นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่389ทําไมถึงถอนตัวไม่ยอม ออกแบบชุดแต่งงานต่อไปล่ะ



บทที่389ทําไมถึงถอนตัวไม่ยอม ออกแบบชุดแต่งงานต่อไปล่ะ

บทที่ 389 ทำไมถึงถอนตัวไม่ยอมออกแบบชุดแต่งงานต่อไป

เสิ่นอีเวยถูกเพิ่งเจ๋อเฉิงจูบจนลืมตัวคิดเตลิดไปต่างๆนานา เพิ่งเจ๋อเฉิงเริ่มเอามือซุกเข้าด้านในเสื้อผ้าเสิ่นอีเวยถึงได้สติขึ้น

มา

เธอใช้ชีวิตอยู่กับเขามาตั้งหลายปี เธอต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ การที่ต้องมาเผชิญหน้าต่อความตื่นกระหายของเขานั้นไม่ควร ที่จะแข็งข้อกับเขา

ทำตัวให้น่าสงสารเข้าไว้นั่นแหละเป็นวิธีการรับมือ แบบใหม่ของเธอ

“อย่าทำแบบนี้ค่ะ วันนี้ร่างกายฉันไม่ค่อยสะดวกสักเท่า

เงินอีเวยเอ่ยขึ้นมาอย่างอ่อนโยนแถมมีการเม้มปากเบาๆ แล้วจ้องหน้าเขามีการแกล้งท่าน่าตาน่าสงสารจับจิต

เพิ่งเจ๋อเฉิงแพ้พ่ายต่อดวงตาที่เขาสบตาอยู่ ส่วนใจที่เข้ม แข็งถึงกับโอนอ่อนลงไปเกินครึ่ง ส่วนความตื่นกระหายอย่าง ดุดันที่อยู่ในร่างกายกลับถูกความกังวลของเขาที่มีต่อร่างกายของเธอลดน้อยลงไปทันตาเห็น

ทว่า เพิ่งเจ๋อเฉิงยังไงก็เป็นเชิงเจ๋อเฉิงอยู่วันยังค่ำ ไม่มี ทางที่จะให้เงินอีเวยพูดมาคำสองคำแล้วสามารถเปลี่ยนแปลง ความคิดของเขาไปได้

เขายกคิ้วขึ้นพร้อมกับใช้มือเชยคางหล่อนขึ้นมาแล้วใช้ สายตาอันเฉียบแหลมถามเธอ “ร่างกายไม่สะดวก? พูดจริง หรือแกล้ง? แล้วทำไมเมื่อครู่ตอนที่อยู่ในห้องนอนเธอกลับไม่ พูดขึ้นมาเลยสักคำล่ะ?”

เสิ่นอีเวยรู้ดีในความหมายของเพิ่งเจ๋อเฉิงที่ว่า “ไม่ สะดวก” มันหมายถึงอะไร ในครั้งนี้ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ทายผิดแล้วล่ะที่ว่าไม่สะดวกนั้นไม่ได้หมายถึงประจำเดือนสัก หน่อย

เงินอีเวยที่ยังทำตัวน่าสงสารต่อไป เธอใช้กลวิธีอธิบาย อย่างอ่อนโยนให้เขาฟัง: “ฉันหมายถึง ครั้งที่แล้วที่เรามีอะไร กัน ร่างกายของฉันยังไม่กลับมาเป็นปกติสักเท่าไหร่ ยังเจ็บ

เพิ่งเจ๋อเฉิงถึงกับตกตะลึงและมือที่กำลังวุ่นวายกับเรือน ร่างของเธออยู่ถึงกับหยุดทันทีในเวลานั้น

เหตุผลที่เสิ่นอีเวยบอกกับเขามานั้น เพิ่งเจ๋อเฉิงได้แต่ทำ หน้าทําตาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทว่าก็ยอมปล่อยเธอ

เขาจ้องตาเธอแล้วเอ่ยขึ้นมา “ได้ ร่างกายของเธอไม่สะดวกในยามนี้ ฉันก็จะไม่บีบบังคับขืนใจเธอ แต่

เพิ่งเจ๋อเฉิงหยุดคำพูดเอาไว้แล้วเขยิบใบหน้าเข้าหาเธอ ให้ใกล้ขึ้นมาอีกนิด: “หากฉันจับได้ว่าเธอเอาเหตุผลบ้าบอ ขึ้นมาอ้าง ถึงเวลานั้นเธอตายแน่

การถูกเขาข่มขู่อย่างดุร้ายเช่นนี้ ถ้าให้เธอพูดว่าการไม่ เกรงกลัวเขานั้นถือว่าเธอพูดโกหก แต่ก็ปล่อยไปตามนั้น เรื่อง แบบนี้จะมาขอดูหลักฐานก็ไม่มีวิธี เพราะฉะนั้นเธอเลยไม่กลัว

เงินอีเวยตั้งใจที่จะส่งรอยยิ้มอ่อนหวานให้เขา แล้วรีบหัน ตัวกลับมาหั่นผักต่อ เมื่อครูที่ถูกเขาจูบอย่างดุดันหนักหน่วงนั้น ตอน ริมฝีปากของเธอเริ่มบวมขึ้นมาแทน มันเจ็บปวด แต่ กลับรู้สึกร้อนผ่าวอีกด้วย

ในปากของเธอยังมีลมหายใจที่ดุดันของเขาซ่อนอยู่นั้น มันชั่งเป็นลมหายใจที่คุ้นเคย หลายปีมานี้มันเป็นความทรงจำ ที่อยู่ในใจเธอมาตลอดทำยังไงก็ไม่มีทางหายไปได้

เสิ่นอีเวยเหมือนถูกกลิ่นนี้และความทรงจำเหล่านี้ตราตรึง อยู่รอบตัว ไม่สามารถลืมมันไปได้สักที

ในห้องรับแขกเปิดแอร์ไว้ตลอด ห้องครัวกับห้องรับแขก นั้นก็ติดกัน แก๊สในห้องครัวก็เปิดเอาไว้เพราะฉะนั้นสภาพ อากาศก็ไม่ได้หนาวมากไปสักเท่าไหร่

เงินอีเวยนำอาหารมาจัดวางบนโต๊ะอาหาร ที่หน้าผากของเธอมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นเป็นแถบ

เธอถอดผ้ากันเปื้อนออกเพราะเธอร้อนจนทนไม่ไหวจาก นั้นก็เดินมุ่งหน้าไปที่หน้าแอร์เพื่อรับความเย็นจากตัวแอร์ให้ตัว เองรู้สึกเย็นสบายขึ้น

“ใช้วิธีนีเป่าเลยหรอ จะไม่เป็นหวัดใช่ไหม?” เสียงเขาดัง ขึ้นมาทางด้านหลัง

เสิ่นอีเวยได้แต่ทำท่าไม่สนใจคำพูดของเขาอยู่ในใจ

เมื่อเป่าลมไปสักพัก เงินอีเวยถึงได้กลับมาที่โต๊ะกินข้าว ทว่าเธอกลับเห็นว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงยังไม่ได้หยิบตะเกียบขึ้นมาเลย เหมือนว่าเขาตั้งใจที่จะรอเธออยู่

“ทำไมไม่กินล่ะ?” เธอถามเขา

“รอเธอนะสิ” เขาตอบเธอทันควัน

เงินอีเวยถึงกลับเขินแล้วนั่งทานข้าวพร้อมกับเขา ตอน แรกก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองหิวเลยสักนิด แต่ว่าอาหารอร่อยที่จัดวาง อยู่เต็มโต๊ะไปหมด เธออดใจไม่ไหวแถมยังมีเสียงท้องร้องจ๊อก จ๊อกดังขึ้นมาอีก

หลังจากจัดการกินอาหารอย่างอิ่มหมีพีมันแล้ว เธอทอด สายตามองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าที่เขายังคงดื่มน้ำซุปอย่าง ละเมียดละไม ส่วนข้าวอบซี่โครงหมูเขาจัดการไปตั้งนานแล้ว เงินอีเวยกินข้าวอบไปแค่หนึ่งถ้วยส่วนอาหารที่เหลือเชิง

เจ๋อเฉิงเป็นคนจัดการไปทั้งหมด
ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้ จะชอบข้าวอบซี่โครงหมูที่เธอทำ

จริงๆ

ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วจะยังไงล่ะ? เธอไม่ยอมแน่กับการที่จะ ให้ตัวเองเป็นแม่ครัวที่มีหน้าที่แค่ทำกับข้าวให้เขากิน โดยเฉ พาะหน่ะ!

เงินอีเวยทำสัญญากับใจของตัวเองว่า นี่จะเป็นครั้ง สุดท้ายที่ตัวเธอจะทำข้าวอบซี่โครงหมูให้เขากิน ถ้ามีครั้งหน้า ขึ้นมาอีกครั้ง งั้นเธอจะถือว่าตัวเองเป็นหมาที่ทำแบบนั้นอีก

เพิ่งเจ๋อเฉิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอเริ่มวางตะเกียบในมือ ลงแต่ไม่ได้รู้สึกว่าเสิ่นอีเวยกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ในหัว

หลังจากทานอาหารเสร็จ เงินก็เลยก็คิดถึงเรื่องที่ได้พูด

คุยกับเจ้านายของเธอในห้องทำงานของเจ้านาย เลยถามเขา

กลับ : “ฉันมีคำถามอยากจะถามคุณ

เขาวางผ้าเช็ดปากที่อยู่ในมือลง: พูดมา

เสิ่นอีเวยมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าพร้อมด้วยความรู้สึก เศร้านิดๆ ที่เธอไม่สามารถบังคับมันไว้ได้ “ทำไมบนโลกใบนี้ถึง ได้มีผู้ชายที่กำลังเช็ดปากอยู่ถึงได้หล่อบาดใจขนาดนี้นะ?

เงินอีเวยผลุบตาลงและพยายามเรียบเรียงคำพูดเพื่อถาม เขา: “คุณเป็นเจ้าของบริษัทเครื่องประดับAute จริงๆหรอ?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรกับคำถามของเ นอีเวย เลยตอบเธอไปตามปกติ: “ทำไม มันไม่เหมือนว่าเป็นของฉันหรอ?*

เมื่อเรื่องถูกเปิดเผยความจริงขึ้นมา พูดจริงๆ เป็นอีเวย เริ่มมีความไม่สบายใจมันกลับเป็นความรู้สึกกังวลใจแทน เงินอีเวยไม่ได้สนใจที่เขาหยอกล้อเธอ “ตอนไหนกันที่

คุณเริ่มคิดที่จะทำบริษัทเครื่องประดับขึ้นมา?

เขาเล่นซ้อนที่อยู่ในมือขวาอยู่ตลอด ทำเหมือนว่ากำลัง เล่นน้ำอยู่ ดูอาการแล้วเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่ สายตาที่จ้องมองเสิ่นอีเวยอยู่นั้นกลับจริงจังเอามาก

ดวงตาที่งดงามของเพิ่งเจ๋อเฉิงแสดงออกถึงประกายความ เศร้าและใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ มันทำให้เสื่นอีเวณรู้สึกนั่งไม่

“เริ่มตั้งแต่ตอนเธอเริ่มเรียนด้านการออกแบบเครื่อง ประดับที่ประเทศอังกฤษเมื่อปีที่แล้ว

เสิ่นอีเวยใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาโดยไม่ทราบ

สาเหตุ

ทำไม? แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับฉันล่ะ?

เพิ่งเจ๋อเฉิงกระดูกคิ้วขึ้น “พอเธอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ฉันก็มี

คาถามถามเธอเหมือนกัน

เสิ่นอีเวยเงยศีรษะขึ้นแล้วจ้องตาเพิ่งเจ๋อเฉิง : “อะไร?”

“เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าเธอชอบการออกแบบชุดแต่งงานหรอกหรอ? ทำราวกับมันเป็นทุกอย่างของชีวิต พอไปอยู่ที่อังกฤษ แล้วทำไมถึงได้เปลี่ยนทิศมาเรียนเรื่องออกแบบชุดประดับไป

เงินอีเวยได้แต่ยิ้มแล้วตอบเขา “คนเราทุกคนต่างทำได้ หลายอย่าง ฉันก็ไม่แตกต่างไปจากนั้นนั่นแหละ

เพิ่งเจ๋อเองใช้สายตาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งมองเสื่นอีเวงอย่าง สงสัยพลางถามกลับ: “มันง่ายขนาดนั้นจริงๆหรอ?”

สายตาและการกระทำที่เสิ่นอีเวยแสดงออกมาอย่างคง แน่วแน่ เธอจ้องมองเขาแล้วพยักหน้าตอบกลับ ไม่ต้องมาทำ หน้าสงสัยเลย มันง่ายดายแบบนี้แหละ

ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว เสิ่นอีเวยกำลังโกหกอยู่

ที่เธอยอมทิ้งการออกแบบชุดแต่งงานไปนั้นเพราะในใจ เธอรู้ดีว่าชั่วชีวิตนี้เธอจะไม่มีการแต่งงานอีกหลังจากที่เธอหย่า ขาดกับเซิ่งเจ๋อเฉิงแล้ว

เธอไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ตัวที่รู้ว่าตัวเองไม่มีโอกาสที่ได้ใส่ ชุดแต่งงานที่ตัวเองเป็นคนออกแบบชุดแต่งงานสวยหรูตัวนั้น แต่ยังคงใช้สองมือในการไปออกแบบตัวอย่างชุดแต่งงานให้ กับคนอื่นอีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ