั้นแหละ

ในสภาพสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายนั้นหากฟังให้ดีก็จะได้เสียง ร้องไห้ครวญครางของหญิงสาวดังมาจากมุมห้อง เสียงพวกนั้น มันเป็นเสียงหญิงสาวที่ถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่พวกเธอไม่ ยินยอม
เสิ่นอีเวยรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจถึงแม้ว่าจะไม่มีใครกล้าทำ อะไรเธอก็ตามที สาเหตุอาจจะมาจากทานเพิ่งขอเธอมาจาก ท่านฉินเมื่อครู่ หล่อนประเมินสถานการณ์ออกว่านอกจากท่าน ฉันแล้วคนอื่นต่างก็เกรงหานฉีเฟิง เพราะฉะนั้นเลยไม่มีใคร กล้ามายุ่งกับหล่อน

ในยามที่หล่อนกำลังหันหน้านั้น ประจวบเหมาะที่ดวงตา ของหล่อนสบตากับเขาคนที่สูงร้อยแปดสิบกว่าอย่างหานนี้เพิ่ง

สายตาของเขาที่สื่อออกมานั้นไม่แสดงอารมณ์ใดๆออก มา ทว่าสิ่งที่เสิ่นอีเวยได้รับรู้เหมือนเขากำลังตรวจสอบให้ มั่นใจว่า ในยามนี้หล่อนอยู่ตำแหน่งไหนของห้องโถงกันแน่

เสิ่นอีเวยมองเห็นสายตาอันลึกซึ้งของหานฉีเฟิง ในใจ หล่อนเต้น “ตุบตุบ” ดังขึ้น เขาเจอหน้าหล่อนไม่ถึงยี่สิบสี่ ชั่วโมงด้วยซ้ำ แถมยังขอหล่อนต่อหน้าท่านฉินได้อีก หล่อนรู้ ว่าบางอย่างมันเป็นไปได้ แต่ถ้าหากเขาเดินพรวดพราวมาหา ตัวหล่อนหล่ะจะทำยังไงดี?

เสิ่นอีเวยเริ่มกระวนกระวายใจ ผู้ชายคนนี้เหมือนกำลัง ทำให้เธอสับสน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ ไม่มีใครที่หล่อนจะสามารถเชื่อใจได้ทั้งนั้น อย่าเพิ่ง พูดความรู้สึกของตัวเองในความรู้สึกที่ได้มาจากเขา ตามหลัก พื้นฐานความเป็นจริง หากไม่ใช่ผู้ชายคนนี้หล่อนก็คงไม่ถูกพา มาในสถานที่ทุเรศแบบนี้ได้หรอก

ท่านฉินรินเหล้าใส่แก้วให้หานฉีเทิง เขาย่อมละสายตาจากใบหน้าเสิ่นอีเวยกลับไปหาท่านฉินเพื่อดื่มเหล้าที่ท่านฉินเท ให้เมื่อครู่แล้วจัดการยกดื่มต่อ

ในห้องโถงนั้นมีผู้หญิงนั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนหรือหญิงสาว ที่กำลังเต้นระบำก็มีจำนวนนับไม่ถ้วนเช่นกัน ไม่ว่าจะถูกบังคับ หรือเต็มใจก็ตามทุกคนต่างมีกิจกรรมที่ตัวเองต้องทำ ด้วยเหตุ ที่เสิ่นอีเวยยืนนิ่งๆไม่ขยับตัวทำอะไรเลยจึงเป็นจุดสนใจให้ ผู้ชายคนหนึ่ง

ผู้ชายคนนั้นมีเหล้าถืออยู่ในมือ ดูท่าทางคงดื่มซะ เพลิดเพลินไปหน่อยจนใบหน้าของเขาแดงแจ๋ แถมยังมีกลิ่น เหล้าคละคลุ้งทั้งตัว ใบหน้าแสดงความตื่นกระหายอย่าง ชัดเจนพร้อมมุ่งหน้าเดินมาทางเสิ่นอีเวย

เสิ่นอีเวยมองเขากลับด้วยสายตาเย็นชา ส่วนผู้ชายคนนั้น ก็ยื่นแก้วเหล้าที่อยู่ในมือยื่นมาบริเวณอ้อมแขนของเสิ่นอีเวย แถมมืออีกข้างหนึ่งก็ตั้งท่ากระหวัดเอวของหล่อนให้เข้ามาแนบ ชิด ปากก็ยังพร่ำเพ้อพูดต่อ: “คนสวย เธอสวยขนาดนี้ทำไม ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนนะ? ช่างน่าเสียดายจริงๆ มานี่ ฉันจะดื่ม สักแก้วเป็นเพื่อนเธอเอง…

กลิ่นเหล้านอกคละคลุ้งไปทั่วทั้งตัวจนเสิ่นอีเวยถึงกับฉุน ขึ้นจมูก กระเพาะของหล่อนมันรู้สึกก่อคลื่นอาการอาเจียน เ นอีเวยผลักมือของเขาออกก่อนที่จะถึงเอวของหล่อน

เขาเมาใกล้จะเต็มที่แล้วเพราะฉะนั้นการที่โดนเสิ่นอีเวย ผลักแบบนั้นเลยเซถลาลื่นล้มลงกับพื้น การที่ลื่นลงกับพื้นทำให้เขาได้สติขึ้นมาอีกเยอะ ตอนที่เขาลุกขึ้นมาจากพื้นนั้น สีหน้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นความโหดร้ายแทนอาการเมา เขา หน้าด่าทอเงินอีเวยด้วยเสียงดังลั่น “อีนังนี่ จึงคิดว่ามึงเป็น ใคร!กูยอมลดตัวมากินเหล้าเป็นเพื่อนมึง มึงยังกล้ามาผลัก เดี๋ยวจึงรอดูว่าวันนี้กูจะจัดการกับมึงยังไง ”

หลังจากพูดจบ เขาก็โยนแก้วเหล้าในมือลงบนพื้นแล้วมุ่ง หน้าก้าวพรวดมาทางเสิ่นอีเวยทันที ทว่าเขาเพิ่งเดินมาได้ครึ่ง ทางแขนของเขาก็โดนคนคว้าเอาไว้ซะก่อน

เขาโกรธขึ้นหัวเลยหันศีรษะเตรียมด่าทอให้เต็มที่ แต่พอ หันกลับมาแล้วเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน ปากที่พร้อม ด่าถึงกับล้ำๆอึ้งๆขึ้นมาแทน : “พี่พี่เฟิง ผม…

เสิ่นอีเวยมองไปทางหานฉีเฟิง สีหน้าเขาคนนั้นช่าง เคร่งขรึมน่าหวาดกลัว แววตาของเขาที่จ้องมองชายคนนั้นช่าง เย็นชา : “ผู้หญิงของฉัน แกยังกล้าแตะต้องหรอ?”

คำพูดเช่นนี้ใครล่ะจะไม่สร่างเมา? เขารีบพูดอธิบาย ทันที : “ไม่ใช่พี่เฟิง ฟังผมอธิบายก่อน เมื่อครู่ผมดื่มเยอะไป หน่อยเลยไม่ได้ดูให้ดีซะก่อน ไม่รู้ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงของพี่ ผมขอร้องไว้ชีวิตผมสักครั้งนะพี่…

เสิ่นอีเวยจ้องมองหานฉีเฟิง ถึงแม้ว่าหล่อนตกใจกับการก ระทำของผู้ชายคนนี้เมื่อครู่ก็ตาม ทว่าหล่อนก็ไม่ได้ตกใจอะไร มากนัก หานเพิ่งช่วยหล่อนให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์นั้นก็ไม่ ผิด แต่การที่เขาพูดว่า “ผู้หญิงของฉันยังกล้าแตะ” นั้น หล่อนฟังแล้วดูไม่ค่อยสบายหูสักเท่าไหร่ เพราะคำพูดนั้นมันทำให้ หล่อนนึกถึงเพิ่งเจ๋อเฉิง

ช่วงที่เธอกำลังคิดเรื่อยเปื่อย บริเวณด้านหน้าของเงินอีเว ยกลับมีเงาทาบลงมา ที่แท้คือหานฉีเฟิง จิตใต้สำนึกของ หล่อนพยายามหลีกเลี่ยง ทว่าฝ่ายตรงข้ามกลับมีไหวพริบดี และรวดเร็วมากจนหล่อนไม่สามารถปฏิเสธได้ทันจนท้ายที่สุดก็ ถูกเขากอดเอวแน่น

เสิ่นอีเลยตกใจจริงๆ หล่อนยกเท้าถีบเขาทันที : “แกทำ อะไรเนี่ย? ปล่อยฉันลง!

หานฉีเฟิงฟังออกว่าน้ำเสียงของหล่อนนั้นมีความโกรธ และขยะแขยงเขาซ่อนอยู่ในนั้นด้วย แต่เขากลับไม่ได้ใส่ใจ ทว่าเขาต้องหาวิธีจัดการรับมือกับการที่หล่อนเตะถีบเขาอยู่ใน อ้อมอกของเขา

หานนี้เพิ่งใช้มือทั้งสองข้างดึงเอวให้แน่นมากขึ้นกว่าเดิม จนเสิ่นอีเวยถึงกลับขยับตัวไม่ได้เลย ในใจหล่อนโมโหจนถึง ขีดสุด ผู้ชายคนนี้ใช้สิทธิ์อะไรถึงได้ลงมือกับตัวเองได้

เสิ่นอีเวยเตรียมง้างแขนชกบริเวณท้องของหานฉีเฟิง ทว่า กลับมีเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังมาเหนือศีรษะของหล่อนแทน : “ถ้าไม่อยากให้เรื่องมันยุ่งยากมากกว่านี้ ทางที่ดีที่สุดอย่าทำ อะไรให้วุ่นวาย

เสิ่นอีเวยถึงกับตกตะลึงจนตัวแข็งไปทั้งตัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ