นายเป็นแค่สามีเก่า

ตอนที่ 92 ขอร้องช่วยฉันที



ตอน92ขอร้องช่วยฉันที

ตอนที่ 92 ขอร้องช่วยฉันที

ถึงแม้ว่าตอนนี้เหตุการณ์จะคับขัน แต่ในใจของเสิ่นอีเว ยก็เหมือนกำลังยืนอยู่กลางอากาศ เป็นเพราะเสิ่นอีเวยเองไม่ ได้เห็นชื่อเซียวหันถึงมานานแล้ว

เสิ่นอีเวยไม่มีเวลามาคิดหรอกว่า ทำไมอยู่ ๆ เชียวหันถึง ถึงโทรมา รู้ก็เปรียบเสมือน กับฟางเส้นจากอันตราย และนำพาอันตรายแสงสว่าง อย่าง น้อยทำให้เขาได้

เสิ่นอีเวยรีบรับด้วยน้ำเสียงอันสั่น ฮัลโหล ” กำลังรับโทรศัพท์ ทันใดนั้นเขาก็มีสีหน้าที่เหี้ยมโหดขึ้นมา ชายคนขับรถจึงหมุน พวงมาลัยอย่างแรง รถจึงชนทางซ้ายที่ทางก็ยิ่งทำให้เสี่ นอีเวยรู้สึกตกใจ

ฮัลโหล คุณเสิ่น คุณ น้ำเสียงในโทรศัพท์ฟังแล้วราบ

เรียบ

ผู้จัดการเซียว ฉันรู้ดีว่าคำขอของฉันอาจฟังดูแล้วเหตุผลสิ้นดี แต่ฉันไม่มีทางเลือก ช่วยฉันด้วย ขอร้องล่ะ ฉันถูก คนจับตัวมา ” เสิ่นอีเวยรู้ดีว่าสถานการณ์มันจึงได้พูดตัดบทไม่ปล่อยให้เซียวหันถึงได้พูดต่อ

เสิ่นอีเวยใจเย็นลงแล้วบอกเลขทะเบียนรถกับเส้นทางที่ รถได้ขับผ่านมาแล้ว

ทางฝ่ายเซียวหันถึงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า 4 ขอ เวลาฉันสักหน่อย อย่าเพิ่งวางสายนะ ดูแลตัวเองให้ดีด้วย”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทั้ง ๆ ที่เราสองคนก็ไม่ได้มีความ ผูกพันที่ลึกซึ้งมากนัก แต่ในช่วงเวลานี้เสิ่นอีเวยกลับมีความ เชื่อใจในตัวเซียวหันถึงอย่างไร้เหตุผล หรืออาจเป็นเพราะเสิ่ นอีเวยรู้ดีว่าเชียวหันถึงนั้นสามารถช่วยเหลือเขาได้อย่าง แน่นอน

หรืออาจเป็นเพราะถ้านอกจากเชียวหันถึงแล้วก็ไม่ สามารถไปขอความช่วยเหลือจากใครได้อีก ช่างน่าสงสารจริง ๆ ไม่รู้ว่าถ้าเพิ่งเจ๋อเฉิงจอมเย่อหยิ่งรู้เรื่องนี้เข้า ก็ไม่รู้ว่าจะต้อง ตกอยู่ในสภาพอย่างไร

ในสายโทรศัพท์เซียวหันถึงบอกกับเสิ่นอีเวยให้ดูแล ความปลอดภัยของตัวเอง เสิ่นอีเวยจึงคิดว่าควรจะทำอย่างไร ต่อไปดี เพราะดูจากการขับรถของผู้ชายคนนี้ ดูแล้วไม่มีท่าทีจะ หยุดรถ เสิ่นอีเวยรู้สึกคุ้น ๆ กับถนนเส้นนี้มาก เพียงแต่ไม่รู้ว่า เขากำลังจะพาไปที่ไหน

เสิ่นอีเวยถือโทรศัพท์แนบไว้ที่หูด้วยความระแวดระวัง เพื่อรอฟังข่าวคราวจากทางเชียวหันถึง เสิ่นอีเวยได้ยินอย่าง ชัดเจนว่าเขียวหันถึงใช้มือถืออีกเครื่องโทรหาใครสักคนเหมือนกับกำลังบอกอะไรสักอย่าง เสิ้นอีเวยใด้ยินเชียวหันถึง พูดประมาณว่า กำลังจะบอกเลขทะเบียนรถกับโลเคชั่น

รถขับมาด้วยความเร็วสูง จนเสิ่นอีเวยเห็นทิวทัศน์ด้าน นอกรถไม่ชัดเจน เขาจึงชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถเพื่อ ดูทาง เป็นเพราะรถวิ่งเร็วเกินไป พอมองออกไปก็เห็นเพียงถนน ที่เป็นเส้นตรงซึ่งทอดยาวออกไปเป็นเส้น ๆ อยู่ ๆ เสิ่นอีเวยก็ นึกถึงเรื่องที่เคยกระโดดลงจากรถของเชิ่งเจ๋อเฉิง

ในตอนนั้นความเร็วรถของเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่เร็วถึงขนาดนี้ แต่ พอกระโดดลงไปหน้าผากกับขายังได้รับบาดเจ็บเลย

แต่ครั้งนี้เพื่อเอาชีวิตรอด เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าไม่มีเวลาให้ คิดมาก ถ้ากระโดดลงไปตอนนี้อย่างน้อยยังช่วยยืดระยะเวลา ได้อีกสักหน่อย ไม่แน่อาจจะรอให้เชียวหันถึงมาช่วยได้ แต่ถ้า ปล่อยให้ชายผู้นี้ขับรถไปเรื่อย ๆ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปถึงที่ไหน ถึงเวลานั้นอาจไม่มีโอกาสรอดก็เป็นได้

หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เสิ่นอีเวยกัดฟันเปิดประตูรถ ออกไป เป็นเพราะอยู่ในช่วงฤดูร้อน ลมร้อนจากข้างนอกจึง ปะทะเข้ามา

เสิ่นอีเวยนับในใจเบา ๆ ” หนึ่ง สอง สาม ” พอนับถึง เลขสาม เขาก็กำโทรศัพท์ไว้แน่นแล้วกระโดดออกจากรถ

” อ้าย ” เสียงเสิ่นอีเวยร้องออกมาด้วยความกลัว

เชียวหันถึงที่อยู่ในสายโทรศัพท์ พอได้ยินเสียงร้องของ เงินอีเวยอย่างชัดเจน ก็ถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงว่า เป็นยังไงบ้าง เกิดอะไรขึ้น ”

เสิ่นอีเวยไม่ทันได้ตอบ ตัวเขาเองก็เสียหลักอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ตามมาคือความเจ็บปวดไปทั้งตัว เพราะตัวของเสินอีเวย ไปดูเข้ากับพื้นอย่างจัง และอุณหภูมิของพื้นมันก็ร้อนมาก ขนาดแค่ผิวหนังที่ปะทะกับแสงแดดข้างนอกก็ยังรู้สึกร้อนเลย

รถวิ่งไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นรถก็พุ่งออกไปข้างหน้า ไป ชนกับเสาที่ล้มอยู่ห่างจากจุดที่เสิ่นอีเวยกระโดดลงประมาณ 20 กว่าเมตร ขณะนั้นก็ได้ยินเสียงเบรครถอย่างแรง

ตอนกระโดดลงจากรถเสิ่นอีเวยเอามือกันไว้ที่หัว ตัวเขา เองก็กลิ้งไปไกลมาก ตัวเขาได้รับความเจ็บปวด ยากที่จะอดทน ได้ สมองของเขาเหมือนชนกับก้อนหินก้อนใหญ่ ในวินาทีนั้น รู้สึกเวียนหัวสุด ๆ

เพราะว่าระแวกนี้เป็นเขตชานเมือง เพราะฉะนั้นนอกจาก ชายคนนั้นแล้ว ก็ไม่มีรถของใครเลย จากที่คิดไว้ว่าพอกระโดด ลงจากรถแล้วจะขอความช่วยเหลือ จึงไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้

เสิ่นอีเวยพยายามลุกขึ้นมาจากพื้นถนนที่เต็มไปด้วย โคลน แล้ววิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต ระหว่างที่วิ่งไปก็หัน หลังไปมองชายคนนั้น ดูเหมือนว่ารถของชายผู้นั้นจะพังซะแล้ว ไม่สามารถที่จะขับต่อไปได้ เสิ่นอีเวยก็รู้สึกแอบดีใจ

ผู้ชายที่วิ่งตามมาข้างหลังเหมือนกับกำลังโทรคุยกับใคร อยู่ เส้นอีเวยเดาว่าคงคุยกับคนที่ว่าจ้างมาจับตัวเขา

พอวิ่งไปเรื่อย ๆ เสิ่นอีเวยเริ่มรู้สึกหมดแรง คงเพราะเมื่อสักครู่ที่กระโดดลงจากรถขาของเขาได้รับบาตเจ็บ บวกกับคน ที่วิ่งตามเสิ่นอีเวยมาก็เป็นผู้ชาย ระยะห่างระหว่างชายผู้นั้นกับ เสิ่นอีเวยห่างกันไม่มาก เสิ่นอีเวยรู้สึกตกใจมาก และตะโกน บอกในโทรศัพท์ว่า ” ฉันกระโดดลงมาจากรถแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ ฟาร์มร้างแห่งหนึ่ง ”

เสิ่นอีเวยสอดสายสายตามองไปทั่ว ๆ ” ฉันเป็นป้ายแล้ว มันเขียนว่า ฟาร์มเจ้งซิ่ง ”

เชียวหันถึงที่อยู่ในสายโทรศัพท์ พอได้ยินว่าเสิ่นอีเวยกระ โดดลงจากรถ เซียวหันถึงก็รู้สึกเหมือนมีคนมาบีบที่หัวใจ ใน ชีวิตไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกที่ต้องมากระ วนกระวายเป็นห่วงผู้หญิงคนหนึ่งที่เจอหน้ากันแค่ไม่กี่ครั้ง

ท่าทางเรื่องมันซักจะน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสิ

เชียวหันถึงพลางคิดและเม้มที่มุมปาก ส่วนขาก็เหยียบคัน เร่ง ความเร็วรถก็เร็วมากขึ้น สายตาของเขาเต็มไปด้วย ประกายแห่งความมุ่งมั่น สายตามองมุ่งตรงไปข้างหน้า ” ตูแล ตัวเองให้ดี ฉันกำลังไปหาเธอให้เร็วที่สุด”

คำพูดของเซียวหันถึงเหมือนกับเป็นยาอย่างดีที่ทำให้ใจ ของเสิ่นอีเวยสงบขึ้นมา เวลานั้นเสิ่นอีเวยรู้สึกตื้นตัน จนน้ำตา คลอ เขาคิดว่าหลายต่อหลายครั้งที่ถูกเชิ่งเจ๋อเฉิงทำร้ายจิตใจ ตัวเองคงจะร้องไห้ไม่เป็นแล้ว ในเวลาที่ต้องการความช่วย เหลือแต่กลับมองไม่เห็นใคร ฟ้าก็ยังส่งคนมาช่วย ก็เลยอดที่จะ น้ำตาไหลไม่ได้
ชายที่ตามมาข้างหลังก็ยังคงตามมา ติด ๆ เสิ่นอีเวยตั้งใจ วิ่งอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าลดความเร็วลงแม้แต่นิดเดียว พอเวลา ผ่านไป เสิ่นอีเวยเห็นรถคันสีขาววิ่งผ่านมา เขารู้สึกดีใจมาก รู้ ว่าเชียวหันถึงกำลังรีบมาแล้ว

เสิ่นอีเวยที่มีความหวังก็ยิ่งวิ่งเร็วขึ้น แต่พอวิ่งไปได้สอง ก้าว ชายที่วิ่งตามหลังมาก็จับไหล่เขาทันที เวลานั้นเหมือนวิ่ง อยู่กลางอากาศ เสิ่นอีเวยรู้สึกกลัวมากเหมือนหัวใจกำลังจะ หยุดเต้น

เขาพยายามดิ้นรนขัดขืนเพื่อให้พ้นจากการจับตัว แล้ว

ร้องว่า ” ปล่อยฉันนะ ”

ใบหน้าของชายผู้นี้เต็มไปด้วยความดุดัน “ฉันขอเตือน เธอนะ ยอมซะเถอะ ไม่งั้นจะโดนดีแน่ ”

ชายผู้นี้แรงเยอะมาก เสิ่นอีเวยจึงไม่สามารถขยับตัวได้ เสี่ นอีเวยติ้นอย่างแรง จนทำให้มือถือในมือกระเด็นออกไป

สายตาอันโหดเหี้ยมมองไปที่เสิ่นอีเวยที่กำลังดิ้นไม่หยุด จากนั้นเขาจึงใช้มือสับไปที่คอของเสิ่นอีเวยอย่างแรง ผู้หญิงที่ ยังตะโกนอยู่ในวินาทีที่แล้ว ในตอนนี้กลับล้มลงไปที่พื้นโดยไม่ สามารถขัดขืนได้อีก

หัวของเสิ่นอีเวยไปกระแทกกับพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่น ก่อนที่ เสิ่นอีเวยจะหมดสติไป เขาเห็นรถสีขาวคันนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ