นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่358ดอกไม้หน้าหลุมฝังศพ



บทที่358ดอกไม้หน้าหลุมฝังศพ

บทที่ 358 ดอกไม้หน้าหลุมฝังศพ

หยางอันทรานดวงตาเป็นประกายด้วยความฮึกเหิม เสี นอีเวยคิดไม่ถึงกับคำพูดโหดเหี้ยมที่ออกมาจากปากของ ลูกสาว เพราะมองจากภายนอกลูกสาวเธอเป็นเด็กที่อ่อนโยน จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย

เนื่องจากหยางอันทรานพูดสิ่งที่คิดออกมาหมดแล้ว แถม สิ่งที่สวีเส้าเทิงและอมั่นมั่นทำมันก็มากเกินไปจริงๆ ดังนั้นเสี นอีเวยจึงจับไหล่ของหยางอันหราน และพูดสนับสนุนว่า “งั้น ได้เลย! ฉันกับเหมียนเหมียนน้อยขอคิดร้ายสักครั้ง ขอให้สิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลหาทางให้พวกเราด้วยละกัน!

หยางอันทรานเข้าไปแกล้งผลักไหล่เงินอีเวย : “อย่ามา

ไม้นี้นะ! ”

แต่เสื่นอีเวยกลับหลบอย่างว่องไว

ทั้งสองคุยเรื่อยเปื่อยซักพักหนึ่ง หยางอันทรานเหมือนกับ นึกบางอย่างขึ้นมาได้ พูดว่า “แต่จะให้พูดอีกที หัวหน้าแก๊ง หัวโล้นที่เธอพูดถึง เรื่องสวี่เส้าเพิ่งติดหนี้พวกเขา ตอนนี้พวก เขารู้แล้วว่าสวีเส้าเพิ่งไม่สามารถคืนเงินพวกเขาได้ ถ้างั้นคน พวกนั้นจะสร้างความวุ่นวายให้เธอได้ไหม?ฟังหยางอันทรานถามแบบนี้ ในสมองของเสิ่นอีเวย ปรากฏภาพตอนที่หัวหน้าหัวโล้นรับขอความเมตตาเพิ่งเจ๋อเฉิ งด้วยความหวาดกลัว เมื่อมองเห็นเขา

ดังนั้นเธอจึงตอบหยางอันทรานด้วยความมั่นใจ : “วางใจเถอะ พวกเขาไม่กล้าหรอก หัวหน้าหัวโล้นกำลังหวาด กลัว ตอนนี้คงกำลังหนีกบดานอยู่! ”

หยางอันหวานถามขึ้นมาทันที “หนีกบดาน? พวกเขา ทำไมยังต้องหนีกบดาน? ”

เงินอีเวยคิดไปคิดมา จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง : “ไม่มีอะไร หรอก ไม่มีอะไรหรอก ไหนเธอบอกว่าวันนี้ต้องพาเหมียนเหมื ยนน้อยไปเข้าร่วมกิจกรรม? น่าจะใกล้ถึงเวลาแล้วหรือ เปล่า? “

หยางอันทรานได้ฟังเสิ่นอีเวยถามเช่นนี้ เธอรีบยกข้อมือ ขึ้นเพื่อดูนาฬิกาข้อมือทันที : “จริงด้วย เกือบจะถึงเวลาแล้ว งั้นฉันขอพาเหมียนเหมือนน้อยออกไปก่อนนะ ”

เป็นอีเวยพยักหน้ายิ้ม หลังจากบอกลาลูกสาว จึงไปส่ง พวกเธอขึ้นบนรถ

“ม่าต้องอยู่บ้านรอหนูกลับมาอย่างเชื่อฟังนะคะ กลับมา ช่วงบ่ายหนูจะซื้อดอกไม้มาฝากแม่ค่ะ! “คนตัวเล็กโผล่ศีรษะ ออกมาจากหน้าต่างรถตะโกนบอกเงินอีเวย

เสิ่นอีเวยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ในหนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวัน ระหว่างทางกลับบ้านเหมียนเหมียนน้อยจะ คอย อดอกไม้มาให้เธอทุกวันจันทร์ วันพุธและวันศุกร์ เ นอีเวยชอบดอกลิลลี่ที่สุด ดังนั้นเธอจะได้รับดอกลิลลี่สามวัน ต่อสัปดาห์

ถ้าบางครั้งเธอบังเอิญต้องทำโอที ทุกครั้งเมื่อกลับถึงบ้าน

ตอนกลางดึก เธอจะมองเห็นแจกันดอกลิลลี่ที่คอยส่งกลิ่นหอม จางๆ ถูกวางอยู่ในห้องนั่งเล่น นี่คือนิสัยที่ลูกสาวของเธอทำเป็นประจำ เป็นการแสดง ความรักแบบพิเศษต่อเธอผู้เป็นแม่

หลังจากหยางอันทรานกับเหมียนเหมียนน้อยออกไป ภายในบ้านก็เงียบลงทันที ในขณะที่เสิ่นอีเวยรู้สึกไม่ชิน เธอ เดินกลับขึ้นไปห้องนอนชั้นบน เพื่อเลือกเสื้อผ้าสองสามชิ้นจาก ตู้เสื้อผ้า

หลังจากเตรียมของเรียบร้อย เสิ่นอีเวยหยิบกระเป๋าออก จากบ้าน ทว่าเหมือนฝนเพิ่งจะตกลงมาเมื่อคืน ดังนั้นบนถนน ยังคงมีความเปียกชื้น แรงกดทับของล้อรถส่งผลให้บนถนนมี รอยล้อรถจางๆ

อากาศสดชื่นหลังฝนตก ต้นไม้ตามข้างทางมีสีเขียวชอุ่ม

เงินอีเวยลดกระจกรถยนต์ลง ลมเย็นพัดเข้ามาทางหน้าต่าง ทันที ปะทะเข้ากับใบหน้าของเธอที่ถูกแต่งด้วยเครื่องสําอา งอ่อนๆ เสิ่นอีเวยรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง

ในใจเต็มไปด้วยคำว่า : ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ
เมื่อคิดเช่นนี้ เธอจึงเพิ่มความเร็วของรถยนต์ ในที่สุด รถยนต์ที่ขับมาถึงถนนบนภูเขา เสิ่นอีเวยรู้สึกถึงความสงบใน ใจเป็นอย่างยิ่ง จุดมุ่งหมายของเธอคือหลุมศพของพ่อแม่บนภู เขาหวั่น เธอต้องการมาเยี่ยมพวกเขา

บนที่นั่งข้างคนขับมีช่อดอกไม้ช่อหนึ่งถูกวางไว้ คือดอก ทานตะวัน และยังมีดอกไม้ประดับอื่น ๆ อีกมากมาย เช่นดอก ยิบโซและดอกสแตติส เมื่อตกแต่งเช่นนี้ ช่อดอกไม้จึงดูมีชีวิต ชีวามากขึ้น

เงินอีเวยจำได้เสมอมา ดอกไม้ที่แม่ของเธอชอบที่สุดคือ ดอกทานตะวัน

รถยนต์จอดที่มุมถนนด้านหน้าสุสาน ถนนด้านหน้ามี ความแคบ ไม่สามารถขับรถผ่านเข้าไปได้ เสิ่นอีเวยจึงลงจาก รถและเดินเข้าไป

ลมบนภูเขาพัดเพียงเบาๆ แต่สามารถทำให้เส้นผมที่ปรก บนหน้าผากยุ่งเหยิงได้อย่างง่ายดาย สภาพอากาศตอนเพิ่ง ออกจากบ้านค่อนข้างหนาวเย็น เสิ่นอีเวยจึงสวมเสื้อคลุมกัน ลมทับลงบนเสื้อเชิ้ตของเธอ

เธอเดินไปที่หลุมฝังศพทั้งสองตามเส้นทางที่เธอจำได้ แต่ ยิ่งเดินยิ่งรู้สึกใจไม่เป็นสุข จนเสิ่นอีเวยสามารถได้ยินเสียง หัวใจตนเองเต้นอย่างชัดเจน บางที…..อาจเป็นความรู้สึก เหมือนได้กลับบ้านเก่า

ประโยคนั้นจะพูดออกมาอย่างไร ตอนพ่อแม่อยู่ ชีวิตยังคงมีที่พักพิง ตอนพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว ชีวิตเหลือเพียงทางกลับ

บ้าน

ตอนนี้เธอรู้สึกแบบนั้น

ยิ่งไปกว่านั้น สถานะของเธอในตอนนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้น เชิง เมื่อปีก่อนที่จะจากไปเธอยังเป็นเพียงเด็กสาวที่ไม่ประสี ประสาคนหนึ่ง แต่ตอนนี้เวลาผ่านไป คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ เธอจะเป็นแม่คนแล้ว

แต่ตอนนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่เธอต้องการมาบอกกับพ่อแม่ ด้วยตนเองว่าพวกเขามีหลานสาวแล้ว และลูกสาวทั้งสองของ พวกเขา ตอนนี้ไม่ได้โดดเดี่ยวเพียงลำพังสองคนบนโลกใบนี้

เพียงแต่ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้หลุมศพมากขึ้น เป็นเวยจึง พบความผิดปกติบางอย่าง นั้นคือหน้าหลุมศพ เหมือนกับมีสี เหลืองๆอยู่ ทำให้เธอเริ่มรู้สึกแปลกใจ

จนเมื่อเดินเข้าไปใกล้ เธอจึงพบว่า แท้จริงแล้วหน้าหลุม

ศพมีดอกไม้วางอยู่ นอกจากนี้ ชนิดของดอกไม้ยังเหมือนกับที่

เธอถือเอาไว้ในอ้อมแขน นั้นคือดอกทานตะวัน ซึ่งกลีบของมัน

กำลังบานสะพรั่ง ทำให้คนที่ได้มองเต็มไปด้วยความหวัง และ

ดอกตูมที่ยังไม่บานออกมา มีหยดน้ำรูปร่างคล้ายกับเม็ด

คริสตัลเกาะอยู่

เดิมทีไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะก่อนหน้านี้แม่เป็น นักออกแบบชุดแต่งงานที่มีชื่อเสียง ดังนั้นจึงมีหลายคนชื่นชม ผลงานของเธอ และมาให้ดอกไม้หลังจากเธอเสียชีวิตลง อาจเป็นเพราะเหตุผลนี้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นอีเวยคุกเข่าลง เธอวางดอกไม้ในมือ ลงหน้าหลุมศพอย่างระมัดระวัง รูปภาพที่ติดอยู่ทั้งสอง มี ใบหน้าของแม่ที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน ยิ้มบางๆที่มุมปาก และพ่อที่มีสีหน้าค่อนข้างจริงจัง บางทีอาจเป็นเพราะทำงาน เป็นทนายมานาน เพราะเมื่อพิจารณาคดีต้องใช้สีหน้าที่ จริงจังและความคิดที่ละเอียดรอบคอบเผชิญหน้ากับฝ่ายตรง ข้าม

เสิ่นอีเวณนั่งอยู่หน้าหลุมศพ เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ที่ปนไปด้วยความเศร้าเล็กน้อย “พ่อคะ แม่คะ ทั้งสองคนมี หลานแล้วนะคะ เธอชื่อว่าเหมียนเหมียนน้อย ใช้นามสกุลของ ลูก ตอนนี้เธอเป็นดาราเด็ก ทำงานยุ่งมาก ต้องถ่ายโฆษณา และร่วมกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งวัน ครั้งต่อไปถ้ามีโอกาส ลูกจะ พาเธอมาเยี่ยมพ่อกับแม่ค่ะ

เงินอีเวยนั่งพูดเรื่อยเปื่อยอยู่หน้าหลุมศพ จนเธอพบว่า ตนเองไม่มีเรื่องที่จะพูดต่อ เวลาก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ