นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่290ฉันตัดสินใจจะกลับประเทศ



บทที่290ฉันตัดสินใจจะกลับประเทศ

บทที่ 290 ฉันตัดสินใจจะกลับประเทศ

ครั้งแรกที่พบว่าตัวเองนั้นตั้งท้อง เสิ่นอีเวยก็มีความรู้สึก ตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างยิ่ง หรืออาจจะเป็นเพราะครั้งนั้นมี ความแคร์และตื่นเต้นมากเกินไป เลยทำให้ตัวเองนั้นไม่มี ความเป็นตัวของตัวเองเลย

แต่ครั้งที่สองพบว่าตัวเองนั้นตั้งท้องอีกครั้ง เดิมทีเสิ่นอีเว ยอยากจะพยายามให้ตัวเองนั้นมีความสบายใจมากขึ้น แต่ว่า ก่อนหน้านี้ก็ยังกลับทำไม่ได้เลย เพราะว่าเธอกลัว เธอกลัวว่า จะเกิดขึ้นเหมือนครั้งที่แรกที่ผ่านมา กลัวจะเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ขึ้นอีก ยิ่งไปกว่านั้นคือกลัวที่จะไม่สามารถรักษาลูกตัวเองได้

ดังนั้นเสิ่นอีเวยก็ใช้วิธีที่เหมาะสม เธอได้ไปหาจิตแพทย์ที่ เก่ง เพื่อให้เธอนั้นมีอารมณ์ความรู้สึกที่ดีขึ้นกว่าเดิม สุดท้าย เธอก็ได้เกิดความสบายใจขึ้นมา

และเป็นเพราะตอนนั้นนั่นเอง เป็นอีเวยก็ได้พบกับเหตุผล ข้อหนึ่ง ชีวิตของตัวเอง ในเมื่อก่อน ในการใช้ชีวิตกับเพิ่งเจือ เฉิงนั้น หรืออาจจะเป็นเพราะเธอนนั้นใช้ชีวิตที่แคร์เขามากเกิน ไป เลยทำให้ไม่ได้เหลืออะไรไว้ในชีวิตเธอเลย

เหตุผลนี้ ก็เหมือนคนเราได้กำทรายอยู่ในมือ คุณยิ่งกแม่เท่าไหร่ ทรายก็หลุดไหลออกจากมือเร็วขึ้น

แต่เนิ่นอีเลยมีความยินดีอย่างเดียวก็คือ หลังจากที่เธอนั้น ตลอดเหมียนเหมือนน้อยเสร็จแล้ว เธอก็ได้กระจ่างขึ้นมาทันที ว่าสภาพจิตใจของคนนั้นซึ่งขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของ สภาพธรรมชาติ

เรื่องมาถึงตอนนั้น นอกจากร่างกายของเธอและลูกสาว ของเธอเหมียนเหมียนน้อย ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่คุ้มค่ากับการไป ใส่ใจแล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ควรค่ากับการกลับไปมอง

สำหรับบเรื่องที่อังกฤษเมื่อสองปีนั้น ก็ทำให้เธอนั้นรู้สึก

ว่า ในใจที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของผู้ชาย ทั้งหมดทั้งสิ้น เสิ่นอีเวยก็ได้เก็บอยู่ในความทรงจำส่วน

ลึก และไม่อยากจะไปแตะต้องอีกแล้ว

สามคนนั้นได้เดินไปทั่วห้างก็เริ่มเหนื่อยแล้ว เลยได้หา ร้านอาหารสไตล์ตะวันตก ตอนนี้ที่อังกฤษเป็นฤดูร้อน อุณหภูมิ ข้างนอกสูงมาก จนเหงื่อไหลไคลย้อย

ขณะที่ได้เดินเข้ามาในร้านอาหารที่ทำให้มีความเย็นชื่น

ใจขึ้นมา เสิ่นอีเวยและหลิน โม่เหยียนก็รู้สึกเหมือนชีวิตที่เต็ม

ไปด้วยความเพียบพร้อม

พอหลังจากสั่งอาหารเสร็จผ่านไปครึ่งชั่วโมง มีพนักงาน ท่าทีสะอาดสะอ้านเดินถือสเต็กวัวมาให้ ร้านอาหารนี้เป็นร้าน อาหารที่มีชื่อเสียงมาก เป็นเวยชอบมากินที่นี่บ่อย ๆ ดังนั้นการที่เชิญหลิน โม่เหยียนมาที่นี่ก็เพราะทำตามความรู้สึกของ เธอ

เหมียนเหมียนน้อยก็ถูกเล่นอีเวยอุ้มมานั่งวางไว้ข้าง ๆ ที่ นั่นมีที่นั่งสําหรับเด็กน้อยโดยเฉพาะ ถึงแม้ช่องว่างระหว่างที่ คับแคบแต่ก็ไม่ได้เปอุปสรรคต่อการทานอาหาร

แต่ในเวลานี้ เหมียนเหมียนน้อยก็ได้จดจ่อกับของเล่นที่ วางรอบ ๆ อย่างตั้งอกตั้งใจ เพราะเป็นของเล่นที่เธอนั้นชอบ มาก ทุกครั้งที่เสิ่นอีเวยจะไปหาก็ต้องพาลูกสาวไปด้วย ไม่งั้น ลูกสาวจะร้องไห้ฟูมฟาย

ลูกสาวที่มีนิสัยเย่อหยิ่งเช่นนั้น เป็นนิสัย ใครกันนะ ทุก ครั้งที่เธอนั้นกำลังคิดอยู่นั้นก็มักมีแต่หน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงขึ้นมา ทุกที

ชื่อนี้อยู่ดีดีก็เกิดขึ้นในความคิดของเธอ ซึ่งทำให้เธอนั้น ตกใจเป็นอย่างยิ่ง ความคิดที่ล่องลอยนั้นถูกหลิน โม่เหยียนขัด จังหวะ

“นี่นี่ เสิ่นอีเวย คุณกำลังคิดอะไรน่ะ ? ใจไม่อยู่กับเนื้อกับ ตัวเลย ” หลิน โม่เหยียนถามด้วยหน้าตาที่สงสัย ร้านอาหารที่ ” อร่อยขนาดนี้ แต่กลับสามารถยังมีเวลาเหม่อลอยได้ขนาดนี้

เสิ่นอีเวยก็ยิ้มตรงที่มุมปาก เธอนั้นก็หันหัวกลับไปมองเห มียนเหมียนน้อยที่เล่นอย่างสนุกสนาน แล้วก็ได้มองไปที่หลิน โม่เหยียน เหมือนกับเปลี่ยนสายตาที่สดใจและสายตาที่น่ารัก ธรรมดา
เธอได้มองหลิน โม่เหยียนแล้วพูดว่าปกติว่า “ไม่เหยียน คนที่ถูกเรียกชื่อก็ตอบกลับว่า “ทีม มีอะไรล่ะ ? ”

เงินอีเวยได้วางซ้อมกับมีดลง แล้วใช้มือผสานกัน ซึ่ง เหมือนกำลังจะพูดสิ่งที่ทำให้ลำบากใจออกมา “ถ้าหาก ฉันพูด ว่าถ้าหากนะ ฉันจะกลับไปประเทศอีกครั้งหนึ่ง

“เธอพูดอะไร ?” เสิ่นอีเวยยังพูดไม่เสร็จก็ถูกตัดบทเสีย แล้ว หลิน โม่เหยียนก็ได้ลุกขึ้นมา ซึ่งการกระทำครั้งนี้ทำให้ คนในร้านนั้นหันมามองทั้งหม

“โม่เหยียน เธอนั่งลงก่อน ฟังฉันพูดดีดี”

เงินอีเวยได้ยื่นมือไปจับที่เสื้อของหลิน โม่เหยียน แต่มือก กลับถูกสะบัดออก ถึงแม้จะไม่ได้ออกแรงเยอะ แต่ก็กลับเต็ม ไปด้วยความตกใจ

ตามคาด…..เป็นไปตามคาด

ในช่วงเวลานี้ทำให้คนๆหนึ่งที่เหมือนเด็กกลับเต็มไปด้วย ความเป็นผู้ใหญ่ แต่กลับไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยที่ เหมือนเด็ก ในส่วนนี้เพิ่งจะได้รับรู้ถึงเพื่อนสนิทของเธอ หลิน โม่เหยียน

ใช่แล้ว นี่แหละคือหลิน โม่เหยียน

เสิ่นอีเวยได้ใช้มือขวาเท้าคางแล้วมองไปยังหลิน โม่เหยีย นที่โมโห
สองคนนี้ได้เป็นเพื่อนกันมานาน หากพูดเพียงประโยค แล้ว ไม่ ไม่สิ เพียงแค่ครึ่งประโยคก็สามารถรับรู้ได้แล้วว่าจะ คิดอะไร

แต่ครั้งนี้หลิน โม่เหยียนั้นเข้าใจเธอผิดเสียแล้ว

หลินโม่เหยียน ได้นั่งอย่างรวดเร็ว และได้ดื่มน้ำอย่าง รวดเร็วลงไป เหมือนกลับมาระงับไฟโกรธของตัวเอง

หลังจากได้ดื่มน้ำเย็น ๆ หลิน โม่เหยียนก็เริ่มสงบอารมณ์ ได้แล้ว แต่ว่าก็ยังมองเสิ่นอีเวยด้วยความโกรธ แล้วพูดว่า “เธออยากจะกลับไปหาเพิ่งเจ๋อเฉิง ? “

เสิ่นอีเวยก็ตกใจ เพราะหลิน โม่เหยียนได้เอ่ยถึงเรื่องของ เชิงเจ๋อเฉิง

สี่ปีแล้ว สี่ปีเต็ม ๆ แล้ว นอกจากตัวเธอเอง ก็ไม่มีใครพูด “เพิ่งเจ๋อเฉ” ขึ้นมาเลยเพราะว่าเป็นประเทศที่เธออยู่นั้นไม่มี ใครรู้สึกเซิ่งเจ๋อเฉิง

และไม่มีใครรู้ว่าเรื่องระหว่างเธอและเขาเกิดอะไรขึ้น

รวมทั้งหลิน โม่เหยียนที่มาอังกฤษได้สองปี ซึ่งในวันนี้และ ก่อนหมั้นหลิน โม่เหยียนก็ไม่ได้พูดถึงเพิ่งเจ๋อเฉิงแม้แต่นิดเดียว แต่วันนี้หลิน โม่เหยียนได้พูดออกมาแล้ว

เงินอีเวยได้ดื่มน้ำไปหนึ่งอีก และได้รวบรวมสภาพจิตใจ

แล้วพูดว่า “โม่เหยียน เธอฟังฉันก่อน ฉันไม่ได้กลับไปอยู่กับ เขาอีกครั้ง เพียงแต่ฉันมีเรื่องที่ต้องท่า ไม่กลับไปไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ