นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่75คุณขาดคุณสมบัติไปแล้ว



บทที่75คุณขาดคุณสมบัติไปแล้ว

บทที่ 75 คุณขาดคุณสมบัติไปแล้ว

ทั้งสองกลับถึงวิ่ลลาบ้านตระกูลโม่ก็สี่ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว หลังจากที่เสิ่นอีเวยขอตัวเข้าบ้านก็มีแค่หล่อนที่เดินเข้าบ้าน ทางประตูใหญ่คนเดียว

สี่ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว นี่เพิ่งเจ๋อเฉิงยังกลับไม่ถึงบ้านอีก หรอ? ยังไม่รู้ว่าต้องมีฉากทะเลาะกันแบบใหน เสิ่นอีเวยได้แต่ คิดเงียบๆตอนเดินเข้าบ้าน

เสิ่นอีเวยเอื้อมมือออกมาเปิดไฟในห้องรับแขกที่กว้าง ใหญ่มืดสนิทและเงียบงัน ป้าเฉินได้ยินเสียงตะกุกตะกักเลยรีบ ออกมาดูก็พบเส่นอีเวยเลยถามหล่อน : “คุณเสิ่น คุณกลับมา แล้วหรือคะ?”

เสิ่นอีเวยพยักหน้าแล้วถามกลับ : “เซิ่งเจ๋อเฉิงกลับมาถึง หรือยัง?”

“คุณชายยังไม่ได้กลับมาเลย”

เสิ่นอีเวยถึงประหลาดใจขึ้น วันนี้เสิ่นอีเวยอยากอธิบาย ให้เซึ่งเจ๋อเฉิงเข้าใจได้อย่างถูกต้องชัดเจน อันดับแรกคือไม่ อยากให้ฉินโม่ได้รับผลกรรมไปด้วย ไม่งั้น ด้วยอำนาจและ นิสัยของเซิ่งเจ๋อเฉิงแล้ว หากไม่คุ้นเคยกับเขาก็เหมือนแกว่ง เท้าหาเสี้ยน เป็นอีเวยไม่ยอมให้ฉินโม่ได้รับอันตรายวันที่สอง เสิ่นอีเวยตื่นนอนแต่เช้าตรู่

หล่อนเดินไปมองที่ห้องนอนของเซิ่งเจ๋อเฉิง ผ้าห่มที่อยู่บน เตียงจัดได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย บ่งบอกได้ว่าเขาไม่ได้ กลับบ้านทั้งคืน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เสิ่นอีเวยมองห้องที่ว่างเปล่า ในใจเกิดรู้สึกผิดหวังขึ้นมา

ไม่มีทาง เสิ่นอีเวยได้แต่เก็บของเพื่อไปทำงานที่บริษัท

แปดโมงเช้า เสิ่นอีเวยมาถึงบริษัทก่อนเวลาปกติหนึ่ง ชั่วโมง ช่วงกำลังเข้าห้องทำงานเธอเห็นหลินอวี้ที่เดินผ่านข้างๆ จึงได้แต่ตะโกนเรียกชื่อ : “หลินอวี่”

หลินอวี้หยุดเท้าแล้วหันไปเคารพโค้งคำนับเสิ่นอีเวยอ

ย่างมีมารยาท

เสิ่นอีเวยชี้ไปยังห้องทำงานของเซิ่งเจ๋อเฉิง : “เขาอยู่ใน

นั้นไหม?”

“ท่านประธานเชิ่งอยู่ในนั้นตลอดครับ แต่ว่ากำลังคุยงาน กับบุคคลท่านอื่นอยู่”

” โอเค ขอบคุณ” เสิ้นอีเวยยิ้มแล้วพยักหน้าตอบรับ

ช่วงที่กำลังก้าวเท้าเดินออก เดี๋ยวนะ? เสิ่นอีเวยชูข้อมือ แล้วดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ เพิ่งแปดโมงห้านาที ?คุยเรื่องงาน ? จะหลอกใครอีกล่ะ?นักธุรกิจคนไหนมานัดคุยงานในเวลานี้?

เสิ่นอีเวยตึงตัวหลินอี้เอาไว้ สีหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง จะบ้าตาย ยิ่งอยู่กับเซิ่งเจ๋อเฉิงนานขนาดนี้แล้วด้วยจนทำนิสัยนิ่งๆไม่ว่าศัตรูจะมายังไงก็ไม่มีการโต้ตอบ!

เสิ่นอีเวยชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือแล้วพูดแกมบีบบังคับ : “ผู้ ช่วยหลิน ตอนนี้เขาประชุมอยู่ในห้องกับใคร?”

หลินอวี้มองเสิ่นอีเวยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ไดๆพลางเอ่ย ขึ้น: “อันนี้ผมก็ไม่ทราบครับ ท่านประธานแจ้งว่าเป็นความลับ ครับ ผู้อำนวยการเสิ่นหากไม่มีเรื่องอื่นแล้วผมขอตัวไปทำธุระ ก่อนนะครับ ”

พูดจบก็หันตัวกลับเดินลิ่วไปเลย เหลือแค่เสิ่นอีเวยที่ยืน โมโหโกรธาอยู่ที่เดิมนั่นแหละ

จริงๆ สิ่งที่หล่อนไม่ได้เห็นคือหลังจากที่หลินอวี้เดินลิ่วออก มาสีหน้าดำคร่ำเครียด เพราะเจ้านายกับภรรยาทะเลาะกันยัง จะหาเรื่องมาให้ตัวเองโกหกไปทั่วอีก เฮ้อ ผู้ช่วยเลขาฯพิเศษนี่ ไม่ได้เป็นกันง่ายๆเลย

เรื่องเลยเงียบผ่านช่วงเช้าไปเสิ่นอีเวยเดิมคิดหาเวลาว่าง ออกไปคุยกับเซิ่งเจ๋อเฉิงสักหน่อย แต่ว่าตอนนั้นประตูห้อง ทำงานของเซิ่งเจ๋อเฉิงปิดสนิทแน่นหนา เธอแทบอดคิดแบบ สงสัยไม่ได้เลย : “การคุยงานกับหุ้นเส่วนอะไรเนี่ยถึงได้คุยกัน ทั้งเช้าเนี่ย?”

ความจริงแล้วเสิ่นอีเวยแอบย่องไปใช้มือเหนี่ยวประตูห้อง ทำงานของเซิ่งเจ๋อเฉิงมาหนึ่งครั้งมันเปิดไม่ออกแถมยังล็อค อย่างแน่นสุดๆ เสิ่นอีเวยได้แต่กลืนความโกรธนั่นอัดแน่นไว้ใน ใจ
เสิ่นอีเวยกลับไปทำงานของตัวเองที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ที่ ห้องทำงานของตัวเอง เวลาบ่ายสาม หล่อนได้ยินเสียงดังอยู่ ด้านนอกห้องทำงานดังเข้ามา ตอนที่หล่อนเปิดประตูออกมาก็ เห็นเพิ่งเจ๋อเฉิงที่กำลังออกมาจากห้องทำงานของเขาเอง เชิญ ทุกคนมาประชุมเรื่องการแข่งขันการออกแบบชุดแต่งงานที่จัด ขึ้นอีกสามเดือนข้างหน้าที่ห้องประชุม”

หลังจากมีคำสั่งลงมาไม่มีใครที่จะไม่กล้าขยับตัว พวกเขา ได้แต่เก็บของแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องประชุม ตั้งแต่ที่เขาเริ่มพูด จนพูดจบเชิงเจ๋อเฉิงไม่ได้มองเธอเลยสักครั้ง

เสิ่นอีเวยฟังว่าต้องมีการเข้าประชุม หล่อนรีบหยิบสมุดจด แล้วเดินไปยังห้องประชุม การแข่งขันการออกแบบชุดแต่งงาน ที่จะจัดขึ้นอีกสามเดือนหลังจากนี้เป็นการใช้ชื่อของบริษัทแบ่ง หน่วยเป็นทีมของการเข้าแข่งขัน พูดง่ายๆ ก็คือทุกบริษัทที่ คุณสมบัติผ่านนั้นก็สามารถเข้าร่วมได้ ตอนนั้นคงต้องอาศัย ความขยันของพนักงานทุกคนเข้าด้วยกัน ภายในสามเดือนนี้ ต้องทำชิ้นงานที่ยอดเยี่ยมเข้าร่วมกันแข่งขันในครั้งนี้ให้ได้

บริษัทที่ชนะการแข่งขันในครั้งนี้จะได้มีลงทุนขนาดใหญ่ จากผู้จัดงานและนักออกแบบหลักของบริษัทจะได้รับโอกาส พิเศษในการเข้าร่วมการอบรมการออกแบบชุดแต่งงานที่ ประเทศฝรั่งเศส

ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยเป็นต้นมาหล่อนก็เข้าร่วมการแข่ ขันต่างๆมากมายไม่ว่าจะงานใหญ่หรืองานเล็กก็ตามที แต่ว่า รูปแบบและความยากง่ายนั้นไม่เหมือนในครั้งนี้ ฉะนั้นหล่อนเลยมีความสนใจเอามาก

แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือ หลังจากทุกคนได้ข้อสรุปและได้รับ มอบงานที่ตนเองรับผิดชอบในด้านไหนแล้ว ยิ่งสวีอันฉิงหล่อน เป็นหลักที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง แต่ชื่อของเธอเองกลับไม่มี การเอ่ยขึ้นแต่อย่างใด

เสิ่นอีเวยรู้สึกแปลกๆเหมือนเพิ่งเจ๋อเฉิงจงใจที่จะหักหน้า ตัวหล่อนเอง

อยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจ เสิ่นอีเวยหันหัวไปมอง ก็เห็นสวี่อันฉิงที่นั่งไม่ได้ไกลมากจากเธอไปแถมยังมีกลุ่มนัก ออกแบบที่ปากมากอยู่ด้วย ดูจากสีหน้าพวกหล่อนแล้วน่าจะ พูดเรื่องที่น่าตลกของตัวเองอยู่แน่ๆ

ใจของเสิ่นอีเวยเริ่มก่อกองไฟความโกรธ หล่อนจ้องมอง เพิ่งเจ๋อเฉิงน้ำเสียงอ่อนแอแต่ทรงพลัง : “ท่านประธานเซิ่ง ดิฉัน เป็นถึงผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบเมื่อกี้ไม่เห็นท่านแจ้งถึง ตำแหน่งหน้าที่ในการทำงานในการแข่งขันในครั้งนี้?”

สีหน้าเชิ่งเจ๋อเฉิงไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา น้ำเสียง ของเขาช่างไม่แยแสทำเหมือนพูดเรื่องที่ไม่ได้เร่งด่วนยังไงยัง งั้น : “ผู้อำนวยการเสิ่น คุณขาดคุณสมบัติในการเข้าร่วมการ แข่งขันในครั้งนี้”

สีหน้าทุกคนดูปกติยกเว้นเสิ่นอีเวย

เส้นอีเวยแสดงสีหน้าตกใจมาก หล่อนคิดว่าตัวเองฟังผิด ไป : “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?”
สีหน้าเชิ่งเจ๋อเฉิงยังคงเย็นชาตั่งเดิม เขาหันหน้าไปคุยกับ สวีอันจิง : “หัวหน้าสวี่ คุณอธิบายให้เธอฟัง”

ห้องประชุมขนาดใหญ่เงียบสนิท สีหน้าของทุกคนแสดง ความอยากดูละครเด็ด สวี่อันฉิงพยักหน้าตอบรับเชิงเจ๋อเฉิง สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนดั่งสายน้ำไหล เสิ่นอีเว ยกลับเห็นมันช่างที่มตาเหลือเกิน

สวีอันฉิงยิ้มอย่างภูมิใจแล้วเอ่ย : “ผู้อำนวยการเสิ่น เรื่อง ที่คุณมาที่บริษัทแล้วยังไม่ถนัดกับงานการออกแบบของบริษัท สักเท่าไหร่ ท่านประธานเลยตัดสินใจยกเลิกคุณสมบัติที่ให้คุณ สามารถเข้าร่วมการแข่งขันการออกแบบชุดแต่งงานในครั้งนี้ การรับผิดชอบการจัดทีมเล็กๆหลายทีมเพื่อจัดเตรียมชิ้นงาน ฉันเป็นคนจัดการ”

สิ้นเสียงหล่อน เสิ่นอีเวยรีบหันไปทางเซิ่งเจ๋อเฉิง หล่อน เห็นคำสั่งที่สื่อออกมาจากสายตานั่น

เสิ่นอีเวยมองค้อนสวี่อันฉิงและพูดกับเซิ่งเจ๋อเฉิง : “ฉัน เป็นผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ สวี่อันฉิงเป็นแค่หัวหน้า ทำไม เรื่องการเป็นคนชี้วัด ในการเข้าร่วมการแข่งขันจะต้องหล่อน เป็นคนรับผิดชอบด้วย?”

ด้วยนิสัยเสิ่นอีเวนต์ไม่เคยชอบแข่งขันกับใครตั้งแต่แรก แล้ว แต่ว่าคราวนี้นิสัยเธอกลับไม่เหมือนเดิม ด้วยเรื่องเกี่ยวกับ การออกแบบชุดแต่งงานนั้นแล้วด้วยเป็นสิ่งที่เธอรักมาก โดย เฉพาะคนที่มาแทนตำแหน่งกลับเป็นสวี่อันฉิง ในใจเธอยิ่งรับไม่ได้อีก

น้ำเสียงเพิ่งเจ๋อเฉิงที่ดังสะท้อนอยู่ในห้องประชุมอันเงียบ สนิท : “การแข่งขันในครั้งนี้ ไม่มีกฎข้อไหนที่จำเป็นต้องใช้คน ที่มีตำแหน่งใหญ่โตที่สุดมาเป็นผู้นำคนในบริษัท สวีอันฉิงเป็น คนที่ผมเลือก ทำไม ผู้อำนวยการเสิ่นมีข้อเสนอแนะหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ