นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่430จะต้องรักษาความปลอดภัยของเธอ



บทที่430จะต้องรักษาความปลอดภัยของเธอ

บทที่ 430จะต้องรักษาความปลอดภัยของเธอ

“พูด”

หลินอพยักหน้าแล้วก็ไม่ได้มีความลังเลใจอะไรแล้วจึง พูดออกไปว่า “เมื่อสักครู่นี้ได้รับโทรศัพท์จากเฉิงฟัง ว่าบอก คุณนายได้ไปหุบเขาจิ๋วเหมิงแล้ว แล้วก็ถามว่าจะต้องตามเธอ ไปไหม”

จากการเกิดเหตุการณ์ครั้งที่แล้วที่ผู้ชายคนนั้นเมาเหล้า แล้วเกิดเรื่อง เพิ่งเจ๋อเฉิงก็เลยได้ทำการส่งคนไปดูแลความ ปลอดภัยอย่างลับ ๆ เพราะว่าเขานั้นไม่อยากให้เธอเกิดอะไร ขึ้น

“หุบเขาจิ๋วเหมิง” เพิ่งเจ๋อเฉิงถามด้วยความงุนงง เขารู้จักสถานที่นี้ดี ทุรกันดารเช่นนี้ ผู้หญิงคนนี้ไปทำอะไร

กัน ?

“เธอนั้นไปทำอะไร ? มีคนไปด้วยไหม ?” เพิ่งเจ๋อเฉิงถาม หลินอส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เข้าใจจุดมุ่งหมายเหมือนกัน ว่าจะไปทำอะไร เธอนั้นไปคนเดียว
ผู้ชายคนนี้ก็ขมวดคิ้ว ไปคนเดียว แล้วสถานที่ที่ไม่ดีเอา มาก ๆ แต่ไม่ได้หาคนไปเป็นเพื่อน เขาจะดีใจหรือไม่ดีใจนะ

หลินอวบอกหน้าเพิ่งเจ๋อเฉิงแล้วถามว่า “หุบเขาวเหมิง ในช่วงนี้ยิ่งอยู่ยิ่งวุ่นวาย จะให้พวกเฉิงฟังตามไปไหมครับ ?

เพิ่งเจ๋อเฉิงก็คิดอยู่สักครู่หนึ่ง แล้วก็เปิดหน้าต่างแล้วพูด

ว่า “ตามไป พวกเขาจะต้องดูแลความปลอดภัยของเธอ

“ครับ ผมจะโทรหาเฉิงฟังเดี๋ยวนี้” พอรับคำสั่งเสร็จ หลิน อวี้ก็รีบไปจัดการ

ตอนที่จะเอามือผลักประตูออกไป ก็ทันใดนั้นได้ยินเสียง เพิ่งเจ๋อเฉิง “หลินอ

หลินอหยุดการเดินแล้วหันกลับมามอง แล้วเพิ่งเจ๋อเฉิง ใช้สีหน้าที่แสนจะธรรมว่า “บอกเฉิงฟังว่า หากที่นั่นเกิด เหตุการณ์อะไรขึ้น จะต้องรายงานผมเป็นการแรก หลินอวี้เข้าใจแล้วตอบไปว่า “ครับ”

หลินอวี้เดินออกไป ประธานบริษัทคนนี้ก็ได้เพียงแต่มอง ออกนอกหน้าต่าง แล้วก็ดูสภาพเมืองในยามค่ำคืนที่ลุ่มหลง เช่นนี้

หรืออาจจะเป็นเพราะท้องฟ้าเริ่มมืดลง ก็เลยทำให้ท้องฟ้า นั้นเต็มไปด้วยสีครามมืดครึ้มลง รู้สึกถึงความไม่เป็นจริง เพิ่ง เจ๋อเฉิงหรี่สายตาลง แล้วก็ได้เก็บสายตาที่เยือกเย็น แล้วก็มอง ไปยังแม่น้ำด้านล่างนั้น
สายน้ำที่กระทบกับแสงไฟในยามค่ำคืน ทำให้รู้สึกมี ความเงียบสงบในจิตใจ

แต่เพิ่งเจ๋อเฉิงกลับรู้ตัวเองว่า ณ ตอนนี้เป็นห่วงผู้หญิง คนนั้นมากมาย

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน แน่นอนว่าเขานั้นจะต้องรีบเดินทาง ไปที่นั่นแล้วก็รับเธอกลับมา แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว เขาเป็นห่วงผู้ หญิงคนนั้นและรู้ว่าถ้าทำเช่นนั้นจะเป็นการบังคับเธอมากเกิน ไป ดังนั้นก็เลยจะต้องให้เฉิงฟังไปดูแลเธอ โดยที่เธอนั้นไม่รู้

เพิ่งเจ๋อเฉิง นายทำไมกลับกลายเป็นคนที่ระมัดระวังขนาด นี้แล้ว ? ผู้ชายคนนี้ก็กำลังดูถูกตัวเอง

ความจริงแล้วสิ่งพวกนี้ ไม่อาจจะเก็บไว้ได้หรอก

แม้นจะผ่านฟ้าผ่านฝนผ่านลมผ่านอุปสรรคความยาก ลำบากมามากมาย แต่เมื่อจะต้องพบกับอุปสรรคเรื่องของ ความรักความรู้สึกก็จะกลายเป็นเหมือนเด็กในทันที เขากลัว กลัวว่าจะทำได้ไม่ดี แล้วทำให้เธอนั้นหนีออกจากเขาไปอีกครั้ง

สภาพอากาศที่หุบเขานั้นมีความต่ำ เสิ่นอีเวยก็โชคดีที่ เตรียมชุดแขนยาวมา ตอนที่ขึ้นรถและลงรถนั้น เธอก็ได้มอง นาฬิกาซึ่ง ขณะนั้นเป็นเวลาสามทุ่มแล้ว

เวลาตอนนี้ก็มืดมากแล้ว พรุ่งนี้ค่อยไปที่วัดแล้วกัน ตอน นี้ก็หาโรงแรมพักสักหนึ่งคืน

เงินอีเวยก็ได้หิ้วกระเป๋าของตัวเอง แล้วก็สำรวจสภาพแวดล้อมรอบข้าง แล้วก็มองไปยังโรงแรมข้างทาง ดูไปแล้ว เหมือนกับมีความรู้สึกที่เหน็บหนาว

เธอนั้นได้มองไปรอบ ๆ มีโรงแรมทั้งหมดสี่แห่ง มีสอง แห่งนั้นมีแสงไฟที่ขาด ๆ หาย ๆ แม้กระทั่งป้ายโรงแรมก็ไม่ สว่างหมด

และในตอนนี้ ด้านหลังเธอนั้นก็มีเสียงของผู้ชายและเด็ก สาวกลุ่มหนึ่งพูดว่า “อีกสักครู่ พวกเราจะไปกินข้าวเย็นที่ไหน กันดีนะ ?”

ชายชุดสูทยิ้มแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็ยื่นมือออกไป สถานที่สถานที่หนึ่ง ตรงนั้นมีคุณตาคนหนึ่งที่กำลังจัดเรียง อาหารอยู่ ในหม้อไม่รู้มีอะไร กำลังร้อนเดือดอยู่นั่น

เสิ่นอีเวยก็รู้สึกแปลกประหลาดใจ ตอนที่อยู่บนรถนั้นเธอ กับชายคนนั้นก็ได้สบตากันหลายครับ เพราะว่าตั้งแต่เริ่มต้น ลงรถจนถึงตอนนี้ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้มองเธออีกเลย หรือเป็น เพราะว่าเธอนั้นรู้สึกไปเอง

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เสิ่นอีเวยก็ยังมีการป้องกันตัวเอง อยู่บ้าง

ดูผู้หญิงเหล่านั้นที่ล้อมรอบผู้ชายคนนี้ เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าทำ เหมือนเขากำลังค้ามนุษย์ ใช่แล้ว พวกเขาคือคนค้ามนุษย์

เพราะว่าเมื่อสักครู่นี้ สายตาของเธอนั้นก็ได้เหลือบไปมอง ไปกระเป๋าของพวกผู้หญิงคนนั้น ซึ่งในนั้นก็ได้มีชื่อมหาวิทยาลัย ก็คือมหาวิทยาลัยที่พวกเธอนั้นอยู่นั่นเอง

แล้วดูรูปร่างหน้าตาของพวกเธอแล้ว ก็มีความสดใสน่า รัก ดูไปแล้วก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่อง

ตอนที่เสิ่นอีเวยนั้นกำลังสำรวจอยู่ ผู้ชายชุดสูทนั้นก็ได้ พากลุ่มผู้หญิงไปนั่งที่ร้านของคุณตาคนนั้นเสิ่นอีเวยเดิมทีก็หิว มาก แต่พอเห็นโต๊ะตรงนั้นนั่งเต็มไปแล้ว ก็เลยเลิกคิดไป

เธอหันกลับไป แล้วก็เดินไปโรงแรมที่ค่อนข้างดีหน่อย แต่เสิ่นอีเวยไม่รู้ก็คือว่า ตอนที่เธอหันกลับมานั้น สายตาของ ผู้ชายคนนั้นก็เริ่มมีความลับลมคมในขึ้น สายตานั้นได้มอง ตั้งแต่เธอเดินเข้าโรงแรมไป

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในค่ำคืนแสงสีที่เข้มข้น เสิ่นอีเวย ในใจ ก็เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อก่อนมาที่นี่ก็ไม่ได้ค้างคืน แต่ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกก็เลยรู้สึกแปลก ๆ ไป

เสิ่นอีเวยเข้าไปในโรงแรมก็ได้เจอกับผู้หญิงวัยกลางคน ดูไปแล้วธรรมดา ไม่ดีไม่ร้าย

สถานที่นี้มีความทุรกันดาร เสิ่นอีเวยก็เลยเอาบัตรประจำ ตัวให้พนักงานบันทึก แล้วก็ถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ “ที่นี่ไม่จำเป็น ต้องบันทึกอะไร เซ็นชื่อก็ได้แล้ว

พอพูดเสร็จ เธอก็ได้ยื่นสมุดเล่มเล็ก ให้เงินอีเวย หลังจาก นั้นก็ก้มหัวลง ซึ่งไม่รู้ว่าสมุดเล่มนั้นใช้มานานเท่าไหร่ สภาพ กลายเป็นสีเหลือง
เงินอีเวยก็ขมวดคิ้ว แล้วก็หยิบบัตรประจำตัวขึ้นแล้วก็ ถามว่า “ทุกคนไม่ต้องบันทึกหรอ ? ฉันจำได้ว่าทุกครั้งที่มาจะ ต้องบันทึกด้วยบัตรประจำตัวน

เถ้าแก่ผผู้หญิงก็ได้อธิบายอย่างอดทนว่า “ใช่แล้ว ไม่ จำเป็นต้องทำแบบนั้น ตอนนี้สถานที่นี้ยิ่งอยู่ยิ่งวุ่นวาย คนก็ น้อยมาก

พอพูดเสร็จก็ได้เอาบุหรี่มาไว้ที่ปาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ