นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่316ฉันไม่จําเป็นที่จะต้องรับการอนุญาตจากคุณ



บทที่316ฉันไม่จําเป็นที่จะต้องรับการอนุญาตจากคุณ

บทที่316 ฉันไม่จำเป็นที่จะต้องรับการอนุญาตจากคุณ

พอฟังคำของเพิ่งเจ๋อเฉิง เสิ่นอีเวยก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออก เหมือนกับไม่มีเสียงอย่างไรอย่างนั้น ไม่สามารถพูดอะไรออก มาได้เลย

ดังนั้นล่ะ ? ผู้ชายคนนี้จะหมายความว่าอะไร ? จะพูดถึง เรื่องอดีตหรือ ? เสิ่นอีเวยก็รู้สึกข์อยู่ในใจ

ในวินาทีต่อไป เธอก็มองไปยังเพิ่งเจ๋อเฉิง สายตาที่เต็ม ไปด้วยความสงสัยและไม่เชื่อ “ตอนนี้คุณหมายความว่าอะไร ? จะมาเล่นเรื่องความรู้สึกหรือ? “

ความสัมพันธ์ทั้งสองคนดำเนินมาถึงจุดนี้ เสิ่นอีเวยก็ไม่ ได้เป็นห่วงหรือเกรงกลัวอะไรแล้ว ดังนั้นการพูดจาก็ไม่ได้ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ที่คิดมากมาย

แต่ที่ชัดเจนก็คือ เพิ่งเจ๋อเฉิงกลับไม่ชอบที่เสิ่นอีเวยพูดว่า “เล่นเรื่องอารมณ์ความรู้สึก” ซึ่งความจริงแล้วเขาไม่เคยคิด เลยว่าผู้หญิงที่อยู่ต่อหน้าเขา วันหนึ่งจะกลายเป็นคนแปลก หน้าและเย็นชาขนาดนี้

เพิ่งเจ๋อเฉิงก็เริ่มมีสภาพจิตใจที่วุ่นวายยิ่งขึ้น
เงินเลย ขอให้คุณใช้คำพูดอย่างละเอียด เพิ่งเจ๋อเฉิง พูดด้วยท่าทีปกติ

เสิ่นอีเวยฟังออกมาสิ่งที่เพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นพูดคือกำลังจะ บังคับเธอ แต่ชัดเจนว่าหากเป็นเมื่อก่อนเธอจะต้องตอบโต้ อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เธอกลับไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเช่นนั้น แล้ว

บางเรื่องมองเห็นอย่างชัดเจนแล้วก็ไม่อยากที่จะไปใส่ใจ อะไรกับมันมากมายนัก

“ประธานเชิง พวกเรามาเข้าเรื่องกันเถอะ หาฉันมีเรื่อง อะไรจะพูด ก็ว่ามา” เสิ่นอีเวยที่พูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้าง รําคาญ

ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้พบกันสามเดือน เขา คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะสงบเสงี่ยมเรียบร้อย ที่เขาอยากเจอเธอนั้น เป็นเพราะอยากจะให้เขานั้นลดระดับอารมณ์ลงจากเหมือน ตอนนี้เธอนั้นเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศใหม่ ๆ

แต่ตอนนี้กลับมาดูแล้ว กลับไม่เป็นเหมือนที่หวังไว้ เพิ่ง เจ๋อเฉิงจุกจนพูดอะไรออกมาไม่ได้เลย

แต่ว่าเขาก็ไม่มีวิธีอื่น เมื่อคนมาพูดถึง จะไม่ให้พูดอะไรก็ ไม่ได้

“สามเดือนที่แล้วที่ผมให้คนไปหาคุณ แล้วให้เอกสาร สมรสกับคุณ ยังจำได้ไหม ?
เพิ่งเจ๋อพูดด้วยอารมณ์ที่ปกติเหมือนกับเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยว กับตัวเองเลย

เงินอีเวยยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านยังมีหน้าที่จะพูดเรื่องนี้ คน นั้นชื่อว่าข่งลู่เหยียน เป็นคนขับรถใหม่ของคุณ ? ” เพิ่งเจ๋อเฉิง พยักหน้า ซึ่งสู่เหยียนไม่ได้ทำงานตามที่เพิ่งเจ๋อเฉิงมอบหมาย ให้สำเร็จ แล้วก็นำเรื่องนี้มาเล่าให้ละเอียด ดังนั้นเพิ่งเจ๋อเฉิง รับรู้เรื่องนี้

“เชื่อว่าส่งลู่เหยียนนำเรื่องนี้บอกคุณอย่างชัดเจน ผมรู้ว่า คุณจะไม่เห็นด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมก็ยังจะเตือนคุณด้วยตัว เองอีกครั้งหนึ่ง เสิ่นอีเวย คุณกับผมไม่ได้หย่าร้างกัน ดังนั้น พูดง่าย ๆ ก็คือ ตอนนี้พวกเรายังเป็นสามีภรรยากัน

พอพูดถึงตรงนี้เพิ่งเจ๋อเฉิงก็หยุดลง แล้วก็หรี่ตาลงซึ่งเต็ม ไปด้วยความอันตราย “เปลี่ยนอีกประโยคหนึ่ง ตอนนี้ที่ผม กระทำต่อคุณก็คือเรื่องของสามีภรรยาทั่วไป เพิ่งเจ๋อเฉิงพอ พูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการตักเตือน เสิ่นอีเวยก็รู้ อย่างชัดเจน ในใจเธอนั้นก็เต็มไปด้วยความตื่นใจ

“แล้วไงล่ะ ? คุณพูดพวกนี้เพื่ออะไร ? จะแสดงอำนาจ หรือ ? แสดงว่าส่งลู่เหยียนไม่ได้บอกคุณกับสิ่งที่ฉันบอกอย่าง ชัดเจนสินะ เพิ่งเจ๋อเฉิง คุณฟังให้ชัดเจนนะ ไม่ว่าเราจะดูใน สถานะสามีภรรยาที่ถูกต้องหรือไม่อย่างไร ฉันมีแขนขาของฉัน จะทำอะไร จะไปไหน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้คุณมาอนุญาต

เพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นได้ฟังแล้วก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แล้วก็ได้ตัดบทเสิ่นอีเวยในทันที “คุณพูดอย่างนี้กับผมอย่างไม่เกรงใจ คุณ ไม่กลัวที่จะไม่ได้ออกจากประตูบ้านตระกูลไม่หรือ ? “

เสิ่นอีเวยพูดประโยคนี้ขึ้นมานั้น สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วย ความมั่นใจ ทำให้มันไม่เข้าตาของเพิ่งเจ๋อเฉิง เหมือนมีอะไร มาทิ่มแทง

หรือว่าผู้หญิงคนนี้ จะไม่อาจจะทำให้อยู่ในกำมือได้

แล้ว ?

ไม่ ไม่แน่นอน เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่อาจจะทำให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น

มาได้

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้มองไปที่เสิ่นอีเวยแล้วพูดว่า “เป็นเวย คุณ อยู่อังกฤษ ปี ได้ผ่านอะไรมาบ้างนะ ? เจอคนอะไรบ้างล่ะ ?”

เงินอีเวยตกใจแล้วก็ถามด้วยความสงสัย “คุณถามทำไม ? ที่ฉันอยู่อังกฤษมันเกี่ยวอะไรกับคุณ ?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดด้วยถ้อยค่าที่เสียดสีและยิ้มว่า “ผมก็คือ แปลกใจเฉย ๆ ว่าใครกันนะ ที่ทำให้คุณนั้นกลายเป็นคนที่ เช่นนี้

ประโยคนี้ เขาพูดด้วยความตั้งใจ เสิ่นอีเวยฟังแล้วก็รู้สึก เหมือนถูกล้อเล่น ในเวลาเดียวกัน ในใจก็เต็มไปด้วยความ โกรธ

เธอได้มองไปยังเพิ่งเจ๋อเฉิง “นิสัยฉัน ? เพิ่งเจ๋อเฉิง ความจริงแล้วคุณผิดแล้ว ไม่ใช่เพราะนิสัยฉันเปลี่ยน แต่ฉันมองคุณเปลี่ยนไปแค่นั้นเอง คุณไม่สังเกตหรือ ? ตอนนี้ฉัน อยากจะไม่อดทนก็คือไม่อดทน ทำร้ายคุณก็คือทำร้ายคุณ แน่นอนว่าไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ที่จะใช้ชีวิตกับคุณอย่าง ระมัดระวัง

คำพูดเหล่านี้ ถึงแม้เงินอีเวยจะพูดที่เต็มไปด้วยความ โกรธแค้น แต่สีหน้าก็มีความสงบเสงี่ยม แต่ความจริงแล้วใน ใจนั้นเต็มไปด้วยความโกรธอย่างที่สุด ในตอนนี้ใจเธอนั้นเต็ม ไปด้วยมีดที่ทิ่มแทงอย่างไม่อาจจะรักษาได้

แต่เรื่องมาถึงวันนี้ เป็นอีเวยก็ไม่มีสงครามความรักเสีย แล้ว เธอกำลังรักษาสภาพจิตใจของเธอ แล้วก็พูดไปด้วย ความเกลียดชังว่า “เพิ่งเจ๋อเฉิง ฉันก็คือพูดกับคุณแบบนี้แล้ว กัน ไม่ว่าคุณจะรักหรือไม่กักขังฉันอยู่ที่นี่ ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะว่าใจของฉันนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว

เพราะคำนี้ทำให้สายตาของเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นเต็มไปด้วย ความเย็นชา แต่เสิ่นอีเวยกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น

ไม่ได้รอเพิ่งเจ๋อเฉิงพูด เสิ่นอีเวยก็พูดต่อไปว่า “พูดจาก จริงใจก็คือ ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ฉันนั้นเคยรักคุณมากหลายปี มาก ตอนนั้นคุณคือคนของในใจฉัน แต่ ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ทุก อย่างเปลี่ยนไปแล้ว ฉันไม่ได้มีคุณอยู่ในใจแล้วใจฉันนั้นก็ได้ เอาคุณออกไปตั้งนานแล้ว ไม่งั้นล่ะก็ ฉันก็ไม่คงที่จะตีตัวออก ห่างคุณหรอก

บรรยายกาศที่เงียบสนิท และเยือกเย็นยิ่งนั้น หน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แล้วก็เต็มไปด้วยความเย็นชา “เสิ่นอีเวย คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่ ?

เงินอีเวยยิ้มอย่างอบอุ่น สายตาที่เต็มไปด้วยความที่ ทำให้คนนั้นสะดุดตา “ฉันรู้ว่าฉันพูดอะไร ตอนนี้ฉันนั้นกระจ่าง เป็นที่สุด ความจริงฉันต้องขอขอบคุณคุณนะ เพราะสิ่งที่คุณนั้น เย็นชา ใจหินใส่ฉัน ทำให้ฉันนั้นมีความกล้าตัดสินใจที่จะละทิ้ง มันไป ไม่งั้นล่ะก็ เสิ่นอีเวยคนนี้ก็ยังเหมือนโคลนที่เละ

คำพูดเหล่านี้ ถึงแม้เพียงพอที่จะแสดงถึงจุดยืนของตัวเอง แต่กลับไม่น่าฟังเป็นอย่างยิ่ง

เสิ่นอีเวยเห็นผู้ชายที่ขมวดคิ้วอยู่นั้น อารมณ์สับสน เรื่อง ราวอดีตที่เล่าขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นการทำร้ายศัตรูสิบส่วน ตัวเอง เจ็บแปดส่วน คำพูดเมื่อสักครู่นี้ ใครจะรับรู้และสัมผัสถึงความ เจ็บปวดของหัวใจเธอ ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ