นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่239ตบหัวแล้วลูบหลังหรอ



บทที่239ตบหัวแล้วลูบหลังหรอ

บทที่ 239 ตบหัวแล้วลูบหลังหรอ

สายลมที่พัดมานั้นแรงอยู่มาก เสิ่นอีเวยรับรู้ความรู้สึกที่ลมพัดจนเสื้อ ถลกขึ้นมา

ตอนนี้หล่อนทั้งหิวทั้งเหนื่อยเหลือเกิน

ร่างกายและความสนใจรู้สึกเหมือนตัวเ องจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

แต่ว่าในใจกลับไม่แก้ไขความคิดที่อยู่ใ นใจของตัวเอง

หล่อนไม่อยากจะที่กลับไปขึ้นรถของเ ซิ่งเจ๋อเฉิงอีก

ก็เมื่อครู่ชายคนนั้นเป็นคนบอกให้หล่อ นลงรถจากปากของเขาเอง ค่ำคืนที่หนาวเหน็บแบบนี้

คนที่อยู่ในรถกับคนที่นอกรถกลับยืนนิ่ง

อยู่ที่ถนน

ราวกับเหมือนจะไม่มีใครยอมใครให้เสี ยหน้ากันก่อน

เสิ่นอีเวยก็ยังคงยืนหยัดกับความเชื่อข

องตัวเอง

แทบไม่ได้คิดตามเลยว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะรู้ สึกแบบไหนในยามนี้

ผู้ชายที่นั่งอยู่ตำแหน่งขับรถคนนั้นสีหน้ าเคร่งขรึมเป็นอย่างมากจนถึงที่สุดแล้ว

มือด้านขวาของเขาที่วางลงบนพวงมา ลัยแต่กลับกลายแปรเปลี่ยนกำปั้นที่แข็ งแกร่งขึ้นมาแทน จกรถยนต์ออกมา

เสิ่นอีเวยเดินห่างจากรถยนต์เขาไปมา กขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด เขาตัดสินใจที่ใช้ความโกรธของเขาออ

กมา

แทบไม่ได้ลังเลอะไรเลย

มือด้านซ้ายของเขาก็ยื่นออกมาเปิดปร ะตู ในเวลานั้น

ลมแรงพัดตีเข้ามาเป็นระลอก เขาได้แต่ต่อสู้กับความหนาวเย็น

สภาพอากาศด้านนอกหนาวเย็นขนาดนี้

ยิ่งคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ดื้อรั้นเอาใ จตัวเองไม่ยอมกลับขึ้นรถเขา เซิ่งเจ๋อเฉิงโกรธจนกัดฟันกรอดๆ

ส่วนเสิ่นอีเวยก็ยังเดินไปข้างหน้าต่อไป อาการสมองมึนๆอยู่แล้วความรู้สึกรับรู้ ต่างก็ไม่ได้ชัดเจนเหมือนเมื่อครู่นี้ ช่วงเวลาที่หล่อนกำลังมึนๆอยู่นั่น อยู่ดีกลับมีความรู้สึกว่ามืดด้านซ้ายของ หล่อนเหมือนมีแรงถูกคนจับเอาไว้อยู่

“โอ้ย!”

ด้วยเพราะอาการตกใจเสิ่นอีเวยจึงร้องเ สียงดังขึ้นมา

หล่อนร้องเสียงหลงพร้อมกับหันศีรษะ กลับมาดูก็พบว่าคือใบหน้าของเซิ่งเจ๋อ เฉิงที่แสงจันทร์ส่องลงมากระทบกับใบ หน้าของผู้ชายคนนั้นจนเห็นรูปหน้าที่ดูเ ข้มขึ้น แต่ว่า หากหล่อนมองไม่ผิดละก็

สายตาของผู้ชายคนนี้เป็นอะไรไปหรอ

? สายตาแสดงออกว่ากำลังโมโหอย่างห

นัก

เขาโกรธหรอ? เขาโกรธอะไร? ที่ควรจะโกรธคือหล่อนถึงจะถูก!

ใจเสิ่นอีเวยเต้นโครมคราม หล่อนไม่คิดที่จะพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่ใ นใจออกมาให้เซิ่งเจ๋อเฉิงฟังทั้งหมด

สิ่งที่หล่อนรู้ก็คือ เซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นคนที่หาหลักการไม่ได้ เป็นผู้ชายที่ชอบเหวี่ยงไปเรื่อย จะพูดอธิบายให้ชัดเจนกับคนพรรณนี้ก็ ไม่ได้เข้าหูไปจริงๆหรอก

เสิ่นอีเวยได้แต่คิดเองเออเองพยักหน้า กับวิธีคิดที่อยู่ในใจของตัวเองอีกครั้ง

“ปล่อยฉันนะ!” นเหนื่อยเอาการอยู่

แต่น่าเสียงของหล่อนเองก็ยังคงสูงปรี ดได้อีก

จะสู้กับคนอย่างเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้น หล่อนคิดว่าตัวเองมีประสบการณ์โดยต

รงอยู่แล้ว

ไม่มีทางหากจะพูดกันให้ชัดเจน แต่ถ้าเรื่องใช้แรงหล่อนไม่มีทางแพ้เป็

นอันขาด!

แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่พลาดกับเรื่องกลอุบ

ายพวกนี้อยู่แล้ว

เขากลับไม่ปล่อยมือข้อมือของเสิ่นอีเว ย

แต่การที่หล่อนตะโกนแหกปากขนาดนั้

มันทำให้เพิ่งเจ๋อเฉิงรับรู้ถึงความรู้สึกอ ทางใบหน้าจนดูไม่ได้

“เสิ่นอีเวย มีเหตุผลหน่อยอย่าเสียดัง คำนี้เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนหรือไง? เธอคิดว่าคนอย่างฉัน

เซิ่งเจ๋อเฉิงเนี่ยจะถูกโอ๋มาตั้งแต่เด็กหร อ?” เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดขึ้นมาเบาๆ แต่พละกำลังที่ข้อมือของเขากลับไม่ไ ด้ลดน้อยถอยลงไปเลย

เรื่องนี้แหละมันทำให้เสิ่นอีเวยถึงกับปว ดหัวขึ้นมา

ตอนที่หล่อนหันไปด้านข้างนั้น เซิ่งเจ๋อเฉิงถึงได้เห็นชัดว่าใบหน้าหล่อ นด้านขวานั้นขาวซีดเผือดแต่กลับสวยม าก

น้ำเสียงเสิ่นอีเวยกลับมีความกระแทกย หล่อนมองเซิ่งเจ๋อเฉิงด้วยหางตา ราวกับว่าไม่อยากมองเขาตรงๆ :

“งั้นหรอ

แล้วตอนนี้คุณหมายความว่ายังไงล่ะ? ตบหัวแล้วลูบหลังหรอ?

ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ ฉันไม่ให้อภัย!

ไอ้คำพูดที่ว่ามีเหตุผลแล้วจะไม่ทำเสีย งดังขึ้นมานั้นฉันเคยมาฟังแน่ๆ หรือความหมายของคุณมันหมายความ

ว่าเหตุผลมันอยู่ที่คุณงั้นหรอ?

หากเป็นแบบนั้นจริง

ฉันจะแคะขี้หูรอฟังคุณเลยว่าเหตุผลที่ แท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่!”

เซิ่งเจ๋อเฉิงมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเข าอย่างเต็มสองตา ผู้หญิงคนนี้ทําไมเวลาพูดถึงได้ถากถา งเอาซะเย็นชาขนาดนี้กันนะ?

หรือว่าหล่อนเรียนมาจากเขางั้นหรอ?

แต่ความคิดของเขาก็ไม่ควรให้หล่อนม

าก่อกวน

เซิ่งเจ๋อเฉิงได้แต่ยิ้มหัวเราะแห้งออกม

าแทน:

“ไม่ว่าคำพูดของเธอจะมีหรือไม่มีหลัก การก็ตาม เธอฟังให้ชัดนะ ว่าฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอที่นี่ กลับขึ้นรถไปพร้อมกับฉัน”

เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดจบยังไม่ทันรอให้เสิ่นอีเ วยได้ตั้งสติใดๆ

เขาก็ลากหล่อนมาทางที่รถจอดเสียแล้ ว

พละกำลังของผู้ชายค่อนข้างมาก าได้

หล่อนไม่อยากทำตามที่เพิ่งเจ๋อเฉิงบอ กเลยได้แต่ออกแรงผลักไป แต่มือของเซิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนว่ามันงอก ออกมาเป็นแขนของหล่อนแบบนั้นแทบ จะไม่หลุดเลยสักนิด

ในเวลานั้น ในใจเสิ่นอีเวยรู้สึกหมดหวัง

หล่อนรู้สึกว่าปอดของตัวเองใกล้จะระเ

บิดออะมาแล้ว

“เซิ่งเจ๋อเฉิงปล่อยฉันนะ!

ฉันจะไม่ยอมขึ้นรถคุณ…. ปล่อยฉัน!” เสิ่นอีเวยใช้ทั้งมือและเท้าเพื่อให้เพิ่งเจ๋ อเฉิงปล่อยให้หล่อนหลุดพ้นจากการบั งคับของเขา

เซิ่งเจ๋อเฉิงที่อยู่ด้านหน้าถึงกับประหลา ย ทำไมถึงได้มีแรงเยอะขนาดนี้

เขาเดินไปยังข้างหน้าต้องใช้พละกำลัง เยอะขนาดนี้ถึงได้ลากหล่อนให้เข้ามาใ

กล้อีกนิด

ผู้หญิงที่ด้านหลังเขายังคงเอาแต่หาวิธี

ทำให้หลุดจากมือเขา เซิ่งเจ๋อเฉิงถึงว่าตัวเองทนต่อหล่อนมา จนเกินขีดจำกัดแล้ว

ในที่สุดเขาก็ได้คิดวิธีออก

เซิ่งเจ๋อเฉิงหันตัวกลับไปแบบไม่มีการ

ลังเลใดๆ

ตอนนั้น

เสิ่นอีเวยที่กำลังเปล่งเสียงอย่างบ้าคลั่ งถึงกับตกใจไปสักพักที่อยู่ดีๆเซิ่งเจ๋อเ ฉิงหันกลับไป

ประโยคหลังที่ยังไม่หลุดออกมาจากปา “คุณ…โอ้ย! คุณกำลังจะทำอะไร!”

“เด็กดี อย่างอแง” ณ วินาทีนั้น น้ำเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงกลับมีความรู้สึ กอบอุ่นขึ้นมานิดๆ

โลกในเวลานั้นเหมือนกลับเข้าสู้ความส งบอีกครั้ง

เสียงสายลมที่พัดอยู่ในอากาศ

เสียงลมหายใจ

เสียงหวูดร้องของเรือข้ามฟาก ทุกสิ่งที่อย่างราวกับมันห่างออกไปไก ล

พวกมันต่างเดินไปข้างหน้าแล้วต่างถอ ยกลับไปตามวิถีของมัน

ระยะห่างระหว่างสวงสวรรค์กับพื้นพิภ พนั้นห่างกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด องที่มีทั้งความรีบเร่ง ความหวาดกลัว แต่ตอนนี้…

มันกลับทําให้รู้สึกสงบขึ้นมาแทน

ความนึกคิดของเสิ่นอีเวยยังคงติดอยู่กั บคำพูดประโยคที่จะด่าเขาครึ่งหลังนั้น

ทวีความรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองนั้นถู กสวมกอดขึ้นมา

ในเวลาที่รวดเร็วปานสายฟ้าฟาดนั้น หล่อนรู้สึกว่าตัวเองเข้าไปอยู่ในอ้อมก อดที่อบอุ่น

ในอ้อมกอดนั้นมีน้ำหอมกลิ่นไม้หอมที่ หล่อนคุ้นเคยเป็นอย่างดี

ในเวลานั้น

เสิ่นอีเวยถึงกับหมดคำพูดแล้วแทบจะพู ดไม่ออกเลยสักคำ อารมณ์ต่างๆของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ยอมสงบ

ลงในเวลานี้

เขารู้ถึงสาเหตุดีอยู่แก่ใจว่าเป็นเพราะผู้

หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดคนนั้นหยุดงอแง ต่อล้อต่อเถียงกับเขาแล้ว

ถึงแม้ว่าไม่อยากบอกความจริงกับเสิ่น อีเวยที่อยู่ตรงหน้า แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มบริเวณ

มุมปาก

แต่การยิ้มอย่างพออกพอใจนี้ เสิ่นอีเวยเอาแต่ก้มหน้าเลยไม่เห็น แต่ว่าก็ช่างมันเถอะ

ณ วินาทีนั้น ขอแค่หล่อนเชื่อฟังเขาก็พอแล้ว เซี่งเจ๋อเฉิงคิดอยู่ในใจ ถยนต์

เสิ่นอีเวยถึงได้ใช้ความกล้าที่มีอยู่ค่อย

ๆเงยหน้าขึ้นมา

สิ่งแรกที่มองเห็นคือคางของเขามันช่า

งสะอาดหมดจด

เส้นกรามตรงดิ่งอย่างชัดเจน แต่ทำไมช่างไม่เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ที่รู้สึกเหมือนว่ามีหนวดเคราคอยมาทิ่ม แทงอยู่แบบนั้นกัน

ตั้งแต่ไหนแต่ไรเซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นคนที่รัก ษาพพจน์อยู่เสมอ

ประตูด้านข้างคนขับรถถูกเปิดออก เซิ่งเจ๋อเฉิงค่อยๆให้หล่อนนั่งลงไป แถมยังคาดเข็มขัดนิรภัยให้หล่อนด้วย

ทำเหมือนกับกลัวว่าหล่อนจะหนีเขายัง เส้นผมของเขาสะบัดโดนบริเวณคางขอ งหล่อน มันช่างรู้สึกคันระยิบ

เงินอีเวยเม้มปากไว้ทําเหมือนไม่อยาก พูดอะไรต่อ
200313034_535066327855242_6422453273604846280_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ