นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่174ทั้งคู่ต่างตกลงร่วมกัน



บทที่174ทั้งคู่ต่างตกลงร่วมกัน

บทที่ 174 ทั้งคู่ต่างตกลงร่วมกัน

พอได้ยินจนถึงตรงนี้สีหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงปรากฏความ ตกใจขึ้นมา เขาเลิกคิ้วแล้วมองหล่อน

เธอรู้ได้ไงว่าสอันจึงเป็นคนบงการ? แล้วทำไมคนพวก

นั้นจึงฟังหล่อนหล่ะ?

จริงๆแล้วเสิ่นอีเวยทราบดีว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงมีจุดประสงค์ที่ ต้องการที่จะถามคำถามนี้เพราะเขาไม่ต้องการที่จะต่อกรกับส อันนิ่ง เพราะงั้นน้ำเสียงของเขาดูแข็งกร้าว

เสิ่นอีเวยกำลังนั่งอยู่บนโซฟาหล่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วปัดไรผมทรงบริเวณหน้าผากออก แล้วเอ่ยขึ้นมา : “ฉันบอกฉันมา ก่อนหน้างานเลี้ยงหลายวันก่อน หล่อนได้ยินที่สว อันนิ่งคุยในห้องน้ำอย่างไม่ตั้งใจ รายละเอียดนั่นสอันจึงบ งการให้ผู้ชายคนนั้นควรทำยังไงในงานเลี้ยงนั้น ฉันจือเพิ่งบ อกฉันมาหมดแล้ว แต่ว่าหล่อนถูกสอันข่มขู่ไม่ให้พูดไม่งั้น จะทำให้หล่อน ทำงานอยู่ในบริษัทเพิ่งซื้อไม่ได้อีก

“งั้นเธอรู้ได้ไง?

“ตอนนั้นฉันจื่อเชิงหวาดกลัวการข่มขู่ของเพราะ หล่อนมีน้องชายที่ป่วยหนักนอนอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ว่าหญิงสาวคนนี้ยังดีที่ยังจิตใจดีอยู่ หล่อนครุ่นคิดอยู่นานถึงคิดได้ว่า ควรบอกเรื่องนี้กับฉัน ดังนั้นหลังจากงานเลี้ยงคืนนั้นหล่อนเป็น คนยื่นใบลาออกเอง ในจดหมายนั้นมีรายละเอียดอยู่บ้าง จาก นั้นฉันเลยไปหาหล่อน หล่อนเลยบอกความจริงกับฉันทั้งหมด

เพิ่งเจ๋อเฉิงฟังมาถึงตรงนี้ก็หัวเราะขึ้นมาแล้วพูดว่า “ดีที่ ยังจิตใจดีอยู่หรอ? ถ้าหล่อนจิตใจดีอยู่จริงๆ ทำไมไม่บอกเรื่อง นี้กับเธอตั้งแต่แรกเล่า?”

เสิ่นอีเวยไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา หล่อนจ้องมอง ดวงตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงแล้วเอ่ยอย่างจริงๆจังๆ : “เมื่อครู่ฉันพูด แล้วว่าตอนนั้นหล่อนถูกสอนฉิงข่มขู่อยู่ไง น้องชายของหล่อน ป่วยหนักต้องการเงินมารักษาอาการ แล้วถ้าหากหล่อนปฏิเสธ สอนฉิงแล้วลาออกจากบริษัทเพิ่งซื้อไปแล้ว คุณคิดว่าหล่อนจะ หางานทำได้ไหมหล่ะ? ผู้หญิงอย่างสวอนจึงจิตใจช่างโหดร้าย ฉันจือเพิ่งไม่ฟังหล่อนละก็ หล่อนก็คงไม่ปล่อยฉินจือเพิ่งไป แน่ๆ”

เพิ่งเจ๋อเฉิงมองหล่อนด้วยหางตา “ทำไมเมื่อก่อนฉันไม่ เคยรู้ว่าเธอจิตใจดีขนาดนี้

เสิ่นอีเวยฟังน้ำเสียงอันแปลกพิกลของเขาได้แต่ขมวดคิ้ว ถาม: “คุณหมายความว่ายังไง?

เพิ่งเจ๋อเฉิงฉีกยิ้มแล้วตอบเบาๆ “ฉันประหลาดใจมาก คนอย่างเธอที่ถูกคนอื่นทำร้ายได้ขนาดนี้ยังคิดแทนคนอื่นได้

อีกหรอ?”
เพิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้พูดอะไรต่อ

“หรือว่าคุณฟังไม่เข้าใจกันแน่? ไม่ใช่ว่าหล่อนจะมา ทำร้ายฉัน สอันจึงเป็นคนที่จะต่อต้านฉัน คุณไม่มองหาปัญหา ที่เกิดขึ้นของสอนจึงแต่กลับเล็งปัญหามาที่ฉินจื่อเพิ่งแทน?

เพิ่งเจ๋อเฉิงเม้มริมฝีปากไว้แน่น ใบหน้าที่แสดงอารมณ์ เคร่งเครียดอย่างชัดเจนทำให้สันกรามด้านข้างเกร็งขึ้นมาเป็น

ແດນ

เขาหลอกตามองเสื่นอีเวยแล้วตอบตามปกติ : “ขั้นตอนนี้ เธอเอาของพวกนี้มาให้ฉันแล้วยังเล่าเรื่องให้ฉันฟังอีกเพราะ

อะไร?”

เพิ่งเจ๋อเฉิงอยากจะจับประเด็นสำคัญกับคนที่พูด เสิ่นอีเวย รู้ตั้งแต่แรกว่ายังไงเขาก็ต้องถามคำถามนี้กับหล่อนอยู่ดี

“ฉันอยากให้คุณให้โอกาสกับฉินจื่อเฟิงอีกสักครั้ง

เพิ่งเจ๋อเฉิงเลิกคิ้วขึ้น : “หมายความว่าไง?

เงินอีเวยกัดริมฝีปากแน่นแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้ว เอ่ยขึ้น” จะพูดอีกถึงยังไงหล่อนก็เป็นคนของฉัน หลังจากที่ฉัน เจอกับหล่อนในวันนั้น ฉันก็เป็นเอ่ยปากให้หล่อนอยู่ต่อเอง แม้ว่าหล่อนไม่ได้พูดก็ตาม แต่ฉันรู้ว่าหล่อนยังคงหวังว่าจะ ทำงานที่เพิ่งซื้อได้ต่อไปเรื่อยๆ ฉันเลยรับประกันว่าหากเธออยู่ ต่อ ฉันจะไม่ให้สอันจึงมาข้องแวะกับเธอได้อีก นี่แหละฉันถึง ต้องการที่จะให้สอันจึงออกไปจากบริษัทเพิ่งซื้อยังไงหล่ะ
เพิ่งเจ๋อเฉิงหัวเราะแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อได้แต่หันศีรษะที่ กำลังครุ่นคิดอยู่ออกไปมองยังนอกหน้าต่างแทน

เสิ่นอีเวยทราบดีว่าเขากำลังคิดเรื่องนี้อยู่หลายตลบเลข

ไม่ได้ก่อกวนเขา

สักพัก เพิ่งเจ๋อเฉิงหันศีรษะกลับมาจ้องมองดวงตาของเสี นอีเวยด้วยสายตาที่เคร่งเครียดเอามาก : “งั้นที่ฉันขอร้องเรื่อง นั้นกับเธอหล่ะ? มีลูกให้ฉันคนหนึ่ง เธอแน่ใจนะว่าเธอยอม ตกลงแล้ว?”

เงินอีเวยจ้องมองเขาสายตานั่นไม่มีการแสดงออกใดๆขึ้น มา แต่ว่าในใจเริ่มตีกันวุ่นวาย ตกลงดีไหม? หล่อนควรจะ ตกลงดีไหมเนี่ย?

เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว สวอันจึงต้องออกจากบริษัทแล้ว หล่อนต้องการที่จะช่วยฉันจื่อเฟิงและเหมือนกับการช่วยเอา เสี้ยนหนามของเธอเอาออกไปด้วย แต่ว่าอยากจะให้ผู้หญิงคน นั้นออกไปจากเพิ่งซื้อได้นั้นต้องให้เพิ่งเจ๋อเฉิงเป็นคนออกหน้า แทน

สีหน้าของเสิ่นอีเวยดูราบเรียบแต่สมองกำลังคิดทบทวน อยู่หลายตลบ ในที่สุดก็ยอมพูดออกมา : “ได้ ฉันตกลง

เพิ่งเจ๋อเฉิงหยีตาลงแล้วพูดว่า “ได้ เรื่องนี้เธอเป็นคนเอ่ย ปากเอง ฉันหน้าไม่อายขอพูดก่อนเลยละกัน ดูแล้วว่าเราสอง คนเป็นสามีภรรยากันมาสองปีแล้ว ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ เซ็นสัญญาอะไรกับเธอ แต่เรื่องนี้ตกลงกันแล้ว100เปอร์เซ็นต์ต่อแต่นี้ไปเธอจะมาเสียใจทีหลังก็ต้องรับผิดชอบเอาเอง

เส้นเวยเงยหน้าจ้องมองดวงตาของเขาอย่างยินดี : “ได้

พูดแล้วพูดเลย”

พูดจบแล้วค่อยมาต่ออีกเรื่อง : “งั้นเรื่องที่ดินจือเพิ่งจะอยู่ ที่นี่ต่อ ฉันก็ถือเอาซะว่าคุณอนุญาตแล้ว

เพิ่งเจ๋อเฉิงมองหล่อนแต่ไม่ได้ตอบกลับ

“ฉันเอาตัวเองเป็นประกัน พฤติกรรมการทำงานก่อนหน้า นี้ก็ทิ้งไว้ที่บริษัทเก่าแล้วกัน ฉันไม่อนุญาตให้เรื่องมันเกิดขึ้นที่ บริษัทเชิงชื่ออีก ฉะนั้นเรื่อง เป็นคนรับประกันกับฉันเองเลย นี้คุณวางใจได้เลย ตัวหล่อนเองยัง

“งั้น เธอหมายความว่า หากฉินจื่อเพิ่งก่อปัญหาให้กับ บริษัทเซิ่งชื่อ เธอเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมดใช่ไหม?

เงินอีเวยพยักหน้าตอบอย่างแน่วแน่

ฉันจื่อเฟิงหญิงสาวคนนี้อยู่ทำงานข้างกายเธอระยะเวลาก ไม่น้อย การทำงานร่วมกันหล่อนก็เข้าใจพฤติกรรมของฉัน จื่อเพิ่งอยู่บ้าง คนเราไม่มีใครหรอกที่จะวิเศษโสอยู่ได้? ขอแค่ ยอมรับผิดแล้วกลับไปแก้ไขมันให้ถูกต้อง คนอื่นๆ หล่อนไม่ ทราบได้ แต่สำหรับเสิ่นอีเวยแล้วสามารถที่จะให้อภัยและ สนับสนุนซึ่งกันและกันได้อยู่

อีกอย่างฉินจื่อเฟิงยังบันทึกเสียงของสอันจึงเอาไว้ แล้ว เป็นคนหยิบยื่นส่งมาให้กับมือ ถือว่านี้เป็นการชดเชยก็แล้วกัน
“ยังมี” อยู่ที่เสียงของเงินอีเวยก็หยุดเอาดื้อๆ เพิ่งเจ๋อเฉิงตูออกเลยได้แต่รอให้หล่อนพูดต่อ

“เรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันในวันงานเลี้ยงของผู้ร่วมหุ้นนั้น ตอน นี้ฉันอธิบายให้คุณไปหมดแล้ว หากคุณยังไม่เชื่อฉันก็ไปสอบ ถามฉินจื่อเพิ่งเอาไว้ หล่อนรู้เรื่องทุกอย่างทุกตอนเป็นอย่างดี ฉันทราบว่าคุณไม่ค่อยจะเชื่อฉันสักเท่าไหร่ ฉันจื่อเฟิงเป็นแค่ พนักงานเล็กๆ หล่อนคงไม่โกหกหลอกลวงคุณหรอก”

เพิ่งเจ๋อเฉิงจ้องมองหล่อนด้วยสายตาที่แปรเปลี่ยนมา อันตรายเข้ามาเยือนแทนที่ ในสมองของเขากลับปรากฏภาพ ตอนเปิดประตูห้องแล้วเจอฉากนั้นในวันงานเลี้ยงนั่น

เขาจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ภรรยาที่ถูกต้องตาม กฎหมายของเขาใช้มือโอบคอของผู้ชายอีกคนเอาไว้ด้วย ท่าทางที่ห่วงใย ขนาดเขาเองที่เป็นสามีของหล่อนยังไม่เคยพบ เจอแบบนี้เลย แต่หล่อนกลับทำแบบนั้นกับผู้ชายคนอื่น

เขาจ้องมองใบหน้าของเสิ่นอีเวยอยู่ดีๆ ในใจเขาก็ก่อกอง ไฟขึ้นมาเอาดื้อๆ น้ำเสียงเขาเริ่มหมดความรู้สึกได้แต่พูดอย่าง ไร้เยื่อใย : “โอ้ว? ที่แท้เป็นแบบนี้เอง งั้นเธอเอาความใจดีของ เธอมาบอกฉันทีว่า ระหว่างเธอกับหันถึงไม่มีความรู้สึกอะไร ขึ้นมาจริงๆ ใช่ไหม?”

น้ำเสียงเซิ่งเจ๋อเฉิงแสดงการซักถามอย่างชัดเจนเอา มากๆ เสิ่นอีเวยฟังที่เขาพูดในใจถึงกับสั่นขึ้นมา หล่อนยืนขึ้น แล้วเดินไปข้างหน้าจนถึงบริเวณด้านหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงแล้วจ้องมองลงมาที่เขา

เงิน เวยเอ่ยปากราวกับกำลังจะพูดให้ชัดถ้อยชัดคำ : “ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือเปล่า ฉันกับเชียวนั้นถึงไม่มีความสัมพันธ์ อันก่อให้เกิดการเสียหายเกิดขึ้นแต่อย่างใด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ