นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่335การแสดงของคุณเธอไม่ค่อยสมบทบาท



บทที่335การแสดงของคุณเธอไม่ค่อยสมบทบาท

บทที่ 335 การแสดงของคุณเธอไม่ค่อยสมบทบาท

“ได้ งั้นถือว่าตกลงแล้ว เช่นนั้นก็ขึ้นรถกันเลย” เพิ่งเจอ เฉิงพูดประโยคหนึ่งออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป

เสิ่นอีเวยที่ยังทำตัวไม่ถูกกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดขึ้นมา ทว่าก็ เห็นเพิ่งเจ๋อเฉิงหันศีรษะกลับไปมองแก๊งไอ้หัวล้านหัวโจกนั่น แถมจ้องตาหัวล้านนั่นจนมันตกใจกลัว จนแสดงอาการหัวหด ติดหาย แต่เซ็งเจ๋อเฉิงก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย

ได้แต่พูดกับพวกนั้นตรงๆ: “แกเป็นคนหน้าของแก๊งนี้ใช่

ไหม

การที่ถูกเพิ่งเจ๋อเฉิงถามตรงๆมาแบบนี้ หัวหน้าแก๊งหรือ จะกล้าที่จะไม่ตอบเขาหรอ แถมยังรีบพยักหน้าแล้วก้มโค้ง ตอบเขาอีก “ใช่ครับ ท่านมีอะไรจะกำชับหรือเปล่าครับ ทําน?”

เสิ่นอีเวยถึงกับมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างไร อารมณ์ ยิ่งคิดตอนที่เธออยู่ในรถ อีตาหัวหน้าแก๊งหัวล้าน เหม่งนี้ยังพูดกร่างกับสวี่เส้าเหิงและอมั่นมั่นอยู่เลย ในใจเธอ ยังรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นอยู่เลย
สังคมของเราในปัจจุบันนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐพูดกดดัน อะไรขึ้นมาสักหน่อยค่อนข้างจะดูมีหลักการอยู่บ้าง แม้ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทั้งคู่ก็ไม่ใช่มีตำแหน่งเจ้าหน้าที่ รัฐก็ตามที แต่คำพูดนี้ภายใต้สถานการณ์นี้ช่างเหมาะที่สุดแล้ว

ที่จริงแล้วเสื่นอีเวยก็ไม่ชอบนิสัยคนอย่างหัวหน้าแก๊งหัว ล้านเหน่งคนนี้สักเท่าไหร่ ด้วยเหตุที่เขาชอบทำนิสัยว่าตัวเอง ใหญ่คับโลกเหลือเกินนี่แหละ แต่สำหรับเธอแล้วถ้าจะกร่าง จริงก็ต้องเก่งจริงๆด้วย

คิ้วของเซ่งเจ๋อเฉิงกระตุกขึ้นเบาๆแล้วตอบอย่างในชา “ตอนนี้ฉันจะเอาเธอคนนี้ไปจากที่นี่ แกคงไม่มีปัญหาใช่ไหม?

หัวหน้าแก๊งหัวล้านนั่น เขาเพิ่งฟังสิ่งที่เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดออก มาจนจบถึงได้กล้ามองเชิงเจ๋อเฉิงเป็นครั้งแรก ทว่ากลับถูกรังสี ความบ้าดีเดือดจากอีตานั่นทำให้ตกใจจนนิ่งไป อีตาหัวล้าน นั่น เขาใช้ชีวิตเดินสายนี้มาก็นานหลายปีต่างก็พบเจอเรื่อง พรรค์นี้มาก็เยอะแยะ ทำไมจะดูไม่ออกว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า นั้นไม่ปกติธรรมดาเหมือนคนอื่นๆ ล่ะ?

แม้ว่าจะไม่ได้สังเกตที่ตัวของก็ตาม แต่เหล่าบอดี้การ์ดที่ ติดตามเขามาด้วยด้านหลังของเขานั้น จากท่าทางของพวกเขา แล้วสามารถดูออกเลยว่าพวกเราต่างก็ถูกฝึกในด้านนี้โดยตรง คนเหล่านี้จะอยู่ข้างกายคนแบบไหนกันนะ?

หากไม่ใช่นักธุรกิจขนาดใหญ่ ก็คงเป็นพวกมาเฟีย แต่ ว่า… ระดับของพวกเขาแต่ละคนนั้นไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
อากัปกิริยาของคุณชายอยู่ด้านหน้าแถมยังใส่สูทผูกไทด์ อย่างหรูหราเช่นนั้น ช่างไม่เหมือนกับพวกเขาแม้แต่นิดเดียว งั้นสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มีอยู่อย่างเดียว

เขาเป็นคนที่อยู่ในวงการด้านธุรกิจโดยตรง ยังมีอีก หลายคนที่มีอิทธิพลมาก คนที่อยู่ด้านหน้าของเขาเป็นคนที่ตัว เองไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ในใจของตัวเองชัดเจนกับเรื่อง พวกนี้เป็นอย่างดี เลยรีบตอบอย่างทันควัน “ไม่มีปัญหาครับ ไม่มีปัญหาเลย ตามสะดวกเลยครับ!

เสิ่นอีเวยถึงกับบ่นคิ้วเมื่อเห็นหัวหน้าแก๊งโค้งก้มหัวให้เขา ในใจกลับรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เพราะว่าที่เขาแสดงกัน ออกมามันไม่ใช่ เธอเลยถามกลับอย่างไม่มีการลังเลเลยด้วย : “พวกคุณหมายความว่ายังไง? ฉันจะไปหรือไม่ไป ไม่ จำเป็นที่ต้องให้พวกคุณมาคอยอนุญาตเข้าใจไหม? คุณพี่ทั้ง หลาย—

เงินอีเวยมองหน้าของหัวหน้าแก๊งที่ยังคงแสดงสีหน้าของ เขาอย่างชัดเจนพลางเอ่ยขึ้น “คนที่มีปัญหากับแกไม่ใช่ฉัน ด้วยซ้ำเป็นพวกเขาสองคนนั่นต่างหาก

หล่อนใช้คางพยักหน้าไปทางด้านสวีเส้าเหิงกับอมั่นมั่น

หัวโจกหัวล้านเหม่งเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าแล้วถึงกับ ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี ยิ่งฟังบทสนทนาที่ทั้งคู่คุยกันแล้ว ถึง รู้ได้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั้นไม่ใช่ปกติธรรมดาทั่วไป อย่างแน่นอน โดยเฉพาะคุณชายท่านนั้นยังคอยปกป้องผู้หญิงที่ชื่อว่า นอีเวยมาโดยตลอด งั้นตัวเองก็ไม่ควรที่จะทำอะไร

ให้เธอผิดใจไป

ทว่าสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั้น เขาแทบไม่ต้องพูด อะไร พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ปิดปากให้เงียบไว้ดีกว่าและไม่คิด ที่จะเปิดปากพูดอีกเลย

เพิ่งเจ๋อเฉิงเอาแต่เหล่ตามองเสิ่นอีเวยแล้วเอ่ยพูดกับเธอ “เธอไม่จำเป็นต้องให้เขาอนุญาตเลย แต่เดี๋ยวนี้เธอไม่ต้องให้ คนอย่างฉันอนุญาตอีกแล้วหรือไงกัน?

เสิ่นอีเวยได้ยินเสียงนิ่งๆที่ดังเข้าโสตประสาทหูถึงกลับ อึ้งไปสักพัก จากนั้นถึงได้คิดถึงสถานะของตัวเองที่เป็นอยู่ใน ขณะนี้ เธอต้องการให้ผู้ชายคนนี้มาช่วยเธอจัดการให้เธอหลุด พ้นจากตรงนี้ไปให้ได้ ถ้างั้น….หยุดทะเลาะกับเขาสักพักก็แล้ว กัน

ไม่งั้นเดี๋ยวเขาเกิดอาการรำคาญขึ้นมา วันนี้ตัวเธอจะหนี ไปจากที่นี่ได้ยังไง?

คิดได้ดังนั้น เป็นเวยถึงกลับปิดปากเงียบไม่คิดที่จะพูด อะไรต่อ ทว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงกลับจิกกัดเธอไม่ยอมปล่อย

เขายนคิ้วขึ้น สายตาที่ส่งมานั้นมีทั้งการซักไซ้ไถ่ถามไม่ เลิก “อ้าว แล้วนี่หมายความว่าไงเนี่ย? คุณเสิ่นยังไม่คิดที่จะ ขึ้นรถอีกหรอ จะดื้อด้านกับผมไปถึงไหนกัน?

ในใจของเสิ่นอีเวยถึงกับเต้น “ตึกตักโครมคราม หล่อนต้องอาศัยผู้ชายคนนี้เพื่อที่จะได้ออกไปจากที่นี่จริงๆ เธอมั่นใจ เลยว่าสถานที่ห่างไกลบ้านผู้คนเช่นนี้คงหารถที่จะติดรถไปได้ ยาก แต่เธอมั่นใจว่าตัวเองสามารถเรียกผู้ช่วยที่บริษัทให้มา รับตัวเธอได้

หลังจากที่เธอคิดวิธีแก้ปัญหานี้แล้ว เธอตอบกลับอย่าง ทันที “ขอแค่หัวหน้าเขาตกลงตามนั้นก็พอแล้ว ฉันไม่มีเหตุ จําเป็นที่ต้องขึ้นรถคุณเพื่อไปจากที่นี่ เพราะงั้น ฉันจะไม่ไปนั่ง รถของคุณ

ช่วงที่เธอกำลังพูดประโยคนั้นออกมา เธอพยายามอย่าง สุดกำลังที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเองเอาไว้ เพราะเธอไม่ อยากให้เพิ่งเจ๋อเฉิงรับรู้ความรู้สึกที่เธอกำลังตื่นเต้นอยู่

สิ่งที่เสิ่นอีเวยไม่อาจปฏิเสธได้เลยนั้นก็คือ ความรู้สึกที่อยู่ ในใจเธอว่าต้องอดทนเข้าไว้ เพราะเธอไม่รู้เลยว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงที่ กำลังฟังเธออยู่นั้นจะมีอาการตอบสนองกับคำพูดของเธอมา อย่างไร

เป็นไปตามที่ตัวเองคาดเดาเอาไว้ เธอมองคนอย่างเพิ่ง เจ๋อเฉิงไม่ผิดจริงๆ พอเธอพูดเสร็จสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปจน หน้าดำคร่ำเครียด ช่างดูไม่ได้เอาซะจริงๆ

ใจเสิ่นอีเวยถึงกับสั่นไม่หยุด เพราะจากนั้นเขาก็ขยับมา ใกล้เธอเรื่อย เธอไม่สามารถที่จะบังคับให้ขนตาตัวเองหยุดสั้น ได้สักที

“คุณ…คุณจะทำอะไร?” เสิ่นอีเวยพูดไปก็ก้าวถอยไปข้างหลังทั้งพยายามที่จะถามเขากลับ

สายตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่ส่องประกายออกมานั้นกลับดูเย็น ยะเยือกอย่างชัดเจน ดูเหมือนว่ากำลังโกรธขึ้นมา น้ำเสียงเขา กระแทกกระทั้น ทุกคำที่เขาพูดออกมานั้นช่างต้องอยู่ใน ประสาทหูและสะท้อนก้องไปยังหัวใจ

“ถึงคุณเสิ่นจะห่างจากผมไปสี่ปีเต็มก็ตาม แต่ก็ไม่ควรทำ

เรื่องที่ไม่เข้าใจผมแบบนั้นนะ? เธอเห็นฉันเป็นคนยังไงกันนะ

คนโง่หรอ? เธอตกลงปลงใจกับเงื่อนไขที่ฉันเสนอแล้ว งั้น

เธอก็เลยคิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆแบบนั้นหรอ? หากเธอ

หายไปแล้วเกิดอาการเสียใจขึ้นมาภายหลัง ถึงเวลานั้นฉันจะ

ไปหาเธอที่ไหนล่ะ?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงที่อยู่ดีๆก็พูดออกมาเป็นชุดขนาดนี้ พูดซะคนที่ กำลังกดดันอยู่อย่างเธอถึงกับตั้งตัวไม่ทัน

อีตาน ช่างเจ้าเล่ห์จริงๆ เสิ่นอีเวยได้แต่ด่าเขาอยู่ในใจ

แต่ในเวลานี้ เหมียนเหมียนได้หายไป เธอไม่สามารถที่ อยู่ให้ตัวเองตกไปอยู่ในมือของเพิ่งเจ๋อเฉิงได้ ฉะนั้นวันนี้เธอจะ ต้องไม่นั่งรถของอีตานีไปเป็นอันขาด ความคิดในสมองของ เธอแล่นฉิวอย่างรวดเร็วจนกลายมาเป็นแผนการของเธอใน ที่สุด

“คุณเชิง คำพูดของคุณเหมือนว่าออกตัวแรงไปนะ คน อย่างเป็นเวยไม่ใช่คนที่พูดแล้วคืนคำ คุณวางใจได้เลย ฉัน จำคำพูดของตัวเองได้ที่ตกลงรับเงื่อนไขของคุณเอาไว้แล้วเดี๋ยววันหลังฉันค่อยติดต่อกลับมาหาคุณอีกที

คําพูดของเล่นอีเวยที่พูดออกมาจากปากนั้นช่างพูดอย่าง จริงใจแถมอีกนิดเดียวก็มีน้ำตาหยดลงลงมาสักสองหยดแล้ว

เพิ่งเจ๋อเฉิงได้แต่หัวเราะแห้งแล้วเขยิบเข้าใกล้บริเวณใบหู ของเสิ่นอีเวยและใช้ริมฝีปากสัมผัสบริเวณใบหูของเธอเบาๆ แถมเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวลว่า เงินอีเวย เธอแสดงได้ไม่สม บทบาทเอาซะเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ