นายเป็นแค่สามีเก่า

บทที่281 ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากความโกรธ



บทที่281 ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากความโกรธ

บทที่ 281 ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากความโกรธ

เรื่องเดิมๆ หากเป็นเธอเมื่อก่อน เป็นเวยก็คงถูกเพิ่งเจือ เพิ่งทำให้อยู่นิ่งๆได้ แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้มันไม่เหมือน เดิมอีกแล้ว เธอจะออกไปจากคนที่นี่แล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องเกรง กลัวเขาอีกต่อไป

ดังนั้นเสิ่นอีเวยถึงได้ไม่ใส่ใจกับประโยคเตือนของเขาเลย สักนิด เธอก้าวขาเรียวยาวพร้อมเดิมผ่านเพิ่งเจ๋อเฉิงไป

ทว่า เพิ่งเจ๋อเฉิงที่มีอยาวเท้ายาว การกระทำของเขาก็ยัง คงรวดเร็วเหมือนเดิม แขนของเขาที่ยื่นออกไปก็ลากเงินอีเว ยกลับมาได้ ร่างกายของหล่อนถูกตราตรึงไว้แน่นขยับไม่ได้ เลยสักนิด

วินาทีต่อมา เรือนร่างของเสิ่นอีเวยก็ถูกเขาตรึงไว้กับผนัง ห้อง ใบหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย เ นอีเวยแทบไม่ทันได้ตั้งตัว ท้ายทอยและเอวคอดกิ่วก็ถูกสอง มือของผู้ชายจับไว้แน่น

เพิ่งเจ๋อเฉิงก้มหัวมองเสื่นอีเวย ในสายตาดวงนั้นแสดงถึง ความต้องการในกระหายอย่างชัดเจน
น้ำในฝักบัวที่ไหลออกมานั้นทำให้ในห้องน้ำนั้นเป็น หมอกละอองน้ำ เมื่อครู่ตอนที่ทะเลาะกับเขาอยู่บนเตียง เสื้อ โค้ทก็ถูกถอดออกไปแล้ว เพราะงั้น ตอนนี้ท่อนบนของหล่อนก็ มีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางสวมใส่อยู่และเมื่อครู่ก็ถูกน้ำทำให้ เปียกชุ่มไปหมดแล้ว เนื้อผ้าที่บางเบามันค่อนข้างทะลุเห็นด้าน ใน เชิงเจ๋อเฉิงเห็นรอยสีดำไหปลาร้าบริเวณไหล่ของเธอ

ดวงตาของผู้ชายยิ่งหลงใหลขึ้นกว่าเดิม

วินาทีนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เป็นอีเวยรู้สึกกลัวขึ้นมา หรือ อาจเป็นเพราะเธอคาดเดาได้ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่ว่าเธอ กลับพบว่าตัวเองตกใจที่ในใจของตัวเองนั้น…กลับถวิลหามัน อยู่

อยู่ดีๆ จูบที่หนักหน่วงก็ลอยลงมา ความรู้สึกที่คุ้นเคยจน ดึงดูดลำคอของเสิ่นอีเวยไว้ทั้งหมด

เงินอีเวยอาศัยความสามารถของตนเอง เธอเอามือวาง บนแผ่นอกของเซิ่งเจ๋อเฉิงแล้วใช้แรงผลักออกแต่ก็เหมือนกับ สัมผัสผนังกำแพงแบบนั้น แทบจะผลักไม่ขยับเลยสักนิด

ในตอนนั้น เป็นเวยไม่รู้ว่าในใจของตัวเธอเองว่าจริงๆ แล้วรู้สึกยังไงมันทั้งหมดกำลังใจ มันทั้งตื่นเต้น แต่สิ่งที่มี มากกว่าพวกนั้นคือความสบสนและความสงสัย

ในที่สุด ในช่วงหนึ่งหล่อนก็ใช้แรงที่มีผลักเพิ่งเจอเพิ่งออก ไปได้ พื้นห้องน้ำค่อนข้างลื่น การทำแบบนั้นทำให้เป็นเวย เกือบ น
“เพิ่งเจ๋อเฉิงคุณเป็นบ้าไปแล้วหรอ!” เสิ่นอีเวยถามเขา

ด้วยความโกรธ

“ใช่ ฉันบ้าไปแล้ว” น้ำเสียงแหบพร่าซ่อนความตื่น กระหายเอาไว้ แต่มันช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน

ความตื่นกระหายของเรือนกายเพิ่งเจ๋อเฉิงตีพัดเข้ามาอีก ระลอก เขาจัดการรวบรัดเงินอีเวยอีกครั้งแล้วดันเรือนร่างตรา ตรงกับผนังกำแพงห้อง เพิ่งเจ๋อเฉิงใช้มือเปล่าข้างที่แห้งสนิท ด้วยอุณหภูมิปกติฉีกเสื้อเชิ้ตสีขาวของเสิ่นอีเวยออก

มือใหญ่เค้นคลึงลูบไล้บริเวณเอวคอดกิ่วที่เนียนละเอียด การบีบเค้นคลึงค่อนข้างหนักหน่วงเอาการจนเสิ่นอีเวยรู้สึกเจ็บ

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่เคยปฏิบัติรุนแรงแบบนี้มาก่อนเลย

ตอนนี้เขาขาดสติไปแล้วมันทำให้เสื่นอีเวยเกิดอาการกลัวขึ้น

มา

“เซิ่งเจ๋อเฉิง เพิ่งเจ๋อเฉิงคุณฟังฉันก่อน อย่าทำแบบนี้ เราสงบสติลงค่อยๆพูดค่อยๆจากันดีๆก็ได้ ฉันไม่หนีไปไหน แล้ว ยังไม่พอใจอีกหรอ….

วินาทีนี้เสิ่นอีเวยเริ่มเจรจากับตัวเองว่าตัวเองหวาดกลัว จริงๆ เธอกลัวว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าจะรุนแรงใส่เธอเหมือนกับ สัตว์ป่าที่กำลังไล่เหยื่ออยู่ สิ่งที่น่าหวาดกลัวกว่าเดิมก็คือ กลัว ว่าคืนนี้ตัวเองจะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หรือว่ามันจะไม่มีความรู้สึกดีๆ ก่อนหน้านี้เลยหรอ? โกหกคนอื่นได้แต่โกหกตัวเองไม่ได้ เหมือนเดิมแบบนั้นอีกไม่ได้แล้ว

แควก!–”

เสื้อเชิ้ตของเงินอีเวยถูกเพิ่งเจ๋อเฉิงฉีกกระจายดึงออกไป จากตัว กระดุมที่ติดที่เสื้อก็กระเด็นกระดอนหล่นลงบนพื้นไป คนละทางสองทาง ในที่สุด เสิ่นอีเวยก็ใช้อ้อมแขนเรียวยาว ประคองกอดไหล่ของเขาไว้แน่น แต่เขายังไม่ได้สติอะไร เธอก็ กัดฝังเขี้ยวลงไปแล้วแทบจะไม่ได้เก็บแรงเอาไว้เลยสักนิด

เจ็บไหม? ยังไม่หยุดอีกหรอ?

เพิ่งเจ๋อเฉิงพูดอยู่ในลำคอแต่มือที่ยังวุ่นอยู่ที่เดิมก็ยัง ไม่ยอมหยุด

ในตอนนี้เอง เสิ่นอีเวยถึงได้เชื่อว่าเรื่องนี้เขาเอาจริง

ตอนแรกก็พยายามปฏิเสธอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้พลังลด ระดับเหลือแค่ครึ่งเดียว เสิ่นอีเวยเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ ทว่าเสียงที่ดังอยู่ในใจเป็นหมื่นๆ เสียงมันกลับบอกว่า : “ตอบ สนองเขาไป

หัวใจที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดอยู่เป็นระยะ ดวงตาที่มี น้ำอุ่นๆไหลรินเอ่อล้นท่วมกระบอกตา เธอหลับตาลงแล้วทำ บอกกับตัวเองว่าทำตามที่ตัวเองปรารถนาเถอะ

จากนั้นเป็นการตอบสนองด้วยความรู้สึกที่เร่าร้อน ในคืน นี้เป็นเวยแทบไม่เคยพบเจอเพิ่งเจ๋อเฉิงที่บ้าระห่ำได้ขนาดนี้และก็ไม่เคยเห็นตัวเองที่บ้าตามเขาแบบนี้เช่นกัน

การตอบสนองของเสิ่นอีเวยทำให้เพิ่งเจ๋อเฉิงถึงกับขาด สติพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง กลุ่มหมอกละอองน้ำและรัศมีความ เร่าร้อนที่เกิดขึ้น ทำให้เพิ่งเจ๋อเฉิงยกขาเสื่นอีเวียงขึ้นมาขาหนึ่

เธออายกับการกระทำแบบนี้เลยพยายามปฏิเสธอยู่ แต่ อย่างไรก็ตามเธอเม้มริมฝีปากแน่น แต่ท้ายที่สุดแล้วเสิ่นอีเว ยก็คุมตัวเองไม่อยู่จนมีเสียงครางกระเส่าเล็ดลอดออกมา เรื่อยๆ

เสียงเสิ่นอีเวยดังราวกับเสียงแมวร้องครางในตอนท้ายดัง เข้ากระทบโสตประสาทและแทรกเข้าไปในร่างกาย ย่าของ เขา…

ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เวลาไหน เสียงที่ดังซูซ่ายังคงกลบ เสียงระหว่างทั้งสองคนเอาไว้ เงินอีเวยแทบยังไม่ทันตั้งสติได้ เรือนร่างของตัวเองก็ถูกเพิ่งเจ๋อเฉิงอุ้มขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนสถานที่ แทน เธอหันหน้าเข้าหากระจกและเห็นใบหน้าของตัวเองและ เชิงเจ๋อเฉิงชัดเจน

ท่ามกลางหมอกละอองน้ำ ใบหน้าทั้งสองค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปทีละนิด…

บรรยากาศในห้องอันอบอุ่น ดอกไม้เริ่มผลิบาน

เสิ่นอีเวยไม่รู้เลยว่าจะเสร็จสิ้นตอนไหนกันแล้วก็แทบไม่รู้ ตัวเลยว่าตัวเองหลับไปตอนไหน ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมา
เวลาก็ปาเข้าไปสิบโมงเช้าเข้าไปแล้ว

ตอนที่หล่อนลืมตาขึ้นมาสาเหตุมาจากแสงแดดที่ทะลุผ้า ม่านส่องเข้าจนแสบตา จนต้องเอามือขึ้นมาป้องตาเอาไว้แต่ กลับรู้สึกว่ามือขวาขยับไม่ได้ รู้สึกสงสัยขึ้นมาในใจเลยหัน ศีรษะกลับไปมอง เสิ่นอีเวยแทบจะตกใจเลยทีเดียวเพราะ ใบหน้าของเพิ่งเจ๋อเฉิงอยู่ห่างจากเธอไม่เกินหนึ่งนิ้ว

ไม่ใช่ว่าเรื่องอื่นอะไรแต่ในชีวิตของตัวหล่อนที่ผ่านมานี้ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นกับหล่อนเลย ผู้ชายคนนี้… มานอนหลับบนแขนเธออย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว งั้นหรอ?

ผ้าม่านสีขาวครีมพัดปลิวไสวไปมาจนแสงแดดเล็ดลอด เข้ามา ด้านนอกหน้าต่างนั้นเป็นสวนดอกไม้ขนาดเล็กเลย ทำให้ได้ยินเสียงนกร้องจ้อกแจ้กจอแจที่ชัดเจน เสิ่นอีเวย แสดงความอบอุ่นออกมาทางสีหน้าพลางจ้องมองเชิงเจ๋อเฉิงที่ กำลังนอนหลับสนิทอยู่

ในใจได้แต่คิดว่า ถ้าสามารถลืมเรื่องทุกข์ร้ายต่างๆ ที่ เกิดขึ้นออกไปได้ทั้งหมดแล้วหยุดอยู่กับคนที่อยู่ตรงหน้าของ ตัวเองในเวลานี้คงจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขจริงๆหรอ?

ทว่า เสิ่นอีเวยแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพิ่งเจ๋อเฉิงเอาแขนเธอ ไปเป็นหมอนตั้งแต่ตอนไหนกันนะ เพราะหล่อนเลยรู้สึกแขนชา ขึ้นมาแล้ว สาเหตุน่าจะมาจากเพิ่งเจ๋อเฉิงทำกับหล่อนไว้แน่ๆ เสิ่นอีเวยขมวดคิ้วแล้วค่อยๆ ใช้แรงดันแขนตัวเองออกมายังไม่ทันได้คิดว่าการทําแบบนี้ทำให้เพิ่งเจ๋อเฉิงตื่นขึ้นมาแทน ดวงตาที่ใสแจ๋วค่อยๆลืมตาขึ้นมา เป็นเวยถึงกับใจเต้นและ หยุดการกระทําเมื่อครู่ลง

“ตื่นแล้วหรอ?”

อาจจะเป็นเพราะเพิ่งตื่นเลยทำให้เสียงเพิ่งเจ๋อเฉิงนั้นแทบ พรานิดหน่อย เหมือนว่ายังแอบซ่อนอาการนอนไม่เต็มอิ่มมา

ด้วย

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันแน่ เธอสบตาเขาจนใบหน้าเธออยู่ ดีๆก็แดงแปร๊ดขึ้นมา

สักพักถึงได้พูดออกไปค่หนึ่ง “อื้อ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ