นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่ 123 ฉันอยากจะให้คุณชดใช้ด้วยชีวิต



บทที่123ฉันอยากจะให้คุณชดใช้ด้วย

ชีวิต

บทที่ 123 ฉันอยากจะให้คุณชดใช้ด้วยชีวิต

คำพูดของเสิ่นอีเวยที่เพิ่งจะสิ้นสุดลง ข้าง ๆ หูพลันใต้ยิน

เสียงแตกของโคมไฟ

เธอจึงได้ตกใจไปครู่หนึ่ง หันกลับไปมองปรากฏว่าเป็นเพ ราะเพิ่งเจ๋อเฉิงที่โกรธจนอยากจะอดทนได้เอามือไปปัดโคมไฟ บนโต๊ะวางของข้างเตียง หลอดไฟแตกละเอียดเป็นเม็ดทราย สายไฟก็ยังมีเสียงไฟฟ้าสถิตอยู่ ณ ตรงนั้น ทันทีทันใดนั้นห้อง นอนก็กลายเป็นห้องที่มืดมน

เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ยังคงจับตัวของเธอไว้อย่างแน่นอน ทำให้เธอ ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิดเดียว

ทั้งสองคนนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ พอผ่านไปสักครู่หนึ่ง ตาของเสิ่นอีเวยก็เริ่มปรับสภาพในที่มืดได้ แต่ว่าเขาก็ยังคงไม่ สามารถมองเห็นเพิ่งเจ๋อเฉิงได้อย่างชัดเจนนัก เธอเห็นเพียง แต่แสงแวววับจากรูม่านตาของเขา

เสิ่นอีเวยมีความรู้สึกนึ่งไปสักครู่หนึ่ง แอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ น่าแปลกประหลาดยิ่งนัก ทำให้ความรู้สึกของคนและการใช้ ร่างกายกลายเป็นคนเลอะเลือนได้ แต่กลับทำให้สายตาของ คน ๆ หนึ่งกลับสว่างไสวขึ้นมา บทที่123ฉันอยากจะให้คุณชดใช้ด้วย

ชีวิต

บทที่ 123 ฉันอยากจะให้คุณชดใช้ด้วยชีวิต

คำพูดของเสิ่นอีเวยที่เพิ่งจะสิ้นสุดลง ข้าง ๆ หูพลันใต้ยิน

เสียงแตกของโคมไฟ

เธอจึงได้ตกใจไปครู่หนึ่ง หันกลับไปมองปรากฏว่าเป็นเพ ราะเพิ่งเจ๋อเฉิงที่โกรธจนอยากจะอดทนได้เอามือไปปัดโคมไฟ บนโต๊ะวางของข้างเตียง หลอดไฟแตกละเอียดเป็นเม็ดทราย สายไฟก็ยังมีเสียงไฟฟ้าสถิตอยู่ ณ ตรงนั้น ทันทีทันใดนั้นห้อง นอนก็กลายเป็นห้องที่มืดมน

เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ยังคงจับตัวของเธอไว้อย่างแน่นอน ทำให้เธอ ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิดเดียว

ทั้งสองคนนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ พอผ่านไปสักครู่หนึ่ง ตาของเสิ่นอีเวยก็เริ่มปรับสภาพในที่มืดได้ แต่ว่าเขาก็ยังคงไม่ สามารถมองเห็นเพิ่งเจ๋อเฉิงได้อย่างชัดเจนนัก เธอเห็นเพียง แต่แสงแวววับจากรูม่านตาของเขา

เสิ่นอีเวยมีความรู้สึกนึ่งไปสักครู่หนึ่ง แอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ น่าแปลกประหลาดยิ่งนัก ทำให้ความรู้สึกของคนและการใช้ ร่างกายกลายเป็นคนเลอะเลือนได้ แต่กลับทำให้สายตาของ คน ๆ หนึ่งกลับสว่างไสวขึ้นมา ผ่านไปชั่วครู่ไหญ่ ๆ เสียงของเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้เปล่งออกมา จากด้านบนของเธอ ออกพูดออกมาเธอก็ได้กลิ่นของสุราอย่าง ชัดเจน

“เป็นเพราะคุณปู่บอกสิ่งพวกนี้ให้คุณใช่ไหม ? ”

เสิ่นอีเวยตอบด้วยเสียงเงียบ ๆ ว่า “ใช่”

อารมณ์ของเซิ่งเจ๋อเฉินเริ่มค่อย ๆ กลับมาคงที่แล้ว สอง คนนั้นถูกขั้นด้วยความมืดของความสับสนวุ่นวาย ใครก็ไม่ เข้าใจใครเลย แต่ว่ายิ่งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ชัดเจนเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้มนุษย์นั้นสามารถนำความในใจออกมา

“เพราะอะไร.. เพราะอะไรต้องบังคับฉัน ?”

เสิ่นอีเวยไม่รู้ว่าตัวเองนั้นฟังอะไรผิดไปหรือเปล่า น้ำเสียง ของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่มีความอ่อนแออยู่ข้างในนั้น ทำให้ใจของเธอ รู้สึกตกใจ

ผู้ชายอย่างเชิ่งเจ๋อเฉิงก็ยังมีการใช้น้ำเสียงเช่นนี้ ทำให้เสี่ นอีเวยมีความรู้สึกแปลกไป เขา…น่าจะดื่มเมาไปแล้วแน่ ๆ เลยใช่ไหมนะ ? ไม่งั้นเขาจะแสดงออกถึงความอ่อนแอได้ อย่างไร ?

เสิ่นอีเวยเงียบอยู่ภายใต้ความมืดไปสักครู่หนึ่ง ไม่ได้ ตอบอะไร เธอได้ยกมือข้างขวาขึ้นได้รูปท้องน้อยของเธอ เพราะในนั้นเคยมีชีวิตเล็ก ๆ อยู่หนึ่งชีวิต ในใจของเธอทุก ขณะอยากจะรักษาชีวิตน้อย ๆ นี้แต่ว่าเขากลับไม่ได้เห็นเสีย แล้ว ในนั้นกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ซึ่งทำให้ใจของเสี่ ผ่านไปชั่วครู่ไหญ่ ๆ เสียงของเพิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้เปล่งออกมา จากด้านบนของเธอ ออกพูดออกมาเธอก็ได้กลิ่นของสุราอย่าง ชัดเจน

“เป็นเพราะคุณปู่บอกสิ่งพวกนี้ให้คุณใช่ไหม ? ”

เสิ่นอีเวยตอบด้วยเสียงเงียบ ๆ ว่า “ใช่”

อารมณ์ของเซิ่งเจ๋อเฉินเริ่มค่อย ๆ กลับมาคงที่แล้ว สอง คนนั้นถูกขั้นด้วยความมืดของความสับสนวุ่นวาย ใครก็ไม่ เข้าใจใครเลย แต่ว่ายิ่งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ชัดเจนเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้มนุษย์นั้นสามารถนำความในใจออกมา

“เพราะอะไร.. เพราะอะไรต้องบังคับฉัน ?”

เสิ่นอีเวยไม่รู้ว่าตัวเองนั้นฟังอะไรผิดไปหรือเปล่า น้ำเสียง ของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่มีความอ่อนแออยู่ข้างในนั้น ทำให้ใจของเธอ รู้สึกตกใจ

ผู้ชายอย่างเชิ่งเจ๋อเฉิงก็ยังมีการใช้น้ำเสียงเช่นนี้ ทำให้เสี่ นอีเวยมีความรู้สึกแปลกไป เขา…น่าจะดื่มเมาไปแล้วแน่ ๆ เลยใช่ไหมนะ ? ไม่งั้นเขาจะแสดงออกถึงความอ่อนแอได้ อย่างไร ?

เสิ่นอีเวยเงียบอยู่ภายใต้ความมืดไปสักครู่หนึ่ง ไม่ได้ ตอบอะไร เธอได้ยกมือข้างขวาขึ้นได้รูปท้องน้อยของเธอ เพราะในนั้นเคยมีชีวิตเล็ก ๆ อยู่หนึ่งชีวิต ในใจของเธอทุก ขณะอยากจะรักษาชีวิตน้อย ๆ นี้แต่ว่าเขากลับไม่ได้เห็นเสีย แล้ว ในนั้นกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ซึ่งทำให้ใจของเสี่ นอร์เวย์ว่างเปล่าไปด้วย

ความรู้สึกของการแก้แค้นก็ได้เริ่มเข้ามาในความคิดใน ทันทีทันใด สายตาของเสิ่นอีเวยมองบนฝ้าเพดาน เธอได้ กัดฟันและตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง เธอจะเปิด ปากพูดว่า “เพราะว่าชั้นอยากให้คุณลิ้มรสชาติของความเจ็บ ปวด แผลที่ถูกเปิดสด ๆ มันมีความรู้สึกอย่างไร !”

เสิ่นอีเวยรู้ตัวดีกว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นทับอยู่บนตัวของเธอ แต่ ว่าในเวลานี้หัวใจสมองของเธอมีแต่เสียงคำรามที่เกรี้ยวกราด พันหมื่นคำพูดประโยคล้วนออกมาจากความเร่าร้อนจากอกขึ้น มายังบนลำคอ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกอยากจะนำคำพูดเหล่านี้พูด ออกมาให้หมดอย่างที่จะอดทนรอไม่ได้

“ทำไม นายก็รู้สึกเจ็บเป็นด้วยหรอ ? แต่ว่านายเจ็บกว่า ขั้นหรอ ? แท้จริงแล้วนายไม่ได้รู้อะไรเลย.”

ผ่านไปช้า ๆ เสิ่นอีเวยก็ได้พูดอย่างไม่มีลำดับ

“ชั้นรักลูกคนนั้นมากแค่ไหน แต่ว่านายล่ะ ? ถ้าหากไม่ใช่ เพราะนาย ชั้นคงไม่ได้พบเจอเรื่องอะไรแบบนั้นที่เขาหวินมู่ หรอก ชั้นก็คงไม่เสียเขาไป..เซิ่งเจ๋อเฉิง…”

ฉันอยากจะให้คุณชดใช้ด้วยชีวิต

คำนี้เป็นคำที่ถูกฝังลึกลงไปในใจของเสิ่นอีเวย แต่ สุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดมันออกมา เพราะว่าเธอรู้ว่าการชดใช้ ด้วยชีวิตซึ่งเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์แล้ว นอร์เวย์ว่างเปล่าไปด้วย

ความรู้สึกของการแก้แค้นก็ได้เริ่มเข้ามาในความคิดใน ทันทีทันใด สายตาของเสิ่นอีเวยมองบนฝ้าเพดาน เธอได้ กัดฟันและตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง เธอจะเปิด ปากพูดว่า “เพราะว่าชั้นอยากให้คุณลิ้มรสชาติของความเจ็บ ปวด แผลที่ถูกเปิดสด ๆ มันมีความรู้สึกอย่างไร !”

เสิ่นอีเวยรู้ตัวดีกว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นทับอยู่บนตัวของเธอ แต่ ว่าในเวลานี้หัวใจสมองของเธอมีแต่เสียงคำรามที่เกรี้ยวกราด พันหมื่นคำพูดประโยคล้วนออกมาจากความเร่าร้อนจากอกขึ้น มายังบนลำคอ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกอยากจะนำคำพูดเหล่านี้พูด ออกมาให้หมดอย่างที่จะอดทนรอไม่ได้

“ทำไม นายก็รู้สึกเจ็บเป็นด้วยหรอ ? แต่ว่านายเจ็บกว่า ขั้นหรอ ? แท้จริงแล้วนายไม่ได้รู้อะไรเลย.”

ผ่านไปช้า ๆ เสิ่นอีเวยก็ได้พูดอย่างไม่มีลำดับ

“ชั้นรักลูกคนนั้นมากแค่ไหน แต่ว่านายล่ะ ? ถ้าหากไม่ใช่ เพราะนาย ชั้นคงไม่ได้พบเจอเรื่องอะไรแบบนั้นที่เขาหวินมู่ หรอก ชั้นก็คงไม่เสียเขาไป..เซิ่งเจ๋อเฉิง…”

ฉันอยากจะให้คุณชดใช้ด้วยชีวิต

คำนี้เป็นคำที่ถูกฝังลึกลงไปในใจของเสิ่นอีเวย แต่ สุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดมันออกมา เพราะว่าเธอรู้ว่าการชดใช้ ด้วยชีวิตซึ่งเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์แล้ว “ดังนั้น ความหมายของคุณคือคุณท้องลูกกับผู้ชายคนอื่น ? แต่ฉันจะยังต้องมีใจในการปกป้องเขารี ? ”

น้ำเสียงอันเยือกเย็นที่ไม่นึกถึงความเป็นมนุษย์ได้เข้าสู่หู ของเสิ่นอีเวยโดยตรง ในใจของเธอกลับไม่สามารถควบคุม ตนเองได้จนสั่นไปหมด ซึ่งตามมาด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ใจที่ไม่สามารถจะปิดบังได้อีกต่อไป

เป็นเพียงเพราะคำพูดของเชิ่งเจ๋อเฉิง ทำให้เส้นอีเวยสัน ไปครึ่งตัวโดยไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง มือทั้ง สองข้างจับเสื้อตรงหน้าอกอยากรุนแรง ทำให้เล็บนิ้วมือนั้น เกือบจะสามารถเจาะทะลุผ่านเสื้อผ้าไปได้และทะลุไปจนถึงใน

จิตใจของเธอ

ในที่สุด เสิ่นอีเวยรู้ว่ามันไม่ค่อยถูกต้อง…ความเจ็บ ปวดแบบนี้เหมือนกับความรู้สึกกำลังจะหยุดหายใจ ไม่ใช่ เพราะว่าคำพูดของเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นได้ทำร้ายเธอ

แต่เป็นเพราะโรคของเธอได้กำเริบอีกครั้ง

ในระยะเวลาอันนั้น เสิ่นอีเวยกลับแสดงท่าทีที่ กระวนกระวาย ณ เวลานั้นเธอไม่ได้ไปนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาหรือ คำพูดของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่พูดไปเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้เธอเพียงแต่ อยากจะผลักเขาออกไป ยาระงับความปวดอยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ เตียงนอนในลิ้นชักนั้น เธอจำเป็นที่จะต้องเอามาให้ได้

ชัดเจนว่าฤดูนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง เวลากลางคืนอุณหภูมิเริ่ม ลดลง แต่เพราะว่ารู้สึกข่มขื่นเหลือคนานับ หน้าผากของเสี่ “ดังนั้น ความหมายของคุณคือคุณท้องลูกกับผู้ชายคนอื่น ? แต่ฉันจะยังต้องมีใจในการปกป้องเขารี ? ”

น้ำเสียงอันเยือกเย็นที่ไม่นึกถึงความเป็นมนุษย์ได้เข้าสู่หู ของเสิ่นอีเวยโดยตรง ในใจของเธอกลับไม่สามารถควบคุม ตนเองได้จนสั่นไปหมด ซึ่งตามมาด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ใจที่ไม่สามารถจะปิดบังได้อีกต่อไป

เป็นเพียงเพราะคำพูดของเชิ่งเจ๋อเฉิง ทำให้เส้นอีเวยสัน ไปครึ่งตัวโดยไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง มือทั้ง สองข้างจับเสื้อตรงหน้าอกอยากรุนแรง ทำให้เล็บนิ้วมือนั้น เกือบจะสามารถเจาะทะลุผ่านเสื้อผ้าไปได้และทะลุไปจนถึงใน

จิตใจของเธอ

ในที่สุด เสิ่นอีเวยรู้ว่ามันไม่ค่อยถูกต้อง…ความเจ็บ ปวดแบบนี้เหมือนกับความรู้สึกกำลังจะหยุดหายใจ ไม่ใช่ เพราะว่าคำพูดของเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นได้ทำร้ายเธอ

แต่เป็นเพราะโรคของเธอได้กำเริบอีกครั้ง

ในระยะเวลาอันนั้น เสิ่นอีเวยกลับแสดงท่าทีที่ กระวนกระวาย ณ เวลานั้นเธอไม่ได้ไปนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาหรือ คำพูดของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่พูดไปเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้เธอเพียงแต่ อยากจะผลักเขาออกไป ยาระงับความปวดอยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ เตียงนอนในลิ้นชักนั้น เธอจำเป็นที่จะต้องเอามาให้ได้

ชัดเจนว่าฤดูนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง เวลากลางคืนอุณหภูมิเริ่ม ลดลง แต่เพราะว่ารู้สึกข่มขื่นเหลือคนานับ หน้าผากของเสี่ นีเวียเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดใหญ่ ๆ กระทั่งเธอสามารถรู้สึกได้ อย่างชัดเจนว่าเหงื่อนั้นไหลไปทั่วร่างกายของเขา

เขาได้ยื่นมือเพื่อจะผลักเซิ่งเจ๋อเฉิงให้พ้ไป แต่ว่ากลับไม่ สามารถทำให้พ้นไปได้ “ออก .. ออกไป.”

ลักษณะสายตาในตอนนั้น เสิ่นอีเวยรู้ดีกว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงมี ความหมายว่าจะไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน แต่ว่าเจ็บปวด นั้นยิ่งรุนแรงขึ้น ในที่สุด เธอก็หมดเหตุผลที่จะอดทนอีกต่อไป ในภายใต้ความมืดมนได้คลำหาไหล่ของเซิ่งเจ๋อเฉิงและได้กัด อย่างรุนแรงลงไปด้วยความบ้าคลั่ง

เสิ่นอีเวยได้ใช้พละกำลังที่มากมาย แต่กลับไม่ได้ยินเสียง ของเขาแม้แต่นิดเดียว เสิ่นอีเวนต์จึงจะกลับมาคิดได้ว่าเป็น เพราะเขาดื่มเหล้ามากไป ทำให้การรับรู้ทางความรู้สึกชิ้นชา ไปหมดแล้ว เลยทำให้ไม่มีความรู้สึกเจ็บอะไร

แต่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงได้เห็นเสิ่นอีเวยทำการกัดเขา ทำให้ สีหน้าได้เปลี่ยนจนหน้าดูไม่ได้ไปขณะหนึ่ง สายตาของเธอราว กลับมีดดาบเช่นนั้นมองหน้าของเสิ่นอีเวย เธอเหมือนว่าจะรู้สึก อะไรบางอย่าง เลยได้ผลักเขาไปอีกครั้งหนึ่ง

แต่ ณ ขณะนี้เชิ่งเจ๋อเฉิงได้ใช้ปากที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า จูบลงไปบนริมฝีปากของเสิ่นอีเวย เสิ่นอีเวยตกใจจนลืมตาโต ขึ้นมา แต่ว่าความเจ็บปวดของร่างกายที่สะท้อนกลับมายิ่ง รุนแรงขึ้น และเพิ่มด้วยน้ำหนักตัวของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่เพิ่มมาอย่าง ไม่ทันตั้งตัว ยิ่งทำให้เธอไม่สามารถหายใจได้ นีเวียเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดใหญ่ ๆ กระทั่งเธอสามารถรู้สึกได้ อย่างชัดเจนว่าเหงื่อนั้นไหลไปทั่วร่างกายของเขา

เขาได้ยื่นมือเพื่อจะผลักเซิ่งเจ๋อเฉิงให้พ้ไป แต่ว่ากลับไม่ สามารถทำให้พ้นไปได้ “ออก .. ออกไป.”

ลักษณะสายตาในตอนนั้น เสิ่นอีเวยรู้ดีกว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงมี ความหมายว่าจะไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน แต่ว่าเจ็บปวด นั้นยิ่งรุนแรงขึ้น ในที่สุด เธอก็หมดเหตุผลที่จะอดทนอีกต่อไป ในภายใต้ความมืดมนได้คลำหาไหล่ของเซิ่งเจ๋อเฉิงและได้กัด อย่างรุนแรงลงไปด้วยความบ้าคลั่ง

เสิ่นอีเวยได้ใช้พละกำลังที่มากมาย แต่กลับไม่ได้ยินเสียง ของเขาแม้แต่นิดเดียว เสิ่นอีเวนต์จึงจะกลับมาคิดได้ว่าเป็น เพราะเขาดื่มเหล้ามากไป ทำให้การรับรู้ทางความรู้สึกชิ้นชา ไปหมดแล้ว เลยทำให้ไม่มีความรู้สึกเจ็บอะไร

แต่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงได้เห็นเสิ่นอีเวยทำการกัดเขา ทำให้ สีหน้าได้เปลี่ยนจนหน้าดูไม่ได้ไปขณะหนึ่ง สายตาของเธอราว กลับมีดดาบเช่นนั้นมองหน้าของเสิ่นอีเวย เธอเหมือนว่าจะรู้สึก อะไรบางอย่าง เลยได้ผลักเขาไปอีกครั้งหนึ่ง

แต่ ณ ขณะนี้เชิ่งเจ๋อเฉิงได้ใช้ปากที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า จูบลงไปบนริมฝีปากของเสิ่นอีเวย เสิ่นอีเวยตกใจจนลืมตาโต ขึ้นมา แต่ว่าความเจ็บปวดของร่างกายที่สะท้อนกลับมายิ่ง รุนแรงขึ้น และเพิ่มด้วยน้ำหนักตัวของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่เพิ่มมาอย่าง ไม่ทันตั้งตัว ยิ่งทำให้เธอไม่สามารถหายใจได้ เชิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนกับสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่ง อีกมุมหนึ่งก็ เหมือนจงใจจะลงโทษเสิ่นอีเวย ปากที่ตกลงสู้ริมฝีปากของเธอ คงจะเรียกว่าจูบไม่ได้แล้ว แต่เหมือนกับการกัด เสิ่นอีเวยเจ็บ จนถึงขั้นที่แม้ขนาดฟันยังสั่น เธอเพียงแต่รู้ว่าตอนนี้จะต้องรีบ ไปกินยา แต่ว่าร่างกายของเซิ่งเจ๋อเฉิงได้กดทับอยู่บนเรือนร่าง เขาเธอควรจะทำอย่างไรดี…

ในสถานการณ์ที่คับขัน เสิ่นอีเวยได้คลำหาสิ่งของที่แข็ง มาก ๆ หนึ่งชิ้น เธอแม้แต่คิดก็ไม่ได้คิดหรือเตรียมพร้อมอะไรก็ เอาของนั้นทุบลงบนหัวของเซิ่งเจ๋อ เฉิน พอยกมือขึ้นมา ศีรษะ ของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็เอียงไปข้างร่างกายก็ไม่ได้มีการขยับเขยื้อน แล้ว ซึ่งในตอนนี้กลับไม่มีคนที่บ้าคลั่งแล้ว

เสิ่นอีเวยได้ดูสภาพไปรอบ ๆ

เธอไม่ทันได้มาดูด้วยซ้ำว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงแท้จริงแล้วนั้นเกิด อะไรขึ้น แต่เป็นเขาที่ผลักตัวเองออกไป เกือบจะโค้งตัวลงไป นอนกับเตียง และหาเจอยาระงับความปวด ซึ่งได้ยกแก้วน้ำดื่ม ไปพร้อมกับยา

ร่างกายของเธอก็ล้มลงไปนั่งกับพื้น ผ่านไปแล้วประมาณ ยี่สิบหน้าที่ เขาจะยื่นมือข้างที่เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้ดึงล้มลงไป ไป เปิดไฟ ในห้องที่มืดมิดสักครู่หนึ่งห้องก็เต็มไปด้วยแสงไฟสี เหลืองอ่อน ๆ

ร่างกายที่เจ็บปวดค่อย ๆ ได้รับการผ่อนคลาย ภายใน

ระยะเวลาของความเงียบนั้น เซิ่งเจ๋อเฉิงที่นอนอยู่บนเตียงก็ไม่ เชิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนกับสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่ง อีกมุมหนึ่งก็ เหมือนจงใจจะลงโทษเสิ่นอีเวย ปากที่ตกลงสู้ริมฝีปากของเธอ คงจะเรียกว่าจูบไม่ได้แล้ว แต่เหมือนกับการกัด เสิ่นอีเวยเจ็บ จนถึงขั้นที่แม้ขนาดฟันยังสั่น เธอเพียงแต่รู้ว่าตอนนี้จะต้องรีบ ไปกินยา แต่ว่าร่างกายของเซิ่งเจ๋อเฉิงได้กดทับอยู่บนเรือนร่าง เขาเธอควรจะทำอย่างไรดี…

ในสถานการณ์ที่คับขัน เสิ่นอีเวยได้คลำหาสิ่งของที่แข็ง มาก ๆ หนึ่งชิ้น เธอแม้แต่คิดก็ไม่ได้คิดหรือเตรียมพร้อมอะไรก็ เอาของนั้นทุบลงบนหัวของเซิ่งเจ๋อ เฉิน พอยกมือขึ้นมา ศีรษะ ของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็เอียงไปข้างร่างกายก็ไม่ได้มีการขยับเขยื้อน แล้ว ซึ่งในตอนนี้กลับไม่มีคนที่บ้าคลั่งแล้ว

เสิ่นอีเวยได้ดูสภาพไปรอบ ๆ

เธอไม่ทันได้มาดูด้วยซ้ำว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงแท้จริงแล้วนั้นเกิด อะไรขึ้น แต่เป็นเขาที่ผลักตัวเองออกไป เกือบจะโค้งตัวลงไป นอนกับเตียง และหาเจอยาระงับความปวด ซึ่งได้ยกแก้วน้ำดื่ม ไปพร้อมกับยา

ร่างกายของเธอก็ล้มลงไปนั่งกับพื้น ผ่านไปแล้วประมาณ ยี่สิบหน้าที่ เขาจะยื่นมือข้างที่เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้ดึงล้มลงไป ไป เปิดไฟ ในห้องที่มืดมิดสักครู่หนึ่งห้องก็เต็มไปด้วยแสงไฟสี เหลืองอ่อน ๆ

ร่างกายที่เจ็บปวดค่อย ๆ ได้รับการผ่อนคลาย ภายใน

ระยะเวลาของความเงียบนั้น เซิ่งเจ๋อเฉิงที่นอนอยู่บนเตียงก็ไม่ ได้พูดอะไรมากมาย เสิ่นอีเวยก็ได้รอเพียงแต่ตัวเองมีพละกำลัง มากพอที่จะพาตัวเองลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง และได้เดินไปหาเซิ่ง เจ๋อเฉิงอย่างช้า ๆ และได้มองเขา

ผมเผ้าของเขายุ่งเหยิง การหายใจที่หนักแต่กลับ สม่ำเสมอ โดยทั้งหมดแล้วเป็นความเมาเป็นเหตุ เลยหันหัว แล้วก็นอนหลับไป

เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตัวเองนั้นได้ผ่อนคลายไปอีกหนึ่งของการ หายใจ หากว่าเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้เมาแล้วหลับไป แต่เป็นการที่ เขาได้เห็นเธอกินยาแก้ปวด เช่นนั้นเขาคงจะต้องถามเธออย่าง แน่นอน

ยังดี ที่ไม่ได้เกิดขึ้น ได้พูดอะไรมากมาย เสิ่นอีเวยก็ได้รอเพียงแต่ตัวเองมีพละกำลัง มากพอที่จะพาตัวเองลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง และได้เดินไปหาเซิ่ง เจ๋อเฉิงอย่างช้า ๆ และได้มองเขา

ผมเผ้าของเขายุ่งเหยิง การหายใจที่หนักแต่กลับ สม่ำเสมอ โดยทั้งหมดแล้วเป็นความเมาเป็นเหตุ เลยหันหัว แล้วก็นอนหลับไป

เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตัวเองนั้นได้ผ่อนคลายไปอีกหนึ่งของการ หายใจ หากว่าเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้เมาแล้วหลับไป แต่เป็นการที่ เขาได้เห็นเธอกินยาแก้ปวด เช่นนั้นเขาคงจะต้องถามเธออย่าง แน่นอน

ยังดี ที่ไม่ได้เกิดขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ