นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่197เสิ่นอีเวยไปพบเจิ้งอนชวน



บทที่197เสิ่นอีเวยไปพบเจิ้งอนชวน

บทที่197 เสิ่นอีเวยไปพบเจิ้งอวิ๋นชวน

“ตกลง

ผมจะให้เวลาคุณเสิ่นหนึ่งชั่วโมงในการ มาที่นี่ ผมจะรอคุณ”

หลังจากนั้นเจิ้งอวิ๋นชวนก็แจ้งชื่อชื่อหนึ่ ง เสิ่นอีเวยฟังแล้วก็รู้สึกคุ้นเคยกับมัน

สมองของเธอทำการค้นหาอย่างรวดเร็ เธอเคยได้ยินหลินโม่เยนเพื่อนสนิทขอ งเธอพูดถึงมันมาก่อน

ว และในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์ออกมา มันคือชื่อของบาร์แห่งหนึ่ง

บาร์แห่งนั้นไม่ได้มีขนาดเล็กเลย เสิ่นอีเวยยังลังเลอยู่ในใจ

ทำไมเจิ้งอวิ๋นชวนถึงเลือกสถานที่เป็น บาร์เช่นนี้?

หรือเขาคิดว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ไหนก็ต้อ งจบลงที่นั่น?

แต่ที่น่าเสียดายก็คือตอนนี้ยังไม่ใช่เวล าที่ตนจะมาจู้จี้จุกจิก

เจิ้งอวิ๋นชวนเป็นบุคคลสำคัญในเรื่องนี้

ในเวลานี้เสิ่นอีเวยไม่มีทางเลือกนอกจ

ากจะฟังเขาก่อน

“ตกลง ฉันจะไปตรงเวลา” เสิ่นอีเวยพูดกับโทรศัพท์

ขณะที่เธอกำลังจะวางสายก็ได้ยินเจิ้งอ วั่นชวนถามอีกครั้งว่า “อ้อ

ผมอยากถามว่า

คุณเสิ่นจะมาคนเดียวหรือมีคนอื่นมาด้ว ย?”

เสิ่นอีเวยชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าทำไมเจิ้งอวิ๋นชวนถึงได้ถามคำถ ามนี้

เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ฉันไปคนเดียว ทำไมเหรอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

เสียงหัวเราะอันเบิกบานของเจิ้งอวิ๋นชว นดังออกมาจากปลายสาย “ฮ่าๆๆ ไม่มีอะไร ผมถามดูเฉยๆ ”

เสิ่นอีเวยเกลียดเสียงหัวเราะอย่างเหิมใ จของเจิ้งอวิ๋นชวน

เธอพยายามอดทนกับความขยะแขยงอ

ย่างรุนแรงภายในใจแล้วพูดขึ้นว่า “แล้วพบกันค่ะคุณเจิ้ง”

จากนั้นเธอก็ไม่รอให้เจิ้งอวิ๋นชวนตอบ เสิ่นอีเวยวางสายลงทันที

เสิ่นอีเวยหยิบกระเป๋าของเธอออกมาจ ากห้องทำงานโดยไม่ลังเล

ทันทีที่ออกมาก็ได้พบกับฉินจื่อเฟิงที่ กำลังเดินเข้ามาหาเธอ

“ประธานเสิ่น! ”

ฉินจื่อเฟิงทักทายเสิ่นอีเวย มีเอกสารหลายฉบับอยู่ในมือของเธอ

“ประธานเซิ่งไม่อยู่

เอกสารเหล่านี้ต้องให้คุณลงนาม” ฉินจื่อเฟิงพูดแล้วยื่นสิ่งของในมือให้กั บเสิ่นอีเวย

เสิ่นอีเวยยกมือบังไว้แล้วพูดว่า

“คุณเอาเอกสารเหล่านี้ไปวางบนโต๊ะข องฉันในห้องทำงาน

ตอนนี้ฉันมีธุระด่วนต้องรีบไปเดี๋ยวนี้! จากนั้นเธอก็เดินผ่านฉินจื่อเฟิงไปข้าง หน้าโดยไม่สนใจเสียงเรียกที่ตามมาข้า งหลัง

ฉินจื่อเฟิงกำลังจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่หลังของเสิ่นอีเวยก็หายวับไปที่มุมห นึ่ง

ฉินจื่อเฟิงถือเอกสารด้วยสีหน้างุนงง บ่นพึมพำเบาๆ

“วันนี้ประธานเสิ่นเป็นอะไรไป ปกติเรื่องจะด่วนแค่ไหนก็ไม่เคยเห็นเธ อรีบร้อนแบบนี้”

เสิ่นอีเวยก้าวออกจากประตู เดินเข้าไปในลิฟต์ เธอกดชั้น B1 เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเลิกงานจึงไม่มีใ ครอยู่ในลิฟต์

ขณะที่ลิฟต์ค่อยๆ เคลื่อนตัวลงมาเสิ่นอีเวยก็รู้สึกผิดปกติเ

ล็กน้อย

ลิฟต์ในวันนี้ดูเหมือนจะแตกต่างจากปก

ติเล็กน้อย

เสิ่นอีเวยไม่รู้ว่าเป็นภาพหลอนของตน

หรือเป็นเพราะลิฟต์เกิดปัญหาขึ้นจริงๆ เธอได้ยินเสียงหึ่งๆ

ในลิฟต์เหมือนเสียงการทำงานของชิ้น ส่วน เหมือนว่าจะลิฟต์จะเสีย

เสิ่นอีเวยเกิดความเครียดขึ้นในจิตใจอ

ย่างสูง

เพราะขณะนี้มีเธอเพียงคนเดียวในพื้นที่

ทั้งหมด เธอเงยหน้าขึ้น

ลิฟต์กำลังอยู่บนชั้นที่ 18

และในขณะนั้นเองลิฟต์ที่เดิมกำลังเคลื่

อนที่ลงอย่างช้าๆ

ก็ตกลงมาอย่างรวดเร็ว “อา!”

เสิ่นอีเวยส่งเสียงกรีดร้อง หัวใจที่อยู่ภายในหน้าอกของเธอแทบจ ะวิ่งผ่านลำคอออกมา

ในชั่วพริบตานั้นสัมผัสทั้งห้าของเสิ่นอีเ วยได้ถูกล้อมรอบไปด้วยความหวาดกลั

เธอรู้ว่าลิฟต์นั้นเกิดขัดข้องขึ้นแล้ว

ในเวลานี้หลอดไฟที่เคยมีแสงสว่างอยู่

ดีๆ เริ่มกะพริบ

แสงในพื้นที่ทั้งหมดเดี่ยวสว่างเดี๋ยวมืด

เสิ่นอีเวยยังได้ยินแม้แต่เสียงจี่ๆ

อันบางเบาของกระแสไฟฟ้า เธอพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

ให้ดีที่สุด

จากนั้นจึงเอื้อมมือไปกดปุ่มทุกชั้นที่อยู่

ต่ำกว่าชั้น 18 ในขณะที่ตนเองยังไม่เวียนหัว

พอกดปุ่มเสร็จแล้ว

ขณะที่มือของเสิ่นอีเวยกำลังออกห่างจ ากปุ่มกดชั้น

หลอดไฟในลิฟต์ก็ดับลงอย่างสมบูรณ์

เสิ่นอีเวยเริ่มมีอาการกลัวที่แคบตั้งแต่อ ายุได้ 13 ปี หลังได้รับการวินิจฉัย เธอก็ไม่เคยอยู่คนเดียวในพื้นที่แคบแล ะมืดมาเป็นเวลาหลายปี

เสิ่นอีเวยรู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมาในทัน

ที ร่างกายทั้งหมดของเธออ่อนยวบ

ไม่มีเรี่ยวแรงใดๆ

แม้แต่เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ

ก็ไม่สามารถเปล่งออกมาได้

ท่ามกลางความมืดขาทั้งสองข้างของเ

ธอทรุดลงอย่างควบคุมไม่ได้

ในที่สุดเธอก็ล้มลงนั่งกับพื้น หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อข นาดใหญ่ แม้แต่ผมที่ปรกบนหน้าผากของเธอก็เ ปียกชื้นไปหมด แต่เนิ่นอีเวยก็ไม่รู้ตัว มือทั้งสองข้างของเธอสั่นอย่างรุนแรง

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกร ะเป๋าอย่างยากลำบาก ต้องการโทรหาฝ่ายอาคารแต่กลับพบว่ าข้างในนี้ไม่มีสัญญาณเลย

โทรศัพท์ไม่สามารถโทรออกได้ เครือข่ายไม่สามารถเชื่อมต่อได้ เ นอีเวยรู้สึกอับจนหนทาง เธอทรุดนั่งลงกับพื้นแล้วค่อยๆ ขยับไปทิ่มม

เธอพยายามขดร่างกายของเธอให้แนบ สนิทกับมุมผนัง ตอนนี้มีเพียงวิธีนี้ที่จะสามารถบรรเทาค วามกลัวในจิตใจของเธอให้ได้มากที่สุ

ในเวลานี้เสิ่นอีเวยพบว่าลิฟต์หยุดทำงา นอย่างสมบูรณ์และไม่เคลื่อนที่ เธอเปิดไฟฉายในมือถืออย่างสั่นเทาแ ล้วมองไปทางหมายเลขชั้น บริเวณหน้าจอแสดงผลมืดและไม่มีข้อ มูลใดๆ

นั่นหมายความว่าเสิ่นอีเวยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ าตัวเองกำลังหยุดอยู่ที่ชั้นไหน

ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้แม้แต่เสิ่นอีเวยเ องก็ยังประหลาดใจ คนที่เธอคิดถึงเป็นคนแรกคือเซิ่งเจ๋อเฉิ ง ทำไมนะ

นี่เธอยังหวังว่าเขาจะมาช่วยตนเองอีก

หรือ? ไม่มีทาง

ตอนนี้เซิ่งเจ๋อเฉิงกำลังจัดการเรื่องราว ต่างๆ หลังจากที่คุณปู่ถึงแก่กรรม เขาไม่สามารถมาช่วยเธอได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอตกอ ยู่ในอันตราย

แล้วเขาจะมาช่วยเธอได้อย่างไร?

หัวใจของเสิ่นอีเวยนั้นสิ้นหวังอย่างแท้

จริง ในวินาทีถัดมา

ชื่อเจิ้งอวิ๋นชวนก็วิ่งเข้ามาในสมองของ

เธอ เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ

ว่าตัวเองจะมาพบเรื่องราวเช่นนี้ในเวลา

ที่กำลังจะไปหาเจิ้งอวิ๋นชวน

คุณชายผู้เย่อหยิ่งจองหองนั่นถ้ารอตนเ

องนานเกินไป

ก็ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ให้โอกาสเธอได้อธิ บายและขอโทษเขาอีกเลย หากเป็นแบบนี้ความหวังในการร่วมมือร ะหว่างบริษัทเซิ่งชื่อและตระกูลเจิ้งทั้ง เสิ่นอีเวยไม่ต้องการเห็นสถานการณ์เล วร้ายเช่นนั้นเกิดขึ้น

หมดจะสูญสิ้น

เนื่องจากลิฟต์นั้นเสียโดยสิ้นเชิง

ดังนั้นในตอนนี้ต่อให้กดปุ่มแจ้งความก็

ไม่มีประโยชน์ใดๆ

เสิ่นอีเวยกำลังร้อนใจดุจไฟแผดเผา จิตใจของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลั

พอร้อนใจดวงตาก็ยิ่งเปียกชื้น เวลาผ่านไปแต่ละนาทีราวกับสายน้ำ ออกซิเจนในอากาศเริ่มเบาบางลงเรื่อย

เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าแม้แต่การหายใจของต นเองยังยากลำบากขึ้น ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะความรู้สึกไม่สบาย

หรือเปล่า

ความตระหนักรู้ในสมองของเสิ่นอีเวยเ

ริ่มเลอะเลือนขึ้นเรื่อยๆ

ในขณะนี้ดวงตาของเธอเหมือนมีม่านห

มอก

การมองเห็นที่เคยชัดเจนกว่าใครได้กล

ายเป็นฝ้ามัว

เธอมองเห็นเรื่องราวในวัยเด็กหลายสิ่ง

หลายอย่างผ่านม่านหมอกนั้น

อย่างเช่นเธอเป็นโรคกลัวที่แคบได้อย่า

งไร

เสิ่นอีเวยจำได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นปี

ที่เธออายุ 13 ปี

มันเป็นวันหยุดฤดูร้อน

เธอยังคงจำได้ว่าวันนั้นอากาศร้อนแค่ไ หน พ่อแม่ของเธอออกไปข้างนอก ในบ้านมีเพียงเธอกับเงินหุ้ยผู้เป็นพี่สาว

แค่สองคน

สองพี่น้องทำการบ้านเสร็จแล้วก็นั่งดูโ ทรทัศน์อยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น เครื่องปรับอากาศในห้องนั่งเล่นเปิดแร

งพอสมควร

เสิ่นหุ้ยถือแตงโมที่แม่ผ่าไว้ก่อนออกจ ากบ้านออกมาจากตู้เย็น

สองพี่น้องดูโทรทัศน์ไปกินไป เดิมทีทุกอย่างก็เรียบร้อยดี ต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนั้นมาจากเ กมซ่อนหา

ระหว่างทางพ่อแม่ได้โทรศัพท์เข้ามา พวกเขาบอกในโทรศัพท์ว่ามีธุระด่วนก ะทันหัน

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถกลับบ้านไ ด้ในเวลานี้ ให้สองพี่น้องอยู่รอที่บ้าน พวกเขาจะกลับมาพรุ่งนี้เช้า

เงินหุ้ยเป็นคนรับโทรศัพท์

หลังจากวางสายไปแล้ว พี่สาวได้ชวนเสิ่นอีเวยเล่นซ่อนหากับเธ อเหมือนเด็กๆ ตอนแรกเสิ่นอีเวยกําลังดูโทรทัศน์เพลิ

ที่กำลังเล่นอยู่ในโทรทัศน์

นจึงยังไม่ได้ตอบตกลง
191797586_995815927619181_5180217188771093643_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ