นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่226โทรศัพท์จากหลินอวี้



บทที่226โทรศัพท์จากหลินอวี้

บทที่ 226 โทรศัพท์จากหลินอวี้

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางบรรยาก าศที่สงบเงียบ เซิ่งเจ๋อเฉิงได้สติกลับมามองไปที่โทร ศัพท์มือถือของตนเอง

เซิ่งเจ๋อเฉิงคว้ามือถือของตนเองที่วาง อยู่บนโต๊ะมาดูโดยไม่ลังเล ปลายสายคือหลินอวี้

คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย ขณะที่กำลังกดแป้นตัวเลขก็ลุกขึ้นเดิน ไปนอกห้องคนไข้อย่างรวดเร็ว

“ฮัลโหล”

เสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงมีความสงบนิ่งที่เ

ป็นความเคยชิน สภาพแวดล้อมรอบๆ

หลินอวี้นั้นเงียบสงบมาก เสียงของเขาดังออกมา “ประธานเซิ่ง ตรวจสอบได้แล้ว ยาเม็ดสีขาวที่คุณให้ผมมันใช้สำหรับรั กษาโรคตับ”

สมองของเซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นเหมือนเชือกที่

ยึดแน่น

มันไม่ได้ขาดแต่ยังคงถูกแขวนอยู่เช่นนั้ นเมื่อเขาได้ยินคำตอบจากหลินอวี้ เพราะไม่มีอะไรที่เหนือไปจากการคาด คิดเมื่อได้ยินคำตอบ

แค่คิดย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่เสิ่นอีเ วยกินยาในครั้งนั้น

เขาถามเธอว่ากินยาอะไร เธอบอกว่ามันเป็นยาสําหรับควบคุมสภ

าพร่างกายหลังจากการแท้งลูก หัวใจของเขายังคงเต็มไปด้วยความโก

รธ

เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเสิ่นอีเวยตั้งใจ

หลอกลวงเขา

เซิ่งเจ๋อเฉิงถอนหายใจอยู่ในใจและพูด กับหลินอวี้ที่อยู่ปลายสายว่า “โอเค ผมเข้าใจแล้ว”

แต่เมื่อหลินอวี้ได้ยินประโยคนี้จากเจ้าน าย เขาก็ไม่ได้วางสายตามปกติ แต่ถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง

“เกิดอะไรขึ้นครับประธานเซิ่ง?”

ทางเดินของโรงพยาบาลกว้างและสว่า งไสว

เซิ่งเจ๋อเฉิงยืนอยู่ที่ปลายสุดของทางเดิ นซึ่งมีหน้าต่าง หน้าต่างนั้นเปิดอยู่ รู้สึกถึงลมเย็นยามค่ำคืนที่หลั่งไหลเข้า

มาจากหน้าต่าง อุณหภูมิของมันเย็นจนปวดกระดูกเล็ก น้อย

แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงกลับไม่รู้ตัว

เขาเอามือของเขาแตะเบาๆ ที่ข้างหู จ้องมองไปที่ระยะไกลอย่างเงียบๆ . ด้วยดวงตาที่ลึกซึ้งราวกับทะเลของเขา แม้จะเป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่เขาก็ยังสามารถมองเห็นเส้นขอบฟ้า ในระยะไกลซึ่งเป็นสีน้ำเงินเทา

ทิวเขาหนาแน่นที่อยู่ตรงเส้นขอบฟ้าสี น้ำเงินเทานั้นกระเพื่อมเป็นระลอก ให้ความรู้สึกความห่างไกลและอ้างว้าง

อย่างเยี่ยมยอด

ดวงตาที่ลึกซึ้งของเซิ่งเจ๋อเฉิงจับจ้องอ ยู่ที่ระยะไกล

ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย ผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นเบาๆ ว่า

“มีบางอย่างผิดปกติ

แต่ตอนนี้คุณยังไม่ต้องกังวลอะไร”

หลินอวี้เป็นคนสนิทของเขาเสมอ ก่อนที่เพิ่งเจ๋อเฉิงจะเข้าร่วมบริษัทเซิ่ง ชื่ออย่างเป็นทางการ หลินอวี้ก็มาอยู่กับเขาแล้ว

คนหนึ่งเจ้านาย คนหนึ่งลูกจ้าง สองคนเดินตามกันมาหลายปีแล้ว ความเข้าใจโดยปริยายที่ดีระหว่างพวก เขาได้สร้างกันมานานโดยที่พวกเขาไม่

รู้

ดังนั้น

มีบางเรื่องไม่ต้องพูดมากก็เข้าใจกันแล้

หลินอวี้ตอบอย่างสงบนิ่ง“ได้ครับ ถ้ามีอะไรคุณก็บอกมาได้เลยครับ”

“โอเค”

พูดจบเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ตัดสาย

เขายืนไปตรงหน้าต่างอีกสักพัก ท้องฟ้าข้างนอกมืดมนมาก ทำให้คนที่มองมันรู้สึกกดดัน

ไม่รู้ทำไม จู่ๆเขารู้สึกอยากสูบบุหรี่มาก

แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงรู้ดีว่าตนเองไม่ใช่คนที่ติ ดบุหรี่

ปกติที่เขาบุหรี่มักจะเป็นตอนที่เขารู้สึก

หงุดหงิดจนทนไม่ไหวถึงจะสูบ แต่อันที่จริงเหตุการณ์แบบนั้นน้อยมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เพิ่งเจ๋อเฉิงบอกไม่ถูกเ ลยว่าอารมณ์ของเขาตอนนี้เป็นยังไง จะว่าเป็นผิดหวังแต่ก็ไม่ใช่ จะว่าเป็นจนใจก็ไม่ถูก

บางทีทั้งหมดนี้คงต้องขึ้นอยู่อีกเดี่ยวที่ เสิ่นอีเวยจะมีท่าทียังไงตอนที่เธอเผชิ ญกับการสอบถามของเขา

ตอนนี้เสิ่นอีเวยนอนอยู่บนเตียงเงียบๆ กำลังคิดอยู่ว่าตนเองจะทำยังไงดี

ตั้งแต่เด็กเธอก็ไม่ชอบโรงพยาบาล อีกทั้งในการคาดเดาของเธอไม่มีฉาก ที่ตนเองดื่มเมาจนเกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้มันเกิดกระทันหัน

แถมคนที่ส่งเธอมาโรงพยาบาลยังเป็นเ ซึ่งเจ๋อเฉิงด้วย

เวลานี้เสิ่นอีเวยเลยรู้สึกทำตัวไม่ถูก

นึกถึงตอนที่หมอเข้ามาบรรยายอาการ ของเธอให้เธอฟัง ดูแล้วเธอยังคงต้องนอนพักที่โรงพยาบ าลประมาณ3ถึง4วัน และเสิ่นอีเวยไม่อยากอยู่ที่นี่นานขาดนี้

ตอนที่เธอกำลังคิดจะหนีออกไปยังไงป ระตูก็โดนผลักเปิด คนที่เข้ามาคือเพิ่งเจ๋อเฉิง เสิ่นอีเวยที่นอนอยู่ก็ก้มหน้าด้วยความรู้ สึกผิด

ไม่รู้ทำไมในขณะที่เขานั่งลงมา ถึงเสิ่นอีเวยจะไม่ได้เงยหน้าแต่เธอก็ยั งรับรู้ได้กลิ่นอายที่ผิดปกติของเขา กลิ่นอายที่เย็นชาและแฝงไปด้วยความ โกรธ

กลิ่นอายสิ่งนี้มันมีอยู่จริง

โดยเฉพาะคนอย่างเซิ่งเจ๋อเฉิง

เสิ่นอีเวยรับรู้ถึงความผิดปกติที่ชัดเจน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเธอเลยเงิน หน้าขึ้นมามอง

พอเงยหน้าก็สบกับสายตาอันเย็นเยือก

ของเซิ่งเจ๋อเฉิง

ใจของเธออดสั่นขึ้นมาไม่ได้

“เป็นอะไรหรอ”เพราะความกลัว เธอเลยเอ่ยปากถามก่อน

ใบหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงไร้อารมณ์ แต่เสิ่นอีเวยเข้าใจเขาดี ปกติเขาก็ทำหน้าแบบนี้อยู่บ่อย เพียงแต่วันนี้รู้สึกมันแปลกไปหน่อย เสิ่นอีเวยแอบตื่นเต้นในใจ

“รู้ไหมเมื่อกี้เป็นใครโทรมา”เซิ่งเจ๋อเฉิ งถามด้วยความเย็นชา

เงินอีเวยอดสงสัยในใจ คนอื่นเขาโทรหานายฉันจะไปรู้ได้ไงว่า เป็นใคร

ถึงจะคิดแบบนี้แต่เธอก็ไม่กล้าพูดออก มาหรอก ฟังน้ำเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิง เสิ่นอีเวยก็รู้แล้วว่าเขาอยากมาทะเลาะ กับเธอ

ทั้งสองแต่งงานมาสามปี

เสิ่นอีเวยเกลียดการทะเลาะไม่จบไม่สิ้น แบบนี้ไปนานแล้ว

ป่านนี้ถึงเธอจะเข้าใจแล้วว่าชาตินี้จะไม่

มีวันเอาตนเองมาใส่ใจอีก แต่เหตุการณ์ที่ทะเลาะกันเหมือนเมื่อก่

อนเธอก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น

เสิ่นอีเวยยอมรับว่าในความรักนี้เธอเหนื่ อยแล้ว

น้ำเสียงที่ถามปัญหาในเมื่อกี้ของเซิ่งเจ๋ อเฉิง

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเสิ่นอีเวยคงโต้ตอบไปแ ล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อยากแล้ว

“ไม่รู้”เสิ่นอีเวยตอบอย่างสงบนิ่ง

“เป็นหลินอวี้โทรมา”เซิ่งเจ๋อเฉิงตอบคำ ตอบไปโดยไม่ลังเล

เน เวยยิ่งรู้สักสงสัยขึ้น

หลินอวี้โทรมาเกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ

โชคดีที่เพิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนไม่อยากจะอ้ อมค้อมอีก

“หลังที่ส่งเธอมาโรงพยาบาล ฉันให้หลินอวี้ไปทำเรื่องหนึ่ง ฉันให้ยาเม็ดหนึ่งให้เขาไปเช็คว่ายานั้น อย่างที่คาดไว้เขาไม่ทำให้ฉันผิดหวัง

ใช้มารักษาโรคอะไร

เพียงแค่3ชั่วโมงเขาก็บอกผลสืบให้ฉัน แล้ว”

ตอนที่เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดถึงคำว่า’เม็ดยา’ไ ในใจของเสิ่นอีเวยเกิดความรู้สึกที่แปล

ม่รู้ทำไม

กออกมา

ผู้ชายคนนี้อยู่ๆมาบอกเรื่องเม็ดยากับเธ อทำไม เสิ่นอีเวยยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่

เพียงแต่รู้จักกับเซิ่งเจ๋อเฉิงมาหลายปี นิสัยของเขาเธอก็เข้าใจดีอยู่ ผู้ชายคนนี้จะไม่ทำเรื่องที่ไร้สาระ

ดังนั้น

คำพูดแปลกๆของเธอเมื่อกี้ต้องมีอะไร อยู่ในนั้นแน่

“คือเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอ”เสิ่นอีเวยพย ายามทำให้ตนเองดูสงบนิ่ง ยังไงเรื่องนั้นก็ไม่เกี่ยวกับเธออยู่ดี
199556946_3764327370344944_4502636082744384926_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ