นายเป็นแค่สามีเก่า

ตอน108พวกเราหย่ากันเถอะ



ตอน108พวกเราหย่ากันเถอะ

ตอนที่108 พวกเราหย่ากันเถอะ

เมื่อเวลาผ่านไปซักพัก เจ๋อเฉิงวางสายโทรศัพท์แล้วก ลับมานั่งที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง เขาไม่ได้หันกลับมามองเสิ่นอีเวย บรรยากาศยิ่งเงียบมากขึ้นทุกที เสิ่นอีเวยระงับความอยากรู้ที่ อยู่ในใจของตนเองไม่ได้ เธอทานข้าวในจานของตนเองหมด แล้ว เธอจึงนั่งกินน้ำซุปอย่างชะล่าใจ

นึกถึงคืนก่อนที่เธอจะไปทำงานต่างเมือง ตนเองยืนแอบ ฟังโทรศัพท์สายนั้นอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของเขา เสิ่นอีเวย เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ กับถามในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับ ตนเองแม้แต่น้อย ใครโทรมา?”

เจ๋อเฉิงไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเธอ ตอบแค่เพียงว่า “หุ้น ส่วนคนหนึ่ง”

ขณะนี้ใจของเสิ่นอีเวยก็คล้ายกับตกลงในที่ที่ลึกมากที่สุด ลึกจนไม่มีแม้แต่แสงสว่างอันบางเบา

เธอแน่ใจแล้วว่า เจ๋อเฉิงกำลังโกหกเธอ จะมีหุ้นส่วน ใหญ่ที่ไหนที่จะทำให้เจ๋อเฉิงถึงขนาดจำเบอร์โทรศัพท์ได้ และเนื้อหาในสายยังดูปิดบังเช่นนี้

เสิ่นอีเวยคิดอยู่แล้วว่าถ้าเธอถามคำถามนี้ไป เซิ่งเจ๋อเฉิ งอาจจะไม่อยากบอกเธอหรือไม่คิดที่จะบอกเธอเลย น้ำซุปที่กินเข้าไป ยิ่งกินยิ่งไม่มีรสชาติเข้าไปทุกที และในใจก็ยิ่ง

กระวนกระวาย

“ในคืนวันนั้นที่คุณมาบอกว่าให้ฉันไปทำงานต่างเมืองกับ สวีอันฉิง คุณอยู่ในห้องนอนคุยโทรศัพท์กับใคร?”

เสิ่นอีเวยได้วางซ้อนที่อยู่ในมือของตนเอง จ้องมองไปที่ เพิ่งเจ้อเฉิง กลัวว่าจะพลาดรายละเอียดต่างๆ ในแววตาของเขา เพิ่งเจ๋อเฉิงได้หยุดตะเกียบที่กำลังถืออยู่ในมือของเขา เมื่อเงย หน้าขึ้น ในดวงตาก็ปกคลุมไปด้วยเมฆดำมืด “เธอแอบฟังฉัน คุยโทรศัพท์อย่างนั้นหรือ?”

เสิ่นอีเวยยิ้มเบาๆอย่างไม่ปฏิเสธ แล้วพูดว่า “ก็ไม่ถึงกับ แอบฟัง ในคืนวันนั้นฉันแค่อยากลงมากินน้ำข้างล่าง พอเดิน ผ่านห้องคุณก็เลยได้ยินเข้า”

มือของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้หยุดขยับลง เส้นตรงขากรรไกรล่าง ของเขานั้นเรียบและแข็งขึ้น มักจะทำให้คนนึกถึงนายพลที่อยู่ ในสนามรบ

“ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับเธอนะ บอกฉันมา ในคืนวันนั้นเธอ ได้ยินอะไร?”

คำพูดที่เย็นชาได้ออกมา ดูเหมือนกับนายพลที่กำลังออก คำสั่งฆ่าชีวิตของทหาร ใจของเสิ่นอีเวยก็สั่นจนยากที่ควบคุม

เธอพยายามอย่างมากที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเอง ไม่ อยากให้เซิ่งเจ๋อเฉินดูออกว่าตอนนี้เธอกำลังกลัวเขา เสิ่นอีเวย ยิ้มเบาๆ แล้วพูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “อย่ากังวลอะไรขนาดนั้น คืนนั้นคุณปิดประตู จริงๆแล้วฉันไม่ได้ยินอะไรเลย”

เสิ่นอีเวยมองไปที่เพิ่งเจ๋อเฉิงตลอด ถึงแม้ว่าคืนนี้เขาจะใส่ ชุดอยู่บ้านสีเทาอ่อนทั้งตัว ไม่เหมือนกับธรรมดาที่ใส่สูทดูแล้ว เย่อหยิ่งวางอ่านาจเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า “เสี้ นอีเวยก็ยังรับรู้ถึงความหนาวเย็นที่มาจากตัวของเซิ่งเจ๋อเฉิง ผู้ชายคนนี้จะมีลักษณะเช่นนี้เมื่อเขาโกรธ เสิ่นอีเวยคุ้นซินมา นานแล้ว

เธอรู้สึกว่าเชิ่งเจ๋อเฉิงหายใจลึก ทั้งตัวแสดงออกมาว่า ตอนนี้เขาหงุดหงิดมาก

“เสิ่นอีเวย ฉันขอถามเธออีกครั้ง คืนนั้นเธอได้ยินอะไร บ้าง?”

ในใจของเสิ่นอีเวยเริ่มที่จะหวาดกลัว เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เพิ่งเจ๋อเฉิงจะมีปฏิกิริยาออกมาแบบนี้ แต่ก็แค่เพียงโทรศัพท์ เท่านั้น ทำไมเขาจะต้องเครียดขนาดนี้? เมื่อนึกถึงคืนวันนั้นที่ เชียวหันถึงเอารูปพวกนั้นให้ตนเองดู และคำพูดพวกนั้น เสี่ นอีเวยมั่นใจแล้วว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงมีอะไรบางอย่างปิดบังเธออยู่

จ้องมองคนไม่สะทกสะท้านที่อยู่ตรงข้าม สุดท้ายความ อดทนอันน้อยนิดของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ค่อยๆหมดไป เขารีบลุกจาก ที่นั่งของตนเองแล้วเดินไปทางเสิ่นอีเวย เพราะว่าอยู่ไม่ห่างกัน มาก เสิ่นอีเวยไม่มีเวลามากที่จะทำให้ตนเองรู้สึกตัวทัน เมื่อคิด ที่จะเอามือที่จับเก้าอี้ไว้ดันไปข้างหลัง เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้มาอยู่ตรง หน้าเธอแล้ว
” เจ็บ” เสิ่นอี้เวยร้องเจ็บออกมา

คางของเธอถูกเพิ่งเจ๋อเฉิงบีบไว้แน่น

“ถ้าครั้งหน้าเธอกล้าแอบฟังฉันคุยโทรศัพท์อีก คงไม่ เพียงแค่ง่ายๆเหมือนเย็นวันนี้แน่”

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เสิ่นอีเวยคงคุ้นชินกับการบังคับ ปิดปากของเซิ่งเจ้อเฉิงโดยที่เธอจะไม่ต่อต้านใดๆ แต่ว่าครั้งนี้ ไม่เหมือนกัน เผชิญหน้ากับการกระทำที่ไม่ทันตั้งตัวของเซิ่งเจ๋อ เฉิง สิ่งที่เสิ่นอีเวยคิดถึงเป็นอย่างแรกก็คือลูกในท้องตนเอง

คุณหมอเคยบอกว่าสามเดือนแรกถือเป็นช่วงเวลาที่ อันตรายที่สุด ไม่ว่าจะทำอะไรควรที่จะเพิ่มความระมัดระวัง

เสิ่นอีเวยยื่นมือทั้งสองของตนเองออกไปหวังที่จะเอามือ ของเพิ่งเจ๋อเฉิงออก แต่ว่าก็สู้แรงที่เยอะของผู้ชายไม่ได้

“คุณปล่อยฉันเถอะ…”ใบหน้าอันเรียวเล็กของเสิ่นอีเวย ถูกบีบจนแดง เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่คิดที่ปล่อยเธออยู่แล้ว

ในใจของเสิ่นอีเวยเจ็บปวดและทุกข์ทรมานมากยิ่งขึ้น เป็นเพราะว่าเชิ่งเจ๋อเฉิงไม่รู้เรื่องที่เธอท้องดังนั้นจึงกล้าที่จะทำ แบบนี้กับตนเองหรือ? ไม่ หรือบางทีถ้าเขารู้แล้วว่าตนเองท้อง แล้ว ก็อาจจะไม่ปรานี้ตนเองและลูกน้อยในท้องก็ได้ แต่ท้าย ที่สุดแล้วยังไงเขาก็ไม่เคยคิดที่จะปล่อยให้ตนเองตั้งครรภ์ลูก ของเขา

* เซิ่งเจ๋อเฉิง…คุณก็ไม่ใช่คนที่วิเศษอะไร ฉัน…ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรในชีวิตส่วนตัวของคุณอยู่แล้ว เข้าใจไหม? ฉันบอก แล้วว่าฉันไม่ยินก็คือไม่ได้ยิน คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะไม่เชื่อฉัน?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงยิ้มอย่างเยือกเย็น ไม่คิดที่จะผ่อนแรงในมือให้ คลายลงแต่กลับดูเหมือนจะเพิ่มความแรงขึ้นอีกนิด

เพราะกำลังแรงของเซิ่งเจ๋อเฉิงร่างกายส่วนบนทั้งหมด ของเสิ่นอีเวยได้เอนลงไปที่บนโต๊ะ บริเวณเอวของเธอชนเข้า กับมุมโต๊ะแหลมๆอย่างแรง ทั้งเจ็บและปวด ในดวงตาของเธอ ก็ค่อยๆมีน้ำไหลคลอ

ในท้องของฉันมีลูกของคุณนะ

ในใจเธอยิ่งกระวนกระวายขึ้นทุกที กลัวว่าถ้าต่างฝ่าย ต่างยืนกรานไม่ยอมอ่อนข้อต่อไปอาจจะเกิดปัญหาขึ้น

เสิ่นอีเวยยื่นมือไปควานคลำของที่อยู่บนโต๊ะข้างๆตัว ทันใดนั้น เธอก็คลำเจอถ้วยหนึ่งใบ เธอตีไปที่เพิ่งเจ๋อเฉิงอย่าง ไม่ลังเลแม้แต่น้อย

ปฏิกิริยาตอบสนองของเพิ่งเจ๋อเฉิงเร็วมาก เขาเอาหัวไป ด้านข้างเพื่อหลบถ้วยใบนั้นอย่างรวดเร็ว ถ้วยใบนั้นคือถ้วย เปล่าไม่มีน้ำซุปหรือน้ำผลไม้ออกมา แต่กลับไปกระทบบน กำแพงที่อยู่ข้างหลังของทั้งสองคนแตก เสียงของเครื่องเคลือบ ดินเผาแตกกระจาย ชั่วพริบตาเดียวเสียงก็สะท้อนดังไปทั่วห้อง โถงใหญ่ชั้นล่าง

แววตาข้างในของเซิ่งเจ๋อเฉิงโกรธเป็นไฟลุกโชน จ้องมอง มาที่เสิ่นอีเวย เหมือนกับว่าอยากจะฆ่าเสิ่นอีเวยให้ตายด้วยแววตาของตนเอง

เสิ่นอีเวยก็ไม่ยอมแสดงให้เห็นว่าตนเองต้อยกว่าเหมือน กัน เพื่อลูกน้อยในท้อง เธอไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น ต่อให้เป็น ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอก็จะดีเสมอคู่ต่อสู้

ป้าเฉินวิ่งออกมาจากข้างในระเบียงทางเดินอย่างตื่น ตระหนก เมื่อเห็นสถานการณ์ข้างหน้าก็ตระหนกวุ่นวายจนทำ อะไรไม่ถูก ทำได้แค่ยืนอยู่ที่เดิม เซิ่งเจ๋อเฉิงกวาดแววตาที่คม ดังมีดออกไป ป้าเฉินรับรู้ด้วยตัวเองจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา หันกลับไปที่ห้องของตนเอง

เสิ่นอีเวยรับรู้ได้อีกครั้งถึงความน่าเกรงขามที่อยู่ในบ้านนี้ ของเซิ่งเจ๋อเฉิง นอกจากเธอแล้ว ไม่มีใครที่จะกล้าโต้แย้งเขา แม้แต่ประโยคเดียว

เธอเงยหน้ามองไปที่ตาของเพิ่งเจ๋อเฉิง มองดูผู้ชายที่ ตนเองรักมาหลายปี เขามีอำนาจและอิทธิพลที่จะให้ทุกสิ่งที่ผู้ หญิงอยากได้ในการแต่งงาน ลาภยศ เงินทอง อ่านาจ แต่ว่าจะ มีเพียงความรักเท่านั้น ที่เขาไม่ได้ให้

ถ้าหากเขาไม่รักเธอจริงๆ เช่นนั้นก็ปล่อยเธอไปเถอะ ให้ ทั้งสองคนออกไปใช้ชีวิตตามที่ตนเองต้องการ แต่ว่าตอนนี้เสี่ นอีเวยตั้งท้องลูกของเซิ่งเจ๋อเฉิง ลูกที่จะไม่ได้รับการยอมรับ จากพ่อแท้ๆของตนเองตลอดไป

ถ้าหากเจ้าตัวเล็กคือของปลอบใจและของขวัญที่โชค ชะตามอบให้กับเธอ ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอถึงไม่เอาสิ่งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่อย่างหนึ่งหล่ะ?

น้ำตาไหลลงมาจากหางตาของเสิ่นอีเวย เธอพูดออกไป ด้วยริมฝีปากที่สั่นเทาเล็กน้อย “เซิ่งเจ๋อ เฉิน พวกเราหย่ากัน

เถอะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ