นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่ 85 พายุในคลับเฮ้าส์



บทที่85พายุในคลับเฮ้าส์

บทที่ 85 พายุในคลับเฮ้าส์

“ทำไมฮะ ตอนนี้เพิ่งรู้สึกกลัวขึ้นมาหรือไง? แกขอร้องฉันสิ ถ้าแกขอร้องฉัน ฉันอาจจะพิจารณาลงมือเบาลงหน่อย” ใบหน้าของประธานหวางเต็มไปด้วยความสะใจ

เสิ่นอีเวยป้องปัดอย่างหนักพยายามไม่ให้ปากของ ประธานหวางแตะที่ใบหน้าของเธอ ประธานฝังที่ใช้มือจับข้อ เท้าของเสิ่นอีเวยว็กค่อยๆขยับมาลูบคลำที่ต้นขา เธอตกใจ อย่างสุดขีด เธอโกรธจนหน้ามืด ส่วนมือที่คว้าคอเสื้อของตัว เองไว้คลายออก ประธานหวางฉวยโอกาสกระชากคอเสื้อของ เธอออก ผิวขาวเนียนละเอียดของเธอกระตุ้นความอยาก กระหายของชายที่อยู่ตรงหน้าจนเลือดขึ้นหน้า “คุณนาย เซิ่ง เจ๋อเฉิงเกลียดเธอมากขนาดนี้ เธอคงไม่ได้รับความรักสัก เท่าไรใช่ไหมล่ะ? ไม่เป็นไร วันนี้ล่ะจะได้ลิ้มรสความรักจากผม อย่างเต็มที่ รับประกันได้เลยว่าเธอจะลืมไม่ลง ฮ่าฮ่าฮ่า”

ริมฝีปากที่น่ารังเกียจและหยาบกร้านของประธานหวาง ค่อยๆจูบไปที่คอของเสิ่นอีเวย

ผู้ชายอย่างพวกเขา แม้ว่าชื่อจะถูกแขวนว่าเป็นถึง ประธานของบริษัท แต่พวกเขาก็เป็นเพียงมดตัวเล็ก ๆ ที่ ต่ำต้อย ถ้าเพิ่งเจ๋อเฉิงผู้ทรงอิทธิพลจะขยี้พวกเขาก็เหมือนกับขยมดตัวหนึ่งเท่านั้น แต่เขากลับไม่ทำเช่นนั้น

เขาส่งเธอให้มาเกลือกกลั้วกับผู้ชายพวกนี้ หัวใจของเสี่ นอีเวยเหมือนถูกห่อหุ้มไปด้วยน้ำแข็งทุกวินาทีที่ผ่านไปเหมือน เดินไปบนใบมีดที่อาบยาพิษ

นาทีที่ปากของประธานหวางแตะต้องไปที่ผิวเนียนละเอียด ของเธอ เธอรู้สึกว่าโลกทั้งใบหยุดอยู่กับที่ เธอได้ยินเพียงเสียง สบถและเสียงกรีดร้องของตัวเธอเอง ได้ยินเพียงคำพูดหยาบ คายของผู้ชายที่พยายามข่มขืนเธอและหมดแล้วซึ่งความคิด ใด ๆ ในหัว

ประตูห้องเปิดกว้าง หน้าห้องมีคนเดินผ่านไปมาขวักไขว่ สายตาของคนที่เดินผ่านไปมามองเห็นแล้วก็เดินผ่านเลยไป ไม่มีใครเข้ามาเพื่อจะหยุดการกระทำอันต่ำทรามของผู้ชาย สองคนนี้เลย ที่นี่เป็นสถานเริงรมย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ ชาย หญิงที่มาในสถานที่แห่งนี้ถ้าจะมีพฤติกรรมนอกจารีตประเพณี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

เสิ่นอีเวยไม่เคยคิดจะเหยียบเข้ามาในสถานที่แห่งนี้เลย ดังนั้นในที่แห่งนี้จึงไม่มีใครรู้จักเธอ ทุกคนแสร้งทำเป็นไม่เห็น เธอ

ความรู้สึกสิ้นหวังแผ่กระจายไปทั่วทุกเซลล์ประสาทของ ร่างกายเธอ เสียงที่เธอตะโกนขอความช่วยเหลือและแรงที่ ขัดขืนอยู่ค่อยๆเบาลงเรื่อย ๆ ปากของเธอถูกปิดแน่นด้วยมือที่ หยาบกร้านของชายผู้นั้น ลิ้นและมือของประธานหวางเหมือนลิ้นงูพิษสัมผัสกับผิวหนังของเธอ ทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียน และขยะแขยงเป็นที่สุด

ทันใดนั้นเองชายหญิงคู่หนึ่งผ่านเข้ามาโสตประสาทของ เงินอีเวย ทำให้เธอได้สติขึ้นมานิดหนึ่ง นั่นคือเซิ่งเจ๋อเฉิงและ สวีอันฉิง

เพิ่งเจ๋อเฉิงยังอยู่ในชุดสูทและรองเท้าหนังสีหน้าเฉยเมย และเย็นชา ส่วนสวี่อันฉิง ที่ยืนอยู่ข้างๆหล่อนสวมชุดกระโปรง สีดำสายเดี่ยวยาวแนบตัวเซ็กซี่ หน้าอกอวบอิ่มเอวคอดแต่งตัว เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่นี่เป็นที่สุด

เสิ่นอีเวย อยากตะโกนเรียกเขา แต่เมื่อเธอคิดว่าเขาเป็น คนที่ส่งเธอมาที่นี่ เธอรู้สึกไม่พอใจไม่พอใจอย่างมาก ดังนั้น เธอจึงใช้แรงทั้งหมดที่เหลือขัดขืนอย่างสุดกำลัง ขาทั้งสองข้าง ของเธอหลุดจากเงื้อมมือของชายผู้ทื่นกระหาย ขาข้างหนึ่งเตะ ไปโดนแจกันที่สูงเกือบเท่าคนที่วางอยู่ด้านข้างห้อง

เสียงแจกันแตกดังลั่น จนคนที่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงและ เริ่มมีคนเดินเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เพิ่งเจ๋อเฉิงและสวี่อันฉิงก็ ได้ยินเสียงดังสนั่นนั้นเหมือนกันจึงเดินเข้ามาทางที่เสิ่นอีเวยอยู่

เมื่อชายสองคนเห็นคนเริ่มเดินมามุงดูก็รีบหยุดสิ่งที่ทำอยู่ ทันที ทำเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ยืนอยู่ข้างๆ ห้องอย่างเงียบเชียบ เสิ่นอีเวยรีบพยุงตัวด้วยแรงที่เหลืออยู่ น้อยนิดลุกขึ้นนั่งบนโซฟา ท้องน้อยเจ็บแปลบๆเหมือนถูกใคร ทุบ
เธอหันหน้าเข้าข้างในห้องไม่อยากให้เพิ่งเจ๋อเฉิงเห็นตัว

เองในสภาพนี้

“พวกคุณทำอะไรกัน? ”

นั่นเป็นเสียงของเขาแต่ เสิ่นอีเวยรู้สึกใจสลาย

ประธานหวางและประธานเฝิงเห็นเซิ่งเจ๋อเฉิงกำลังถามอยู่ ก็เริ่มได้สติไม่เหลือความคึกคะนองหยิ่งยโสใด ๆเหมือนเมื่อ สักครู่ รีบตอบเสียงอ่อน: “ท่าน ท่านประธานเซิ่ง เรื่องที่เกิดขึ้น เอง”

จะโทษพวกเราฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ คุณนายเธอยั่วสวาทพวกเรา

ทันทีที่ประโยคนี้ออกมา คนที่อยู่ในที่นั้นรวมถึงเชิ่งเจ๋อ

เฉิงเอง สีหน้าเปลี่ยนอย่างทันที ที่นี่ไม่มีใครรู้จักเสิ่นอีเวยแต่มี คนจำนวนมากที่รู้จักเซิ่งเจ๋อเฉิง คนที่คล้ำวอร์ตอยู่ในแวดวง ธุรกิจมานานหลายปี เขามักจะเข้าๆออกๆสถานที่แห่งนี้บ่อย ๆ

เสิ่นอีเวยเช็ดเสื้อผ้าของเธอด้วยกระดาษทิชชูพลางจ้อง มองอย่างโกรธเคืองแต่ชายทั้งสองนั้นไม่แยแสเธอเลยสักนิด

สวีอันฉิงมองหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนล้าของเสิ่นอีเว

ยก็รู้สึกสะใจอย่างที่สุด หล่อนเดินไปมา

รอบ ๆ กลับไม่ได้ยินเสียงใครนินทาเสิ้นอีเวยใจหล่อนก็ รู้สึกไม่พอใจ ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวหล่อน

“อ้าว? นี่ไม่ใช่คุณนายหรอกเหรอ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับ คุณ?” เสียงสวี่อันฉิงไม่สูงไม่ต่ำ แต่ทุกคนที่มุงดูอยู่ใต้ยินกันหมด

เสิ่นอีเวยได้ยินน้ำเสียงของสวี่อันฉิงหน้าที่โกรธจัดแพ่งไป ที่หล่อน จุดประสงค์คือหล่อนจงใจประกาศอย่างชัดเจนว่าเธอ เป็นใคร

คนที่อยู่ ณ ที่นั้นเงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มส่งเสียง ซุบซิบนินทา

“ที่แท้ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของ ประธานเชิง หรอกหรือ? เป็นภรรยาของเจ้าของ บริษัทเซิ่งชื่อ แท้ๆ ไม่คิดเลยว่าจะทำตัว เหลวไหลขนาดนี้”

“ก็ใช่อ่าสิ ดูที่คอของเธอสิ ยังมีรอยอยู่เลย”

คำนินทาที่ร้ายกาจค่อย ๆ ทยอยเข้าหูของเสิ่นอีเวย

เหมือนน้ำท่วม จนเธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ต่อไป มือ ทั้งสองสั่นเทา เธอมองไปที่สีหน้าได้ใจของสวี่อันฉิง

ได้ยินเสียงคนนินทากันไปมา ชายทั้งสองรู้สึกว่าสิ่งที่พวก เขาเพิ่งพูดออกไปนั้นทุกคนในที่นั้นเชื่อหมดก็เริ่มยิ่งใส่ไฟมาก ขึ้น: “ท่านประทานเซิ่ง คุณดูสิ ไม่ใช่ว่าพวกเราตั้งใจใส่ร้าย คุณนาย ทุกคนที่เห็นก็พูดอย่างนั้น ผู้หญิงดื่มเหล้าก็มักจะ ควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่! ”

ประธานเฝิง ที่ยืนอยู่ข้างๆก็เริ่มใส่ไฟเพิ่ม: ” ใช่ครับ

คุณนายยั่วพวกเราก่อนเอง! ”
เสิ่นอีเวยแผดเสียงโต้แย้งทันควัน: “พวกแกโกหก! ”

แววตาของทุกคนในที่นั้นเหมือนดาบคมที่แทงเข้าหาเสี่ นอีเวย นาทีนี้เธอก็เข้าใจทันทีว่าจะอธิบายยังไงก็ไม่เป็นผล

เธอมองไปที่ เพิ่งเจ๋อเฉิง ที่แท้ที่เขาบอกว่าเขาติดธุระปลีก ตัวมาเองไม่ได้ ก็เพราะต้องมากับผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆเขาคือสวี อันนิ่งและมาที่นี่อย่างนั้นหรือ? น้ำตาของ เสิ่นอีเวยพรั่งพรูออก มาเป็นสายเหมือนเขื่อนแตก วินาทีนี้เธอหวังแค่ว่าเพิ่งเจ๋อเฉิง จะเชื่อในตัวเธอเท่านั้น

ตอนแรก เพิ่งเจ๋อเฉิง หันหน้าไปกราดมองฝูงชนที่มุงอยู่ แล้วพูดด้วยเสียงที่เย็นชา “เรื่องของฉัน เพิ่งเจ๋อเฉิง คงไม่ต้อง รบกวนคนอื่นมายุ่มย่าม ”

ความหมายของคำพูดนั้นช่างชัดเจน คนที่อยู่ในที่นั้นไม่มี ใครไม่ยำเกรงในตัวเขา คนที่มุมดูอยู่จึงค่อยๆแยกย้ายกันออก ไป

เพิ่งเจ๋อเฉิงเดินไปหาประธานหวางและพูดว่า “เมื่อเรื่อง เป็นแบบนี้ งั้นประธานหวาง คุณเตรียมตัวจะจัดการเรื่องนี้ อย่างไร? ”

ทันทีที่คำพูดออกมาจากปากเขา สีหน้าของเสิ่นอีเวย เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันแทนที่เขาจะหันมาถามเธอก่อน แต่ กลับหันไปถามผู้ชายสองคนนั้นก่อนว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง ศักดิ์ศรีและความอดทนที่มีอยู่ในตัวเธอพังทลายลงอย่างสิ้น เชิง
โดยปกติ เซิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่ปฏิบัติตัวอ่อนน้อมแบบนี้กับคน ที่ต่ำกว่าหรือเพราะอย่างให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ มากกว่าที่เป็นอยู่หรือ? เธอไม่เคยรู้เลยว่า เพิ่งเจ๋อเฉิง จะ สามารถปฏิบัติต่อเธออย่างโหดร้ายได้ขนาดนี้

ชายทั้งสองเห็นว่าท่าทีของ เซิ่งเจ๋อเฉิง นั้นไม่ได้แข็งกร้าว อย่างที่คิดไว้ เดิมคิดว่าเขาคงจะเหมือนกับที่คนอื่นพูดนินทาว่า เขาไม่ได้ไยดีในตัวของภรรยาคนนี้สักเท่าไร พวกเขาก็ยิ่ง ลำพองใจมากขึ้น

ประธานหวางเหยียดแขนไปข้างหน้ามีเลือดเลอะอยู่นิด หน่อย: “คุณดูนี่สิ แผลนี้ได้จากที่เมื่อกี้คุณนายแตะแจกันบาด แขนผม แผลลึกมากเลยนะนี่ คุณคิดว่าจะจัดการยังไงล่ะ?”

เสิ่นอีเวย มองไปที่ แววตาได้ใจของประธานหวาง เธอไม่

อยากพูดอะไรทั้งสิ้น “ถ้าอย่างนั้นก็ ให้คุณนายดื่มเป็นเพื่อนพวกผมคนละแก้ว แล้วกัน เรื่องนี้ก็เลิกรากันไป คุณคิดว่าเป็นยังไง? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ