นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่13 โดนกักบริเวณในคฤหาสน์



บทที่13 โดนกักบริเวณในคฤหาสน์

เจ็บ ตรงหว่างขาเจ็บเหมือนมีใครจับมันแยกออกจากกัน

พอตื่นมา เสิ่นอีเวยยังได้กลิ่นร่วมรักในอากาศ ที่แท้การมี

เซ็กซ์….มันเป็นแบบนี้หรอ?

เธอน้ำตาไหลอาบแก้ม และเอาผ้าห่มคลุมโปง เหมือน แบบนี้จะทำให้ตัวเองไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

เธอปรับอารมณ์ตัวเองใต้ผ้าห่ม ก่อนเอื้อมมือไปหยิบมือ ถือ พอเห็นเวลาบนนั้นก็ตาเหลือก เพราะว่าเหนื่อยและเจ็บจน สลบ ทำให้เธอลืมไปว่าวันนี้เป็นวันทำงานวันแรกหลังจากลา หยุดมานาน!

เสิ่นอีเวยรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร็ว พอเก็บกวาด เรียบร้อยก็คว้ากระเป๋าวิ่งลงมา พอเปิดประตูออก ก็มีมือหยาบ ใหญ่ยื่นมาเบรคเธอไว้

“ขอโทษครับคุณเสิ่นจะไปไหนครับ?” บอดี้การ์ดก้มหน้า ถามอย่างเคารพ

เธออึ้งไปก่อนตอบ “ไปทำงานไง! ”

“คุณเพิ่งบอกให้คนไปลาหยุดให้คุณแล้วครับ เขาสั่งไว้ว่า ช่วงนี้ให้พวกเราคอยตามติดคุณไม่ให้ห่าง ถ้าต้องการอะไรสั่ง พวกเราได้เลยครับ”

ถึงเสียงจะนอบน้อม แต่ทำทีเหมือนยักษ์ปักหลั่นนั่นกลับ ทำให้เธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เหอะ สมกับเป็นคนของเชิ่งเจ๋อเฉิงจริงๆ

ตามติดตลอด? ดูท่าเธอจะโดนกักบริเวณซะแล้ว

พอเห็นท่าแบบนั้น เธอก็รู้ดีพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ เลยกลับไปห้องนั่งเล่นต่อ หยิบมือถือออกมา โทรหาเขา

“เซิ่งเจ๋อเฉินนี่นายหมายความว่าไง?”

ปลายสายพูดกลับเสียงเย็น “ช่วงนี้อยู่บ้านไปละกัน อย่า

เล่นตุกติกล่ะ”

เธอตะคอกกลับอย่าง โมโห “นายถือสิทธิ์อะไรมากักขัง

ฉัน? นายไม่มีสิทธิ์นะ!

“อำนาจทีก็อยู่ในมือฉันอยู่แล้ว เสิ่นแค่ยอมรับมัน ไม่มีทางอื่น”

พูดจบก็ตัดสายไป

เธอมองหน้าจอมือถือ ในหัวว่างเปล่า รู้สึกเหนื่อยล้า แต่ไม่รู้จะแก้ไขยังไงดี

ในช่วงที่โดนกักบริเวณ เธอใช้ชีวิตเหมือนซากศพเดินได้ ไม่มีใครคุยกับเธอ อาหารสามมื้อก็มีคนรับใช้ทำเสร็จมาเสิร์ฟ ที่ห้องนอนเธอ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นในคุกก็ไม่ ปาน

ใช้ชีวิตแบบนี้ไปได้เกือบครึ่งเดือน เสิ่นอีเวยอาละวาดก็ แล้ว แต่เจ๋อเฉิงกลับไม่คิดจะปล่อยเธอเลย ในที่สุดเธอก็ทน ไม่ไหว
เธอรู้ว่าคนของเขาผ่านการฝึกฝนมา ถ้าอยากหนีเงื่อมมือ พวกเขายากยิ่งกว่าไปดวงจันทร์ซะอีก

แต่จะมานั่งรออยู่แบบนี้ไม่ได้!

เพราะว่าเขาคิดว่าเธอเป็นคนจ้างคนไปฉีดยาอินซูลินใส่ สายน้ำเกลือของเสิ่นหุ้ย เลยขังเธอไว้หรอ?

ไม่มีหลักฐาน เขาถือสิทธิ์อะไร!

ทั้งๆที่สองปีก่อนเธอไม่ได้ทำอะไรเลย เธอเองก็เป็นผู้ถูก กระทำ แต่เพราะคำพูดฝ่ายเดียวของสวี่อันฉิงทำให้เธอโตนคน ทั้งโลกเข้าใจผิดประณามมาจนทุกวันนี้!

พอคิดถึงวันนั้นที่สวีอันฉิงวิ่งมาท้าทายเธอถึงออฟฟิศ เธอ ก็รู้สึกว่าเรื่องวางยานี่อาจจะเกี่ยวกับหล่อนก็เป็นได้

เสิ่นอีเวยรู้สึกโกรธกรุ่นๆ ในอก เธอวิ่งเข้าห้องน้ำเอาน้ำ

เย็นล้างหน้าสงบสติ

เธอนั่งพิงหน้าต่างมองวิวของคฤหาสน์ เธอรู้ว่าคฤหาสน์นี้ มีทางออกสามทาง ประตูหน้าหนึ่ง ประตูหลัง และสวนด้านหลัง ทั้งสองที่ก็มีทางออก

ประตูหน้าเพราะมีคนเข้าออกบ่อน เธอเลยเดาว่าเซิ่งเจ๋อ เฉิงจะวางคนที่รู้จักเธอไว้ตรงนั้น ถ้าอยากหนีทางนั้น ต้องรอให้ ไม่มีคนเฝ้า ซะก่อน ไม่งั้นไม่มีทาง

ขณะกำลังคิด ก็มีคนเคาะประตูห้องนอน

“เข้ามาได้”
คนรับใช้เข้ามาส่งอาหาร เธอหันมองเสื้อผ้าคนรับใช้ แล้ว

บึ่งไอเดียขึ้นมา

ตอนหาชุดคนรับใช้ได้สำเร็จ เธอแอบลิงโลดในใจ อาศัย ตอนทุกคนกำลังทานอาหารเย็นแวบเข้ามาเอาชุด

เธอรีบเปลี่ยนชุดนั้นอย่างเร็ว

สวนดอกไม้เงียบมาก ฟ้ายังไม่ทันมีดดี เธอลัดเลาะจุด ต้นไม้เดินย่องมา พลางมองดูรอบด้านว่ามีบอดี้การ์ดเฝ้าหรือ

เปล่า

พอหันมา ก็ชนคนเข้าให้ “เธอจะไปไหน?”

น้ำเสียงบอดี้การ์ดไม่สู้ดีนัก เธอกลัวตัวเองจะโดนจับได้ รีบสงบสติ ตัดเสียงให้ฟังดูราบเรียบ

“คุณเสิ่นบอกวันนี้อาหารไม่ถูกปาก อยากกินกุ้ง กุ้งที่บ้าน ไม่สดแล้ว เลยให้ฉันไปซื้อที่ไนท์มาร์เกตมาหน่อย”

บอดี้การ์ดมองเธอสักพัก เธอสังเกตได้ว่าเขาคงไม่รู้จัก เธอ แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ไปสิ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ